มีใครบ้างไม่เคยได้รับสติ๊กเกอร์ไลน์สวัสดีประจำวัน พร้อมภาพดอกไม้ตามสีสัน ?
มีใครอีกยังไม่เคยได้รับข้อความลูกโซ่จาก พ่อ แม่ ญาติผู้ใหญ่ ที่บอกให้ส่งต่ออีกเก้าคนสิบคน ?
หากสังเกตให้ดี จะพบว่าทุกวันนี้มีผู้สูงอายุใช้โทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะจำพวกสมาร์ทโฟนเพิ่มมากขึ้น
คิดใหม่ได้เลยสำหรับคนที่มองว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตถูกจำกัดอยู่แค่ในกลุ่มของวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่เท่านั้น
เพราะในความจริงแล้ว กลุ่มผู้สูงอายุ หรือคุณปู่คุณย่า เป็นกลุ่มที่มีจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่แพ้กับวัยอื่นเลย
โดยเฉพาะถ้าดูจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ จะพบว่าผู้สูงอายุในประเทศไทยร้อยละ 79.5 “ติดสังคม”
ซึ่งสังคมในนิยามของผู้สูงอายุยุคไทยแลนด์ 4.0 อาจไม่ได้หมายถึงการเดินออกจากบ้านไปรำไทเก๊ก หรือสอยมะม่วง
ในรั้วบ้านไปแบ่งเพื่อนข้างบ้านแต่ถ่ายเดียวอีกต่อไปแล้ว
วันนี้จึงอยากเชิญชวนพวกเราไปดูกิจกรรมดี ๆ กับการ “สอนผู้สูงวัยใช้สมาร์ทโฟน” ซึ่งจัดโดย สมาคมบ้านปันรัก
จริง ๆ แล้วที่นี่ไม่ได้มีแค่สอนผู้สูงวัยใช้สมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมให้เรียนรู้อีกเยอะแยะ ตั้งแต่สอนภาษาจีน
สอนภาษาอังกฤษ สอนโยคะ กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้สูงอายุวัยหลังเกษียณที่สีผมเริ่มเปลี่ยนกันแล้ว
(ตัวอย่างกิจกรรมเดือนพฤษภาคม 2560 ของสมาคมบ้านปันรัก)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมเริ่มต้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส ไปลงที่สถานี “อารีย์” จากนั้นให้ชะโงกหาทางออกที่ 1
แล้วเดินผ่านอาคารเอ็กซิมและปั๊มเชลล์ไปจะพบกับทางเข้า “บ้านปันรัก” มีป้ายบอกชัดเจนเลี้ยวเข้าไปให้ไวเลยจ้า
(ไปไม่ถูกมีแผนที่ของสมาคมบ้านปันรัก)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อาคารเรียนสำหรับกิจกรรม สอนผู้สูงวัยใช้สมาร์ทโฟน จะอยู่บนชั้นสองของห้องสมุดสมาคม ใครที่อยากจะพาคุณพ่อคุณแม่มา
ก็สามารถนั่งอ่านหนังสือรอด้านล่างได้ อาคารห้องสมุดค่อนข้างโปร่งโล่ง สงบ สะดวกสบาย ไม่น่าเชื่อว่าจะหาได้ง่าย
ซ่อนอยู่ในซอกเมืองแค่นี้เอง
วันที่ได้ไปร่วมกิจกรรมพบว่า ทางสมาคมได้เปิดโอกาสให้นักศึกษา หรือบุคคลทั่วไปที่สนใจได้เข้ามาเป็น “จิตอาสา”
ในการเป็นสต๊าฟ ช่วยสอนและอำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงวัยที่มาร่วมกิจกรรมกันด้วย บรรยากาศในชั้นเรียนนั้นจึงอบอวล
ไปด้วยความอบอุ่น ถมช่องว่างระหว่างวัยจนล้นไปด้วยรอยยิ้ม
การเรียนวันนี้มีหัวข้อหลักที่ระบบปฏิบัติการเอนดรอยและ รู้จักการติดตั้งแอปพลิเคชั่น(ฟรี) รวมทั้งมีสาธิตการตกแต่งภาพ
ให้เป็นตัวการ์ตูนญี่ปุ่นและการปรับแต่งภาพถ่ายให้เป็นลักษณะต่าง ๆ


งานนี้ผมได้คุยกับผู้มาร่วมกิจกรรมหลายคน อย่างคุณป้า สมญา ที่ดูจากภายนอกน่าจะอายุมากที่สุดในชั้นเรียน
พบว่า สิ่งที่ท่านอยากจะมาเรียนรู้ไม่ใช้แค่การใช้งาน แต่เป็นการใช้งานให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้ใช้เครื่องมือสื่อสาร
ในการพูดคุยกับคนในครอบครัวได้สะดวก แต่ แต่ แต่ มีหนึ่งคำที่ท่านบอก
“ทุกวันนี้ใช้ไลน์คุยกับลูกหลานตลอด แต่เวลาพวกเขาทำงานก็ไม่อยากรบกวนพวกเขา เราอยากเรียนรู้ทุกเรื่อง
จะได้ไม่ต้องไปเบียดเบียนเวลาใคร อย่างน้อยถ้าเราไม่เหงาสุขภาพจิตเราก็จะดี ไม่เจ็บไม่ป่วยก็ไม่ต้องเดือดร้อนลูกหลาน”
นอกจากนี้ผมยังได้คุยกับอาสาสมัครบางท่าน พบว่านักเรียนนักศึกษาส่วนใหญ่ที่มาสนใจจะมาเรียนรู้การทำงานเพื่อสังคม
รวมทั้งที่สมาคมบ้านปันรักยังจะมีประกาศณียบัตรให้สำหรับบรรดาจิตอาสาที่จำเป็นต้องใช้ประกอบกับการเรียนการศึกษาด้วย
ทั้งนี้ ตัวอาคารของสมาคมบ้านปันรักนั้นเป็นพื้นที่เชิงบวกทางสัมคมที่ใคร ๆ ก็มามีส่วนร่วม มาใช้งานได้ ใครที่สนใจก็ลองไป
ดูกันนะ
สุดท้ายนี้ ในขณะที่สังคมยังมีปัญหาที่รอรับการแก้ไขอยู่มากมาย รวมทั้งมีนโยบายใหม่ ๆ ให้วิ่งตามอยู่ตลอด ตัวรัฐเอง
ก็ไม่สามารถจะเข้าไปแก้ไขปัญหาต่าง ๆ หรือดำเนินงานด้านการส่งเสริมให้ครอบคลุมนโยบาย การที่องค์กรเอกชน
หรือกลุ่มประชาชนเข้ามามีบทบาทในการร่วมกันแก้ไขปัญหา สนับสนุนการพัฒนาสังคม นับเป็นเรื่องดี ๆ ที่ควรช่วยกันบอกต่อ

การอวดดีในครั้งนี้นับเป็นการเริ่มต้น ตามหาคน / กลุ่มประชาชน คนตัวดี ที่รวมตัวกันสรรค์สร้างสิ่งดี ๆ ให้กับสังคม
หากใครพบเห็นเบาะแสความดี ที่อยากให้ไปตามมาอวด ส่งข้อมูลมาบอกกันบ้างนะครับ เพราะผมตั้งใจจะตั้งกระทู้อวดดี
ที่ไม่ต้องมีแค่ดราม่าให้ทุกคนได้เห็นว่า ท่ามกลางความอลหม่านในสังคม พวกเรายังมีความดีงามให้น่าติดตามอยู่บ้างเช่นกัน
ใคร ๆ ก็ทำดี l We are CSO l ภาคประชาสัคม ใคร ๆ ก็เป็นได้ l
[CR] กระทู้อวดดี ตอนที่ 1 : สอนผู้สูงวัย ใช้สมาร์ทโฟน !
มีใครอีกยังไม่เคยได้รับข้อความลูกโซ่จาก พ่อ แม่ ญาติผู้ใหญ่ ที่บอกให้ส่งต่ออีกเก้าคนสิบคน ?
หากสังเกตให้ดี จะพบว่าทุกวันนี้มีผู้สูงอายุใช้โทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะจำพวกสมาร์ทโฟนเพิ่มมากขึ้น
คิดใหม่ได้เลยสำหรับคนที่มองว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตถูกจำกัดอยู่แค่ในกลุ่มของวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่เท่านั้น
เพราะในความจริงแล้ว กลุ่มผู้สูงอายุ หรือคุณปู่คุณย่า เป็นกลุ่มที่มีจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่แพ้กับวัยอื่นเลย
โดยเฉพาะถ้าดูจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ จะพบว่าผู้สูงอายุในประเทศไทยร้อยละ 79.5 “ติดสังคม”
ซึ่งสังคมในนิยามของผู้สูงอายุยุคไทยแลนด์ 4.0 อาจไม่ได้หมายถึงการเดินออกจากบ้านไปรำไทเก๊ก หรือสอยมะม่วง
ในรั้วบ้านไปแบ่งเพื่อนข้างบ้านแต่ถ่ายเดียวอีกต่อไปแล้ว
วันนี้จึงอยากเชิญชวนพวกเราไปดูกิจกรรมดี ๆ กับการ “สอนผู้สูงวัยใช้สมาร์ทโฟน” ซึ่งจัดโดย สมาคมบ้านปันรัก
จริง ๆ แล้วที่นี่ไม่ได้มีแค่สอนผู้สูงวัยใช้สมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมให้เรียนรู้อีกเยอะแยะ ตั้งแต่สอนภาษาจีน
สอนภาษาอังกฤษ สอนโยคะ กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้สูงอายุวัยหลังเกษียณที่สีผมเริ่มเปลี่ยนกันแล้ว
(ตัวอย่างกิจกรรมเดือนพฤษภาคม 2560 ของสมาคมบ้านปันรัก)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมเริ่มต้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส ไปลงที่สถานี “อารีย์” จากนั้นให้ชะโงกหาทางออกที่ 1
แล้วเดินผ่านอาคารเอ็กซิมและปั๊มเชลล์ไปจะพบกับทางเข้า “บ้านปันรัก” มีป้ายบอกชัดเจนเลี้ยวเข้าไปให้ไวเลยจ้า
(ไปไม่ถูกมีแผนที่ของสมาคมบ้านปันรัก)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อาคารเรียนสำหรับกิจกรรม สอนผู้สูงวัยใช้สมาร์ทโฟน จะอยู่บนชั้นสองของห้องสมุดสมาคม ใครที่อยากจะพาคุณพ่อคุณแม่มา
ก็สามารถนั่งอ่านหนังสือรอด้านล่างได้ อาคารห้องสมุดค่อนข้างโปร่งโล่ง สงบ สะดวกสบาย ไม่น่าเชื่อว่าจะหาได้ง่าย
ซ่อนอยู่ในซอกเมืองแค่นี้เอง
วันที่ได้ไปร่วมกิจกรรมพบว่า ทางสมาคมได้เปิดโอกาสให้นักศึกษา หรือบุคคลทั่วไปที่สนใจได้เข้ามาเป็น “จิตอาสา”
ในการเป็นสต๊าฟ ช่วยสอนและอำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงวัยที่มาร่วมกิจกรรมกันด้วย บรรยากาศในชั้นเรียนนั้นจึงอบอวล
ไปด้วยความอบอุ่น ถมช่องว่างระหว่างวัยจนล้นไปด้วยรอยยิ้ม
การเรียนวันนี้มีหัวข้อหลักที่ระบบปฏิบัติการเอนดรอยและ รู้จักการติดตั้งแอปพลิเคชั่น(ฟรี) รวมทั้งมีสาธิตการตกแต่งภาพ
ให้เป็นตัวการ์ตูนญี่ปุ่นและการปรับแต่งภาพถ่ายให้เป็นลักษณะต่าง ๆ
งานนี้ผมได้คุยกับผู้มาร่วมกิจกรรมหลายคน อย่างคุณป้า สมญา ที่ดูจากภายนอกน่าจะอายุมากที่สุดในชั้นเรียน
พบว่า สิ่งที่ท่านอยากจะมาเรียนรู้ไม่ใช้แค่การใช้งาน แต่เป็นการใช้งานให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้ใช้เครื่องมือสื่อสาร
ในการพูดคุยกับคนในครอบครัวได้สะดวก แต่ แต่ แต่ มีหนึ่งคำที่ท่านบอก
“ทุกวันนี้ใช้ไลน์คุยกับลูกหลานตลอด แต่เวลาพวกเขาทำงานก็ไม่อยากรบกวนพวกเขา เราอยากเรียนรู้ทุกเรื่อง
จะได้ไม่ต้องไปเบียดเบียนเวลาใคร อย่างน้อยถ้าเราไม่เหงาสุขภาพจิตเราก็จะดี ไม่เจ็บไม่ป่วยก็ไม่ต้องเดือดร้อนลูกหลาน”
นอกจากนี้ผมยังได้คุยกับอาสาสมัครบางท่าน พบว่านักเรียนนักศึกษาส่วนใหญ่ที่มาสนใจจะมาเรียนรู้การทำงานเพื่อสังคม
รวมทั้งที่สมาคมบ้านปันรักยังจะมีประกาศณียบัตรให้สำหรับบรรดาจิตอาสาที่จำเป็นต้องใช้ประกอบกับการเรียนการศึกษาด้วย
ทั้งนี้ ตัวอาคารของสมาคมบ้านปันรักนั้นเป็นพื้นที่เชิงบวกทางสัมคมที่ใคร ๆ ก็มามีส่วนร่วม มาใช้งานได้ ใครที่สนใจก็ลองไป
ดูกันนะ
สุดท้ายนี้ ในขณะที่สังคมยังมีปัญหาที่รอรับการแก้ไขอยู่มากมาย รวมทั้งมีนโยบายใหม่ ๆ ให้วิ่งตามอยู่ตลอด ตัวรัฐเอง
ก็ไม่สามารถจะเข้าไปแก้ไขปัญหาต่าง ๆ หรือดำเนินงานด้านการส่งเสริมให้ครอบคลุมนโยบาย การที่องค์กรเอกชน
หรือกลุ่มประชาชนเข้ามามีบทบาทในการร่วมกันแก้ไขปัญหา สนับสนุนการพัฒนาสังคม นับเป็นเรื่องดี ๆ ที่ควรช่วยกันบอกต่อ
การอวดดีในครั้งนี้นับเป็นการเริ่มต้น ตามหาคน / กลุ่มประชาชน คนตัวดี ที่รวมตัวกันสรรค์สร้างสิ่งดี ๆ ให้กับสังคม
หากใครพบเห็นเบาะแสความดี ที่อยากให้ไปตามมาอวด ส่งข้อมูลมาบอกกันบ้างนะครับ เพราะผมตั้งใจจะตั้งกระทู้อวดดี
ที่ไม่ต้องมีแค่ดราม่าให้ทุกคนได้เห็นว่า ท่ามกลางความอลหม่านในสังคม พวกเรายังมีความดีงามให้น่าติดตามอยู่บ้างเช่นกัน
ใคร ๆ ก็ทำดี l We are CSO l ภาคประชาสัคม ใคร ๆ ก็เป็นได้ l
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น