[CR] Osaka, Kyoto, Himeji, Kobe เที่ยวเองหน้าหนาว หิมะตกรัวๆ (Part 1)


สวัสดีค่ะ ทริปนี้เป็นทริปที่เราเตรียมตัวมานานพอสมควร โดยอาศัยหาข้อมูลจากในพันทิปเยอะมาก เลยอยากมารีวิวเพื่อขอบคุณเพื่อนๆ ต้องบอกก่อนว่าทริปนี้เราเน้นกินเที่ยวสบาย เพราะฉะนั้นงบประมาณอาจจะมีบานปลายไปบ้างนะคะ
ช่วงเดินทาง :     ปลาย ม.ค. 2560 7 วัน 7 คืน
เงินที่ใช้ไปไม่รวม ช้อปปิ้ง : 35,000 บาท (ค่าตั๋วเครื่องบิน 12,000 และค่าที่พัก 7,500 บาท)
แผนเที่ยว :
วันที่ 0    กรุงเทพ - โอซาก้า
วันที่ 1     โอซาก้า – ปราสาทโอซาก้า, นัมบะ, ชินไซบาชิ, Kura Sushi 100 yen และ ไก่ย่างตามรอย Itadakimasu
วันที่ 2     เกียวโต - วัดทอง, วัดเสาแดง, วัดน้ำใส, และ Ippudo
วันที่ 3    ฮิเมจิ และโกเบ
วันที่ 4    Universal studio
วันที่ 5     Tenjinbashi และ Den-den town
วันที่ 6     เก็บตกย่านนัมบะ และกลับบ้าน

การเดินทาง :     สายการบิน Thai Air Asia X  จริงๆ เราจองตั๋วนานมากราว 6 เดือนล่วงหน้า แต่พอมาเช็คใกล้ๆ ราคาถูกกว่าเดิมอีก !!! (ตอนนั้นในหัวมีเพลงจำเลยรักลอยขึ้นมาเลย) ถ้าใครจะไปเที่ยวเราแนะนำให้ลองเช็คใกล้ๆ ก็ได้เหมือนกันนะ

ขาไป - ออกเดินทางจากไทย 14:00 ถึง สนามบินคันไซ 21:30

ขากลับ – ออกเดินทางจากสนามบินคันไซ 00.10 ถึงไทย 04:00 ถ้าใครกังวลเรื่องน้ำหนักว่าจะเกินมั้ยสามารถซื้อน้ำหนักเพิ่มได้ 4 ชั่วโมงก่อนเวลาบินค่ะ และที่สนามบินคันไซชั้น 4 ใกล้ๆ information center มีที่ชั่งน้ำหนักค่ะ

ที่พัก: Airbnb แถว Nakazakicho
ซึ่งเป็นย่านน่ารักๆ ของ Osaka สามารถเดินไป subway Nakazakicho station เพียง 100 เมตร ซึ่งดีมากเพราะเราจะล้ามากทุกวันหลังจากกลับมาจากเที่ยว และเดินไปสถานีใหญ่อย่าง umeda และย่านของถูกอย่าง Tenjinbashi เพียง 10-15 นาที ห้องพักสะอาดสะอ้าน มีไมโครเวฟ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า แถมมี Lawson อยู่เยื้องๆ ที่พักเลยทีเดียว

จริงๆ แล้วเราแอบกลัวเหมือนกันเพราะได้อ่านข่าวเจอมาว่า Airbnb ในญี่ปุ่นผิดกฎหมาย แถมเรายังโดน host เก่าที่จองไว้นานแล้วยกเลิกที่พักก่อนไปเพียง 1 เดือน แต่เราโชคดีเราหาที่พักใหม่ได้ในสถานที่ที่ดีกว่า และพัก 7 วันเลยทำให้ไม่โดนตรวจ ตอนกรอกใบ ตม เราก็กรอกไปเลยว่าเป็น Airbnb

การกรอกใบ ต.ม : ที่พักในญี่ปุ่น เรากรอกไปเลยว่าเป็น Airbnb เหมือนว่าช่วงที่เราไปมีข่าวว่าคนไทยหนีไปทำงานเยอะ ทาง ตม. เค้าก็จะถามว่าไปเที่ยวที่ไหนบ้างมากับใครนิดหน่อย แต่ผ่านมาได้ด้วยดีค่ะ

ตั๋วรถไฟและการเดินทาง:
เราพึ่ง 2 เวป ในการขึ้นรถไฟค่ะ
1. https://world.jorudan.co.jp/mln/en/?sub_lang=nosub&txt_OldTop
เราชอบเวปนี้เพราะบอกว่าจำนวนสถานีที่ต้องนั่งจนกว่าจะถึงที่หมาย และ สายที่ต้องขึ้น ด้วยค่ะ แต่ถ้าเป็น JR เราว่า hyperdia ดีกว่าเพราะบอกด้วยว่าต้องไปชานชลาที่เท่าไร


2. http://www.hyperdia.com/en/

1) เราซื้อตั๋ว Yosoko จากไทยไปก่อน และไปแลกที่ตู้ Nankai (สีส้ม) ที่สนามบิน เพื่อนั่ง Nankai Rapit (หรือไม่ rapit ก็ได้) เข้าเมือง และจะได้ตั๋วนั่ง subway unlimited 1 วัน เพิ่มอีก 1 ใบ สามารถใช้ในวันเดียวกัน หรือวันถัดไป
http://www.howto-osaka.com/en/ticket/ticket/yokoso.html
ป.ล. ให้ดูตู้ และ เลขที่นั่งดีๆนะคะ ไม่งั้นจะเหมือนเราที่หน้าแตกไปบอกคนญี่ปุ่นว่าเค้านั่งที่ผิด จริงๆแล้วเราขึ้นผิดตู้ค่ะ 5555

2) เราซื้อตั๋ว JR Kansai Area Pass 1 day ที่ญี่ปุ่นเพื่อไปเที่ยว Himeji และ Kobe ที่สถานี Osaka ชั้น 1 สามารถถามเพิ่มเติมได้ที่ Tourist information ชั้น 1 ของสถานีรถไฟ Osaka ได้ค่ะ โดยต้องแสดง passport ด้วยนะ และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงวันได้ถ้าซื้อบัตรไปแล้ว
        
3) บัตร ICOCA สามารถซื้อได้ตามตู้ขายตั๋วทั่วไปค่ะ ครั้งแรก 2,000 เยน สะดวกมากเวลาเดินทางเพราะไม่ต้องซื้อตั๋วใหม่ทุกครั้ง แต่มีมัดจำ 500 เยน ซึ่งต้องใช้เงินในบัตรให้หมดเพื่อไม่ให้โดนหักเงินในบัตรเวลาไปขอคืนมัดจำค่ะ สามารถไปขอคืนที่ counter JR ที่สนามบินคันไซค่ะ

สภาพอากาศ และการแต่งตัว: เราพึ่งเวปไซต์ กรมอุตุ ของญี่ปุ่นค่ะ http://www.jma.go.jp/en/yoho/ เพราะเราลองเช็คแล้วว่าแม่นสุด วันแรกที่ไปเราเชื่อ Apple แล้วไม่ได้เอาร่มไป ปรากฎว่าฝนตก !!


เสื้อผ้า: เราซื้อ heatech extra warm ของ Uniqlo จากไทยไปค่ะ ใส่เสื้อ Fleece ทับ และเสื้อขนเป็น เราเป็นคนขี้หนาว เลยใส่ผ้าพันคอ หมวก และถุงมือด้วย เราว่าพอไหวนะคะ ตอนเราไปอากาศ 0 – 5 องศา แต่วันไหนมีลมก็รู้สึกเหมือนติดลบเลยทีเดียว ต้องไปซื้อผ้าปิดปากเพิ่มค่ะ ไม่งั้นจะน้ำมูกไหล เราแนะนำให้ไปซื้อถุงอุ่นทั้งแบบแปะ และ กำๆ ที่ญี่ปุ่น ใน 7-11 หรือ ดองกี้ก็มีค่ะ แล้วแกะใช้ก่อนออกไปเที่ยว ช่วยได้เยอะค่ะ

**วันที่ 0 วิ่งเพื่อไปให้ทันรถไฟเที่ยวสุดท้าย!! **

เรามีเป้าหมายว่าต้องขึ้นรถไฟ nankai rapit รอบ 22:31 น. ให้ทันไม่เช่นนั้นเราจะต้องทิ้งบัตร Yosoko ที่ซื้อมาและอาจจะหมายถึงการทิ้งที่พักในคืนแรกด้วย!!

หลังจากเราออกจากเครื่องบิน เราก็ติดเท้าไฟวิ่ง 100 x 100 ไปเพื่อขึ้นรถไฟเที่ยวแรกไป terminal 1 เพื่อผ่าน ตม และ รับกระเป๋า ในเที่ยวแรก คิวยาวพอสมควร แต่ใช้เวลารอไม่นานมากค่ะ ราว 20 นาที พอผ่าน ตม. ได้แล้ว เรารอกระเป๋าเพียง 5 นาที พอเราได้กระเป๋าเราก็ขึ้นไปชั้น 2 เรามองหาป้าย Railway และพุ่งไปเพื่อและตั๋ว Yosoko  และซื้อบัตร ICOCA ทำให้เราก็สามารถไปขึ้นรถไฟได้ทันเวลาค่ะ


    
เราแนะนำให้ปรินท์ แผนที่รถไฟติดไปด้วยนะคะ เพราะในกรณีที่ต้องเปลี่ยนสายรถไฟ เราสามารถสังเกตหมายเลขสถานีได้ด้วยค่ะ
http://www.osaka-info.jp/en/plan/traveller_information/transportation/railroad.html

เรามาถึงสถานี Nakazakicho ราว 23:30 ซึ่ง host น่ารักมากโดยการเปิด heater รอไว้ให้ด้วย เราประทับใจที่พักมาก เราว่าอยู่กัน 4 คนได้สบายๆ เลย แถมยังใกล้ Lawson และ 7-11 มากด้วยค่ะ


ในคืนแรกเรากินอาหารใน Lawson แล้วก็ประทับใจกับไก่ทอดสุดๆๆๆ

**วันที่ 1     โอซาก้า – ปราสาทโอซาก้า, นัมบะ, ชินไซบาชิ, Kura Sushi 100 yen และ ไก่ย่างตามรอย Itadakimasu**

เนื่องจากเมื่อคืนได้พักอย่างเต็มที่ และเช็คพยากรณ์อากาศในแอฟของ Iphone ว่าอากาศแจ่มใส เราออกจากที่พัก 8.00 เพราะวันนี้เรามีแผนจะไปเที่ยวในเมืองกันโดยใช้ Yosoko pass ที่ได้มาเมื่อวาน

ป.ล. Yosoko pass จะขึ้น subway ได้เท่านั้นนะคะ ไม่สามารถขึ้น JR ได้
เราขึ้นรถไฟจาก Nakazakicho ไปลง Tanimachiyonchome เพื่อไปปราสาทโอซาก้า

อาหารเช้าที่ SUKIYA
เราแวะกินข้าวเช้าที่ร้าน Sukiya เราสั่งเซตอาหารเช้าปลาแซลมอน และแฟนสั่งข้าวหน้าหมู รวมราว 800 เยน ถือว่าเป็นมื้อเช้าที่คุ้มค่ามากค่ะ เพราะมีน้ำฟรี และให้ข้าวเยอะมาก

พอกินเข้าวเสร็จฝนก็ตกลงมาแบบที่เราไม่ได้เตรียมใจไว้ (อ้าว เฮ้ยยย...) เรารีบวิ่งเข้าไปใน 7-11 ตรงข้ามเพื่อหาร่ม และหลบฝน กลายเป็นว่าเราหลงในเขาวงกต Convenient store อะไรๆก็น่าซึ้อไปหมด 5555


OSAKA CASTLE

พอฝนซา เราตัดสินใจเดินไปปราสาทโอซาก้า ซึ่งห่างจากสถานีราว 10 นาที เราจะเดินผ่านสถานี NHK ก่อนถึงปราสาทโอซาก้าเพียงนิดเดียว และรอบปราสาทจะเป็นเหมือนสวนสาธารณะ ซึ่งชาวญี่ปุ่นจะมาออกกำลังกันเยอะทีเดียวในวันที่เราไป เราเดินเข้าไปด้านในสวนเพื่อไปถ่ายรูปกับปราสาท แต่ไม่ได้เสียเงินขึ้นปราสาท 555+

พอเดินเล่นได้ซักพัก ฝนก็ตกลงมาอีก ทีงี้ตกหนักเลย เรากับแฟน (ผู้ไร้ร่ม) ยืนหลบฝนแบบหนาวๆ ใต้ต้นไม้ 15 นาที แล้วตัดสินใจวิ่งฝ่าไป (โอ้วววว) ตอนนั้นรู้สึกขอบคุณที่เสื้อขนเป็ดกันฝนได้นิดหน่อย เลยไม่เปียกมาก แต่หนาวมากค่ะ = =” เราซิ่งจนไปถึงสถานีรถไฟฟ้าก็พอสบายใจ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่