สวัสดีครับขอคำปรึกษาเพื่อนๆพี่ๆหน่อยครับ คือ ผมต้องทำยังไงให้พ่อแม่เข้าใจความรู้สึกผมบ้าง
ก่อนอื่นต้องบอกว่าผมเคยถูกจับมาก่อน แล้ว ก็เรียนซ้ำต้องย้าย รร มา5-6 รร แล้ว ยอมรับว่าเคยทำตัวไม่ดีมา
แต่หลังจากนั้น ผมก็เริ่มทำตัวดีขึ้น ทำทุกอย่างที่เขาสั่งไม่มีเกี่ยงงาน แต่พอเขาอารมณ์เสียเขาก็เอาปัญหามาลงที่ผม
ด่าทอผมว่า ไม่เคยทำงานไรเลย นอนกินๆ ผมรู้สึก"แล้วที่ผมทำมาล้ะ เขาไม่แคร์เลยหรอ" ต่อมา คือ ตอนนี้กำลังจะเรียน รร ใหม่
เขาก็พูดว่า"ไม่ต้องเรียนหรอกเด่วก็ไม่จบอีก กูหมดเงินกับไปดท่าไหร่แล้ว" คือผมยังไม่ทันจะเริ่มเรียนเลย คือ ไม่คิดจะให้กำลังใจผมเลยหรอ
หลังจากเรื่องไม่ดีที่เคยทำ เขาก็ไม่เคยจะให้ไปไหนเลย แม้กระทั่งเดินไปหลังบ้านไปหาเพื่อน ไปเรียนก็ต้ิงรถรับส่งกลับบ้านมากก็อยู่ในบ้าน ขนาดจอไปหาเพื่อนไปฉลองวันเกิดเขาให้ผมไปวันเดียวคืนเดียวด้วยระยะทาง200กว่ากิโล และพอผมกลับก็ บอกผมว่าค่อยไปอีกที่ให้กลับมาเพราะมีธุระพอกลับมาถึงก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นธุระก็ไม่มีนอนอยุ่บ้าน2วัน พอขอไปอีกตามที่เขาสัญญาไว้ เขาก็บอกวันก่อนก็พึ่งไปเอง ไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าการให้ความหวังคนอื่นลมแล้งเจาจะรู้สึกยังไงเราโกรธไม่พอใจเขาก็มาบอกว่าถ้างั้นเด่ว้จาไปส่งแล้วเปิดโรงแรมนอนใกล้ๆ คือผมจะ20แล้วน้ะไม่ใช้เด้ก ป6 ทุกคนเขาใจความรู้สึกนี้ไหมว่าเวลาเราจะเที่ยวกับเพื่อนแล้วเขาตามไปเฝ้า. เวลาเขาอารมณ์ดี เขาก็พูดปลอบใจเราสอนเรา แต่ พออารมณ์เสียกลับตรงกันข้ามกับตอนอารมณ์ดี มีทั้ง ดูถูก เหยียดหยาม ด่า ตะคอก แล้วจบท้ายด้วยคำพูดแบบที่พ่อแม่ทั่วไปชอบพูดกัน คือ ที่พูดไปคือสั่งสอนอยากให้ได้ดี แต่ความรู้สึกของเรา เราไม่รู้สึกสักนิดว่าเขาเป็นห่วง เพราะแบบนี้แหละ
วัยรุ่นส่วนใหญ่ถึงตามเพื่อนติดแฟนติดยา เพราะคนในครอบครัวไม่มีใครรับฟังปัญหาของเราเลย เมินความดีเราด้วยซ้ำแล้วตอกย้ำเรื่องไม่ดี
ถ้าพ่อแม่อาบน้ำร้อนมาก่อนทำไมถึงไม่รู้ว่าสิ่งที่เราต้องการคืออะไร คำพูดการกระทำของเขาบางที่มันอาจทำให้เราเสียความรู้สึกท้อแท้ เอาสิ่งที่เราพูดเป็นเรื่องน่าขำ เอาแต่โทษว่าแต่เรื่องที่ทำผิดไม่แคร์เลยว่าเราผ่านเรื่องเหล่านั้นมามันก็ท้อแค่ใหนล้ะ แล้วต้องมาเจอกับคำพูดการกระทำเขาอีกเพื่อนๆคิดว่าเราจะท้อแค่ใหน. สุดท้ายแล้วเพื่อนๆพี่ คิดว่าผมควรจะทำยังไง เปลี่ยแปลงที่ตัวผม หรือว่า พ่อแม่
พ่อ แม่ ช่วยเข้าใจผมหน่อย
ก่อนอื่นต้องบอกว่าผมเคยถูกจับมาก่อน แล้ว ก็เรียนซ้ำต้องย้าย รร มา5-6 รร แล้ว ยอมรับว่าเคยทำตัวไม่ดีมา
แต่หลังจากนั้น ผมก็เริ่มทำตัวดีขึ้น ทำทุกอย่างที่เขาสั่งไม่มีเกี่ยงงาน แต่พอเขาอารมณ์เสียเขาก็เอาปัญหามาลงที่ผม
ด่าทอผมว่า ไม่เคยทำงานไรเลย นอนกินๆ ผมรู้สึก"แล้วที่ผมทำมาล้ะ เขาไม่แคร์เลยหรอ" ต่อมา คือ ตอนนี้กำลังจะเรียน รร ใหม่
เขาก็พูดว่า"ไม่ต้องเรียนหรอกเด่วก็ไม่จบอีก กูหมดเงินกับไปดท่าไหร่แล้ว" คือผมยังไม่ทันจะเริ่มเรียนเลย คือ ไม่คิดจะให้กำลังใจผมเลยหรอ
หลังจากเรื่องไม่ดีที่เคยทำ เขาก็ไม่เคยจะให้ไปไหนเลย แม้กระทั่งเดินไปหลังบ้านไปหาเพื่อน ไปเรียนก็ต้ิงรถรับส่งกลับบ้านมากก็อยู่ในบ้าน ขนาดจอไปหาเพื่อนไปฉลองวันเกิดเขาให้ผมไปวันเดียวคืนเดียวด้วยระยะทาง200กว่ากิโล และพอผมกลับก็ บอกผมว่าค่อยไปอีกที่ให้กลับมาเพราะมีธุระพอกลับมาถึงก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นธุระก็ไม่มีนอนอยุ่บ้าน2วัน พอขอไปอีกตามที่เขาสัญญาไว้ เขาก็บอกวันก่อนก็พึ่งไปเอง ไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าการให้ความหวังคนอื่นลมแล้งเจาจะรู้สึกยังไงเราโกรธไม่พอใจเขาก็มาบอกว่าถ้างั้นเด่ว้จาไปส่งแล้วเปิดโรงแรมนอนใกล้ๆ คือผมจะ20แล้วน้ะไม่ใช้เด้ก ป6 ทุกคนเขาใจความรู้สึกนี้ไหมว่าเวลาเราจะเที่ยวกับเพื่อนแล้วเขาตามไปเฝ้า. เวลาเขาอารมณ์ดี เขาก็พูดปลอบใจเราสอนเรา แต่ พออารมณ์เสียกลับตรงกันข้ามกับตอนอารมณ์ดี มีทั้ง ดูถูก เหยียดหยาม ด่า ตะคอก แล้วจบท้ายด้วยคำพูดแบบที่พ่อแม่ทั่วไปชอบพูดกัน คือ ที่พูดไปคือสั่งสอนอยากให้ได้ดี แต่ความรู้สึกของเรา เราไม่รู้สึกสักนิดว่าเขาเป็นห่วง เพราะแบบนี้แหละ
วัยรุ่นส่วนใหญ่ถึงตามเพื่อนติดแฟนติดยา เพราะคนในครอบครัวไม่มีใครรับฟังปัญหาของเราเลย เมินความดีเราด้วยซ้ำแล้วตอกย้ำเรื่องไม่ดี
ถ้าพ่อแม่อาบน้ำร้อนมาก่อนทำไมถึงไม่รู้ว่าสิ่งที่เราต้องการคืออะไร คำพูดการกระทำของเขาบางที่มันอาจทำให้เราเสียความรู้สึกท้อแท้ เอาสิ่งที่เราพูดเป็นเรื่องน่าขำ เอาแต่โทษว่าแต่เรื่องที่ทำผิดไม่แคร์เลยว่าเราผ่านเรื่องเหล่านั้นมามันก็ท้อแค่ใหนล้ะ แล้วต้องมาเจอกับคำพูดการกระทำเขาอีกเพื่อนๆคิดว่าเราจะท้อแค่ใหน. สุดท้ายแล้วเพื่อนๆพี่ คิดว่าผมควรจะทำยังไง เปลี่ยแปลงที่ตัวผม หรือว่า พ่อแม่