แชร์ประสบการณ์ รับเปลี่ยนสินค้า กับแบล็คลิสลูกค้า ของร้านค้าออนไลน์

คือ เราเปิดร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์นะคะ ส่วนใหญ่เราจะรับเปลี่ยนสินค้านะคะ ในนโยบายกำหนดว่ารับใน 3 วัน แต่ถ้านานกว่านั้นก็ให้เปลี่ยนค่ะ เพียงแต่ลูกค้าต้องแนบค่าส่งมาในซองค่า แล้วเราจะส่งให้ลูกค้าทันทีที่แจ้งเราว่าส่งแล้ว หรือถ่ายสลิปจัดส่งมา โดยของยังไม่ต้องถึงออฟฟิสเรา ซึ่งจากการทำแบบนี้เราพบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ลืมแนบค่าส่งมาให้ แนบทุกคน น้อยมากที่จะลืม ถ้าลืมเราเองก็ถือว่าช่างมัน 555  บางท่านนึกขึ้นได้ก็โอนเงินมาให้เราทีหลัง เสื้อผ้าเกือบทุกท่านที่ส่งมาไม่มีใครซักสินค้าเลย เรามองว่าถ้าเป็นเราซื้อมาใส่ไม่ได้ไม่ได้ใช้งานเราคงเสียดายเงิน เหมือนซื้อมาขึ้นหึ้ง สุดท้ายถ้าทั้งร้านไม่มีสินค้าที่จะใส่ได้เลยเรายินดีโอนเงินคืน  แต่ว่าการทำแบบนี้ก็ยากต่อการจัดการค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร บัญชี สต็อค บางตัวขายหมดแล้วก็มามีสต็อคใหม่ หรือบางทีก็ต้องมาเหนื่อยแพค แต่เราก็ยอมทำนะคะ พยายามคิดวิธีให้จัดการตรงนี้ให้ได้

ทีนี้พอมาเป็นขาเราซื้อเสื้อผ้าบ้าง เราไม่เข้าใจเลยค่ะ ว่าทำไมร้านค้าส่วนใหญ่ไม่ยอมให้เปลี่ยน บางร้านราคาหลัก พัน  ก็ไม่ยอมให้เปลี่ยนสินค้า ทั้งๆที่ขายราคาระดับนั้นแล้วลูกค้าไม่น่าจะโกงแล้วนะคะ เราเลยไม่กล้าซื้อสินค้าราคาสูงๆบนออนไลน์เลย แต่เราเข้าใจว่าเป็นด้านของความยุ่งยาก และการจัดการสต็อคเหมือนที่เราเจอค่ะ แต่มุมเราต้องจ่ายเงินเราก็เสียดายเงินคะ 555

หรืออย่างบางร้านชอบโพสว่าถ้าลูกค้าจองแล้วไม่โอนจะติดแบล็คลิสต์ ไม่รับจองครั้งหน้า เราไม่เคยทำแบบนี้เลยค่ะ คือถ้าของมันขายได้ มันจะขายได้ด้วยตัวของมันเอง ถ้าลูกค้าท่านแรกไม่เอา ย่อมมีท่านอื่นรับอยู่ดี สำหรับสินค้าที่ขายดีๆ เราคิดว่าการโพสแบบนี้หน้าเพจเป็นการดิสเครดิตตัวเอง ทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่ดีค่ะ เราเจอแบบลูกค้าเราที่จองแล้วไม่โอน แล้วก็มาซื้อสินค้ากับเราใหม่อยู่ดีในโอกาสหน้าเยอะแยะเลยค่ะ คือเราคิดว่า อารมณ์คนอยากได้มันเปลี่ยนได้เสมอค่ะ

สำหรับเรา เราคิดว่า ตัวเลือกลูกค้ามันเยอะมากกค่ะ ร้านค้ามีเป็นพันๆค่ะ มันไม่ใช่เราเลือกลูกค้า แต่ลูกค้าเลือกเรา อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวเรานะค้า มาแชร์กันได้ค่า