คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ตอบทรัมป์ไปเลยครับว่า
"ผมอยู่ฝ่ายเกาหลีเหนือ เราเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันและมีหลายอย่างที่คล้ายกัน"
"และผมเลือกข้างคอมมิวนิสต์เช่นจีนและรัสเซีย เพราะผมไม่เห็นด้วยกับคำว่าคนเกิดมาเท่าเทียมกันของโทมัส เจฟเฟอร์สัน ซึ่งเป็นการกลัดกระดุมเม็ดแรกที่ผิดของอเมริกา"
"โลกนี้คนเกิดมาไม่เท่ากัน และคนแข็งแกร่งกว่าควรต้องปกครองคนอ่อนแอกว่าด้วยการกดขี่เท่านั้น จึงจะเหมาะสม"
"ผมเลือกอยู่ข้างฝ่ายคอมมิวนิสต์ และสงครามนี้ด้วยความกดขี่และโหดร้ายของฝ่ายเรา ผมคาดว่าฝ่ายคอมมิวนิสต์เราจะชนะและควบคุมโลกใบนี้แทนฝ่ายประชาธิปไตยอย่างอเมริกาและยุโรป"
"ดังนั้น ผมไม่กลัวคุณ ทรัมป์"
"ผมอยู่ฝ่ายเกาหลีเหนือ เราเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันและมีหลายอย่างที่คล้ายกัน"
"และผมเลือกข้างคอมมิวนิสต์เช่นจีนและรัสเซีย เพราะผมไม่เห็นด้วยกับคำว่าคนเกิดมาเท่าเทียมกันของโทมัส เจฟเฟอร์สัน ซึ่งเป็นการกลัดกระดุมเม็ดแรกที่ผิดของอเมริกา"
"โลกนี้คนเกิดมาไม่เท่ากัน และคนแข็งแกร่งกว่าควรต้องปกครองคนอ่อนแอกว่าด้วยการกดขี่เท่านั้น จึงจะเหมาะสม"
"ผมเลือกอยู่ข้างฝ่ายคอมมิวนิสต์ และสงครามนี้ด้วยความกดขี่และโหดร้ายของฝ่ายเรา ผมคาดว่าฝ่ายคอมมิวนิสต์เราจะชนะและควบคุมโลกใบนี้แทนฝ่ายประชาธิปไตยอย่างอเมริกาและยุโรป"
"ดังนั้น ผมไม่กลัวคุณ ทรัมป์"
แสดงความคิดเห็น
ทรัมป์หารือพล.อ.ประยุทธ์ ประเด็นเกาหลีเหนือ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ จะหารือกับ นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ในวันอาทิตย์ เกี่ยวกับภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในเอเชีย จากการเปิดเผยของหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว จันทร์ที่ 1 พฤษภาคม 2560 เวลา 00.00 น.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ว่า นายไรนซ์ พรีบัส หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาวสหรัฐ เผยต่อพิธีกรรายการ "ธิส วีค" ของสถานีโทรทัศน์เอบีซี เมื่อวันอาทิตย์ ว่า สหรัฐต้องการความร่วมมือในบางระดับ กับประเทศหุ้นส่วนในพื้นที่จำนวนมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อความมั่นใจว่าสหรัฐมีความพร้อมก่อนจะลงมือกระทำบางสิ่งบางอย่าง
พรีบัส กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีทรัมป์ได้หารือกับประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ เมื่อวันเสาร์ เกี่ยวกับเกาหลีเหนือ และการเข้าหาบรรดาผู้นำประเทศในภูมิภาค มีเป้าหมายเพื่อขอให้ทุกคนสนับสนุน "แผนปฏิบัติการ" หากสถานการณ์ในเกาหลีเหนือเลวร้ายลง พร้อมกับย้ำว่า ทรัมป์มีการติดต่อกันเป็นประจำ กับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น และขณะนี้ "มีความใกล้ชิดกันมาก" กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน
พรีบัส กล่าวว่า ขณะนี้ไม่มีภัยคุกคามใดร้ายแรงกว่าเกาหลีเหนืออีกแล้ว แผนการสนทนาหารือเกิดจาก "ความเป็นไปได้ที่จะเกิดภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ และอาวุธทำลายล้างสูงในเอเชีย" และท้ายที่สุดในสหรัฐอเมริกา