คืนวันพฤหัสบดี กับ เสียงหัวเราะ และรอยยิ้มก่อนนอน

ห่างหายจากการเขียนอะไรแบบนี้มานาน วันนี้เลยอยากเขียนสักหน่อย

หลังจากที่มีเวลาและได้มีโอกาสติดตามรายการทางโทรทัศน์ช่องหนึ่งที่เป็นกระแสโด่งดังอย่างมากในตอนนี้ เป็นรายการที่น้อยคนนักจะไม่รู้จัก ถูกแล้วนั่นคือรายการ...
“The Mask Singer หน้ากากนักร้อง”


ส่วนตัวนั้นไม่เคยติดตาม ไม่เคยดูสดในโทรทัศน์ของซีซั่นแรกเลย และในซีซั่นที่ 2 ก็เพิ่งมีโอกาสได้ดูสดใน EP. 2 ยอมรับว่าการดูสดครั้งนั้นทำให้ชอบแล้วกลายมาเป็นแฟนรายการไปโดยปริยาย

ก็บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงชอบ อาจเป็นเพราะความแปลกใหม่ของรายการกระมัง ก่อนหน้านี้เคยดูรายการ I Can See Your Voice มาบ้าง และชอบที่กรรมการตลก แม้บาง EP. จะไม่มีการท้าทายกันแต่โดยรวมก็เรียกได้ว่าเป็นรายการที่เรียกเสียงหัวเราะคนดูอย่างตัวผมได้มากทีเดียว ซึ่งทั้งสองรายการมีความคล้ายกันอยู่นะในความคิดเห็นส่วนตัว ‘นักร้องซ่อนแอบ’ ให้คนทางบ้านได้โชว์ศักยภาพในการร้องเพลง ที่บางคนทำให้ถึงกับอึ้งว่า “เฮ้ย...ร้องดีขนาดนี้ ทำไมไม่มาเป็นนักร้องฟระ” ส่วน ‘หน้ากากนักร้อง’ ก็เป็นการโชว์ศักยภาพของนักร้องนักแสดง นักร้องนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะต้องร้องดีกันอยู่แล้ว แต่นักแสดงและเซเลบบางท่าน...บอกเลยว่าทำให้อึ้งมากว่าเสียงดีขนาดนี้กันเลยหรือ

เอาละ กลับมาที่หน้ากากนักร้องต่อ เดี๋ยวจะยาวจนขี้เกียจอ่านกัน หลังจากที่ได้ดูสดในครั้งนั้นทำให้ต้องเข้า YouTube หา EP. ก่อนๆ มาดู ตั้งแต่ EP. 1 ก็ทำให้อึ้งกับคุณจ๊ะจ๋า พริมรตา ละ เสียงเธอดีมากจนผมคิดเอาเองว่าต้องเป็นนักร้องแหงๆ แต่พอเปิดหน้ากากออกมา ผมก็มีอาการเดียวกับพวกกรรมการเลยครับ ตาโต แก้มป่อง เอ๊ย...ไม่ใช่ 555 ตาโต อ้าปากค้าง ต้องบอกก่อนว่าผมดูโดยที่ไม่ได้เลื่อนลงไปดูคอมเมนต์นะ เพราะเชื่อว่าต้องมีสปอยแน่ๆ และหลาย EP. หลังจากที่คนแพ้ต้องถูกถอดหน้ากาก ผมก็ยังมีอาการแบบนั้นอยู่นะ แม้ว่าหลายหน้ากากที่ถูกถอดผมจะมั่นใจคนใต้หน้ากากว่าเป็นใครอยู่มากก็เหอะ

ผมขอพูดถึงแค่แชมป์สายก็แล้วกันเนอะ สำหรับหน้ากากทุเรียนที่กลายเป็นกระแสที่สุดอยู่ในตอนนี้ ผมฟัง If I ain't got you ครั้งแรก ผมก็พอจะนึกออกแล้วว่าเป็น ทอม Room39 ส่วนหน้ากากอีกาดำยอมรับว่าลังเลในเพลง Endless Rain แต่พอ ทิ้งรักลงแม่น้ำ ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นใคร มาถึงหน้ากากมังกรนั้นบอกตรงๆ มาจับเสียงได้ตอนเพลง Listen และถือว่าเป็นอีกหน้ากากที่ทำผมประหลาดใจมากหน้ากากหนึ่งเลยทีเดียว

สุดท้าย...หน้ากากจิงโจ้ ที่เอาหน้ากากนี้มาพูดสุดท้าย เพราะสำหรับผม ถือว่าคนใต้หน้ากากท่านนี้ได้กลับมาแจ้งเกิดใหม่อีกครั้งจริงๆ และเป็นการกลับมาสู่เส้นทางของนักร้องได้แบบสวยงามเสียด้วย แม้ว่าในช่วงแรกหลังถอดหน้ากากจะมีดราม่าตามมามากมายก็ตาม แต่ก็เพราะดราม่าเหล่านั้นนั่นเองที่ทำให้ผมรู้สึกสะท้อนใจในอะไรบางอย่าง

เป๊ก ผลิตโชค อายนบุตร ชื่อนี้ผมคุ้นหูมานานมาก เรียกได้ว่าเป๊กเข้าสู่วงการเพลงในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่ผมได้เข้าทำงานในนิตยสารหัวหนึ่งเช่นกัน ก็ตั้งแต่ G-Boyz โน่นเลย หากใครเป็นแฟนคลับเป๊กก็น่าจะรู้ว่าผ่านมาแล้วกี่ปี ช่วงเวลาที่เป๊กเป็นนักร้อง ออกอัลบั้มมาให้แฟนๆ ได้ฟังได้ติดตาม ชื่อเสียงของเขามาพร้อมกับข่าวต่างๆ ที่ผมในตอนนั้นก็ไม่เข้าใจสื่อสำนักอื่นนักว่าการศัลยกรรม หรือรสนิยมทางเพศ มันไปเกี่ยวอะไรกับผลงานเพลง ผมไม่ได้บอกว่าผมดีที่ไม่เล่นข่าวเหล่านั้นตามกระแส แต่เพราะผมเห็นว่ามันไม่เกี่ยวกับการร้องเพลงของเขาจริงๆ

เอ...ชักจะยาว มาสรุปเรื่องหน้ากากนักร้องก่อนดีกว่าเนอะ ผมชอบในความคิดการนำเสนอของรายการแม้จะมีลิขสิทธิ์มาจากเกาหลี(ซึ่งผมไม่เคยดู)ก็ตาม ทางเกาหลีนั้นผมไม่รู้ว่าเขาได้นำนักแสดงหรือนักร้องที่ห่างหายไปจากวงการนานๆ มาร้องเพลงอีกครั้งเหมือนของไทยหรือเปล่า แต่ผมขอชื่นชมในการเลือกเฟ้นคนใต้หน้ากากของทีมงานรายการ คนดูท่านอื่นคิดเห็นอย่างไรผมไม่ทราบ แต่สำหรับผม...ทีมงาน The Mask Singer คุณทำให้ผมประหลาดใจกับคนใต้หน้ากากมากจริงๆ และขอบคุณที่ทำให้ทุกคืนวันพฤหัสบดีของผมมีแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มก่อนนอน

ปล. กระทู้ต่อไปจะเขียนเกี่ยวกับ เป๊ก ผลิตโชค กับช่วงเวลาที่ผ่านมาตลอดหลายปี ไม่รู้ว่าจะมีใครอยากอ่านมั้ย(แต่ก็จะเขียนอ่ะนะ) 555
ปล2. ขอบคุณที่อ่านจนจบครับผม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่