สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากมารีวิวขั้นตอนการไปขอวีซ่าอเมริกา ซึ่งของเราชั้นชิดมากๆๆๆๆ
ถ้าถามว่ามากแค่ไหนก็มีเวลาเบ็ดเสร็จก่อนจะบินประมาณ 10 เท่านั้นเอง (พูดแล้วยังเสียวไม่หาย 😅)
เริ่มจากเกริ่นคร่าวๆถึงที่มาที่ไปก่อนะคะ เราเพิ่งจบโทจากที่อังกฤษปีที่แล้ว ประมาณเดือน September จากนั้นได้อยู่ต่ออีกนิดหน่อยแล้วค่อยกลับมาช่วงต้นปีที่ผ่านมา
เป็น neet อยู่ได้สักพัก (555) ก็ได้ทำงานบ.ปัจจุบันค่ะ ทีนี้นายเราจะไปอเมริกาเพื่อไปประชุม ยังไงไม่ทราบเหมือนบอสเดาเอาเองว่าเรามีวีซ่าอเมริกาที่ยังไม่หมดอายุ เลยคิดจะเอาเราไปประชุมด้วย
ซึ่งความจริงแล้ว เราไม่มี!!! 😱😱
ที่มีมันคือเชงเก้นค่ะบอสขาาาา โธ่!!! แต่ก็นั่นแหละค่ะ ตั๋วซื้อไปแล้ว และจะบินภายในอีก 10 วันค่ะ... *กุมขมับ*
พอทราบเรื่องเราก็เช็คในเว็บนู้นนี้ทันทีค่ะ หลักๆก็คือพันทิปนี่แหละ 555 ทีนี้หลังจากอ่านๆดูแล้วก็เห็นว่า เอ้อ ทำเองน่าจะไม่ยากอะไรนะ 10 วันก็อาจจะทันก็ได้นะยูววว!!!
ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากจะยกเครดิตให้กระทู้นี้ค่ะ ช่วยเราไว้เหลือล้นจีๆ 🙇🙇 *กราบงามๆสามที*
https://m.pantip.com/topic/35021980?
กระทู้นี้บอกรายละเอียดขั้นตอนการสมัครและกรอกข้อมูลต่างๆลงระบบ ไปจนถึงการนัดเวลาสัมภาษณ์ไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วค่ะ เราเลยจะไม่พูดซ้ำตรงส่วนนี้นะคะ
ซึ่งเราก็อยากจะมายืนยันอีกเสียงค่ะ ว่าเอเจนซี่เป็นอะไรที่ไม่จำเป็นเลย!!! ทุกอย่างสามารถทำเองได้ ไม่ยากอะไรเลย แถมประหยัดขึ้นตั้งเยอะแน่ะยูว!!!
ขอสรุปขั้นตอนคร่าวๆ เรื่องเอกสาร แล้วจะไปอธิบายยาวหน่อยตรงส่วนสัมภาษณ์แทนนะคะ
1. ทราบเรื่อง panic ก่อน (555) เช็คเว็บแล้วกรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์ทันที
2. กรอกข้อมูลนัดสัมภาษณ์ภายในวันเดียวกัน
3. ผ่านไปหนึ่งวันถึงได้โอนเงินค่าสัมภาษณ์ เป็นจำนวน 5760.- หลังโอนประมาณไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถเข้าไปอัพเดทใบเสร็จในระบบได้แล้วค่ะ
4. อัพเดทใบเสร็จวันศุกร์ นัดสัมภาษณ์วันจันทร์ทันที (กระชั้นชิดอีกแล้ว 555)
5. เตรียมเอกสาร (ซึ่งจริงๆแล้วเราเตรียมไปน้อยมากค่ะ เพิ่งมาทราบตอนอยู่ที่สถานทูตแล้ว มองหน้ามองหลัง อื้อหือออ พกเอกสารกันมาเป็นตั้งๆ!!!)
จบภาคแรกค่ะ 555 ขอต่อด้วยวันสัมภาษณ์เลย
6. เรานัดรอบ 8:15 ค่ะ มาถึงประมาณ 7:10 แต่!!! ยังไม่ได้ถ่ายรูป 555 ไปตายเอาดาบหน้าอีกแล้ว
7. อ่านพันทิปเรื่องถ่ายรูปวีซ่า 555 แล้วก็ทราบเรื่องร้านในตำนานของพี่โน๊ต ร้านชื่อ Visapass สามารถหาโลเกชั่น Google map ได้เลย ตั้งอยู่บนชั้นสองของตลาดโรเล็กซ์ ค่าบริการ 200 บาท 5 นาทีก็ได้รูปเลยค่ะ
8. รูปพร้อมและเดินมาที่แถวตอน 7:30 มีการเช็คใบนัดด้านหน้าตึกก่อน พอได้เข้าตึกปุ้บ ก็เป็นการฝากกระเป๋าและมือถือปั้บ (มือถือฝากได้แค่1เครื่องต่อคนนะคะ อย่าลืมเอาบัตรปชช.ไปด้วย) หลังจากนั้นถึงจะได้เข้าไปในโซนกลาง
9. โซนกลางคือรอเรียกเหมารอบ เพื่อย้ายคนเข้าไปในตึกในสุดอีกที ช่วงนี้ไม่มีอะไรมากแค่เตรียมใบคอนเฟิร์มนัดหมายกับรูปถ่ายให้พร้อม แล้วจะได้เป็นหมายเลขแทรคกิ้งสำหรับตอนรับพาสปอร์ตคืนมาค่ะ
10. เข้าไปในตึกในสุดแล้วววว ขอแบ่งเป็น ในต้น ในกลาง และ ในใน อีกทีนะคะ 555
11. ในต้น - เข้าแถวเพื่อยืนเอกสารขั้นต้น (พาสปอร์ต และ DS-160) พร้อมสแกนนิ้วมือ ขั้นตอนนี้จนท.เป็นคนไทยทั้งหมดค่ะ จะมีถามคร่าวๆแค่ เคยเปลี่ยนชื่อ/นามสกุลมารึเปล่า เคยได้วีซ่าอเมริการึยัง เป็นต้น
12. ในกลาง - สแกนนิ้วมืออีกรอบ จนท.ต่างชาติ แต่ไม่ได้ถามอะไร แค่ยืนยันชื่ออย่างเดียว
13. ฟินาเล่แล้วค่าาา กับด่านในใน จนท.ต่างชาติทั้งหมดที่จะสัมภาษณ์เราถึงเรื่องรายละเอียดทริป (จนท.สองในสี่เป็นคนผิวดำที่เห็นว่าพูดไทยได้ ด้วยซึ่งเราได้สัมภาษณ์กับหนึ่งในนี้แต่เราเลือกที่พูดอังกฤษค่ะ) ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้เสร็จตอน 9:30 ค่ะ
ส่วนรายละเอียดการสัมภาษณ์ก็ดังนี้ค่ะ
เริ่มต้นที่เราชิงทักก่อนว่า Good morning พร้อมยิ้มหวานเพื่อปูทางว่าตูพูดอังกฤษได้นะเว้ยย 555
ข้างล่างนี้คือสนทนาภาษาอังกฤษทั้งหมดนะคะ
Q ว่าไง นี่จะไปไหน
A ไป Portland, Oregon
Q กี่วัน
A สัปดาห์นึง
Q เคยไปไหนมามั่ง *พลิกพาสปอร์ตดูไปด้วย*
A พอดีไปเรียนโทมาที่อังกฤษ ตอนอยู่นู่นก็ทำเชงเก้นด้วย ไป ฝรั่งเศษ เช็ก โปแลนด์ กับ ออสเตรีย มา
Q แล้วตอนนี้ทำงานอะไร
A เป็นดีไซเนอร์ บ.นี้ๆ
Q ใครสปอนเซอร์ทริป
A จ่ายเองด้วย บริษัทจ่ายให้ด้วย
Q มีหลักฐานมั้ย
A ... ไม่มี!!!
พีคตรงนี้ค่ะ 555 คือเราไม่ได้เตรียมมาเพราะเห็นในเว็บไม่ได้พูดถึง เราก็ naive ค่ะ คิดว่าไม่จำเป็น ก็ใจดีสู้เสือไป
A เห็นในเว็บไม่มีบอก เลยไม่ได้เตรียม แต่ไปมาหลายประเทศชั้นไม่เคยทำตัวมีปัญหานะ (รีบเชียว 555)
Q โอเคๆ *พูดแบบไม่มองตา*
แล้วก็พิมพ์ก๊อกๆแก๊กๆ ให้เรานั่งลุ้น พร้อมกับพูดต่อแบบไม่มองหน้า
A ผ่าน รอรับพาสปอร์ตคืนไม่เกิน 7 วัน
ผ่างงงงง!!! ทั้งหมดนี้ใช้เวลาแค่ 5 นาทีค่ะ เราสตั๊นท์ 10 วิ พร้อมถามย้ำแบบงงๆ สรุปผ่านใช่มั้ย จนท.มองหน้าแบบเหนื่อยหน่ายแล้วบอก อือ! (555)
ก็คือผ่านมาแบบง่ายๆ เอกสารอะไรไม่ขอดูเลย (ที่ขอดูก็ไม่มีให้ดูไง 555)
เท่านี้แหละค่ะ เลยอยากจะย้ำว่า ง่าย!!! ทำเองเหอะ!!! จีๆนะ!!! 😬😬
สุดท้ายที่ต้องลุ้นคือรอรับพาสปอร์ตคืนนี่แหละค่ะ ขอให้มาโดยเร็ววัน สาธุ!!!
Edit - เพิ่มเติมว่าเราจอดรถตึกสินธรฝั่งตรงข้ามค่ะ ซื้อ Starbucks แล้วสามารถจอดฟรีได้ 2 ชม. ชม.ต่อไป 20.- 30.- 40.- ตามลำดับค่ะ 👍👍
[CR] รีวิว - ขอวีซ่าอเมริกาแบบกระชั้นชิด (ขอวีซ่าด้วยตัวเองไม่ยากอย่างที่คิด!!)
ถ้าถามว่ามากแค่ไหนก็มีเวลาเบ็ดเสร็จก่อนจะบินประมาณ 10 เท่านั้นเอง (พูดแล้วยังเสียวไม่หาย 😅)
เริ่มจากเกริ่นคร่าวๆถึงที่มาที่ไปก่อนะคะ เราเพิ่งจบโทจากที่อังกฤษปีที่แล้ว ประมาณเดือน September จากนั้นได้อยู่ต่ออีกนิดหน่อยแล้วค่อยกลับมาช่วงต้นปีที่ผ่านมา
เป็น neet อยู่ได้สักพัก (555) ก็ได้ทำงานบ.ปัจจุบันค่ะ ทีนี้นายเราจะไปอเมริกาเพื่อไปประชุม ยังไงไม่ทราบเหมือนบอสเดาเอาเองว่าเรามีวีซ่าอเมริกาที่ยังไม่หมดอายุ เลยคิดจะเอาเราไปประชุมด้วย
ซึ่งความจริงแล้ว เราไม่มี!!! 😱😱
ที่มีมันคือเชงเก้นค่ะบอสขาาาา โธ่!!! แต่ก็นั่นแหละค่ะ ตั๋วซื้อไปแล้ว และจะบินภายในอีก 10 วันค่ะ... *กุมขมับ*
พอทราบเรื่องเราก็เช็คในเว็บนู้นนี้ทันทีค่ะ หลักๆก็คือพันทิปนี่แหละ 555 ทีนี้หลังจากอ่านๆดูแล้วก็เห็นว่า เอ้อ ทำเองน่าจะไม่ยากอะไรนะ 10 วันก็อาจจะทันก็ได้นะยูววว!!!
ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากจะยกเครดิตให้กระทู้นี้ค่ะ ช่วยเราไว้เหลือล้นจีๆ 🙇🙇 *กราบงามๆสามที*
https://m.pantip.com/topic/35021980?
กระทู้นี้บอกรายละเอียดขั้นตอนการสมัครและกรอกข้อมูลต่างๆลงระบบ ไปจนถึงการนัดเวลาสัมภาษณ์ไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วค่ะ เราเลยจะไม่พูดซ้ำตรงส่วนนี้นะคะ
ซึ่งเราก็อยากจะมายืนยันอีกเสียงค่ะ ว่าเอเจนซี่เป็นอะไรที่ไม่จำเป็นเลย!!! ทุกอย่างสามารถทำเองได้ ไม่ยากอะไรเลย แถมประหยัดขึ้นตั้งเยอะแน่ะยูว!!!
ขอสรุปขั้นตอนคร่าวๆ เรื่องเอกสาร แล้วจะไปอธิบายยาวหน่อยตรงส่วนสัมภาษณ์แทนนะคะ
1. ทราบเรื่อง panic ก่อน (555) เช็คเว็บแล้วกรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์ทันที
2. กรอกข้อมูลนัดสัมภาษณ์ภายในวันเดียวกัน
3. ผ่านไปหนึ่งวันถึงได้โอนเงินค่าสัมภาษณ์ เป็นจำนวน 5760.- หลังโอนประมาณไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถเข้าไปอัพเดทใบเสร็จในระบบได้แล้วค่ะ
4. อัพเดทใบเสร็จวันศุกร์ นัดสัมภาษณ์วันจันทร์ทันที (กระชั้นชิดอีกแล้ว 555)
5. เตรียมเอกสาร (ซึ่งจริงๆแล้วเราเตรียมไปน้อยมากค่ะ เพิ่งมาทราบตอนอยู่ที่สถานทูตแล้ว มองหน้ามองหลัง อื้อหือออ พกเอกสารกันมาเป็นตั้งๆ!!!)
จบภาคแรกค่ะ 555 ขอต่อด้วยวันสัมภาษณ์เลย
6. เรานัดรอบ 8:15 ค่ะ มาถึงประมาณ 7:10 แต่!!! ยังไม่ได้ถ่ายรูป 555 ไปตายเอาดาบหน้าอีกแล้ว
7. อ่านพันทิปเรื่องถ่ายรูปวีซ่า 555 แล้วก็ทราบเรื่องร้านในตำนานของพี่โน๊ต ร้านชื่อ Visapass สามารถหาโลเกชั่น Google map ได้เลย ตั้งอยู่บนชั้นสองของตลาดโรเล็กซ์ ค่าบริการ 200 บาท 5 นาทีก็ได้รูปเลยค่ะ
8. รูปพร้อมและเดินมาที่แถวตอน 7:30 มีการเช็คใบนัดด้านหน้าตึกก่อน พอได้เข้าตึกปุ้บ ก็เป็นการฝากกระเป๋าและมือถือปั้บ (มือถือฝากได้แค่1เครื่องต่อคนนะคะ อย่าลืมเอาบัตรปชช.ไปด้วย) หลังจากนั้นถึงจะได้เข้าไปในโซนกลาง
9. โซนกลางคือรอเรียกเหมารอบ เพื่อย้ายคนเข้าไปในตึกในสุดอีกที ช่วงนี้ไม่มีอะไรมากแค่เตรียมใบคอนเฟิร์มนัดหมายกับรูปถ่ายให้พร้อม แล้วจะได้เป็นหมายเลขแทรคกิ้งสำหรับตอนรับพาสปอร์ตคืนมาค่ะ
10. เข้าไปในตึกในสุดแล้วววว ขอแบ่งเป็น ในต้น ในกลาง และ ในใน อีกทีนะคะ 555
11. ในต้น - เข้าแถวเพื่อยืนเอกสารขั้นต้น (พาสปอร์ต และ DS-160) พร้อมสแกนนิ้วมือ ขั้นตอนนี้จนท.เป็นคนไทยทั้งหมดค่ะ จะมีถามคร่าวๆแค่ เคยเปลี่ยนชื่อ/นามสกุลมารึเปล่า เคยได้วีซ่าอเมริการึยัง เป็นต้น
12. ในกลาง - สแกนนิ้วมืออีกรอบ จนท.ต่างชาติ แต่ไม่ได้ถามอะไร แค่ยืนยันชื่ออย่างเดียว
13. ฟินาเล่แล้วค่าาา กับด่านในใน จนท.ต่างชาติทั้งหมดที่จะสัมภาษณ์เราถึงเรื่องรายละเอียดทริป (จนท.สองในสี่เป็นคนผิวดำที่เห็นว่าพูดไทยได้ ด้วยซึ่งเราได้สัมภาษณ์กับหนึ่งในนี้แต่เราเลือกที่พูดอังกฤษค่ะ) ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้เสร็จตอน 9:30 ค่ะ
ส่วนรายละเอียดการสัมภาษณ์ก็ดังนี้ค่ะ
เริ่มต้นที่เราชิงทักก่อนว่า Good morning พร้อมยิ้มหวานเพื่อปูทางว่าตูพูดอังกฤษได้นะเว้ยย 555
ข้างล่างนี้คือสนทนาภาษาอังกฤษทั้งหมดนะคะ
Q ว่าไง นี่จะไปไหน
A ไป Portland, Oregon
Q กี่วัน
A สัปดาห์นึง
Q เคยไปไหนมามั่ง *พลิกพาสปอร์ตดูไปด้วย*
A พอดีไปเรียนโทมาที่อังกฤษ ตอนอยู่นู่นก็ทำเชงเก้นด้วย ไป ฝรั่งเศษ เช็ก โปแลนด์ กับ ออสเตรีย มา
Q แล้วตอนนี้ทำงานอะไร
A เป็นดีไซเนอร์ บ.นี้ๆ
Q ใครสปอนเซอร์ทริป
A จ่ายเองด้วย บริษัทจ่ายให้ด้วย
Q มีหลักฐานมั้ย
A ... ไม่มี!!!
พีคตรงนี้ค่ะ 555 คือเราไม่ได้เตรียมมาเพราะเห็นในเว็บไม่ได้พูดถึง เราก็ naive ค่ะ คิดว่าไม่จำเป็น ก็ใจดีสู้เสือไป
A เห็นในเว็บไม่มีบอก เลยไม่ได้เตรียม แต่ไปมาหลายประเทศชั้นไม่เคยทำตัวมีปัญหานะ (รีบเชียว 555)
Q โอเคๆ *พูดแบบไม่มองตา*
แล้วก็พิมพ์ก๊อกๆแก๊กๆ ให้เรานั่งลุ้น พร้อมกับพูดต่อแบบไม่มองหน้า
A ผ่าน รอรับพาสปอร์ตคืนไม่เกิน 7 วัน
ผ่างงงงง!!! ทั้งหมดนี้ใช้เวลาแค่ 5 นาทีค่ะ เราสตั๊นท์ 10 วิ พร้อมถามย้ำแบบงงๆ สรุปผ่านใช่มั้ย จนท.มองหน้าแบบเหนื่อยหน่ายแล้วบอก อือ! (555)
ก็คือผ่านมาแบบง่ายๆ เอกสารอะไรไม่ขอดูเลย (ที่ขอดูก็ไม่มีให้ดูไง 555)
เท่านี้แหละค่ะ เลยอยากจะย้ำว่า ง่าย!!! ทำเองเหอะ!!! จีๆนะ!!! 😬😬
สุดท้ายที่ต้องลุ้นคือรอรับพาสปอร์ตคืนนี่แหละค่ะ ขอให้มาโดยเร็ววัน สาธุ!!!
Edit - เพิ่มเติมว่าเราจอดรถตึกสินธรฝั่งตรงข้ามค่ะ ซื้อ Starbucks แล้วสามารถจอดฟรีได้ 2 ชม. ชม.ต่อไป 20.- 30.- 40.- ตามลำดับค่ะ 👍👍