ขอมาฝากงานไว้ที่นี่ค่ะ
เพื่อนชายที่แสนดี
ล. วิลิศมาหรา
ลิเลียนรู้สึกตัวขึ้นมา พร้อมกับอาการปวดแปลบไปทั่วสรรพางค์กาย โดยเฉพาะที่ขาทั้งสองข้าง เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมอง สิ่งแรกที่เห็นก็คือซากเหล็กพังยับของเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ ที่ท่อนหัวกับท่อนหางฉีกขาดออกจากกัน ชิ้นส่วนเศษเหล็กกระจัดกระจายอยู่รอบตัว กวาดตามองอย่างตื่นตระหนกก็พบว่าตัวเองคงจะอยู่ใต้ซากของส่วนหัวเฮลิคอปเตอร์ และกำลังบาดเจ็บสาหัส...
เครื่องบินลำนี้เธอเช่าลำมา เพื่อเดินทางไปงานวิวาห์ของตัวเองกับแฟนหนุ่ม ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในอีกฟากฝั่งหนึ่งของตัวเมือง แต่บินมาได้แค่ครึ่งทาง นักบินก็เจอเข้ากับทัศนวิสัยที่แย่ลงกะทันหัน จนในที่สุดเครื่องบินก็สูญเสียการทรงตัว และตกลงในป่าทึบแห่งหนึ่ง ซึ่งจะเป็นจุดใดของเมืองนั้นเธอเองก็ไม่สามารถรู้ได้ รู้แต่ตอนนี้รอบข้างมีแต่เศษซากของชิ้นส่วนเครื่องบินกระจายตกเกลื่อน
โชคยังดีที่มันไม่เกิดระเบิดไฟลุกขึ้นเสียก่อน ไม่เช่นนั้นเธอที่ขาทั้งสองข้างติดอยู่ในชิ้นส่วนชิ้นใหญ่ของซากเครื่อง คงจะโดนย่างสดไปแล้ว เพราะขยับตัวออกไปจากที่ตรงนี้ไม่ได้เลย ขาซึ่งถูกซากเหล็กทับคงจะเข้าไปขัดกับเศษเหล็ก และคงโดนมันบีบรัดเอาไว้ด้วย ตัวเองจึงขยับเคลื่อนไหวขาไม่ได้
แต่ขณะนี้ความเจ็บปวดตรงขาสองข้างกลับบรรเทาลงไปแล้ว เพราะขาทั้งคู่ของเธอเกิดอาการชาขึ้นมาแทนที่ จนไม่มีความรู้สึกตรงนั้นหลงเหลืออยู่เลย ส่วนท่อนบนของร่างกายยังพอขยับได้อยู่ เธอจึงลองเอามือลูบคลำตามหน้าตาเนื้อตัวดู ซึ่งก็พบบาดแผลใหญ่เล็กเต็มตัวไปหมด มีเลือดไหลเปรอะเปื้อนมือจนใจเสีย แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่าถึงยังไงก็ยังมีลมหายใจอยู่ เธอยังไม่ตาย...
พระเจ้าช่วยลูกด้วยเถิด! ทำไมจึงเกิดเหตุการณ์เลวร้ายนี้ขึ้น ในวันชื่นคืนสุขที่เฝ้ารอมานานหลายปี ตัวเองตัดสินใจลงทุนเช่าเฮลิคอปเตอร์ลำนี้มา ก็เพราะหวังจะสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับว่าที่เจ้าบ่าวของเธอเอง อยากให้เขานึกทึ่งที่ได้เห็นเจ้าสาวเดินทางมายังบริเวณงานด้วยเฮลิคอปเตอร์ แทนที่จะเดินเข้ามาในงานแบบธรรมดาทั่วไป
แน่นอน เทดดริกต้องประหลาดใจพร้อมกับตื่นเต้นยินดี ที่ผู้หญิงคนซึ่งเขาเลือกแต่งงานด้วยลงมาหาเขาทางอากาศ อย่างไม่เคยมีใครในเมืองนี้ทำมาก่อน เธอวางแผนไว้ว่าจะลงมาในชุดเจ้าสาวสีขาวฟูฟ่อง ในสถานที่จัดงานซึ่งเป็นสวนสวยกว้างขวางแห่งหนึ่ง มันได้ถูกจับจองเอาไว้แล้วผ่านทางฮันส์ เพื่อนชายคนสนิทของเธอ
ฮันส์...ทันทีนั้นก็นึกถึงผู้ชายคนที่นั่งมาในเฮลิคอปเตอร์กับเธอ เมื่อวันก่อนเขายังพาเธอไปตรวจดูความเรียบร้อยของสถานที่จัดงาน เพื่อดูว่าออแกไนซ์ได้จัดรูปแบบของงานถูกใจคนเป็นเจ้าสาวหรือไม่
ทำไมถึงเป็นฮันส์ไม่ใช่เทดดริกที่ไปกับเธอ...ก็เพราะเจ้าบ่าวของเธอเป็นนักธุรกิจชื่อดังในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ และการเงินการธนาคาร ที่มีงานยุ่งรัดตัวอยู่แทบจะตลอดเวลา เขาคบเป็นแฟนกันกับเธอ โดยที่เธอต้องใช้ความอดทนอย่างยิ่งยวด ในอันจะประคับประคองความรักให้ราบรื่นมาจนกระทั่งถึงวันวิวาห์จนได้
กว่าที่เธอกับคนรักจะมีวันนี้เป็นเพราะฝีมือของฮันส์ล้วน ๆ นอกจากฮันส์จะเป็นลูกน้องในบริษัทของเทดดริกแล้ว ฮันส์ยังเป็นเพื่อนรักของเธอกับเขาอีกด้วย เพื่อนหนุ่มเป็นเสมือนตัวแทนของเทดดริกในทุกเรื่อง ที่มันไปเกี่ยวข้องกับความรักระหว่างเธอกับเทดดริก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาผิดนัดทานข้าวกับเธอเสมอ ซึ่งจะมาจากสาเหตุใดก็ตาม แต่มันก็ทำให้เธอต้องรอเขาเก้ออยู่ในร้านอาหารเป็นประจำ ยามนั้นลิเลียนก็จะพบว่า ตัวเองมีฮันส์มานั่งทานข้าวเป็นเพื่อนแก้เก้อไปเสียทุกครั้ง หรือในยามที่เธอทะเลาะกับเทดดริก ก็เป็นฮันส์อีกนั่นแหละที่คอยช่วยไกล่เกลี่ย ประสานความเข้าใจกัน แม้แต่ยามใดที่เทดดริกทำให้เธอเสียน้ำตา เธอก็ได้อ้อมอกอุ่น ๆ ของฮันส์คอยเป็นที่ซับน้ำตาให้
และก็เป็นฮันส์อีกเหมือนกันที่นั่งคู่มากับเธอในเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ พูดปลุกปลอบใจเธอในตอนที่เครื่องบินกำลังจะตก และเธอเสียขวัญอย่างหนัก นักบินบังคับเครื่องไม่อยู่ ตัวเฮลิคอปเตอร์เกิดสั่นไหวขึ้นหลายครั้ง
ในขณะนั้นมือของฮันส์กระชับมือเธอแน่น เขาบีบมือปลอบเธอ พึมพำปลอบใจว่า เรื่องเลวร้ายอะไรก็ตามจะไม่เกิดขึ้นกับเธอในวันอันแสนสุขนี้ ไม่มีคำกล่าวโทษเธอแม้แต่คำเดียว ที่อุตริทำในสิ่งซึ่งเป็นอันตราย
แต่ในที่สุด หลังการสั่นไหวอย่างรุนแรงครั้งสุดท้าย เฮลิคอปเตอร์ก็เริ่มปักหัวดิ่งลง
โครม!
เธอคิดว่าได้ยินเสียงนี้ ก่อนที่สติจะดับวูบไป
"ฮันส์...ฮันส์ ช่วยลิซด้วย"
ตะโกนออกไปสุดเสียง รู้สึกดีใจที่ตัวเองนอกจากยังหายใจอยู่ เธอยังพูดได้ด้วย ทว่าเธอกลับได้ยินเสียงตะโกนของตัวเองหายเงียบเข้าไปในบรรยากาศของป่าทึบ เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากใคร ลิเลียนก็เหลียวมองไปรอบตัว นอกจากเศษซากชิ้นส่วนของเครื่องบินแล้ว เธอเห็นแต่ต้นไม้กับพงหญ้าที่หักราบเป็นวงกว้าง ห่างออกไปคือป่าที่มีต้นไม้ขึ้นหนาทึบ เครื่องบินคงตกลงกระแทกต้นไม้ก่อน แล้วถึงร่วงลงมายังพื้นอีกที โชคดีที่มันตกลงบนพื้นที่มีพงหญ้าและดินโคลนอ่อนนุ่ม เธอจึงรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด อีกอย่าง ตอนที่เครื่องบินกำลังจะตก จำได้ว่าฮันส์กอดเธอเอาไว้แน่น เขาซุกตัวเธอเข้าไว้ในอ้อมกอดของเขาเอง นี่คงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เธอรอดตาย แต่ตอนนี้ฮันส์กับนักบินอีกสองคนหายไปไหนก็ไม่รู้
"ลิซ...ลิซ ฉันอยู่นี่..."
เสียงแหบแห้งเรียกชื่อลิเลียนดังขึ้นข้างหลัง ใจชื้นขึ้นมากมายเมื่อจำได้ว่าเป็นเสียงของฮันส์ เอี้ยวตัวไปมองอย่างยากลำบาก และแล้วก็เห็นร่างบาดเจ็บของเพื่อนรักที่เต็มไปด้วยเลือดเกรอะกรังแดงเถือกไปทั้งตัว สังเกตเห็นว่าเขาคงอาการสาหัสเช่นกัน และกำลังพยายามคืบคลานเข้ามาหาเธอช้า ๆ
"เป็นไงบ้าง เธอเจ็บตรงไหนไหม ลิเลียน อดทนไว้นะฉันมาช่วยเธอแล้ว"
น้ำตาซึมทันทีที่ได้ยินเขาถามถึงอาการบาดเจ็บ โธ่เอ๋ย...ขนาดตัวเองบอบช้ำอย่างสาหัส ก็ยังมีแก่ใจเป็นห่วงเธอ นี่ถ้าหากว่าเธอไม่ทะเยอทะยานจนเกินไป...
ฮันส์...ทำไมนะ ทำไมเธอถึงมารักคนอย่างฉัน เธอน่าจะได้เจอคนดี ๆ ที่รักเธอ ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไม่เคยไยดีในความรักอันมีค่าของเธออย่างฉันเลย
เพราะความรู้สึกลึก ๆ ที่สะสมมานาน และมันได้พลุ่งพล่านขึ้นอย่างกะทันหัน ในยามทุกข์ยากแสนสาหัส เสียงหนึ่งในใจจึงคร่ำครวญขึ้นมาอย่างข่มกลั้นไม่ไหว
หลังสำรวจดูจนทั่วตัวเธอแล้ว ชายหนุ่มก็ก้มลงส่องดูขาทั้งคู่ของเธอใต้ซากเหล็ก แววตาบนใบหน้าเลอะไปด้วยเลือดบ่งบอกถึงความหนักใจ พยายามกระ

กระสนลุกขึ้นมาจนได้ ฮันส์ใช้มือข้างเดียวพยายามยกซากเหล็กชิ้นนั้นให้พ้นจากขาเธอ แต่มันคงมีน้ำหนักมากเกินกว่ากำลังของคนบาดเจ็บที่เหลือแขนดี ๆ ข้างเดียวจะยกไหว หลังพยายามอยู่ครู่ใหญ่ เขาก็ยอมแพ้ ทรุดตัวลงนั่งหายใจเหนื่อยหอบอยู่ข้างหญิงสาว
"อดทนไว้นะ เธอต้องเข้มแข็ง"
เมื่อคลายจากอาการเหนื่อย เขาก็หันมาพูดกับเธอ ซึ่งคนฟังก็พยักหน้าทั้งน้ำตาไหล มันเป็นน้ำตาจากทั้งความเจ็บปวดทางร่างกาย และจากความตื้นตันใจ
"ลิซ ฉันจะหาทางให้เราทั้งคู่รอดไปจากที่นี่ให้จนได้ แต่ว่า..."
เขาค้างคำพูดเอาไว้ ทั้งสีหน้าและแววตาส่อแสดงถึงความกังวลอันล้นเหลือ ซึ่งมันทำให้ลิเลียนใจหายวูบ
"ไม่นะ เธออย่าทิ้งฉันไป ฮันส์...อย่าทิ้งฉันไว้ที่นี่คนเดียวนะ"
รู้ทันทีว่าเขาจะบอกอะไร สองมือไขว่คว้าออกไป ละล่ำละลักวิงวอนให้อย่าทิ้งเธอไป ซึ่งเขาก็รีบคว้ามือเธอมากุมไว้
"ฉันไม่ได้จะทิ้งเธอ ตั้งใจฟังให้ดี ถ้าจะช่วยเธอให้ออกจากเจ้าซากนี้ได้ มันต้องมีคนช่วย ฉันสังเกตว่าแถวนี้มีรอยทางคนเดินเท้า น่าจะมีคนหรือหมู่บ้านอยู่ใกล้ ๆ นี่แหละ ลิซ เธอต้องอดทนเอาไว้นะ เราสองคนจะต้องไปจากที่นี่ให้ได้ ฉันสัญญา แต่ว่าฉันจะต้องไปตามหาคนมาช่วยเธอก่อน เราอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้ มันอันตรายทั้งจากแสงแดดกับฝนฟ้า ไหนจะจากสัตว์ร้ายในป่าจะเข้ามากัดกินเราอีก เธอเข้าใจไหม"
เสียแหบพร่าอธิบายยืดยาว แต่ลิเลียนที่เกิดหวาดกลัวเมื่อรู้ว่าตัวเองจะต้องอยู่ตามลำพังในป่า ก็เอาแต่ส่ายหน้าปฏิเสธ
"ไม่ ไม่ เธอต้องไม่ทิ้งฉันไปไหน อยู่กับฉันที่นี่ก่อน อย่าเพิ่งไปเลยนะ ฮันส์...."
ร่ำร้องพลางสะอึกสะอื้นน้ำตาไหลพราก จับมือเขาไว้แน่น ร่างสูงของฮันส์ขยับเข้ามาใกล้ โอบกอดเธอไว้ แนบใบหน้าลงกับศีรษะเธอ
"เราสองคนต้องไปจากที่นี่ ลิซ ฉันจะไม่ยอมรอดออกไปคนเดียวโดยทิ้งเธอไว้ที่นี่เด็ดขาด นิ่งซะ รอฉันอยู่ตรงนี้ ฉันสัญญาว่าจะรีบไปรีบมา ฉันไม่เคยทิ้งเธอนี่ เข้าใจไหมลิเลียน"
ขอความช่วยเหลือด้วยค่ะ
เพื่อนชายที่แสนดี
ล. วิลิศมาหรา
ลิเลียนรู้สึกตัวขึ้นมา พร้อมกับอาการปวดแปลบไปทั่วสรรพางค์กาย โดยเฉพาะที่ขาทั้งสองข้าง เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมอง สิ่งแรกที่เห็นก็คือซากเหล็กพังยับของเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ ที่ท่อนหัวกับท่อนหางฉีกขาดออกจากกัน ชิ้นส่วนเศษเหล็กกระจัดกระจายอยู่รอบตัว กวาดตามองอย่างตื่นตระหนกก็พบว่าตัวเองคงจะอยู่ใต้ซากของส่วนหัวเฮลิคอปเตอร์ และกำลังบาดเจ็บสาหัส...
เครื่องบินลำนี้เธอเช่าลำมา เพื่อเดินทางไปงานวิวาห์ของตัวเองกับแฟนหนุ่ม ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในอีกฟากฝั่งหนึ่งของตัวเมือง แต่บินมาได้แค่ครึ่งทาง นักบินก็เจอเข้ากับทัศนวิสัยที่แย่ลงกะทันหัน จนในที่สุดเครื่องบินก็สูญเสียการทรงตัว และตกลงในป่าทึบแห่งหนึ่ง ซึ่งจะเป็นจุดใดของเมืองนั้นเธอเองก็ไม่สามารถรู้ได้ รู้แต่ตอนนี้รอบข้างมีแต่เศษซากของชิ้นส่วนเครื่องบินกระจายตกเกลื่อน
โชคยังดีที่มันไม่เกิดระเบิดไฟลุกขึ้นเสียก่อน ไม่เช่นนั้นเธอที่ขาทั้งสองข้างติดอยู่ในชิ้นส่วนชิ้นใหญ่ของซากเครื่อง คงจะโดนย่างสดไปแล้ว เพราะขยับตัวออกไปจากที่ตรงนี้ไม่ได้เลย ขาซึ่งถูกซากเหล็กทับคงจะเข้าไปขัดกับเศษเหล็ก และคงโดนมันบีบรัดเอาไว้ด้วย ตัวเองจึงขยับเคลื่อนไหวขาไม่ได้
แต่ขณะนี้ความเจ็บปวดตรงขาสองข้างกลับบรรเทาลงไปแล้ว เพราะขาทั้งคู่ของเธอเกิดอาการชาขึ้นมาแทนที่ จนไม่มีความรู้สึกตรงนั้นหลงเหลืออยู่เลย ส่วนท่อนบนของร่างกายยังพอขยับได้อยู่ เธอจึงลองเอามือลูบคลำตามหน้าตาเนื้อตัวดู ซึ่งก็พบบาดแผลใหญ่เล็กเต็มตัวไปหมด มีเลือดไหลเปรอะเปื้อนมือจนใจเสีย แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่าถึงยังไงก็ยังมีลมหายใจอยู่ เธอยังไม่ตาย...
พระเจ้าช่วยลูกด้วยเถิด! ทำไมจึงเกิดเหตุการณ์เลวร้ายนี้ขึ้น ในวันชื่นคืนสุขที่เฝ้ารอมานานหลายปี ตัวเองตัดสินใจลงทุนเช่าเฮลิคอปเตอร์ลำนี้มา ก็เพราะหวังจะสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับว่าที่เจ้าบ่าวของเธอเอง อยากให้เขานึกทึ่งที่ได้เห็นเจ้าสาวเดินทางมายังบริเวณงานด้วยเฮลิคอปเตอร์ แทนที่จะเดินเข้ามาในงานแบบธรรมดาทั่วไป
แน่นอน เทดดริกต้องประหลาดใจพร้อมกับตื่นเต้นยินดี ที่ผู้หญิงคนซึ่งเขาเลือกแต่งงานด้วยลงมาหาเขาทางอากาศ อย่างไม่เคยมีใครในเมืองนี้ทำมาก่อน เธอวางแผนไว้ว่าจะลงมาในชุดเจ้าสาวสีขาวฟูฟ่อง ในสถานที่จัดงานซึ่งเป็นสวนสวยกว้างขวางแห่งหนึ่ง มันได้ถูกจับจองเอาไว้แล้วผ่านทางฮันส์ เพื่อนชายคนสนิทของเธอ
ฮันส์...ทันทีนั้นก็นึกถึงผู้ชายคนที่นั่งมาในเฮลิคอปเตอร์กับเธอ เมื่อวันก่อนเขายังพาเธอไปตรวจดูความเรียบร้อยของสถานที่จัดงาน เพื่อดูว่าออแกไนซ์ได้จัดรูปแบบของงานถูกใจคนเป็นเจ้าสาวหรือไม่
ทำไมถึงเป็นฮันส์ไม่ใช่เทดดริกที่ไปกับเธอ...ก็เพราะเจ้าบ่าวของเธอเป็นนักธุรกิจชื่อดังในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ และการเงินการธนาคาร ที่มีงานยุ่งรัดตัวอยู่แทบจะตลอดเวลา เขาคบเป็นแฟนกันกับเธอ โดยที่เธอต้องใช้ความอดทนอย่างยิ่งยวด ในอันจะประคับประคองความรักให้ราบรื่นมาจนกระทั่งถึงวันวิวาห์จนได้
กว่าที่เธอกับคนรักจะมีวันนี้เป็นเพราะฝีมือของฮันส์ล้วน ๆ นอกจากฮันส์จะเป็นลูกน้องในบริษัทของเทดดริกแล้ว ฮันส์ยังเป็นเพื่อนรักของเธอกับเขาอีกด้วย เพื่อนหนุ่มเป็นเสมือนตัวแทนของเทดดริกในทุกเรื่อง ที่มันไปเกี่ยวข้องกับความรักระหว่างเธอกับเทดดริก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาผิดนัดทานข้าวกับเธอเสมอ ซึ่งจะมาจากสาเหตุใดก็ตาม แต่มันก็ทำให้เธอต้องรอเขาเก้ออยู่ในร้านอาหารเป็นประจำ ยามนั้นลิเลียนก็จะพบว่า ตัวเองมีฮันส์มานั่งทานข้าวเป็นเพื่อนแก้เก้อไปเสียทุกครั้ง หรือในยามที่เธอทะเลาะกับเทดดริก ก็เป็นฮันส์อีกนั่นแหละที่คอยช่วยไกล่เกลี่ย ประสานความเข้าใจกัน แม้แต่ยามใดที่เทดดริกทำให้เธอเสียน้ำตา เธอก็ได้อ้อมอกอุ่น ๆ ของฮันส์คอยเป็นที่ซับน้ำตาให้
และก็เป็นฮันส์อีกเหมือนกันที่นั่งคู่มากับเธอในเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ พูดปลุกปลอบใจเธอในตอนที่เครื่องบินกำลังจะตก และเธอเสียขวัญอย่างหนัก นักบินบังคับเครื่องไม่อยู่ ตัวเฮลิคอปเตอร์เกิดสั่นไหวขึ้นหลายครั้ง
ในขณะนั้นมือของฮันส์กระชับมือเธอแน่น เขาบีบมือปลอบเธอ พึมพำปลอบใจว่า เรื่องเลวร้ายอะไรก็ตามจะไม่เกิดขึ้นกับเธอในวันอันแสนสุขนี้ ไม่มีคำกล่าวโทษเธอแม้แต่คำเดียว ที่อุตริทำในสิ่งซึ่งเป็นอันตราย
แต่ในที่สุด หลังการสั่นไหวอย่างรุนแรงครั้งสุดท้าย เฮลิคอปเตอร์ก็เริ่มปักหัวดิ่งลง
โครม!
เธอคิดว่าได้ยินเสียงนี้ ก่อนที่สติจะดับวูบไป
"ฮันส์...ฮันส์ ช่วยลิซด้วย"
ตะโกนออกไปสุดเสียง รู้สึกดีใจที่ตัวเองนอกจากยังหายใจอยู่ เธอยังพูดได้ด้วย ทว่าเธอกลับได้ยินเสียงตะโกนของตัวเองหายเงียบเข้าไปในบรรยากาศของป่าทึบ เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากใคร ลิเลียนก็เหลียวมองไปรอบตัว นอกจากเศษซากชิ้นส่วนของเครื่องบินแล้ว เธอเห็นแต่ต้นไม้กับพงหญ้าที่หักราบเป็นวงกว้าง ห่างออกไปคือป่าที่มีต้นไม้ขึ้นหนาทึบ เครื่องบินคงตกลงกระแทกต้นไม้ก่อน แล้วถึงร่วงลงมายังพื้นอีกที โชคดีที่มันตกลงบนพื้นที่มีพงหญ้าและดินโคลนอ่อนนุ่ม เธอจึงรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด อีกอย่าง ตอนที่เครื่องบินกำลังจะตก จำได้ว่าฮันส์กอดเธอเอาไว้แน่น เขาซุกตัวเธอเข้าไว้ในอ้อมกอดของเขาเอง นี่คงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เธอรอดตาย แต่ตอนนี้ฮันส์กับนักบินอีกสองคนหายไปไหนก็ไม่รู้
"ลิซ...ลิซ ฉันอยู่นี่..."
เสียงแหบแห้งเรียกชื่อลิเลียนดังขึ้นข้างหลัง ใจชื้นขึ้นมากมายเมื่อจำได้ว่าเป็นเสียงของฮันส์ เอี้ยวตัวไปมองอย่างยากลำบาก และแล้วก็เห็นร่างบาดเจ็บของเพื่อนรักที่เต็มไปด้วยเลือดเกรอะกรังแดงเถือกไปทั้งตัว สังเกตเห็นว่าเขาคงอาการสาหัสเช่นกัน และกำลังพยายามคืบคลานเข้ามาหาเธอช้า ๆ
"เป็นไงบ้าง เธอเจ็บตรงไหนไหม ลิเลียน อดทนไว้นะฉันมาช่วยเธอแล้ว"
น้ำตาซึมทันทีที่ได้ยินเขาถามถึงอาการบาดเจ็บ โธ่เอ๋ย...ขนาดตัวเองบอบช้ำอย่างสาหัส ก็ยังมีแก่ใจเป็นห่วงเธอ นี่ถ้าหากว่าเธอไม่ทะเยอทะยานจนเกินไป...
ฮันส์...ทำไมนะ ทำไมเธอถึงมารักคนอย่างฉัน เธอน่าจะได้เจอคนดี ๆ ที่รักเธอ ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไม่เคยไยดีในความรักอันมีค่าของเธออย่างฉันเลย
เพราะความรู้สึกลึก ๆ ที่สะสมมานาน และมันได้พลุ่งพล่านขึ้นอย่างกะทันหัน ในยามทุกข์ยากแสนสาหัส เสียงหนึ่งในใจจึงคร่ำครวญขึ้นมาอย่างข่มกลั้นไม่ไหว
หลังสำรวจดูจนทั่วตัวเธอแล้ว ชายหนุ่มก็ก้มลงส่องดูขาทั้งคู่ของเธอใต้ซากเหล็ก แววตาบนใบหน้าเลอะไปด้วยเลือดบ่งบอกถึงความหนักใจ พยายามกระ
"อดทนไว้นะ เธอต้องเข้มแข็ง"
เมื่อคลายจากอาการเหนื่อย เขาก็หันมาพูดกับเธอ ซึ่งคนฟังก็พยักหน้าทั้งน้ำตาไหล มันเป็นน้ำตาจากทั้งความเจ็บปวดทางร่างกาย และจากความตื้นตันใจ
"ลิซ ฉันจะหาทางให้เราทั้งคู่รอดไปจากที่นี่ให้จนได้ แต่ว่า..."
เขาค้างคำพูดเอาไว้ ทั้งสีหน้าและแววตาส่อแสดงถึงความกังวลอันล้นเหลือ ซึ่งมันทำให้ลิเลียนใจหายวูบ
"ไม่นะ เธออย่าทิ้งฉันไป ฮันส์...อย่าทิ้งฉันไว้ที่นี่คนเดียวนะ"
รู้ทันทีว่าเขาจะบอกอะไร สองมือไขว่คว้าออกไป ละล่ำละลักวิงวอนให้อย่าทิ้งเธอไป ซึ่งเขาก็รีบคว้ามือเธอมากุมไว้
"ฉันไม่ได้จะทิ้งเธอ ตั้งใจฟังให้ดี ถ้าจะช่วยเธอให้ออกจากเจ้าซากนี้ได้ มันต้องมีคนช่วย ฉันสังเกตว่าแถวนี้มีรอยทางคนเดินเท้า น่าจะมีคนหรือหมู่บ้านอยู่ใกล้ ๆ นี่แหละ ลิซ เธอต้องอดทนเอาไว้นะ เราสองคนจะต้องไปจากที่นี่ให้ได้ ฉันสัญญา แต่ว่าฉันจะต้องไปตามหาคนมาช่วยเธอก่อน เราอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้ มันอันตรายทั้งจากแสงแดดกับฝนฟ้า ไหนจะจากสัตว์ร้ายในป่าจะเข้ามากัดกินเราอีก เธอเข้าใจไหม"
เสียแหบพร่าอธิบายยืดยาว แต่ลิเลียนที่เกิดหวาดกลัวเมื่อรู้ว่าตัวเองจะต้องอยู่ตามลำพังในป่า ก็เอาแต่ส่ายหน้าปฏิเสธ
"ไม่ ไม่ เธอต้องไม่ทิ้งฉันไปไหน อยู่กับฉันที่นี่ก่อน อย่าเพิ่งไปเลยนะ ฮันส์...."
ร่ำร้องพลางสะอึกสะอื้นน้ำตาไหลพราก จับมือเขาไว้แน่น ร่างสูงของฮันส์ขยับเข้ามาใกล้ โอบกอดเธอไว้ แนบใบหน้าลงกับศีรษะเธอ
"เราสองคนต้องไปจากที่นี่ ลิซ ฉันจะไม่ยอมรอดออกไปคนเดียวโดยทิ้งเธอไว้ที่นี่เด็ดขาด นิ่งซะ รอฉันอยู่ตรงนี้ ฉันสัญญาว่าจะรีบไปรีบมา ฉันไม่เคยทิ้งเธอนี่ เข้าใจไหมลิเลียน"