สภาพจิตใจเราย่ำแย่พอที่จะไปพบจิตแพทย์ได้แล้วยัง

เราตกงานแบบไม่เต็มใจ ตกงานเพราะลาออกเองนั่นแหละ แต่เราก็ไม่ได้อยากออก เราออกเพราะทนเพื่อนร่วมงานไม่ไหว ออกเพราะสาเหตุนี้อย่างเดียวเลย เครียดจนทนไม่ไหว เครียดจนต้องลาออก ยังรู้สึกเสียดายอยู่เลย เพราะเราไม่ได้มีปัญหาเรื่องอื่นเลย มีแต่เรื่องเพื่อนร่วมงาน (เรื่องงานก็อาจมีปัญหาบ้าง แต่ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้คิดลาออก) แต่บริษัทก็ไม่มีงานแผนกอื่นให้เราทำ (ตอนได้งานที่นี่ เราก็คิดไว้ว่าจะทำอยู่ที่นี่นานๆ จะไม่ลาออกง่ายๆ เพราะอายุก็ 25 แล้ว แต่สุดท้ายยังทำได้ไม่ถึง 1 ปีก็ลาออก อยู่ไม่ไหวจริงๆ อยู่แล้วเครียดมาก) แต่เราก็ยังทำตัวเป็นแม่พระ โดยการไม่บอกความจริงกับเจ้านายและ HR ว่ามีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน เราให้เหตุผลการลาออกไปว่า เพราะไม่ถนัดงานที่ทำอยู่ (ถ้าบอกว่าออกเพราะเพื่อนร่วมงาน ก็ไม่รู้ว่าเจ้านายกับ HR จะแก้ปัญหาให้เรายังไง เราคิดว่าเขาคงช่วยไม่ได้ด้วย)

เราเพิ่งลาออกมาไม่ถึง 3 วัน และก็ยังไม่ได้บอกพ่อแม่เลย (พ่อแม่อยู่ต่างจังหวัด เราอยู่คนเดียวที่กรุงเทพ) ไม่ได้บอกญาติๆ คนไหนเลย และเราก็ไม่อยากบอกพ่อแม่ด้วย แต่พ่อเราก็ชอบไลน์มาถามเราทุกวัน ว่าเราเลิกงานแล้วยัง กลับบ้านแล้วยัง แล้วเราก็ต้องตอบแบบโกหกไป ครั้งนี้เราจำเป็นต้องปิดบัง เพราะเราไม่อยากทำให้พ่อแม่ต้องกังวล เราเป็นลูกที่ไม่ค่อยเอาไหน ก่อนหน้านี้เราก็ลาออกจากงานหลายครั้งแล้ว เปลี่ยนงานมา 4 ครั้ง ภายในเวลา 4 ปี และก็ลาออกจากงานด้วยสาเหตุเดิมๆ ตลอด คือทนเพื่อนร่วมงาน/เจ้านายไม่ไหว แทบจะไม่เคยออกเพราะทำงานไม่ไหว หรือได้เงินเดือนน้อยไป เดินทางลำบาก ได้งานใหม่ที่ดีกว่า ฯลฯ ไม่เคยมีสาเหตุแบบนั้นเลย ปัญหาเรื่องอื่นเราพอทนได้ แต่เรื่องคนนี่ ทนไม่ได้จริงๆ

เราก็คิดนะว่าสาเหตุมันมาจากตัวเราหรือเปล่า เราไม่มีความอดทนเหรอ ก็ไม่ใช่นะ เราก็เป็นคนเรียบร้อย พูดน้อย ไม่เคยปะทะคารมกับใคร ใครบ่นเรา เราก็นิ่งเฉย ไม่ตอบโต้ ใครใช้ให้ทำอะไรก็ทำหมด แต่เรารู้สึกว่าทำไมคนอื่นชอบใช้คำพูดรังแกเราจัง หรือไม่ก็คอยจู้จี้จุกจิก เยอะกับเราเหลือเกิน หรือเป็นเพราะเราพูดน้อย ไม่ตอบโต้ใคร ก็เลยถูกรังแกเหรอ (มนุษย์เป็นแบบนี้เหรอ) ถ้าจะคิดว่าเป็นเพราะตัวเองโชคร้ายที่ไปเจอสังคมแบบนั้นมันก็ดูจะเว่อร์ไป (ทำงานหลายที่ แต่เจอสังคมแบบเดิมๆ ที่คนใกล้ตัวชอบใช้คำพูดรังแกเราทุกครั้งนี่นะ) สรุปตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไรกันแน่ ทำไมเราโดนคนอื่นรังแก(ด้วยวาจา) แล้วทำไมคนอื่นเขาไม่เห็นจะโดน ทำไมคนอื่นเขาทำงานได้อย่างมีความสุข ไม่เห็นมาท้อแท้เรื่องคนเหมือนเรา

เราเคยคิดหลายครั้งมาก ว่าจะไปพบจิตแพทย์ดีไหม เราไม่เคยท้อจนถึงขั้นคิดฆ่าตัวตายหรอก อย่างมากก็ร้องไห้คนเดียว แต่เราก็เคยคิดว่าเราจะเกิดมาทำไม ถ้าเกิดมาแล้วจะเป็นแบบนี้ ตายไปซะดีกว่าไหม (แต่ไม่เคยคิดฆ่าตัวตาย) ตอนที่เรายังทำงานอยู่ มีช่วงหนึ่งเราเครียดสุดๆ จนตัดสินใจโทรไปเบอร์สายด่วนสุขภาพจิต แต่โทรหลายรอบแล้วสายก็ไม่ว่างสักที เราจึงตัดสินใจเดินทางไป รพ.จิตเวชแห่งหนึ่งของรัฐ ไปคนเดียว แถมเดินไปด้วย (เพราะคิดว่าอยู่ไม่ไกลจากหอเรา แต่พอไปจริงๆ ก็ไกลเอาการ แถมเดินหลงทางอีก) วันนั้นเป็นวันเสาร์หรืออาทิตย์นี่แหละ พอเราไปถึง ก็กรอกประวัติ ทำบัตรคนไข้ จากนั้นก็รอพบหมอ ปรากฎว่ามีคนไข้มารอคิวกันเยอะมาก และดูเหมือนจะมีหมออยู่แค่คนเดียว เรารออยู่ 2 ชม. ไม่ได้พบหมอสักที เรารู้สึกหงุดหงิด ขี้เกียจรอแล้ว ก็เลยกลับ สรุปว่าวันนั้นไม่ได้พบหมอ และหลังจากนั้น เมื่อถึงวันทำงาน เราก็ไปแจ้งลาออกจากงาน พอแจ้งลาออกแล้วก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย เพราะคิดว่าอีกไม่นานเราก็จะหมดเวรหมดกรรมกับเพื่อนร่วมงานที่นี่แล้ว และเราก็ไม่ได้ไปพบจิตแพทย์อีกเลย

เราลาออกล่วงหน้าตั้ง 2 เดือน คิดไว้ว่าเดี๋ยวไม่นานก็คงหางานใหม่ได้ เราเริ่มสมัครงานที่อื่น และก็ลางานหลายครั้ง เพื่อไปสัมภาษณ์งานที่ใหม่ ตอนนี้เราสัมภาษณ์งานมาไม่ถึง 10 ที่ (อาจไม่เยอะเท่าไหร่) แต่ก็ยังไม่มีที่ไหนตอบรับเราเข้าทำงาน จนกระทั่งตอนนี้เรากลายเป็นคนว่างงานเป็นที่เรียบร้อย มันเครียดอยู่แล้ว คนตกงานนี่นะ เดี๋ยวนี้งานก็หายาก และเราก็ไม่ได้เก่งนัก ภาษาอังกฤษก็เด๋อๆ ด๋าๆ พยายามสมัครงานที่ไม่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ ประสบการณ์ทำงานของเราก็ดูไม่ค่อยน่ารับ (เพราะอายุการทำงานของเราแต่ละที่มันสั้น แบบว่ายังไม่เคยทำงานที่ไหนได้เกิน 1 ปี) และเราก็อยากได้งานที่มีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ได้เงินเดือนเท่าๆ กับงานล่าสุดที่เราทำ (หรือได้มากกว่านั้น) ก็เลยยิ่งทำให้หางานยากขึ้นไปอีก เพราะองค์กรทั่วไปส่วนใหญ่ชอบกดทั้งเงินเดือนและวันหยุด ส่วนองค์กรดีๆ เขาก็ต้องการคนที่เก่งมากๆ โดยเฉพาะเรื่องภาษา ซึ่งเราไม่เก่ง เรียนมาก็เยอะ หมดเงินไปเยอะกับภาษาอังกฤษ แต่ก็เหมือนจะไม่ได้อะไรเลย และตอนนี้เราไม่อยากเสียเงินไปเรียนแล้ว เราต้องเก็บเงินไว้ใช้ประทังชีวิตตอนตกงาน

ตอนนี้ก็อยู่หอคนเดียว รู้สึกเหนื่อยใจจนไม่อยากจะทำอะไรเลย ไม่แม้แต่จะอยากออกไปเที่ยวไหน (ยกเว้นออกไปซื้อข้าวกิน) เพราะไม่อยากใช้เงินมาก รู้สึกอยากเททุกสิ่งทุกอย่าง รู้สึกแย่ด้วยที่ต้องปิดบังพ่อแม่เรื่องลาออกจากงาน แบบว่าสงสารท่าน ได้แต่นั่งฟุ้งซ่าน หรือไม่ก็เล่นเน็ตเพื่อให้ลืมทุกข์ไปชั่วคราวเท่านั้น แต่ก็ยังสมัครงานอยู่เรื่อยๆ ตอนนี้ก็ไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงกับชีวิตดี และก็เริ่มคิดอีกแล้วว่าจะไปพบจิตแพทย์ดีไหม ไปแล้วจะคุ้มไหม จะเสียเงินฟรีไหม คิดไม่ตกจริงๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่