ขอท้าวความก่อนค่ะ เมื่อปี 57 เราได้รับบัตรสมาชิก King Power Platinum มาจากการที่เราเป็นลูกค้า VIP ของ AIA และจุดนี้คือทำให้เราได้รู้จักกับ King Power อย่างเป็นทางการ ทุกครั้งที่เราบินไปเมืองนอกเราจะดูราคาสินค้า King Power ตลอดว่าถูกแพงกว่าประเทศที่เราจะไปยังไง คือเราจะเช็คตั้งแต่ตอนก่อนไปเลยว่าตัวไหนที่เราจะซื้อรุ่นไหนราคาเท่าไร ถ่ายรูปไปเลยจะได้เป็น reference แต่เชื่อไม๊ว่าด้วยส่วนลดที่ได้จากหน้าบัตรถึง 20% ทำให้สุดท้ายเราต้องกลับมาซื้อเครื่องสำอางที่ร้าน King Powerตรงขาเข้าแทบทุกครั้ง เพราะเทียบๆ แล้ว ถ้าไม่ใช่ในร้านลดราคา ที่นี่ส่วนใหญ่ไงๆ ก็ถูกกว่า...กล้าพูดเพราะเช็คมาแล้วว่าที่นี่ถูกจริง
จนต่อมาประมาณช่วงปลายปี 58 ทาง King Power ได้มีการเปลี่ยนชื่อเรียกบัตรสมาชิกและเริ่มมีการออกบัตรใหม่ให้กับสมาชิกเก่า แต่ต้องมียอดช๊อปตามสเต็ปยอดซื้อสินค้าขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะคิดว่ายอดซื้อมันสูงเวอร์มากในการที่จะได้ส่วนลด 20% เหมือนเดิม ดูรายละเอียดการเป็นสมาชิกกันเองนะคะ
http://story.kingpower.com/th/membership-membercard-th/
ง่ายๆ เลย คือเราต้องมียอดซื้อสะสม 1,500,000 !!!พระเจ้า ซื้อไม่ไหวค่าาา….แอบบ่นในใจใครจะไปช๊อปถึง แต่อยู่ๆ ก็เหมือนดวงเราจะสมพงษ์กันจนทำให้เราผูกกันไม่ขาด เพราะอยู่ๆ คุณแม่และเราเอง ดั้นเกิดอยาจะซื้อ Rolex ขึ้นมาพร้อมๆ กันซะงั้น เหตุเพราะมีข่าววงในแว่วมาว่า Rolex มีแนวโน้มจะปรับราคาขึ้นครั้งใหญ่เพราะทาง Swiss จะลอยตัวค่าเงินไม่อิงเงิน Euro ทำให้เราทั้ง 2 ซึ่งก็เล็งๆ กันไว้นานแล้ว มาบังเอิ๊ญบังเอิญซื้อพร้อมกันพอดี ซึ่งรวมๆ กับยอดซื้อเก่าๆ ที่เคยมีสะสมกันมาทำให้เราได้ upgrade บัตรจากระบบเดิม Platinumเป็น Crown Member ทันทีเพราะเจ้านาฬิกาแบรนด์ดังของสวิสที่ King Power รางน้ำนี้เท้ๆ
จริงๆ ต้องบอกก่อนว่า ช่วงนั้นเราเองกำลังจะบินไป Switzerland อยู่แล้ว แต่เช็คราคาแล้วไม่ได้ต่างกันมาก ถามว่าเช็คยังไงอะเหรอ อันนี้บอกเลยว่าเป็นเทคนิคที่เราทำทุกครั้งก่อนบินไปเมืองนอก ใครจะทำตามก็ไม่ว่ากันนะ คือจริงๆ แล้วง่ายมาก เราจะเลือกดูไม่ว่าจะนาฬิกา กระเป๋า รุ่นที่เราชอบตามหน้า web หรือ instagram ก่อน แล้วไปดูของจริงที่ shop หรือ รีวิวจากใน webเสร็จแล้วเราก็แค่ search ดูว่า shop ในเมืองที่เราจะไปอยู่ตรงไหน หาเบอร์โทรมา แล้วโทรไปถามเลยว่ารุ่นนี้ สีนี้ มีไม๊ ราคาเท่าไร ได้tax refund กี่เปอร์เซ็นต์ราคา net net แล้วเหลือเท่าไร บางทีถ้าร้านนี้ไม่มี ร้านไหนในเมืองนี้หรือใกล้ๆ มีบ้างจะเช็คหมด เราสามารถถามหรือโทรไปเช็คร้านอื่นได้ง่ายๆ ทำให้เรารู้ว่าเราไปแล้วจะได้ของไม๊ ถ้าไม่มีเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไป บางร้านเค้าน่ารักมากพอเช็คว่ามีของเราสามารถแจ้งนัดวันเวลาที่จะไปเพื่อให้เค้าเตรียมของให้เราไว้ได้เลย ยิ่งเดี๋ยวนี้ค่าโทรศัพท์ทางไกลถูกมากๆ โทรไปถามก่อนทำให้เราประหยัดเวลามากๆ มีเวลาไปเที่ยวได้เต็มๆ และได้ของราคาดีที่สุดแน่นอน โดยเฉพาะ Chanel บอกเลยว่าที่ Airportสุวรรณภูมิไทยราคาดีไม่แพ้ที่ใดในโลกเลยก็ว่าได้ แถมชอบมีโปรร่วมกับบัตรเครดิตมากมาย ครั้งก่อนไปเที่ยวกะเพื่อนเดือนที่แล้ว เราสอยมาใบนึง 129,000 เราได้ Cash backมาอีกร่วมหมื่น แถมคะแนนสะสมบัตรเคดิต และได้คะแนนเข้าบัตร KIng power อีก (เดี๋ยวเล่าให้ฟังน้าาาาว่าคะแนนมันเป็นยังไง)
กลับมาต่อค่ะ...ช่วงที่เราจะซื้อ Rolex กันตอนนั้นบอกเลยว่าไม่ต้องคิดมากมายอะไรเลย เพราะเรามี plan จะพาทั้งครอบครัวไปเที่ยวญี่ปุ่นอยู่แล้ว และช่วงต้นปีมีแพลนต้องบินไปประชุมดูงานที่ Hong Kong พร้อมลูกน้องด้วย พอเราเห็นโปรซื้อ Cash Card 25,000 บาทบินฟรีไป Hong Kong กับ Cathay และ Cash Card 50,000 บาทบินฟรีไปญี่ปุ่น กับการบินไทย เราไม่ต้องคิดมากเลย ซื้อเลยค่ะ เบ็ดเสร็จเราได้ตํ่วฟรีไปญี่ปุ่น 14 ใบ Hong Kong อีก 5 ใบ Oh my God….จริงหรือเนี่ย...แค่ซื้อนาฬิกา Rolex 2 เรือน จาก King Power เราประหยัดค่าตั๋วเครื่องบินไปกว่า 2 แสน ซึ่งเราบินกันในช่วงเดือนเมษาที่เป็นช่วงHigh seasonได้ด้วย แค่นี้ยังไม่พอค่ะ...เพราะตอนนั้น King Power เค้ามีโปรร่วมกับบัตรเครดิตทุกค่ายทั้ง Cash back คะแนนคูณ 3 คุณ5 แล้วแต่ว่าบัตรไหนแบงค์ไหนจะเอาอะไรมาเล่น ด้วยยอดซื้อร่วม 8 แสนกว่าของเราและแม่ เราเลยต้องขอกระดาษ A4 พร้อมเอาบัตรเครดิตในกระเป๋าของทุกคนมารวมกัน ใครมีบัตรอะไรวงเงินเท่าไรแจกแจงกันออกมา จัดแบ่งความคุ้มค่าเลยจ้าาา ประมาณว่า บัตรนี้ขอรูดแสนนึงนะน้องพี่จะเอา point บัตรนี้รูดไปเลยค่ะ 150,000 พี่จะเอา Cash back และบัตรนี้ได้คะแนนคูณ 5 อะไรแบบนี้

เบ็ดเสร็จรอบนั้น เราได้ทั้งตั๋วฟรี + Cash back ร่วมหมื่น + คะแนนอีกท่วมท้นที่ตอนนี้เอามาแลกเป็นไมล์และส่วนลด กิน เที่ยวกันยังไม่หมดเลย
แต่….ค่ะ แต่…. Hi-light ของเรามันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้นค่ะ นี่มันเพิ่งเริ่มต้น….อะไรนะ...ยังมีอีกเหรอ
[CR] รีวิว...สิทธิพิเศษบัตร Crown Member ของ King Power กับทริป Hong Kong สายการบิน Emirate Business Class A380
จนต่อมาประมาณช่วงปลายปี 58 ทาง King Power ได้มีการเปลี่ยนชื่อเรียกบัตรสมาชิกและเริ่มมีการออกบัตรใหม่ให้กับสมาชิกเก่า แต่ต้องมียอดช๊อปตามสเต็ปยอดซื้อสินค้าขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะคิดว่ายอดซื้อมันสูงเวอร์มากในการที่จะได้ส่วนลด 20% เหมือนเดิม ดูรายละเอียดการเป็นสมาชิกกันเองนะคะ http://story.kingpower.com/th/membership-membercard-th/
ง่ายๆ เลย คือเราต้องมียอดซื้อสะสม 1,500,000 !!!พระเจ้า ซื้อไม่ไหวค่าาา….แอบบ่นในใจใครจะไปช๊อปถึง แต่อยู่ๆ ก็เหมือนดวงเราจะสมพงษ์กันจนทำให้เราผูกกันไม่ขาด เพราะอยู่ๆ คุณแม่และเราเอง ดั้นเกิดอยาจะซื้อ Rolex ขึ้นมาพร้อมๆ กันซะงั้น เหตุเพราะมีข่าววงในแว่วมาว่า Rolex มีแนวโน้มจะปรับราคาขึ้นครั้งใหญ่เพราะทาง Swiss จะลอยตัวค่าเงินไม่อิงเงิน Euro ทำให้เราทั้ง 2 ซึ่งก็เล็งๆ กันไว้นานแล้ว มาบังเอิ๊ญบังเอิญซื้อพร้อมกันพอดี ซึ่งรวมๆ กับยอดซื้อเก่าๆ ที่เคยมีสะสมกันมาทำให้เราได้ upgrade บัตรจากระบบเดิม Platinumเป็น Crown Member ทันทีเพราะเจ้านาฬิกาแบรนด์ดังของสวิสที่ King Power รางน้ำนี้เท้ๆ
จริงๆ ต้องบอกก่อนว่า ช่วงนั้นเราเองกำลังจะบินไป Switzerland อยู่แล้ว แต่เช็คราคาแล้วไม่ได้ต่างกันมาก ถามว่าเช็คยังไงอะเหรอ อันนี้บอกเลยว่าเป็นเทคนิคที่เราทำทุกครั้งก่อนบินไปเมืองนอก ใครจะทำตามก็ไม่ว่ากันนะ คือจริงๆ แล้วง่ายมาก เราจะเลือกดูไม่ว่าจะนาฬิกา กระเป๋า รุ่นที่เราชอบตามหน้า web หรือ instagram ก่อน แล้วไปดูของจริงที่ shop หรือ รีวิวจากใน webเสร็จแล้วเราก็แค่ search ดูว่า shop ในเมืองที่เราจะไปอยู่ตรงไหน หาเบอร์โทรมา แล้วโทรไปถามเลยว่ารุ่นนี้ สีนี้ มีไม๊ ราคาเท่าไร ได้tax refund กี่เปอร์เซ็นต์ราคา net net แล้วเหลือเท่าไร บางทีถ้าร้านนี้ไม่มี ร้านไหนในเมืองนี้หรือใกล้ๆ มีบ้างจะเช็คหมด เราสามารถถามหรือโทรไปเช็คร้านอื่นได้ง่ายๆ ทำให้เรารู้ว่าเราไปแล้วจะได้ของไม๊ ถ้าไม่มีเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไป บางร้านเค้าน่ารักมากพอเช็คว่ามีของเราสามารถแจ้งนัดวันเวลาที่จะไปเพื่อให้เค้าเตรียมของให้เราไว้ได้เลย ยิ่งเดี๋ยวนี้ค่าโทรศัพท์ทางไกลถูกมากๆ โทรไปถามก่อนทำให้เราประหยัดเวลามากๆ มีเวลาไปเที่ยวได้เต็มๆ และได้ของราคาดีที่สุดแน่นอน โดยเฉพาะ Chanel บอกเลยว่าที่ Airportสุวรรณภูมิไทยราคาดีไม่แพ้ที่ใดในโลกเลยก็ว่าได้ แถมชอบมีโปรร่วมกับบัตรเครดิตมากมาย ครั้งก่อนไปเที่ยวกะเพื่อนเดือนที่แล้ว เราสอยมาใบนึง 129,000 เราได้ Cash backมาอีกร่วมหมื่น แถมคะแนนสะสมบัตรเคดิต และได้คะแนนเข้าบัตร KIng power อีก (เดี๋ยวเล่าให้ฟังน้าาาาว่าคะแนนมันเป็นยังไง)
กลับมาต่อค่ะ...ช่วงที่เราจะซื้อ Rolex กันตอนนั้นบอกเลยว่าไม่ต้องคิดมากมายอะไรเลย เพราะเรามี plan จะพาทั้งครอบครัวไปเที่ยวญี่ปุ่นอยู่แล้ว และช่วงต้นปีมีแพลนต้องบินไปประชุมดูงานที่ Hong Kong พร้อมลูกน้องด้วย พอเราเห็นโปรซื้อ Cash Card 25,000 บาทบินฟรีไป Hong Kong กับ Cathay และ Cash Card 50,000 บาทบินฟรีไปญี่ปุ่น กับการบินไทย เราไม่ต้องคิดมากเลย ซื้อเลยค่ะ เบ็ดเสร็จเราได้ตํ่วฟรีไปญี่ปุ่น 14 ใบ Hong Kong อีก 5 ใบ Oh my God….จริงหรือเนี่ย...แค่ซื้อนาฬิกา Rolex 2 เรือน จาก King Power เราประหยัดค่าตั๋วเครื่องบินไปกว่า 2 แสน ซึ่งเราบินกันในช่วงเดือนเมษาที่เป็นช่วงHigh seasonได้ด้วย แค่นี้ยังไม่พอค่ะ...เพราะตอนนั้น King Power เค้ามีโปรร่วมกับบัตรเครดิตทุกค่ายทั้ง Cash back คะแนนคูณ 3 คุณ5 แล้วแต่ว่าบัตรไหนแบงค์ไหนจะเอาอะไรมาเล่น ด้วยยอดซื้อร่วม 8 แสนกว่าของเราและแม่ เราเลยต้องขอกระดาษ A4 พร้อมเอาบัตรเครดิตในกระเป๋าของทุกคนมารวมกัน ใครมีบัตรอะไรวงเงินเท่าไรแจกแจงกันออกมา จัดแบ่งความคุ้มค่าเลยจ้าาา ประมาณว่า บัตรนี้ขอรูดแสนนึงนะน้องพี่จะเอา point บัตรนี้รูดไปเลยค่ะ 150,000 พี่จะเอา Cash back และบัตรนี้ได้คะแนนคูณ 5 อะไรแบบนี้
เบ็ดเสร็จรอบนั้น เราได้ทั้งตั๋วฟรี + Cash back ร่วมหมื่น + คะแนนอีกท่วมท้นที่ตอนนี้เอามาแลกเป็นไมล์และส่วนลด กิน เที่ยวกันยังไม่หมดเลย
แต่….ค่ะ แต่…. Hi-light ของเรามันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้นค่ะ นี่มันเพิ่งเริ่มต้น….อะไรนะ...ยังมีอีกเหรอ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น