[CR] บินเดี่ยว ไปหัดขับรถเที่ยวที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

กระทู้รีวิว
ขอบันทึกประสบการณ์ลุยเดี่ยว ไปหัดขับรถเที่ยวเมืองในฝันที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ไว้เป็นทางเลือกให้ลูกๆ หลานๆ ที่อยากไปเที่ยวรัสเซียได้สนุกไปอีกแบบค่ะ
ส่วนเรื่องราวอีกครึ่งทริปที่กรุงมอสโก (Moscow) เมืองหลวงสุดอลังการนั้นใช้รถสาธารณะและแท็กซี่ค่ะ
ทริปนี้ไปมาเมื่อ ก.ค. 2559 มีเวลา 14 วัน ได้เที่ยว 12 วัน เดินทาง 2 วัน
(ต่อไปนี้ขอใช้อักษรย่อ ชื่อนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (Saint Petersburg) ว่า SPB นะคะ)

          SPB เมืองหลวงเก่าของรัสเซียที่รู้จักกันในนาม “หน้าต่างสู่ยุโรป” ที่มารดาของ จขกท เคยบอกว่า *ยุโรปที่เราเคยเห็น ที่โด่งดังสวยงาม ยังไม่เท่า SPB ซึ่งเคยเรืองอำนาจอย่างสูงสุด เมืองอื่นยังไม่อลังการเทียบเท่า SPB ได้เลย (*เป็น คหสต ของมารดานะคะ) ปรากฏว่าเมื่อได้ไปพิสูจน์เองก็หลงสเน่ห์เมืองนี้ขั้นสุด คิดว่าตายแล้วเกิดใหม่ SPB ก็ยังคงจะครองอันดับหนึ่งในใจอีกแน่นอน (ว่าไปนั่น) ถ้าอยากรู้ว่า SPB น่าสนใจแค่ไหนก็ข้ามไปอ่านบท 4 ได้เลยค่ะ

1) เตรียมตัว​        ก้าวแรกก็สนุกแล้ว (Fun Fearless First Step)
2) เข้าเมือง          ​ปลอดภัยขั้นสุดกับบัครเครดิตไทยในรัสเซีย (my Super Safe credit cards)
3) เดินทาง​           ชีวิตลำพังหลังพวงมาลัย (🎬 no magic made at the movies in my Chevrolet 🎼)
4) ท่องเที่ยว​        รักแรกพบ (Love at first sights)
5) #รู้ไว้จะได้ไม่เจ็บ    ​รถหาย ใจไม่หาย (Keep calm and find lost car)
6) อวดของฝากที่ด่านศุลกากร​     ด้วยรักจากรัสเซีย (From Russia with love)
7) บทส่งท้าย​     มันยังไม่จบ จนกว่าหญิงอ้วนจะร้องเพลง (It ain't over till the fat lady sings)

1) เตรียมตัว:    ก้าวแรกก็สนุกแล้ว (Fun Fearless First Step)

          ทริปนี้บังเอิญไปคนเดียว จึงวางแผนเที่ยวแบบสบายๆ และต้องการไป SPB ก่อน จึงเลือกสายการบินฟินแอร์ (Finnair) ที่ทำรูทได้เวลาดีที่สุดในช่วงที่ไป ราคาก็ย่อมเยาที่สุดด้วยค่ะ มีตารางบินที่ 'สั้นที่สุดจากกรุงเทพฯไป SPB' คือบินจากบ้านเราไปต่อเครื่องนอร์ดิค รีเจียนอล แอร์ไลน์ (Nordic Regional Airline) ที่สนามบินแวนต้า (Vantaa Helsinki Airport) กรุงเฮลซิงกิ ฟินแลนด์ แล้วบินอีกชั่วโมงนึงก็ถึง SPB แล้วค่ะ แม้ Finnair จะย้อนเส้นทางไปเล็กน้อย แต่สายการบินอื่นก็ยังใช้เวลาเดินทางยาวกว่า และ/หรือจุดต่อเครื่องเยอะกว่า รอนานกว่าฟินแอร์ค่ะ

#Upgrade / ไม่ upgrade
          ​ตอน จขกท ไปรอแถวหน้าเคาน์เตอร์เช็คอินล่วงหน้าผ่านอินเตอร์เนตเพื่อโหลดกระเป๋าเดินทาง เห็นคนไทยในชุดจั๊มสูทสีส้มกลุ่มใหญ่ก็อุ่นใจว่าคงได้นั่งอยู่ท่ามกลางชาวเรากลุ่มนี้ ได้เลียบเคียงถามท่านนึงที่ได้นั่งติดกัน ได้ความว่าเป็นกลุ่มที่มารับจ้างหาเก็บผลไม้ในป่าบนภูเขาที่ฟินแลนด์ (ไม่ใช่ในสวนที่ปลูกไว้ให้เก็บได้ง่ายกว่านี้ว่างั้นเถอะ) มากันที 3 - 4 เดือน มีแผนกครัวไทยตามมาบริการด้วย หลายคนมาเป็นครั้งแรก เดาว่าคงเป็นงานหนักสมบุกสมบัน เพราะเห็นส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย รายได้ของแต่ละคนขึ้นกับว่า เข้าป่าขึ้นภูเขาไปเก็บผลไม้ออกมาได้มากน้อยแค่ไหน ฟังแล้วน่าชื่นชม ปลื้มใจแทนมากๆ (ยิ่งเมื่อกลับมามองตัวเองที่ไม่เคยไปทำเงินเข้าประเทศอย่างนี้ได้เลย อืม) พอถึงคิวโหลดกระเป๋า ก็ลองถามเจ้าหน้าที่ภาคพื้นว่ายังพอมีที่นั่งชั้นธุรกิจเหลือมั้ย และต้องเพิ่มเงินเท่าไหร่คะ (ไปคนเดียวก็เลยถามไปตามประสาเผื่อเกิดอยากนั่ง หรือมีเหตุจำเป็นขึ้นมา) ได้ความว่ายังมีเหลืออยู่ เพิ่มอีกหมื่นกว่าบาทค่ะ แต่ก็ตัดสินใจว่ายังไม่เลือกนั่งชั้นธุรกิจสำหรับขาไป (ป้ายังไหว) ได้แต่กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ไปถามหาที่นั่งมาให้ แล้วก็นึกสนุกไปว่า จะเอางบส่วนนี้ไปช้อปปิ้งใน King Power ให้ชื่นฉ่ำใจแทนดีกว่า

#King Power:  เผื่อ 60 นาที เพื่อชีวิตที่ดีของนักท่องเที่ยว
          ​ก่อนจะบินทุกครั้ง มันคือนาทีทองของ จขกท ที่จะซื้อของใช้จำเป็นในการเดินทางที่ King Power ตามรายการที่เตรียมไว้ อะไรใกล้หมดก็รีบตุนไว้อย่าชักช้า หลังจากชั่งน้ำหนักกระเป๋า เข้าแถวตรวจหนังสือเดินทางเสร็จ ก็รีบตรงดิ่งมา King Power ที่รักทันทีเหมือนเด็กมาถึงดีสนี่ย์แลนด์ยังไงอย่างงั้น เป็นช่วงเวลาเพลิดเพลินเปี่ยมสุขมากๆ มโนไปเองว่ามีงบช้อปปิ้งเพิ่มขึ้นจากการสละที่นั่งชั้นธุรกิจ ทำลืมๆ ไปว่า การลดค่าใช้จ่ายมันยังไม่ได้เพิ่มงบฝั่งรายได้ให้งอกมาได้เน้อ

           ข้อดีหลักๆ ของการซื้อของที่ King Power คือราคาย่อมเยามากๆ และนึกชื่นชมตั้งแต่ทีมจัดซื้อที่เลือกสรรแต่สินค้าดีๆ มาให้ลูกค้า รวมถึงทีมที่ออกแบบจัดวางให้สินค้าประเภทเดียวกันอยู่รวมกัน ให้เดินเลือกเปรียบเทียบสินค้าได้สะดวกทันใจ และส่วนตัวชอบการ์ดอวยพรวันเกิดสวยเก๋ที่ส่งมาให้ทุกปีพร้อมส่วนลดมากมาย (ขอบคุณ King Power มากๆ ค่ะ) และที่สนุกที่สุดคือได้หิ้วของที่เพิ่งซื้อขึ้นเครื่องด้วย พอมีเวลาเหลือเฟือก็จะค่อยๆ แอบแกะของใหม่มาลองใช้ทีละชิ้น (คอยระวังไม่ให้รบกวนผู้โดยสารข้างเคียงด้วยนะคะ) โดยเฉพาะเครื่องสำอางค์ทั้งหลายที่ไม่สามารถพกติดตัวขึ้นมาด้วยได้ ก็ถือโอกาสซื้อใหม่ใช้ทันที เตรียมพร้อมฉีกยิ้มสยามที่ด่านตรวจหนังสือเดินทางทุกสนามบินค่ะ ลงเครื่องแล้วถ้าไม่ลืมก็ต้องเปิดน้ำหอมขวดใหม่ใช้เลยค่ะ เดี๋ยวใครจะหาว่าป้าสวยแต่รูป… อมยิ้ม13

          ​ความสุขอีกอย่างของการได้ใช้ของใหม่ระหว่างท่องเที่ยวคือ เมื่อกลับบ้านแล้วเราจะยังจำกลิ่น จำความรู้สึกเมื่อได้ใช้ของนั้นๆ ตอนอยู่ต่างถิ่น ได้ย้อนบรรยากาศกลับมาช่วยย้อมใจ ลดอาการ post-holiday blue ได้ดีทีเดียวค่ะ (ได้เวลาร้องเพลงความสุข ความทรงจำ ไม่มีที่สิ้นสุด ของคุณเบิร์ด ธงไชยเลยฮ่ะ) คราวนี้ก็ได้ดั่งใจเช่นเคย ของจำเป็นในครั้งนี้ได้แก่ แป้งฝุ่น ครีมรองพื้น อายแชโดว์ และน้ำหอม นั่นเอง รวมบิลแล้วราคาพอๆ กับการ upgrade ตั๋วเลยค่ะ ภูมิใจ ฝีมือยังไม่ตก (ที่จริงอยากได้อย่างอื่นอีก แล้วก็ได้ตามมาเก็บที่ King Power อีกจากทริปถัดไป เย่)

#Fearless flight, no fear no regret
          ​ความรู้สึกที่ได้นั่ง Finnair ก็สะดวกสบายดีทุกอย่างค่ะ จขกท จองที่นั่งติดหน้าต่างไว้ตลอดการเดินทาง จ่ายเงินเพิ่มนิดหน่อยค่ะ คิดว่าถ้าขากลับยังไม่เหนื่อยมาก ก็คงไม่ต้องหาที่นั่งชั้นธุรกิจก็ได้ ทันใดนั้น ข้อศอกข้างที่อยู่ติดหน้าต่างก็สัมผัสวัตถุแปลกปลอม หันไปก็พบว่าเป็นปลายเท้าของผู้โดยสารที่นั่งข้างหลังยื่นเลยมาด้านข้าง แว่บแรก มนุษย์ป้านึกอยากจัดระเบียบให้ได้ดั่งใจ แต่แอบหันไปมองอีกที ชายคนดังกล่าวกำลังจะหลับหรือหลับแล้วไม่รู้ (เป็นผู้โดยสารในกลุ่มชุดส้มนั่นเอง) แล้วก็คิดได้ว่าคนเราย่อมอยู่ในสรีระเดิมนานๆ ไม่ได้ เดี๋ยวเขาเมื่อยก็ต้องเปลี่ยนท่าไปเอง เราเอาม้วนผ้าห่มกั้นอาณาเขตไว้ แล้วสนุกกับข้าวของใหม่ กับจอทีวีตรงหน้าดีกว่า (กับอาหาร กับไวน์แดงไวน์ขาว ฯลฯ ทั้งหลายแหล่ด้วย) แล้วนึกเอาว่า fearless คงไม่ใช่แค่ว่าต้องกล้าช้อปปิ้งแบบไม่กลัวตาย หรือกล้าปะทะ เรียกร้องความถูกต้องไปซะทุกอย่าง แต่น่าจะรวมถึงกล้าที่เอาชนะตรรกะความถูกต้องในบางครั้งเพื่อสันติภาพเล็กๆ ในใจเรานั่นเอง (ใช้ได้บ่อยเวลาขับรถ)

#Rentalcar.com
          ​นึกถึงเรื่องสนุกๆ ก่อนไปคือตอนเลือกรถเช่าค่ะ เนื่องจากบริษัทรถเช่าแถบยุโยปตะวันตกคงจะมีมาตรฐานใกล้เคียงกัน ค่าเช่ารวมค่าประกันก็ใกล้เคียงกันค่ะ (แนะนำว่าควรซื้อประกันชั้นหนึ่งเท่านั้นจริงๆ) จขกท เลือกว่าค่ายไหนมีรถน่าสนใจ มีจุดรับ-ส่งรถที่สะดวกสำหรับเรา ส่วนรถราก็มีให้เลือกเยอะแยะ ตั้งแต่พวก 4x wheel drive, รถตู้, รถครอบครัว, Mercedes, BMW, smart for two (อันนี้น่ารักมาก แต่ขนาดเล็กเกินจะยัดกระเป๋าเดินทางค่ะ) พรรคพวกเชียร์ให้เลือกรถสปอร์ตสุดเท่ จขกท ก็เคลิ้มๆ ไปเหมือนกัน แต่กลัวพารถไปเสียโฉม ถึงมีประกันแต่สงสารรถค่ะ แล้วจะเสียชื่อนักท่องเที่ยวชาวไทยเปล่าๆ แต่พอเห็นค่าเช่ารถก็ทำให้หายเคลิ้มไปเองค่ะ หัวเราะ จขกท เช่าผ่านแอพพลิเคชั่น Rentalcars เลือกรถ Chevrolet Cruze ("หรือเทียบเท่า" เช่น ฟอร์ด โฟกัส เผื่อกรณีฤดูท่องเที่ยวอาจหารถยากค่ะ) ค่าเช่า 10,350฿ (ค่าเช่า 7 คืน 8 วัน 7,350฿ และค่าประกันแบบ Full Protection 3,000฿ ถ้ามีสมาชิกมาช่วยหารค่ารถ มาผลัดกันขับคงสบายกว่านี้นะคะ) Rentalcar แจ้งว่า supplier ของ จขกท จะเป็น Rent Motors คือเขามี supplier หลายค่าย มีรถหลากหลายยี่ห้อน่ะค่ะ

#อย่าลืม
ก่อนเดินทางอย่าลืมทำใบขับขี่สากลก่อนนะคะ จขกท ชอบไปตอนพักกลางวันค่ะ ส่วนใหญ่ใช้เวลาที่กรมขนส่งทางบกไม่เกิน 10 นาทีค่ะ บางทีไม่มีคิวเลย การเตรียมเอกสารและข้อมูลทุกอย่างอยู่บนเว็บไซต์ของกรมค่ะ ใบขับขี่สากลนี้มีอายุ 1 ปีนับจากวันที่ทำ ค่าธรรมเนียม 500 กว่าบาทค่ะ

#ลืมจนได้
​ฮี่ๆ สิ่งที่ควรตระเตรียมแต่ดันหลงลืมตอนก่อนไปคือ ลืมหัดเติมน้ำมันรถด้วยตัวเองค่ะ แต่โชคดีที่สรุปแล้วได้เติมแค่ครั้งเดียวในปั๊มที่มีพนักงานคอยบริการ เขาจะบอกให้เราไปจ่ายเงินในมินิมาร์ทของปั๊มเองค่ะ เงื่อนไขทั่วไปคือเราต้องเติมคืนให้ไม่น้อยกว่าที่ supplier เติมไว้ตอนมาส่งรถ เท่าที่เห็นก็เกือบเต็มถังน่ะค่ะ พอ จขกท ขับมาได้เกือบ 8 วัน จึงเติมคืนให้เต็มถัง เกินๆไปเลย แค่ 1,000฿ ค่ะ ตอนคืนรถยังมีน้ำมันที่เติมคืนเกินไปเยอะอยู่ เอาไปขับเล่นได้อีกเป็นวันๆ เลยค่ะ (ไม่ได้จะใจดี แต่กะไม่ถูก)

การท่องเที่ยวใน SPB จขกท เช่ารถขับตลอดสัปดาห์ค่ะ แต่พอมาถึงมอสโกก็ไม่ได้ขับเพราะก่อนไปมีหลายคนเห็นว่าไม่ควรขับ ก็นั่งรถไฟใต้ดินเอาค่ะ ซึ่งก็ประทับใจในความสวยงามตั้งแต่ครั้งที่แวะมามอสโกปีก่อน แต่มาครั้งนี้ หลังจากเที่ยวในมอสโกอยู่เกือบสัปดาห์ ลองทั้งรถสาธารณะ รถแท็กซี่ จขกท ขอโหวตอีกหนึ่งเสียงว่าการขับรถเที่ยวในกรุงมอสโกน่าสนใจมากค่ะ

#จุกจิกก่อนไป แต่ไม่ควรลืม
• ปลั๊กสามตาและหัวแปลงปลั๊กไฟ อย่างละชิ้นก็พอสำหรับใช้คนเดียวค่ะ เคยลืมก็ต้องเสียเงินซื้อใหม่ มีแล้วมีอีก
• กระเป๋างอก (ตอนขากลับได้ใช้ใส่ของฝากใส่ขนมทุกครั้งค่ะ)
• ยาสามัญประจำบ้านและอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น (จขกท เคยต้องทานยาปฏิชีวนะแก้อักเสบที่พกไปทั้งโดสแก้หวัดได้ทันการณ์ค่ะ)
• ประกันการเดินทาง (ใครจะรู้ ไปคนเดียวแต่อาจรวยขึ้นทั้งบ้านก็ได้) ไม่ว่าไปไหนก็ต้องซื้อไว้ค่ะ คิดซะว่า ซื้อร้อยครั้ง ถ้าต้องได้ใช้ครั้งเดียวก็คุ้มแล้วค่ะ แต่ถ้าลืมก็ยังมีประกันฉีกซองของ SCB “เพียงฉีกซอง คุ้มครองทันที” ที่เคาน์เตอร์ไทยพาณิชย์ในสุวรรณภูมิได้อุ่นใจก่อนบินด้วยค่ะ
• บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วย แก้หนาวแก้เลี่ยนได้ในบางทริปค่ะ
• ของฝากจากเมืองไทยให้เจ้าของบ้าน AirBnB host (ข้อนี้จะถามโฮสล่วงหน้าทุกครั้ง โฮสมอสโกฝากเป็นน้ำมันมะพร้าวจากเมืองไทย จขกท แจกไปสามขวดเล็ก กลาง ใหญ่ ได้ใจโฮสไปเต็มๆ)

          ส่วนอุปกรณ์ถ่ายภาพ จขกท มีแค่โทรศัพท์มือถือ กับกล้องจิ๋ว 360 องศาของ Ricoh Theta เท่านั้นค่ะ รูปที่ได้ส่วนใหญ่ถ้าไม่ selfie หรือพึ่งพาฝีมือโฮส จขกท ก็จะขอให้นักท่องเที่ยวใจดีทั้งหลายถ่ายให้ค่ะ ส่วนรูปวิวสวยๆ ได้แต่หอบซื้อกลับมาเป็นหนังสือ โปสการ์ด ปฏิทินค่ะ ถ่ายเองไม่สวยกว่านั้นแน่นอน แล้วถ้าพะรุงพะรังกว่านี้อาจเป็นเป้าให้มิจฉาชีพมาฉกฉวยด้วยค่ะ ที่ไหนก็ตาม ถ้าเราเผอเรอ ย่อมเสี่ยงทั้งนั้นค่ะ เสี่ยงข้าวของ เสี่ยงชีวิต เสี่ยงหัวใจไปตกหลุมรัก ??
ชื่อสินค้า:   King Power
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่