บทความนี้เข้มข้นจริงๆค่ะ...


👀👀👀👀👀👀👀👀👀👀👀👀👀👀👀👀👀👀
อดีตนายกฯซึ่งเป็นจำเลยคนสำคัญคดีโครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ฉวยโอกาสผสมโรงโหนกระแสสังคมด้วยการให้สัมภาษณ์ดับเครื่องชนรัฐบาลนายกฯลุงตู่เกี่ยวกับโครงการจัดจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน 3 ลำ มูลค่าลำละ 13,500 ล้านบาท
อาการเลือดเข้าตาสู้แบบดับเครื่องชนของอดีตนายกฯถึงกับออกมาถล่มรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ถึงสองรอบสองวันติด โดยรอบแรก... ให้สัมภาษณ์โมเมดำน้ำอ้างว่ารัฐบาลเตรียมยกเลิกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เพื่อนำงบประมาณมาซื้อเรือดำน้ำ จน พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้ง นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข ต้องรีบออกมาจับโกหกบิดเบือนด้วยการยืนยันว่า ไม่มีการยกเลิกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค แต่อย่างใดทั้งสิ้น ซ้ำรัฐบาลได้เพิ่มงบประมาณรายหัวสำหรับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค
ที่สำคัญนายกฯลุงตู่ฉุนที่ฉวยโอกาสถล่มรัฐบาลด้วยวิธีการบิดเบือนจึงสวนกลับย้ำแผล
โดยชี้ว่า รัฐบาลปัจจุบันต้องมาแบกรับภาระผ่อนชำระหนี้จากความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวมูลค่ามหาศาลซึ่งรัฐบาลชุดที่แล้วทิ้งไว้จนทำลายสถานะการคลังของประเทศ มาจนทุกวันนี้
โครงการรับจำนำข้าวยุคนั้นนอกจากสร้างความเสียหายแก่ประเทศไม่ต่ำกว่า 7 แสนล้านบาท ซึ่งภาระหนี้ที่ใช้ไปกับโครงการรับจำนำข้าวทุกวันนี้รัฐบาลปัจจุบันต้องแบกรับภาระชดใช้ปีละหลายหมื่นล้านบาท ยังไม่รวมข้าวค้างสต๊อกในโกดังทั่วประเทศปริมาณมหาศาลเกือบ 20 ล้านตัน ที่ขายไม่ออกเนื่องจากราคาสูงกว่าตลาดทั่วไปถึงเท่าตัว และมีการใช้ข้าวเสื่อมคุณภาพปลอมปน ขณะที่ข้าวฤดูการผลิตใหม่ก็ออกมาสมทบมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดวิกฤติราคาข้าวที่ยังต้องตกต่ำไปอีกหลายปีจนกว่าจะทยอยระบายข้าวในสต๊อกหมด
ความวิบัติที่เกิดกับประเทศซึ่งทิ้งไว้จากปัญหาข้าวค้างสต๊อกก็คือ ยิ่งขายรัฐก็ยิ่งขาดทุนย่อยยับ เพราะรับซื้อมาในราคาสูงกว่าราคาตลาดถึงเท่าตัว อีกทั้งข้าวจำนวนมากเสื่อมคุณภาพเพราะมีการปลอมปน ซึ่งนี่คือผลพวงความเสียหายอันเลวร้ายจากโครงการรับจำนำข้าวที่ทำลายวงจรข้าวทั้งระบบ ขณะที่คนแค่หยิบมือรวยมหาศาล
หลังนายกฯลุงตู่ออกมาสวนหมัดย้ำแผลโครงการรับจำนำข้าว อดีตนายกฯ ร้อนตัวออกมาตอบโต้ผ่านทางเฟซบุ๊คทันทีว่า นายกฯลุงตู่ให้ร้ายรัฐบาลตัวเอง หากกล่าวหาว่าโครงการรับจำนำข้าวทำให้ประเทศเสียหายก็น่าจะเทียบกับการจัดซื้อรถถังและเรือดำน้ำในรัฐบาลชุดนี้ ทั้งๆ ที่โครงการรับจำนำข้าวเป็นการนำเงินทุกบาททุกสตางค์จ่ายถึงมือชาวนาโดยตรง ทำให้ชาวนาลืมตาอ้าปาก เศรษฐกิจดีขึ้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ตรวจสอบโครงการจัดซื้ออาวุธยุทธภัณฑ์ของรัฐบาลชุดนี้
การที่อ้างว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ของโครงการรับจำนำข้าวถึงมือชาวนาโดยตรงคงไม่จริงเพราะรู้กันอยู่ว่าคนแค่หยิบมือรวยกันมหาศาลจากการนำข้าวคุณภาพต่ำราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้าน ราคาแค่ตันละ 6,000-7,000 บาท มาสวมสิทธิ์เข้าโครงการรับจำนำข้าวที่รัฐรับซื้อตันละ 15,000 บาท ฟันกำไรส่วนต่างมหาศาล รวมทั้งอุปโลกน์การขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีทั้งๆ ที่ไม่มีการขายจริง แต่มีการนำข้าวมาหมุนเวียนขายในประเทศฟันกำไรมหาศาล
ส่วนที่อ้างว่า โครงการรับจำนำข้าวทำให้ชาวนาลืมตาอ้าปาก แล้วทำไมชาวนาถึงฆ่าตัวตายกว่า 10 ราย และเกิดม็อบชาวนาที่เดือดร้อนอย่างหนักจนต้องออกมาประท้วงทวงเงินจำนำข้าว เพราะ รัฐบาล....ค้างจ่ายข้ามปี ซึ่งสะท้อน ว่ารัฐบาลถังแตกทั้งกู้ทั้งผลาญงบประมาณจนเงินหมดหน้าตัก ซึ่งผลโครงการรับจำนำข้าวยังทิ้งภาระหนี้มูลค่ามหาศาลไว้ให้คนรุ่นหลังต้องแบกรับภาระไปอีกนานนับสิบปี
การที่นำเรื่องความจำเป็นในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพมาเปรียบเทียบกับโครงการรับจำนำข้าวจึงเป็นคนละเรื่องอย่างสิ้นเชิง ซึ่งแม้แต่ในยุคนั้นก็มีการใช้งบประมาณด้านกลาโหมมากกว่ารัฐบาลชุดก่อนหน้านั้นทั้งหมด
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ถึงกับเหลืออดต่อการฉวยโอกาสด้วยการตอบโต้อย่างเจ็บแสบว่า ความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวสร้างความเสียหายแก่ประเทศเป็นมูลค่าที่สามารถซื้อเรือดำน้ำมากกว่า 50 ลำ เสียอีก
การที่อดีตนายกฯ ออกมาสู้แบบอาละวาดเลือดเข้าตาถล่มรัฐบาลกรณีซื้อเรือดำน้ำ จึงส่อเป็นการระบายแค้นภายใต้สถานการณ์หลังพิงฝาใกล้เข้าตาจน จากพิษคดีโครงการรับจำนำข้าวที่โทษทางอาญา กำลังคืบใกล้ชี้ชะตาเข้าไปทุกขณะ คาดว่า
ไม่น่าเกินเดือนก.ย.นี้
ทีมข่าวการเมือง
http://m.naewna.com/view/highlight/267726
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพื่อลดความเข้มข้น ขออนุญาตผู้เขียนตัดชื่อบุคคลออกค่ะ
((มาลาริน)) ^_^ ทีมการเมืองในบทความเข้มข้น...เลือดเข้าตาดับเครื่องชน ระบายแค้นคดีจำนำข้าว
👀👀👀👀👀👀👀👀👀👀👀👀👀👀👀👀👀👀
อดีตนายกฯซึ่งเป็นจำเลยคนสำคัญคดีโครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ฉวยโอกาสผสมโรงโหนกระแสสังคมด้วยการให้สัมภาษณ์ดับเครื่องชนรัฐบาลนายกฯลุงตู่เกี่ยวกับโครงการจัดจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน 3 ลำ มูลค่าลำละ 13,500 ล้านบาท
อาการเลือดเข้าตาสู้แบบดับเครื่องชนของอดีตนายกฯถึงกับออกมาถล่มรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ถึงสองรอบสองวันติด โดยรอบแรก... ให้สัมภาษณ์โมเมดำน้ำอ้างว่ารัฐบาลเตรียมยกเลิกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เพื่อนำงบประมาณมาซื้อเรือดำน้ำ จน พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้ง นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข ต้องรีบออกมาจับโกหกบิดเบือนด้วยการยืนยันว่า ไม่มีการยกเลิกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค แต่อย่างใดทั้งสิ้น ซ้ำรัฐบาลได้เพิ่มงบประมาณรายหัวสำหรับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค
ที่สำคัญนายกฯลุงตู่ฉุนที่ฉวยโอกาสถล่มรัฐบาลด้วยวิธีการบิดเบือนจึงสวนกลับย้ำแผล
โดยชี้ว่า รัฐบาลปัจจุบันต้องมาแบกรับภาระผ่อนชำระหนี้จากความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวมูลค่ามหาศาลซึ่งรัฐบาลชุดที่แล้วทิ้งไว้จนทำลายสถานะการคลังของประเทศ มาจนทุกวันนี้
โครงการรับจำนำข้าวยุคนั้นนอกจากสร้างความเสียหายแก่ประเทศไม่ต่ำกว่า 7 แสนล้านบาท ซึ่งภาระหนี้ที่ใช้ไปกับโครงการรับจำนำข้าวทุกวันนี้รัฐบาลปัจจุบันต้องแบกรับภาระชดใช้ปีละหลายหมื่นล้านบาท ยังไม่รวมข้าวค้างสต๊อกในโกดังทั่วประเทศปริมาณมหาศาลเกือบ 20 ล้านตัน ที่ขายไม่ออกเนื่องจากราคาสูงกว่าตลาดทั่วไปถึงเท่าตัว และมีการใช้ข้าวเสื่อมคุณภาพปลอมปน ขณะที่ข้าวฤดูการผลิตใหม่ก็ออกมาสมทบมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดวิกฤติราคาข้าวที่ยังต้องตกต่ำไปอีกหลายปีจนกว่าจะทยอยระบายข้าวในสต๊อกหมด
ความวิบัติที่เกิดกับประเทศซึ่งทิ้งไว้จากปัญหาข้าวค้างสต๊อกก็คือ ยิ่งขายรัฐก็ยิ่งขาดทุนย่อยยับ เพราะรับซื้อมาในราคาสูงกว่าราคาตลาดถึงเท่าตัว อีกทั้งข้าวจำนวนมากเสื่อมคุณภาพเพราะมีการปลอมปน ซึ่งนี่คือผลพวงความเสียหายอันเลวร้ายจากโครงการรับจำนำข้าวที่ทำลายวงจรข้าวทั้งระบบ ขณะที่คนแค่หยิบมือรวยมหาศาล
หลังนายกฯลุงตู่ออกมาสวนหมัดย้ำแผลโครงการรับจำนำข้าว อดีตนายกฯ ร้อนตัวออกมาตอบโต้ผ่านทางเฟซบุ๊คทันทีว่า นายกฯลุงตู่ให้ร้ายรัฐบาลตัวเอง หากกล่าวหาว่าโครงการรับจำนำข้าวทำให้ประเทศเสียหายก็น่าจะเทียบกับการจัดซื้อรถถังและเรือดำน้ำในรัฐบาลชุดนี้ ทั้งๆ ที่โครงการรับจำนำข้าวเป็นการนำเงินทุกบาททุกสตางค์จ่ายถึงมือชาวนาโดยตรง ทำให้ชาวนาลืมตาอ้าปาก เศรษฐกิจดีขึ้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ตรวจสอบโครงการจัดซื้ออาวุธยุทธภัณฑ์ของรัฐบาลชุดนี้
การที่อ้างว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ของโครงการรับจำนำข้าวถึงมือชาวนาโดยตรงคงไม่จริงเพราะรู้กันอยู่ว่าคนแค่หยิบมือรวยกันมหาศาลจากการนำข้าวคุณภาพต่ำราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้าน ราคาแค่ตันละ 6,000-7,000 บาท มาสวมสิทธิ์เข้าโครงการรับจำนำข้าวที่รัฐรับซื้อตันละ 15,000 บาท ฟันกำไรส่วนต่างมหาศาล รวมทั้งอุปโลกน์การขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีทั้งๆ ที่ไม่มีการขายจริง แต่มีการนำข้าวมาหมุนเวียนขายในประเทศฟันกำไรมหาศาล
ส่วนที่อ้างว่า โครงการรับจำนำข้าวทำให้ชาวนาลืมตาอ้าปาก แล้วทำไมชาวนาถึงฆ่าตัวตายกว่า 10 ราย และเกิดม็อบชาวนาที่เดือดร้อนอย่างหนักจนต้องออกมาประท้วงทวงเงินจำนำข้าว เพราะ รัฐบาล....ค้างจ่ายข้ามปี ซึ่งสะท้อน ว่ารัฐบาลถังแตกทั้งกู้ทั้งผลาญงบประมาณจนเงินหมดหน้าตัก ซึ่งผลโครงการรับจำนำข้าวยังทิ้งภาระหนี้มูลค่ามหาศาลไว้ให้คนรุ่นหลังต้องแบกรับภาระไปอีกนานนับสิบปี
การที่นำเรื่องความจำเป็นในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพมาเปรียบเทียบกับโครงการรับจำนำข้าวจึงเป็นคนละเรื่องอย่างสิ้นเชิง ซึ่งแม้แต่ในยุคนั้นก็มีการใช้งบประมาณด้านกลาโหมมากกว่ารัฐบาลชุดก่อนหน้านั้นทั้งหมด
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ถึงกับเหลืออดต่อการฉวยโอกาสด้วยการตอบโต้อย่างเจ็บแสบว่า ความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวสร้างความเสียหายแก่ประเทศเป็นมูลค่าที่สามารถซื้อเรือดำน้ำมากกว่า 50 ลำ เสียอีก
การที่อดีตนายกฯ ออกมาสู้แบบอาละวาดเลือดเข้าตาถล่มรัฐบาลกรณีซื้อเรือดำน้ำ จึงส่อเป็นการระบายแค้นภายใต้สถานการณ์หลังพิงฝาใกล้เข้าตาจน จากพิษคดีโครงการรับจำนำข้าวที่โทษทางอาญา กำลังคืบใกล้ชี้ชะตาเข้าไปทุกขณะ คาดว่า
ไม่น่าเกินเดือนก.ย.นี้
ทีมข่าวการเมือง
http://m.naewna.com/view/highlight/267726
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้