Review : Personal Shopper (ผีสโลว์ไลฟ์)
กำกับ : Olivier Assayas (Paris, Je t’aime (ตอนย่อย), Clouds of Sils Maria)
ติดตามรีวิว+พูดคุยเกี่ยวกับเกม ภาพยนตร์ และการ์ตูนได้ที่เพจของผมนะครับ
https://www.facebook.com/Old-Geeks-1275369035829195/
วันนี้เป็นวันว่างหนึ่งวัน ไม่มีอะไรทำเลยหาหนังดู (ตลอด) พอดียังดู Guardians of the Galaxy vol.2 ไม่ได้เพราะกะรอดูกับแฟน ก็เหลือบไปเห็น Personal Shopper นี่ละครับ ฉายอยู่สองรอบ พอลองหาข้อมูลดู เหยย ได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเทศกาลเมืองคานส์นี่นา ถึงหนังมันจะดู Girlie หน่อยแต่เราไม่เกี่ยงอยู่แล้ว ไปดูกันเลย

Personal Shopper เล่าถึง Maureen (Kristen Stewart) หญิงสาวชาวอเมริกันที่ทำงานเป็น Personal Shopper หรือก็คือเป็นคนคอยชอปปิ้งสิ่งของต่างๆให้กับคนมีชื่อเสียงนั่นเอง โดยนายจ้างของเธอคือ Kyra นางแบบสุดดังที่อาศัยอยู่ในปารีส ถึงแม้ว่า Kyra นั้นจะเป็นคนที่นิสัยไม่ดีอยู่สักหน่อย และ Maureen ก็เริ่มเกิดอาการนอยด์จากการที่ได้สัมผัสกับเสื้อผ้าเครื่องประดับสวยๆ แพงๆ แต่ไม่มีโอกาสได้ใส่เลย แต่ Maureen ก็ทนทำงานต่อไป เพราะ...เธอเป็นคนที่มีสัมผัสวิญญาณ และเธอต้องการจะพยายามติดต่อกับวิญญาณของน้องชายฝาแฝดของเธอ ที่เพิ่งเสียชีวิตในปารีสนั่นเอง

สำหรับผู้ที่แพ้หนังดูยากๆ เนือยๆ จังหวะการเล่าเรื่องช้าๆแล้วละก็ ผมไม่แนะนำให้ดู Personal Shopper อย่างแรงครับ เพราะเรื่องความอืดความเนือยสโลว์ไลฟ์นั้นมาเต็มจริงๆ ซึ่งถ้าภูมิคุ้มกันด้านนี้น้อยแล้วละก็มีสิทธิหลับได้เลยครับ (แบบคนข้างๆผม กรนไปครึ่งเรื่อง...) แต่สำหรับคนที่ชอบคิดตามหนัง ที่ถึงจะมีประเด็นบางอย่างที่ค่อนข้างกำกวมแต่ก็สนุกไปกับการตีความมัน และสามารถดื่มด่ำกับความ Atmospheric ของมันได้ อันนี้ก็ถือว่าอาจจะคลิกกันได้กับหนังเรื่องนี้ครับ ประเด็นเกี่ยวกับโลกหลังความตาย, การสื่อสารกับวิญญาณของหนังเรื่องนี้นั้น ถือว่าทำมาได้น่าสนใจและละมุนดีทีเดียว แต่ในบางฉากหนังก็มีลูกบ้าอยู่คือบางทีมันกลายเป็นหนังผีตุ้งแช่ไปเลย แถมยังทำได้น่ากลัวใช้ได้เลยทีเดียว ถือว่าเปลี่ยนอารมณ์แทบไม่ทันเหมือนกันในฉากนั้น 555 (ประเด็นย่อยของหนังเกี่ยวกับการอยากเป็นคนอื่นก็ทำใช้ได้นะ) และเมื่อหนังเข้าสู่บทสรุป มันก็เลือกที่จะไม่ตอบคำถามบางอย่าง ทิ้งให้กำกวมเอาไว้ให้ไปคิดต่อกันเองครับ ซึ่งผมชอบนะกับการทำแบบนี้ แต่ก็อาจจะไม่ถูกจริตบางท่านครับ

งานภาพของหนังนั้นมีการใช้มุมกล้องเก๋ๆ ใช้ระยะภาพอย่างฉลาดอยู่พอสมควรเลยทีเดียว แต่ CG ผีนี่ดูไม่เนียนยังไงไม่รู้นะ 555 ส่วนเพลงประกอบนี้มีทั้งแบบไพเราะเข้ากับบรรยากาศสโลวไลฟ์ (ชวนง่วง?) ของปารีส และแบบสร้างความกดดันในสไตล์หนังผีก็ทำได้ดีเลยทีเดียวครับ สุดท้ายการแสดง อันนี้ต้องขอโทษ Kristen Stewart เลยทีเคยปรามาสไว้ว่าไม่มีฝีมือ เพราะเรื่องนี้ทำได้ดีทีเดียวครับ ทั้งซีนอารมณ์ บรรยากาศความกระวนกระวายใจ ความสงสัยไม่แน่ใจในการติดต่อกับวิญญาณ ถือว่าเธอเอาอยู่ครับ ติดนิดๆคือเธอยังดูติดการทำหน้าอมทุกข์ทั้งเรื่อง ซึ่งมันคล้ายๆกับใน Twilight เลย มีความทรงจำไม่ดีกับเรื่องนั้น 5555 แต่ในเรื่องนี้ถือว่าเธอพัฒนาฝีมือการแสดงมาได้ไกลมาก ดูมีมิติมากขึ้นเยอะครับ
สรุป : ถ้าคุณแพ้หนังที่ดูยากๆ เนือยๆ หนังเรื่องนี้ไม่เหมาะกับคุณครับ แต่ถ้าคุณชอบหนังที่เน้นบรรยากาศ มีประเด็นให้คิดตามเยอะๆ และไม่รังเกียจหนังผี ลองดูคุณอาจจะชอบก็ได้ครับ
คะแนน : ให้ 7.8/10 (B+) ชอบครับ
[CR] Review : Personal Shopper (ผีสโลว์ไลฟ์)
กำกับ : Olivier Assayas (Paris, Je t’aime (ตอนย่อย), Clouds of Sils Maria)
ติดตามรีวิว+พูดคุยเกี่ยวกับเกม ภาพยนตร์ และการ์ตูนได้ที่เพจของผมนะครับhttps://www.facebook.com/Old-Geeks-1275369035829195/
วันนี้เป็นวันว่างหนึ่งวัน ไม่มีอะไรทำเลยหาหนังดู (ตลอด) พอดียังดู Guardians of the Galaxy vol.2 ไม่ได้เพราะกะรอดูกับแฟน ก็เหลือบไปเห็น Personal Shopper นี่ละครับ ฉายอยู่สองรอบ พอลองหาข้อมูลดู เหยย ได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเทศกาลเมืองคานส์นี่นา ถึงหนังมันจะดู Girlie หน่อยแต่เราไม่เกี่ยงอยู่แล้ว ไปดูกันเลย
Personal Shopper เล่าถึง Maureen (Kristen Stewart) หญิงสาวชาวอเมริกันที่ทำงานเป็น Personal Shopper หรือก็คือเป็นคนคอยชอปปิ้งสิ่งของต่างๆให้กับคนมีชื่อเสียงนั่นเอง โดยนายจ้างของเธอคือ Kyra นางแบบสุดดังที่อาศัยอยู่ในปารีส ถึงแม้ว่า Kyra นั้นจะเป็นคนที่นิสัยไม่ดีอยู่สักหน่อย และ Maureen ก็เริ่มเกิดอาการนอยด์จากการที่ได้สัมผัสกับเสื้อผ้าเครื่องประดับสวยๆ แพงๆ แต่ไม่มีโอกาสได้ใส่เลย แต่ Maureen ก็ทนทำงานต่อไป เพราะ...เธอเป็นคนที่มีสัมผัสวิญญาณ และเธอต้องการจะพยายามติดต่อกับวิญญาณของน้องชายฝาแฝดของเธอ ที่เพิ่งเสียชีวิตในปารีสนั่นเอง
สำหรับผู้ที่แพ้หนังดูยากๆ เนือยๆ จังหวะการเล่าเรื่องช้าๆแล้วละก็ ผมไม่แนะนำให้ดู Personal Shopper อย่างแรงครับ เพราะเรื่องความอืดความเนือยสโลว์ไลฟ์นั้นมาเต็มจริงๆ ซึ่งถ้าภูมิคุ้มกันด้านนี้น้อยแล้วละก็มีสิทธิหลับได้เลยครับ (แบบคนข้างๆผม กรนไปครึ่งเรื่อง...) แต่สำหรับคนที่ชอบคิดตามหนัง ที่ถึงจะมีประเด็นบางอย่างที่ค่อนข้างกำกวมแต่ก็สนุกไปกับการตีความมัน และสามารถดื่มด่ำกับความ Atmospheric ของมันได้ อันนี้ก็ถือว่าอาจจะคลิกกันได้กับหนังเรื่องนี้ครับ ประเด็นเกี่ยวกับโลกหลังความตาย, การสื่อสารกับวิญญาณของหนังเรื่องนี้นั้น ถือว่าทำมาได้น่าสนใจและละมุนดีทีเดียว แต่ในบางฉากหนังก็มีลูกบ้าอยู่คือบางทีมันกลายเป็นหนังผีตุ้งแช่ไปเลย แถมยังทำได้น่ากลัวใช้ได้เลยทีเดียว ถือว่าเปลี่ยนอารมณ์แทบไม่ทันเหมือนกันในฉากนั้น 555 (ประเด็นย่อยของหนังเกี่ยวกับการอยากเป็นคนอื่นก็ทำใช้ได้นะ) และเมื่อหนังเข้าสู่บทสรุป มันก็เลือกที่จะไม่ตอบคำถามบางอย่าง ทิ้งให้กำกวมเอาไว้ให้ไปคิดต่อกันเองครับ ซึ่งผมชอบนะกับการทำแบบนี้ แต่ก็อาจจะไม่ถูกจริตบางท่านครับ
งานภาพของหนังนั้นมีการใช้มุมกล้องเก๋ๆ ใช้ระยะภาพอย่างฉลาดอยู่พอสมควรเลยทีเดียว แต่ CG ผีนี่ดูไม่เนียนยังไงไม่รู้นะ 555 ส่วนเพลงประกอบนี้มีทั้งแบบไพเราะเข้ากับบรรยากาศสโลวไลฟ์ (ชวนง่วง?) ของปารีส และแบบสร้างความกดดันในสไตล์หนังผีก็ทำได้ดีเลยทีเดียวครับ สุดท้ายการแสดง อันนี้ต้องขอโทษ Kristen Stewart เลยทีเคยปรามาสไว้ว่าไม่มีฝีมือ เพราะเรื่องนี้ทำได้ดีทีเดียวครับ ทั้งซีนอารมณ์ บรรยากาศความกระวนกระวายใจ ความสงสัยไม่แน่ใจในการติดต่อกับวิญญาณ ถือว่าเธอเอาอยู่ครับ ติดนิดๆคือเธอยังดูติดการทำหน้าอมทุกข์ทั้งเรื่อง ซึ่งมันคล้ายๆกับใน Twilight เลย มีความทรงจำไม่ดีกับเรื่องนั้น 5555 แต่ในเรื่องนี้ถือว่าเธอพัฒนาฝีมือการแสดงมาได้ไกลมาก ดูมีมิติมากขึ้นเยอะครับ
สรุป : ถ้าคุณแพ้หนังที่ดูยากๆ เนือยๆ หนังเรื่องนี้ไม่เหมาะกับคุณครับ แต่ถ้าคุณชอบหนังที่เน้นบรรยากาศ มีประเด็นให้คิดตามเยอะๆ และไม่รังเกียจหนังผี ลองดูคุณอาจจะชอบก็ได้ครับ
คะแนน : ให้ 7.8/10 (B+) ชอบครับ