เชื่อว่านักช๊อปฯหลายๆท่าน คงเลือกที่จะใช้เวลาเลือกซื้อสินค้าตามสาขาของ King Power ที่อยู่ในตัวเมืองอย่างรางน้ำ, ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิอย่างศรีวารี หรือเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆอาทิเช่น พัทยา และภูเก็ต เพราะไม่ต้องคอยพะวงเรื่องเวลาขึ้นเครื่อง เดินได้นานๆตามอัธยาศัย พอถึงวันเดินทางก็แค่แวะรับสินค้าที่สนามบิน ไม่ต้องเสียเวลาเดินเลือกซื้อ
แต่เหตุผลดีๆสำหรับ
”การเลือกซื้อสินค้าที่สนามบิน”ก็มีค่ะ ถึงแม้คุณอาจจะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางมากขึ้นสักหน่อย ... ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ เราเลือกใช้บริการ
”จองขาออก รับขาเข้า” โดยการชำระเงินค่าสินค้าไว้ก่อนและขอรับของ ณ วันเดินทางกลับเข้าประเทศไทย ด้วยเหตุผลว่าไม่อยากแบกของไปพะรุงพะรังระหว่างการเดินทาง เพราะครั้งนี้จุดหมายปลายทางของเราคือ
”ประเทศมัลดีฟส์”
และมีความจำเป็นต้องต่อเครื่องบินน้ำหรือ seaplane ไปยังที่พัก ซึ่งมีข้อจำกัดในเรื่องของน้ำหนักกระเป๋าที่โหลด รวมถึงน้ำหนักกระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่อง ของบางอย่างไม่สะดวกที่จะโหลด แต่ก็ไม่สามารถถือขึ้นเครื่องได้เช่นกัน เพราะสำหรับกระเป๋าเป้หรือกระเป๋าถือ เขาจะขอชั่งน้ำหนักก่อน (ถ้าน้ำหนักเกิน ก็ต้องจ่ายค่าน้ำหนักเพิ่มนะคะ ถึงแม้จะเป็นกระเป๋าถือติดตัว) แต่ถ้าน้ำหนักไม่เกิน ก็รับ cabin bag tag ไปติดไว้ ... แต่เดี๋ยวนะ ! ไม่ใช่ว่าถึงจะมี tag แล้ว จะนำกระเป๋าติดตัวไว้ได้ตลอดเวลานะคะ เพราะเมื่อก้าวขึ้นเครื่องบิน seaplane แล้ว เขาจะขอกระเป๋าถือไปเก็บไว้ให้ เนื่องจากเป็นเครื่องบินเล็กมีแค่ 15 ที่นั่ง และไม่มีช่องเก็บสัมภาระเหมือนเครื่องลำใหญ่ เขาจะขอนำไปเก็บไว้ให้ แล้วส่งคืนให้ตอนลงจากเครื่อง ... สัมภาระที่เขาอนุญาตให้นำติดตัวได้ตลอดเวลานั้น มีเพียงแค่กระเป๋ากล้องค่ะ
++ เครื่องบินน้ำของ Trans Maldivians Airway ซึ่งจะพาเราไปยังเกาะที่พัก ++
สรุปข้อดี สำหรับบริการ
”จองขาออก-รับขาเข้า” ได้ดังนี้ ...
1) หมดห่วงเรื่องน้ำหนักสัมภาระส่วนเกิน ไม่ต้องห่วงว่าน้ำหนักกระเป๋าขากลับจะเพิ่มมากจนเกินกำหนด ซึ่งเสี่ยงต่อค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับน้ำหนักกระเป๋าที่เกินมา (เพราะไม่รู้ว่าปลายทางที่ไปเที่ยว จะได้ของเพิ่มงอกอีกมามากแค่ไหน) เหลือพื้นที่กระเป๋าไว้ช๊อปของฝากจากต่างแดนกลับบ้านดีกว่า
2) แต่ละประเทศมีกฎระเบียบด้านสินค้านำเข้าประเทศหรือ duty free allowance ไม่เหมือนกัน ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการที่สินค้าที่นำไปจะถูกตรวจสอบหรือถูกยึดได้ ยกตัวอย่างเช่น
+ ประเทศสิงคโปร์ ไม่อนุญาตให้นำบุหรี่เข้าประเทศ
+ เช่นเดียวกับประเทศมัลดีฟส์ของการเดินทางครั้งนี้ ไม่อนุญาตให้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเข้าประเทศ เนื่องจากเป็นประเทศมุสลิม
+ แต่ไม่ใช่ทุกประเทศที่เป็นมุสลิมแล้วจะห้ามนำเข้านะคะ อย่างประเทศโอมาน ถ้าเป็นชาวต่างชาติสามารถนำเข้าได้ตามปริมาณที่กำหนด
+ อย่างประเทศอิหร่านที่เคร่งศาสนาอิสลาม แม้แต่นักท่องเที่ยวผู้หญิงยังต้องโพกผ้าคลุมผม ในประเทศไม่มีแอลกอฮอล์จำหน่ายเพราะเป็นเรื่องผิดกฏหมาย ห้ามนำเข้าเด็ดขาดเช่นกันค่ะ
+ ประเทศ hot hit ของนักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ อนุญาตให้นำน้ำหอมเข้าประเทศได้เพียง 60 มล.หรือ 2 ออนซ์เท่านั้น
รายละเอียดการนำเข้าสินค้า duty free ต่างๆของแต่ละประเทศ ก็มักจะอยู่ใน custom form ที่ให้กรอกก่อนเข้าประเทศนั่นแหละค่ะ แต่ถ้าเกรงว่ากว่าจะรู้ก็จะสายเกินไป ตรวจสอบได้ก่อนการเดินทางจากลิงค์ด้านล่างนี้ค่ะ
** LINK :
ตรวจสอบ duty free/custom allowance ของแต่ละประเทศ ทั้งประเภทสินค้าและปริมาณที่สามารถนำเข้าได้ โดยเลือกชื่อประเทศทางกล่องขวามือค่ะ >>
http://uk.worlddutyfree.com/uks_en/allowance
... รายละเอียดเหล่านี้ เป็นจุดเล็กๆที่หลายคนมองข้าม เพราะฉะนั้นถ้าไม่แน่ใจเรื่องกฎระเบียบของแต่ละประเทศแล้ว ซื้อแล้วฝากไว้รับขากลับเถอะค่ะ สบายใจ มั่นใจว่าไม่โดนยึดหรือถูกปรับแน่นอน โดยเฉพาะเหล้าและบุหรี่ซึ่งแต่ละประเทศมีกฎระเบียบแตกต่างกัน
++ กฏระเบียบเรื่องอากรของประเทศไทย King Power เขาแจ้งให้ทราบโดยชัดเจน ++
3) หากมีการต่อเครื่องระหว่างประเทศ ซึ่งมีการออกไปรับกระเป๋าหรือเช็คอินใหม่ (ที่ไม่ใช่ Fly Through หรือ Connecting แบบบุ๊คกิ้งต่อเนื่องกัน) เข้ากฎข้อเดียวกันกับข้อ 2) ด้านบนค่ะ ต่อให้ถูกกฎระเบียบของประเทศปลายทาง แต่ประเทศที่ต่อเครื่องเขาไม่ให้ ก็ไม่ได้เช่นกันค่ะ
4) สำหรับใครที่คิดว่าเวลาไม่ทัน งั้นมาซื้อขากลับเข้าประเทศก็ได้ จะทำแบบนี้ก็ได้เช่นกันค่ะ แต่สินค้ามีให้เลือกไม่เยอะเท่าขาออก รวมถึงของแถมบางอย่างไม่มีให้เหมือนการซื้อสินค้าขาออกนะคะ เช่น กระเป๋าล้อลากที่แถมมากับเหล้า (ชอบมาก แถมเขาเปลี่ยนแบบเรื่อยๆด้วยนะ)
นอกจากความสะดวกสบายระหว่างการเดินทาง ส่วนตัวแล้วคิดว่าบริการนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางข้ามหลายๆเมืองหรือต้องการซื้อสินค้าบางประเภท ซึ่งมีกฎระเบียบในการนำเข้าของแต่ละประเทศแตกต่างกันไป ... รวมถึงสินค้าของเหลวต่างๆซึ่งมีน้ำหนักเยอะ เช่น ครีม โลชั่น และน้ำหอม ซึ่งเชื่อว่าหลายคนไม่อยากโหลดใส่กระเป๋าเดินทางขากลับเพราะกลัวแตก แต่มีปริมาตรเกิน 100 มิลลิลิตรต่อชิ้น ซึ่งไม่สามารถจะนำติดตัวขึ้นเครื่องได้ ตามกฏสากลของสนามบินทั่วโลก
ส่วนตัวเคยเจอเหตุการณ์ผู้โดยสารคนหนึ่งมาร้องขอให้พนักงานสายการบินช่วยนำน้ำหอมที่ถูกทิ้ง ตรงจุด x-ray มาคืนให้ เพราะปริมาตรเกินกำหนด สูญของไป 4 ขวด มูลค่ารวมมากกว่า 4,000 บาท และเป็นของที่เพื่อนฝากซื้อ อุตส่าห์หิ้วไปจากกรุงเทพฯ แต่ไปโดนทิ้งที่สิงคโปร์ตอนจะกลับ ... เขาช่วยไม่ได้นะคะ เพราะเป็นกฎระเบียบสากลของทางสนามบิน และทางสายการบินไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำสนามบิน
#รู้ไว้จะได้ไม่เจ็บ
ข้อควรรู้ ...
*
บริการ”จองขาออก-รับขาเข้า” สำหรับสินค้าที่ซื้อในสนามบินเท่านั้น
* หากซื้อสินค้า ที่ King Power Duty Free Complex สาขาต่างๆ (รางน้ำ, ศรีวารี,พัทยา, ภูเก็ต) ไม่ใช่ที่สนามบิน จะต้องรับสินค้า”
ขาออก”เท่านั้นนะคะ ไม่สามารถฝากเพื่อรับขาเข้าได้ เพราะฉะนั้นหากคิดจะเที่ยวแบบสบายๆ ไม่ต้องแบกให้หนักกระเป๋า ... แนะนำให้ทำลิสต์รายการที่ต้องการซื้อเพื่อความรวดเร็วไว้ก่อน และเผื่อเวลาเดินทางไว้มากหน่อย เพื่อเลือกซื้อสินค้าที่สนามบิน
*
บริการ”จองขาออก-รับขาเข้า” สำหรับมูลค่าสินค้ารวมกันไม่เกิน 20,000 บาทเท่านั้น ทั้งนี้ไม่รวมสินค้าประเภทเหล้าและบุหรี่ ซึ่งเหล้าให้นำเข้าได้ในปริมาณคนละ 1 ลิตรและบุหรี่จำนวนไม่เกิน 200 มวนค่ะ
* หลังจากชำระค่าสินค้าแล้ว ก็เพียงแจ้งเที่ยวบินขากลับให้พนักงานทราบ เขาจะให้ใบเสร็จและใบรับสินค้ามา และสามารถรับของได้ที่เคาน์เตอร์ของ King Power Duty Free บริเวณห้องโถงขาเข้าประเทศ (หลังผ่านตรวจคนเข้าเมืองออกมา) ซึ่ง
อยู่ติดกับสายพานรับกระเป๋าหมายเลข 16 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ (ในส่วนของดอนเมือง ขอไปสอบถามข้อมูลมาก่อนนะคะ เพราะยังไม่เคยใช้บริการนี้ที่สนามบินดอนเมือง)
++ จุดรับสินค้าขาเข้า ++
ครั้งนี้นอกจากของที่ตั้งใจซื้อไว้แล้ว ยังเผอิญมาเจอนาฬิกาถูกใจ หลังจากวนเวียนไปทั้งสาขารางน้ำและศรีวารีมาหลายครั้ง แต่ไม่เจอสีดำเรียบๆแบบที่อยากได้ (ส่วนมาก Baby G จะมีแต่สีสันฉูดฉาด เลยมองหาสีดำเรียบเพื่อใช้งานแบบเรียบร้อยไว้บ้าง)
เลยไม่รีรอที่จะเพิ่มสินค้าเข้าไปในบริการนี้อีกสัก 1 ชิ้น ...
นอกจากส่วนลดสำหรับสมาชิกแล้ว ยังได้คูปองส่วนลดสำหรับซื้อสินค้าขาเข้าแถมเพิ่มมาด้วยค่ะ
ยังพอมีเวลาเหลือก่อนขึ้นเครื่อง ก็ไปนั่งเล่นหามื้อเช้าทานกันที่
King Power Lounge ในสนามบินสุวรรณภูมิ บริเวณ Concourse A ค่ะ (ผ่านเข้ามาทางด้านในอาคารแล้ว เลี้ยวซ้ายมาจนเจอทางแยกนะคะ แล้วเลี้ยวซ้ายอีกที)
บัตรสมาชิก King Power 1 ใบสามารถพาผู้ติดตามไปได้ 2 คน (รวมตัวเองด้วยก็เป็น 3 คน) งานนี้พ่อกับลูกได้อิ่มอร่อยกันถ้วนหน้าค่ะ
สำหรับประเภทบัตรที่เราถือ สามารถใช้บริการในส่วนของ Platinum & Crown Member Lounge ค่ะ ตัวเลือกอาหารและเครื่องดื่มจะมีให้เลือกเยอะกว่า คุณลูกหมีอร่อยกับข้าวต้ม ไส้กรอก และแซนด์วิชมาก ... ส่วนเราเองก็ enjoy กับเครื่องดื่มต่างๆ เพราะเป็นคนไม่ชอบดื่มน้ำเปล่า
เคยมาที่เลาจน์ช่วงดึกเป็นไฟล์ทไปยุโรป คนเยอะมากจนแทบไม่มีที่นั่ง -.-* ครั้งนี้มาเช้า มีที่นั่งสบายๆเลย ... แต่ผ่านไปมาอยู่หลายครั้ง มีอีก 1 บริการใน lounge ที่เรายังไม่เคยได้ลองคือห้องอาบน้ำค่ะ ไว้รอมีเวลามากกว่านี้ก่อนนะ
บริการเลาจน์สำหรับสมาชิก ไม่ได้มีแค่ที่สนามบินนะคะ ตามสาขาต่างๆก็มี อย่างสาขาศรีวารีเองก็เพิ่งมีไม่นานมานี้ แต่ไม่ได้แยกห้องตามประเภทบัตรเหมือนที่สาขารางน้ำ ขนม-ของว่างอาจจะไม่มากเท่าที่รางน้ำ แต่ยังดีที่มีให้ และถือว่าดีขึ้นกว่าเดิมที่เคยอยู่ทางด้านนอก ... แต่เลาจน์ใหม่ล่าสุดคงยกให้ที่สนามบินดอนเมือง ดีใจมากที่มีสักที บอกเลยว่ารอมานานมากกกกก แต่ก็นะ ยังไม่มีโอกาสได้ไปลองใช้บริการค่ะ เวลายังไม่เอื้ออำนวย แต่เล็งไว้แล้วว่าพิกัดอยู่ติดกับเคาน์เตอร์รับสินค้าขาออก ผ่าน x-ray ไป เดินเลี้ยวซ้ายแล้วมองดูทางซ้ายไว้เลยค่ะ
++ เลาจน์ที่สาขาศรีวารี ที่เคยโพสลงไว้ในเฟสบุ๊คค่ะ ++
สาธยายมายาวแล้ว ได้เวลาขึ้นเครื่องสักที
สำหรับทริปนี้ เป็นการเดินทางไปมัลดีฟส์เป็นครั้งที่ 2 ค่ะ
สำหรับครั้งแรก รีวิวไว้ตามลิงค์นี้ค่ะ
Dream Destination : จุดหมายปลายทางในฝัน ... 8 วัน ในมัลดีฟส์
http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8684187/E8684187.html
* Banyan Tree Vabbinfaru
* Angsana Ihuru
* Anantara Veli
* Anantara Dhigu
* Naladhu
สำหรับรีวิวทริปมัลดีฟส์ ครั้งที่ 2 ยังไม่มีเวลาปั่นเลย เพิ่งไปเมื่อก่อนสงกรานต์นี่เอง (แต่รีบมาลงรีวิวในส่วนของ King Power Duty Free ก่อน เพราะเห็นว่าใกล้จะหมดเขตแล้ว)
ตอนนี้มีแต่ VDO Clip ให้ชมไปพลางๆ สำหรับรีวิวฉบับเต็ม ขอเวลาอีกสักระยะนะคะ
Seaplane : Trans Maldivian Airways
ที่พัก : Centara Grand Island Resort & Spa, Maldives
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมค่ะ ...
ไว้มีโอกาสครั้งหน้า อยากลองรีวิวเลาจน์ที่ดอนเมืองดูบ้าง รอหาโปรฯตั๋วเครื่องบินดีๆก่อน เผื่อได้ไปช๊อป-ไปเที่ยว-แวะนั่งชิลล์เพลินๆก่อนขึ้นเครื่องที่เลาจน์แห่งใหม่
ขอบคุณบริการอย่างครบครันและรู้ใจนักเดินทาง จาก King Power Duty Free ค่ะ
[CR] King Power Duty Free : เดินทางสบายตัว กับบริการ”จองขาออก รับขาเข้า” (แถมมื้อเช้าอร่อยๆฟรีที่เลาจน์)
แต่เหตุผลดีๆสำหรับ”การเลือกซื้อสินค้าที่สนามบิน”ก็มีค่ะ ถึงแม้คุณอาจจะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางมากขึ้นสักหน่อย ... ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ เราเลือกใช้บริการ”จองขาออก รับขาเข้า” โดยการชำระเงินค่าสินค้าไว้ก่อนและขอรับของ ณ วันเดินทางกลับเข้าประเทศไทย ด้วยเหตุผลว่าไม่อยากแบกของไปพะรุงพะรังระหว่างการเดินทาง เพราะครั้งนี้จุดหมายปลายทางของเราคือ”ประเทศมัลดีฟส์”
และมีความจำเป็นต้องต่อเครื่องบินน้ำหรือ seaplane ไปยังที่พัก ซึ่งมีข้อจำกัดในเรื่องของน้ำหนักกระเป๋าที่โหลด รวมถึงน้ำหนักกระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่อง ของบางอย่างไม่สะดวกที่จะโหลด แต่ก็ไม่สามารถถือขึ้นเครื่องได้เช่นกัน เพราะสำหรับกระเป๋าเป้หรือกระเป๋าถือ เขาจะขอชั่งน้ำหนักก่อน (ถ้าน้ำหนักเกิน ก็ต้องจ่ายค่าน้ำหนักเพิ่มนะคะ ถึงแม้จะเป็นกระเป๋าถือติดตัว) แต่ถ้าน้ำหนักไม่เกิน ก็รับ cabin bag tag ไปติดไว้ ... แต่เดี๋ยวนะ ! ไม่ใช่ว่าถึงจะมี tag แล้ว จะนำกระเป๋าติดตัวไว้ได้ตลอดเวลานะคะ เพราะเมื่อก้าวขึ้นเครื่องบิน seaplane แล้ว เขาจะขอกระเป๋าถือไปเก็บไว้ให้ เนื่องจากเป็นเครื่องบินเล็กมีแค่ 15 ที่นั่ง และไม่มีช่องเก็บสัมภาระเหมือนเครื่องลำใหญ่ เขาจะขอนำไปเก็บไว้ให้ แล้วส่งคืนให้ตอนลงจากเครื่อง ... สัมภาระที่เขาอนุญาตให้นำติดตัวได้ตลอดเวลานั้น มีเพียงแค่กระเป๋ากล้องค่ะ
++ เครื่องบินน้ำของ Trans Maldivians Airway ซึ่งจะพาเราไปยังเกาะที่พัก ++
สรุปข้อดี สำหรับบริการ”จองขาออก-รับขาเข้า” ได้ดังนี้ ...
1) หมดห่วงเรื่องน้ำหนักสัมภาระส่วนเกิน ไม่ต้องห่วงว่าน้ำหนักกระเป๋าขากลับจะเพิ่มมากจนเกินกำหนด ซึ่งเสี่ยงต่อค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับน้ำหนักกระเป๋าที่เกินมา (เพราะไม่รู้ว่าปลายทางที่ไปเที่ยว จะได้ของเพิ่มงอกอีกมามากแค่ไหน) เหลือพื้นที่กระเป๋าไว้ช๊อปของฝากจากต่างแดนกลับบ้านดีกว่า
2) แต่ละประเทศมีกฎระเบียบด้านสินค้านำเข้าประเทศหรือ duty free allowance ไม่เหมือนกัน ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการที่สินค้าที่นำไปจะถูกตรวจสอบหรือถูกยึดได้ ยกตัวอย่างเช่น
+ ประเทศสิงคโปร์ ไม่อนุญาตให้นำบุหรี่เข้าประเทศ
+ เช่นเดียวกับประเทศมัลดีฟส์ของการเดินทางครั้งนี้ ไม่อนุญาตให้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเข้าประเทศ เนื่องจากเป็นประเทศมุสลิม
+ แต่ไม่ใช่ทุกประเทศที่เป็นมุสลิมแล้วจะห้ามนำเข้านะคะ อย่างประเทศโอมาน ถ้าเป็นชาวต่างชาติสามารถนำเข้าได้ตามปริมาณที่กำหนด
+ อย่างประเทศอิหร่านที่เคร่งศาสนาอิสลาม แม้แต่นักท่องเที่ยวผู้หญิงยังต้องโพกผ้าคลุมผม ในประเทศไม่มีแอลกอฮอล์จำหน่ายเพราะเป็นเรื่องผิดกฏหมาย ห้ามนำเข้าเด็ดขาดเช่นกันค่ะ
+ ประเทศ hot hit ของนักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ อนุญาตให้นำน้ำหอมเข้าประเทศได้เพียง 60 มล.หรือ 2 ออนซ์เท่านั้น
รายละเอียดการนำเข้าสินค้า duty free ต่างๆของแต่ละประเทศ ก็มักจะอยู่ใน custom form ที่ให้กรอกก่อนเข้าประเทศนั่นแหละค่ะ แต่ถ้าเกรงว่ากว่าจะรู้ก็จะสายเกินไป ตรวจสอบได้ก่อนการเดินทางจากลิงค์ด้านล่างนี้ค่ะ
** LINK : ตรวจสอบ duty free/custom allowance ของแต่ละประเทศ ทั้งประเภทสินค้าและปริมาณที่สามารถนำเข้าได้ โดยเลือกชื่อประเทศทางกล่องขวามือค่ะ >> http://uk.worlddutyfree.com/uks_en/allowance
... รายละเอียดเหล่านี้ เป็นจุดเล็กๆที่หลายคนมองข้าม เพราะฉะนั้นถ้าไม่แน่ใจเรื่องกฎระเบียบของแต่ละประเทศแล้ว ซื้อแล้วฝากไว้รับขากลับเถอะค่ะ สบายใจ มั่นใจว่าไม่โดนยึดหรือถูกปรับแน่นอน โดยเฉพาะเหล้าและบุหรี่ซึ่งแต่ละประเทศมีกฎระเบียบแตกต่างกัน
++ กฏระเบียบเรื่องอากรของประเทศไทย King Power เขาแจ้งให้ทราบโดยชัดเจน ++
3) หากมีการต่อเครื่องระหว่างประเทศ ซึ่งมีการออกไปรับกระเป๋าหรือเช็คอินใหม่ (ที่ไม่ใช่ Fly Through หรือ Connecting แบบบุ๊คกิ้งต่อเนื่องกัน) เข้ากฎข้อเดียวกันกับข้อ 2) ด้านบนค่ะ ต่อให้ถูกกฎระเบียบของประเทศปลายทาง แต่ประเทศที่ต่อเครื่องเขาไม่ให้ ก็ไม่ได้เช่นกันค่ะ
4) สำหรับใครที่คิดว่าเวลาไม่ทัน งั้นมาซื้อขากลับเข้าประเทศก็ได้ จะทำแบบนี้ก็ได้เช่นกันค่ะ แต่สินค้ามีให้เลือกไม่เยอะเท่าขาออก รวมถึงของแถมบางอย่างไม่มีให้เหมือนการซื้อสินค้าขาออกนะคะ เช่น กระเป๋าล้อลากที่แถมมากับเหล้า (ชอบมาก แถมเขาเปลี่ยนแบบเรื่อยๆด้วยนะ)
นอกจากความสะดวกสบายระหว่างการเดินทาง ส่วนตัวแล้วคิดว่าบริการนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางข้ามหลายๆเมืองหรือต้องการซื้อสินค้าบางประเภท ซึ่งมีกฎระเบียบในการนำเข้าของแต่ละประเทศแตกต่างกันไป ... รวมถึงสินค้าของเหลวต่างๆซึ่งมีน้ำหนักเยอะ เช่น ครีม โลชั่น และน้ำหอม ซึ่งเชื่อว่าหลายคนไม่อยากโหลดใส่กระเป๋าเดินทางขากลับเพราะกลัวแตก แต่มีปริมาตรเกิน 100 มิลลิลิตรต่อชิ้น ซึ่งไม่สามารถจะนำติดตัวขึ้นเครื่องได้ ตามกฏสากลของสนามบินทั่วโลก
ส่วนตัวเคยเจอเหตุการณ์ผู้โดยสารคนหนึ่งมาร้องขอให้พนักงานสายการบินช่วยนำน้ำหอมที่ถูกทิ้ง ตรงจุด x-ray มาคืนให้ เพราะปริมาตรเกินกำหนด สูญของไป 4 ขวด มูลค่ารวมมากกว่า 4,000 บาท และเป็นของที่เพื่อนฝากซื้อ อุตส่าห์หิ้วไปจากกรุงเทพฯ แต่ไปโดนทิ้งที่สิงคโปร์ตอนจะกลับ ... เขาช่วยไม่ได้นะคะ เพราะเป็นกฎระเบียบสากลของทางสนามบิน และทางสายการบินไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำสนามบิน
#รู้ไว้จะได้ไม่เจ็บ
ข้อควรรู้ ...
* บริการ”จองขาออก-รับขาเข้า” สำหรับสินค้าที่ซื้อในสนามบินเท่านั้น
* หากซื้อสินค้า ที่ King Power Duty Free Complex สาขาต่างๆ (รางน้ำ, ศรีวารี,พัทยา, ภูเก็ต) ไม่ใช่ที่สนามบิน จะต้องรับสินค้า”ขาออก”เท่านั้นนะคะ ไม่สามารถฝากเพื่อรับขาเข้าได้ เพราะฉะนั้นหากคิดจะเที่ยวแบบสบายๆ ไม่ต้องแบกให้หนักกระเป๋า ... แนะนำให้ทำลิสต์รายการที่ต้องการซื้อเพื่อความรวดเร็วไว้ก่อน และเผื่อเวลาเดินทางไว้มากหน่อย เพื่อเลือกซื้อสินค้าที่สนามบิน
* บริการ”จองขาออก-รับขาเข้า” สำหรับมูลค่าสินค้ารวมกันไม่เกิน 20,000 บาทเท่านั้น ทั้งนี้ไม่รวมสินค้าประเภทเหล้าและบุหรี่ ซึ่งเหล้าให้นำเข้าได้ในปริมาณคนละ 1 ลิตรและบุหรี่จำนวนไม่เกิน 200 มวนค่ะ
* หลังจากชำระค่าสินค้าแล้ว ก็เพียงแจ้งเที่ยวบินขากลับให้พนักงานทราบ เขาจะให้ใบเสร็จและใบรับสินค้ามา และสามารถรับของได้ที่เคาน์เตอร์ของ King Power Duty Free บริเวณห้องโถงขาเข้าประเทศ (หลังผ่านตรวจคนเข้าเมืองออกมา) ซึ่งอยู่ติดกับสายพานรับกระเป๋าหมายเลข 16 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ (ในส่วนของดอนเมือง ขอไปสอบถามข้อมูลมาก่อนนะคะ เพราะยังไม่เคยใช้บริการนี้ที่สนามบินดอนเมือง)
++ จุดรับสินค้าขาเข้า ++
ครั้งนี้นอกจากของที่ตั้งใจซื้อไว้แล้ว ยังเผอิญมาเจอนาฬิกาถูกใจ หลังจากวนเวียนไปทั้งสาขารางน้ำและศรีวารีมาหลายครั้ง แต่ไม่เจอสีดำเรียบๆแบบที่อยากได้ (ส่วนมาก Baby G จะมีแต่สีสันฉูดฉาด เลยมองหาสีดำเรียบเพื่อใช้งานแบบเรียบร้อยไว้บ้าง)
เลยไม่รีรอที่จะเพิ่มสินค้าเข้าไปในบริการนี้อีกสัก 1 ชิ้น ...
นอกจากส่วนลดสำหรับสมาชิกแล้ว ยังได้คูปองส่วนลดสำหรับซื้อสินค้าขาเข้าแถมเพิ่มมาด้วยค่ะ
ยังพอมีเวลาเหลือก่อนขึ้นเครื่อง ก็ไปนั่งเล่นหามื้อเช้าทานกันที่ King Power Lounge ในสนามบินสุวรรณภูมิ บริเวณ Concourse A ค่ะ (ผ่านเข้ามาทางด้านในอาคารแล้ว เลี้ยวซ้ายมาจนเจอทางแยกนะคะ แล้วเลี้ยวซ้ายอีกที)
บัตรสมาชิก King Power 1 ใบสามารถพาผู้ติดตามไปได้ 2 คน (รวมตัวเองด้วยก็เป็น 3 คน) งานนี้พ่อกับลูกได้อิ่มอร่อยกันถ้วนหน้าค่ะ
สำหรับประเภทบัตรที่เราถือ สามารถใช้บริการในส่วนของ Platinum & Crown Member Lounge ค่ะ ตัวเลือกอาหารและเครื่องดื่มจะมีให้เลือกเยอะกว่า คุณลูกหมีอร่อยกับข้าวต้ม ไส้กรอก และแซนด์วิชมาก ... ส่วนเราเองก็ enjoy กับเครื่องดื่มต่างๆ เพราะเป็นคนไม่ชอบดื่มน้ำเปล่า
เคยมาที่เลาจน์ช่วงดึกเป็นไฟล์ทไปยุโรป คนเยอะมากจนแทบไม่มีที่นั่ง -.-* ครั้งนี้มาเช้า มีที่นั่งสบายๆเลย ... แต่ผ่านไปมาอยู่หลายครั้ง มีอีก 1 บริการใน lounge ที่เรายังไม่เคยได้ลองคือห้องอาบน้ำค่ะ ไว้รอมีเวลามากกว่านี้ก่อนนะ
บริการเลาจน์สำหรับสมาชิก ไม่ได้มีแค่ที่สนามบินนะคะ ตามสาขาต่างๆก็มี อย่างสาขาศรีวารีเองก็เพิ่งมีไม่นานมานี้ แต่ไม่ได้แยกห้องตามประเภทบัตรเหมือนที่สาขารางน้ำ ขนม-ของว่างอาจจะไม่มากเท่าที่รางน้ำ แต่ยังดีที่มีให้ และถือว่าดีขึ้นกว่าเดิมที่เคยอยู่ทางด้านนอก ... แต่เลาจน์ใหม่ล่าสุดคงยกให้ที่สนามบินดอนเมือง ดีใจมากที่มีสักที บอกเลยว่ารอมานานมากกกกก แต่ก็นะ ยังไม่มีโอกาสได้ไปลองใช้บริการค่ะ เวลายังไม่เอื้ออำนวย แต่เล็งไว้แล้วว่าพิกัดอยู่ติดกับเคาน์เตอร์รับสินค้าขาออก ผ่าน x-ray ไป เดินเลี้ยวซ้ายแล้วมองดูทางซ้ายไว้เลยค่ะ
++ เลาจน์ที่สาขาศรีวารี ที่เคยโพสลงไว้ในเฟสบุ๊คค่ะ ++
สาธยายมายาวแล้ว ได้เวลาขึ้นเครื่องสักที
สำหรับทริปนี้ เป็นการเดินทางไปมัลดีฟส์เป็นครั้งที่ 2 ค่ะ
สำหรับครั้งแรก รีวิวไว้ตามลิงค์นี้ค่ะ
Dream Destination : จุดหมายปลายทางในฝัน ... 8 วัน ในมัลดีฟส์
http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8684187/E8684187.html
* Banyan Tree Vabbinfaru
* Angsana Ihuru
* Anantara Veli
* Anantara Dhigu
* Naladhu
สำหรับรีวิวทริปมัลดีฟส์ ครั้งที่ 2 ยังไม่มีเวลาปั่นเลย เพิ่งไปเมื่อก่อนสงกรานต์นี่เอง (แต่รีบมาลงรีวิวในส่วนของ King Power Duty Free ก่อน เพราะเห็นว่าใกล้จะหมดเขตแล้ว)
ตอนนี้มีแต่ VDO Clip ให้ชมไปพลางๆ สำหรับรีวิวฉบับเต็ม ขอเวลาอีกสักระยะนะคะ
Seaplane : Trans Maldivian Airways
ที่พัก : Centara Grand Island Resort & Spa, Maldives
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมค่ะ ...
ไว้มีโอกาสครั้งหน้า อยากลองรีวิวเลาจน์ที่ดอนเมืองดูบ้าง รอหาโปรฯตั๋วเครื่องบินดีๆก่อน เผื่อได้ไปช๊อป-ไปเที่ยว-แวะนั่งชิลล์เพลินๆก่อนขึ้นเครื่องที่เลาจน์แห่งใหม่
ขอบคุณบริการอย่างครบครันและรู้ใจนักเดินทาง จาก King Power Duty Free ค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น