29 เม.ย.60 นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุชิ้นส่วนงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงหล่นบริเวณหน้าวัดดอนเมือง ส่งผลให้มีคนงานเสียชีวิต 3 รายนั้น จากการตรวจสอบพบว่าตัวที่หล่นลงมาเป็นตัวซัพพอร์ต ใช้ยึดระหว่างเสาตอม่อ เพื่อให้อุปกรณ์อีกชิ้น คือ ทรัค ยกแผ่นคอนกรีตจากด้านล่างขึ้นไปประกอบด้านบนได้ ซึ่งต้องตรวจสอบว่าเกิดจากสาเหตุใดหล่นลงมา
ส่วนความรับผิดชอบเป็นของ รฟท.ที่ดูแลการก่อสร้าง เป็นตัวส่วนของตัวคานวิ่ง ไม่ใช่ตัวสถานี ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนที่หล่น และสั่งให้หยุดทำงานทั้งเส้นไปจนกว่าจะแน่ใจว่าปลอดภัย ส่วนเงินชดเชยให้กับผู้เสียชีวิตนั้น บริษัทรับเหมาจะรับผิดชอบ
วันเดียวกัน นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ (วสท.) พร้อมด้วยนายประเสริฐ อัตตะนันท์ รองผู้ว่าการ กลุ่มบริหารรถไฟฟ้า รฟท. , นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ
นายธเนศ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบความผิดปกติของคานเหล็กเส้นแรงดึงสูงสำหรับคอนกรีต หรือพีทีบาร์ ซึ่งเป็นตัวยึดตอม่อขาดในขณะที่กำลังดำเนินการ ส่งผลให้โครงสร้างเหล็กทั้งหมดร่วงหล่นลงมา ซึ่งจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเส้นเหล็กดังกล่าวขาดเพราะอะไร แต่ขณะนี้พบเส้นเหล็กพีทีบาร์เหลือเพียง 1 เส้น จากทั้งหมด 6 เส้น ซึ่งเส้นที่พบมีลักษณะขาดแนวตัดขวาง จากแรงเฉือน แต่ความชัดเจน ต้องรอดูการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ในห้องปฎิบัติการก่อน ส่วนระบบการปฎิบัติยังไม่พบข้อบกพร่องที่เกิดจากความประมาท หรือข้อผิดพลาดจุดใด
ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่วิศวกรรมสถาน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจเสร็จแล้ว จะยกเครนเหล็กออก รวมถึงจะต้องตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์สามารถใช้งานได้หรือไม่ หากไม่มีปัญหาก็สามารถเปิดเส้นทางจราจรได้ภายใน 3 วัน หรือในวันอังคารที่ 2 พ.ค.นี้
‘การก่อสร้างมีระเบียบมาตรฐานในการปฎิบัติ หากมีการยกสิ่งของ หรือก่อสร้างก็จะมีการปิดกั้นพื้นที่ ซึ่งครั้งนี้ก็พบว่าบริษัทอิตาเลียนไทยฯ ที่รับผิดชอบการก่อสร้าง ได้มีการปิดกั้นพื้นที่แล้ว ขณะเดียวกันยอมรับว่าการทำงานในช่วงเวลากลางคืน มีความไม่สะดวก และเกิดความผิดพลาดได้’ นายธเนศ กล่าว
ส่วนนายสุเมธ กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต บริษัทที่รับผิดชอบต้องตอบได้ว่าทำไมเมื่อมีเหตุขัดข้อง กลับปล่อยให้คนงานยืนอยู่ในจุดเกิดเหตุ หากพิสูจน์ได้ว่าเกิดจากความประมาท กระทรวงแรงงานจะแจ้งความดำเนินคดีอาญา ในข้อหาฝ่าฝืนเรื่องความปลอดภัย เพื่อที่จะให้บริษัทมีความใส่ใจในเรื่องของความระมัดระวังมากกว่านี้ เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เคยมีความผิดพลาดของการทำงานในจุดนี้ มาแล้วถึง 6 ครั้ง และมีผู้เสียชีวิตรวมเหตุการณ์ครั้งนี้แล้วทั้งหมด 8 ศพ
‘ก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการเพียงการเปรียบเทียบปรับ แต่ครั้งนี้คงต้องแจ้งความดำเนินคดีทางอาญา มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 4 แสนบาท โดยจะสอบสวนเรื่องของความประมาทเป็นหลัก ซึ่งถือว่ามีความผิดตามกฎกระทรวงข้อ 72 เรื่องของความปลอดภัย และหากผลการตรวจสอบพบว่าเกิดจากความประมาท กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน มีอำนาจในการสั่งปรับปรุงแก้ไข หากไม่แก้ไขอย่างจริงจัง อาจพิจราณาขั้นเด็ดขาด สั่งระงับการทำงาน หรือสั่งให้บริษัทผู้รับเหมาหยุดกิจการได้ ส่วนเรื่องเงินชดเชยนั้น ทางกระทรวงแรงงาน จะชดเชยให้ใน 2 ส่วนด้วยกัน คือ ตามสิทธิจากกองทุนชดเชย ให้คนงานที่เสียชีวิต และเงินจากประกันสังคม’ นายสุเมธ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดับสยอง3ศพ! คานเหล็กสร้างรถไฟฟ้าหล่นทับคนงาน
สั่งพักสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงดอนเมือง ตั้ง กก.สอบเหตุเครนร่วงทำคนงานดับ3ศพ
http://www.naewna.com/local/267773
คนที่ขึ้นรถไฟฟ้า สายสีเขียว-แดง และคนขับรถแถวนั้น จะผวาไหมครับ เพราะเกิดอุบัตติเหตุในช่วงก่อสร้างบ่อยๆๆๆ ?
ส่วนความรับผิดชอบเป็นของ รฟท.ที่ดูแลการก่อสร้าง เป็นตัวส่วนของตัวคานวิ่ง ไม่ใช่ตัวสถานี ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนที่หล่น และสั่งให้หยุดทำงานทั้งเส้นไปจนกว่าจะแน่ใจว่าปลอดภัย ส่วนเงินชดเชยให้กับผู้เสียชีวิตนั้น บริษัทรับเหมาจะรับผิดชอบ
วันเดียวกัน นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ (วสท.) พร้อมด้วยนายประเสริฐ อัตตะนันท์ รองผู้ว่าการ กลุ่มบริหารรถไฟฟ้า รฟท. , นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ
นายธเนศ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบความผิดปกติของคานเหล็กเส้นแรงดึงสูงสำหรับคอนกรีต หรือพีทีบาร์ ซึ่งเป็นตัวยึดตอม่อขาดในขณะที่กำลังดำเนินการ ส่งผลให้โครงสร้างเหล็กทั้งหมดร่วงหล่นลงมา ซึ่งจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเส้นเหล็กดังกล่าวขาดเพราะอะไร แต่ขณะนี้พบเส้นเหล็กพีทีบาร์เหลือเพียง 1 เส้น จากทั้งหมด 6 เส้น ซึ่งเส้นที่พบมีลักษณะขาดแนวตัดขวาง จากแรงเฉือน แต่ความชัดเจน ต้องรอดูการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ในห้องปฎิบัติการก่อน ส่วนระบบการปฎิบัติยังไม่พบข้อบกพร่องที่เกิดจากความประมาท หรือข้อผิดพลาดจุดใด
ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่วิศวกรรมสถาน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจเสร็จแล้ว จะยกเครนเหล็กออก รวมถึงจะต้องตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์สามารถใช้งานได้หรือไม่ หากไม่มีปัญหาก็สามารถเปิดเส้นทางจราจรได้ภายใน 3 วัน หรือในวันอังคารที่ 2 พ.ค.นี้
‘การก่อสร้างมีระเบียบมาตรฐานในการปฎิบัติ หากมีการยกสิ่งของ หรือก่อสร้างก็จะมีการปิดกั้นพื้นที่ ซึ่งครั้งนี้ก็พบว่าบริษัทอิตาเลียนไทยฯ ที่รับผิดชอบการก่อสร้าง ได้มีการปิดกั้นพื้นที่แล้ว ขณะเดียวกันยอมรับว่าการทำงานในช่วงเวลากลางคืน มีความไม่สะดวก และเกิดความผิดพลาดได้’ นายธเนศ กล่าว
ส่วนนายสุเมธ กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต บริษัทที่รับผิดชอบต้องตอบได้ว่าทำไมเมื่อมีเหตุขัดข้อง กลับปล่อยให้คนงานยืนอยู่ในจุดเกิดเหตุ หากพิสูจน์ได้ว่าเกิดจากความประมาท กระทรวงแรงงานจะแจ้งความดำเนินคดีอาญา ในข้อหาฝ่าฝืนเรื่องความปลอดภัย เพื่อที่จะให้บริษัทมีความใส่ใจในเรื่องของความระมัดระวังมากกว่านี้ เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เคยมีความผิดพลาดของการทำงานในจุดนี้ มาแล้วถึง 6 ครั้ง และมีผู้เสียชีวิตรวมเหตุการณ์ครั้งนี้แล้วทั้งหมด 8 ศพ
‘ก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการเพียงการเปรียบเทียบปรับ แต่ครั้งนี้คงต้องแจ้งความดำเนินคดีทางอาญา มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 4 แสนบาท โดยจะสอบสวนเรื่องของความประมาทเป็นหลัก ซึ่งถือว่ามีความผิดตามกฎกระทรวงข้อ 72 เรื่องของความปลอดภัย และหากผลการตรวจสอบพบว่าเกิดจากความประมาท กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน มีอำนาจในการสั่งปรับปรุงแก้ไข หากไม่แก้ไขอย่างจริงจัง อาจพิจราณาขั้นเด็ดขาด สั่งระงับการทำงาน หรือสั่งให้บริษัทผู้รับเหมาหยุดกิจการได้ ส่วนเรื่องเงินชดเชยนั้น ทางกระทรวงแรงงาน จะชดเชยให้ใน 2 ส่วนด้วยกัน คือ ตามสิทธิจากกองทุนชดเชย ให้คนงานที่เสียชีวิต และเงินจากประกันสังคม’ นายสุเมธ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดับสยอง3ศพ! คานเหล็กสร้างรถไฟฟ้าหล่นทับคนงาน
สั่งพักสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงดอนเมือง ตั้ง กก.สอบเหตุเครนร่วงทำคนงานดับ3ศพ
http://www.naewna.com/local/267773