แชร์ประสบการณ์หารายได้เสริม ฉบับมนุษย์เงินเดือน จนปัจจุบันรายได้แซงอาชีพหลักแล้วค่ะ (ติวสอบแอร์)

สวัสดีค่ะ เรามีประสบการณ์หารายได้เสริมและทริคเล็กๆน้อยๆจะมาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน

ด้วยสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน คนรอบตัวเราต่างก็หารายได้จากหลายๆช่องทางกันทั้งนั้น เราเองก็ได้ไอเดียมาจากบอร์ดพันทิปนี่แหละค่ะ ค่อยๆเก็บคำแนะนำต่างๆ บุกเบิก ลงมือ ลองผิดลองถูก ถึงแม้ทุกวันนี้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จใหญ่โตอะไร แต่พอย้อนกลับไปมอง ประสบการณ์จากการทำจริงลุยจริง ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆอยู่บ้าง ไม่จำเป็นต้องเป็นติวเตอร์อย่างเดียวค่ะ พยายามจะเขียนให้ประยุกต์ใช้ได้กับท่านอื่นๆที่อยากหารายได้เสริมนะคะ

ต้องบอกก่อนว่าจริงๆอาชีพเสริมที่ว่านี้เริ่มมาจากความรักความชอบและประสบการณ์ตรงค่ะ ไม่ได้คิดจะยึดเป็นอาชีพเสริมแต่อย่างใด เริ่มทำเพราะใจรักล้วนๆแต่ทำไปทำมาก็คิดว่ามันน่าจะดีนะ ถ้าเราได้ทำในสิ่งที่เรารักแล้วได้รายได้จากมันด้วย ก็เลยลองดู


เรื่องมีอยู่ว่า เราเคยเป็นแอร์สายการบินตะวันออกกลางมาก่อนค่ะ อาชีพในฝันของเราและสาวๆหลายๆคนเลยใช่มั้ยคะ ทำอยู่หลายปี แต่ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง จึงทำให้ต้องตัดสินใจกลับมาทำงานที่ไทย โชคดีที่เป็นคนเอนจอยกับงาน(ที่เลือกแล้ว)ทุกประเภท จึงไม่นอยด์ที่ไม่ได้สานฝันต่อ แค่ช่วงแรกๆ มีแอบกังวลเรื่องรายได้ที่ลดลงอยู่บ้าง ก็อาศัยการปรับตัวเอา ทำงานออฟฟิศไปสักพัก พอทุกอย่างลงตัวและอยู่ตัว บวกกับลักษณะงานก็ค่อนข้างจะรัดกุม ทำให้ไม่มีงานงอกหลังเลิกงาน เสาร์อาทิตย์ก็เลยว๊างว่างค่ะ ไม่ชินแหะๆ เพราะตอนเป็นแอร์นี่ต้อง active ตลอดเวลา




และด้วยความที่ว่างมาก เลยทำให้คิดถึงการเป็นแอร์ขึ้นมาตะหงิดๆ อยากแชร์เรื่องราวการเตรียมตัวสมัครแอร์ ตอนนั้นเป็นยุคแรกๆที่เริ่มมีเพจบนเฟซบุ๊ค ก็เลยลองทำดูบ้างเผื่อจะช่วยให้หายคิดถึงการเป็นแอร์ได้บ้าง จึงเกิดเป็น Cabin Crew Dreamer ขึ้นมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เพื่อแชร์ประสบการณ์การสอบแอร์ของตัวเอง ตอบคำถามต่างๆที่เกี่ยวกับการสอบ รวมถึงแชร์คอนเท้นท์ต่างๆที่เป็นประโยชน์กับการสมัครสอบ พอทำเพจนี้ขึ้นมาช่วยบรรเทาความคิดถึงไปได้เยอะเลย แถมยังรู้สึกดีที่ประสบการณ์ของเรามีประโยชน์กับน้องๆ..แฮปปี้ ก็เลยทำมาเรื่อยๆ ทีนี้เวลาสายการบินต่างๆเปิดรับสมัคร ทั้งในเพจเราเองและเวปต่างๆ ก็จะเริ่มเห็นน้องๆตั้งกระทู้ขอคำปรึกษากันเยอะมาก และจะมีคำถามที่ต้องตอบซ้ำๆ เรารู้สึกเสียดายเวลาของตัวผู้ถามเอง และอยากจะใช้เวลาตรงนี้ไปลงรายละเอียดให้ลึกขึ้นในเรื่องอื่นๆ  อีกทั้งคิดว่าถ้าได้เจอน้องๆตัวเป็นๆ จะแนะนำได้เฉพาะเจาะจงกว่า เมื่อพอมีเวลาว่างอยู่ เลยตัดสินใจเปิดคอร์สติวสอบแอร์ฟรี...ใช่แล้วค่า ฟรีค่า!! สนองความฟินของตัวเองล้วนๆ โดยมีการประชาสัมพันธ์ผ่านทางเพจที่ทำนี่แหละค่ะ จำได้เลยว่ารอบแรกที่เปิดไปมีน้องๆสนใจมากัน 15 คน


สถานที่ก็ไม่ใช่ที่ไหน ห้องว่างของนิติที่คอนโดเราเองค่ะ ขอสะดวกผู้สอนนิดนึง ^_^ จำได้ว่า สอนครั้งแรกนี่ตื่นเต้นมากแต่ตั้งใจสุดๆ เตรียมเนื้อหา เตรียมข้อมูล จัดทำสไลด์ไปคุยกับน้องๆ พอได้เจอกันตัวเป็นๆ ก็จะเห็นแววในเด็กแต่ละคนแตกต่างกันออกไป ปรับโน่นปรับนี่ให้เข้ากับแต่ละคนได้ตรงจุดมากกว่า ถึงจะเป็นคอร์สสั้นๆ ที่ใช้เวลาเพียงวันเดียว 6 ชั่วโมง แต่ปรากฏว่าจบจากวันนั้นไป มีน้องๆที่ติวด้วย สอบได้สายการบินตะวันออกกลางจ้า ดีใจมากๆ ส่วนน้องคนอื่นๆก็ส่งผลสืบเนื่องให้เค้ารู้ว่าต้องพัฒนาตัวเองต่ออย่างไร รู้สึกคิดไม่ผิดที่จัดคอร์สขึ้นมา นอกจากจะเป็นการช่วยสานฝันให้น้องๆแล้ว ยังสามารถเติมไฟให้ใจตัวเองอีกด้วย เหมือนกลับมามีความฝัน มีเป้าหมายอีกครั้ง มีพลังในการทำสิ่งต่างๆเยอะขึ้น พลอยทำให้งานหลักที่ทำอยู่แฮปปี้ขึ้นไปด้วย ...หลังจากนั้นก็จัดคอร์สฟรีอยู่เรื่อยๆ ตอนนั้นก็เหนื่อยนะ แต่มีความสุขมาก


แรกๆเราจ่ายค่าเช่าห้องนิติเองตลอด แต่พอเปิดคอร์สฟรีหลายๆครั้งเข้า ค่าใช้จ่ายที่แบกรับไว้เองก็เริ่มเยอะขึ้น จึงเริ่มมีการเก็บค่าเรียน แต่ก็แค่พอให้ cover ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เชื่อมั้ยว่าแรกๆที่เริ่มเก็บค่าเรียน คนละ 400-600 บาทเท่านั้นเองค่ะ จนประมาณปลายปี 2015 เริ่มมีคนสนใจมากขึ้น ประกอบกับแถวคอนโดเริ่มสร้างรถไฟฟ้า รถติดมาก น้องที่มาเรียนเดินทางลำบากเราจึงไปเช่าพื้นที่จัดสอนให้เป็นที่เป็นทางมากขึ้น โดยการไปเช่าพื้นที่สอนที่ติดรถไฟฟ้า (หาที่ถูกใจยากมากค่ะ ตอนนั้นหาและลองหลายที่ เพิ่งมาลงตัวเมื่อปลายปี 2016นี่เอง) ทีนี้พอค่าใช้จ่ายมากขึ้น ก็ต้องเก็บค่าเรียนมากขึ้นไปด้วย ตอนนั้นน้องๆที่มาติวเริ่มทยอยสอบติดหลายสายมากขึ้นทั้งไทยทั้งเทศ ก็เริ่มมั่นใจ เลยคิดว่าทำจริงจังเลยดีมั้ย จริงจังในที่นี้คือ...

ทำให้ทุกอย่างเป็นทางการขึ้น นั่นคือ

>>สถานที่ -- ต้องเป็นกิจลักษณะมากขึ้น เดินทางสะดวกมากขึ้น และเอื้อเฟื้อต่อการเรียนการสอนมากขึ้น เราเปลี่ยนมาหลายที่มากค่ะ กว่าจะลงตัว จากประสบการณ์ทำให้เรารู้ว่า การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงด้านสถานที่ เป็นสิ่งสำคัญมาก เป็นบ่อเกิดของจุดเปลี่ยนดีๆหลายประเด็นเลย ขอยกเป็นหัวข้อใหญ่ เพื่อขยายความในตอนท้ายนะคะ

>>ความถี่ในการเปิดคอร์ส -- แต่ก่อนจะเปิดเฉพาะคอร์สIntensive เมื่อสายการบินประกาศว่าจะมีการรับสมัคร ซึ่งส่วนใหญ่มีไม่กี่สายที่จะมีตารางการเปิดรับสมัครที่แน่นอน ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเปิดคอร์สทุกวันอาทิตย์ น้องสมัครมากี่คนก็สอนค่ะ รวมไปถึงการเพิ่มลักษณะคอร์สให้หลากหลายมากขึ้น

>>การประชาสัมพันธ์ -- มีการทำโฆษณาลงเฟซบุค เริ่มมีการจ้างทำอาร์ทเวิค

>>ในส่วนเนื้อหานี่ทำจริงจังตั้งแต่แรกอยู่แล้วค่ะ มีการอัพเดทตลอดเวลา จึงไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากมาย




พอทุกอย่างเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เริ่มมีการบอกต่อ มีคนสมัครเยอะขึ้นเรื่อยๆ และอย่างที่เกริ่นไปแล้ว ทุกวันนี้รายได้เฉลี่ยต่อเดือนแซงเงินเดือนงานประจำไปเรียบร้อยแล้วค่ะ รวมเวลาการทำอาชีพเสริมเป็นติวเตอร์ทั้งหมด ปีนี้ก็เข้าปีที่ 3 แล้วค่ะ ถ้านับที่ทำจริงจังแค่ 2 ปีเท่านั้น ตอนนี้กำลังวางแผนจะขยับขยาย หาคนมาช่วยแบ่งเบางานแอดมิน ก็ต้องค่อยๆทำไปค่ะ เพราะเราทำทุกอย่างคนเดียว และทำงานประจำไปด้วย ^_^

อยากจะแชร์แง่คิดจากประสบการณ์ส่วนตัวเรื่องการทำอาชีพเสริม ดังนี้ค่ะ

1.ไม่จำเป็นต้องเป็นติวเตอร์ ขอให้เล็งเห็นสิ่งที่ตัวเองชอบ ที่ถนัด แล้วค่อยๆเริ่มจากจุดนั้น
ขออนุญาตยกตัวอย่างจากกระทู้พันทิปต่างๆที่ตัวเองเข้ามาเก็บเป็นข้อมูลนะคะ
https://pantip.com/topic/33168027
https://pantip.com/topic/32321038
https://pantip.com/topic/35305453
https://pantip.com/topic/33894745

……….แต่……….

2.การเป็นติวเตอร์มีข้อดี คือ ไม่มีต้นทุน ลงทุนน้อย และอย่าคิดว่าต้องเป็นติวเตอร์วิชาการเท่านั้น (ของเราก็ไม่เชิงวิชาการนะคะ เน้นประสบการณ์มากกว่า ยิ่งประสบการณ์เฉพาะเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีคู่แข่งน้อยค่ะ) เดี๋ยวนี้มีคนเปิดคอร์สสอนความรู้แปลกๆกันเยอะมากค่ะ เช่น สอนแกะยางลบ // สอนจัดสวนขวด // สอนเล่นเวป // สอนผสมเครื่องดื่ม และอีกมากมาย ซึ่งเฉพาะกลุ่มมากๆ แต่คนเรียนเยอะกว่าคอร์สภาษาอีกค่ะ คือเราก็ไม่เคยมีไอเดียพวกนี้เลยค่ะ แต่เห็นจากติวเตอร์ห้องข้างๆ โอ้โห เปิดโลกกระทัศน์มากค่ะ

3.ถ้าทำแล้วต้องทำจริงจัง มีการศึกษาค้นคว้าอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับสิ่งที่ทำอยู่ตลอดเวลา มาถึงตรงนี้ก็ย้อนกลับไปข้อ 1 การที่จะทำแบบนี้ได้ มันต้องทำอยู่ใน area ที่เราสนใจ มันจะอิน มันจะฟิน ไม่กดดัน ทำเพลินเพราะสนุกกับเนื้องาน

4.การหารายได้เสริมที่ดี นอกจากควรทำบนพื้นฐานความชอบความถนัดแล้ว ต้องดูลักษณะงานของอาชีพหลักด้วยว่า เอื้อต่อการทำอาชีพเสริมลักษณะไหน ถ้าเจอแล้วลุยเลยค่ะ

5.ต้องแบ่งเวลาการทำงานหลัก และงานเสริมออกจากกันโดยสิ้นเชิง ไม่งั้นจะพังทั้งสองงาน ในเวลางาน เราให้งานหลักเต็มที่ ถ้าต้องตอบเมล หรือไลน์ลูกค้า จะรอช่วงพักเที่ยงหรือหลังเลิกงานเลยค่ะ เวลาที่เหลือจากการทำงานประจำ ก็จะเป็นเวลาชีวิตส่วนตัว+พักผ่อน และ เวลาของงานเสริมค่ะ จุดนี้คือละครนี่เลิกดูไปเลยค่ะ เพราะต้องบริหารเวลาดีมากๆ เช่น จ-ศ สามทุ่มถึงห้าทุ่มจะเป็นเวลาตอบเมล ตอบไลน์ หรือโทรศัพท์คุยกับน้องๆที่สนใจคอร์ส เป็นต้นค่ะ

6.เมื่องานเสริมที่ทำอยู่ เริ่มอยู่ตัว มั่นคง ให้เริ่มมองหาช่องทางการต่อยอด อย่างของเราก็จะมีติดต่อกับสตูดิโอถ่ายรูปไว้ ถ้าน้องๆคนไหนมาเรียนกับเรา ไปถ่ายที่นั่นก็จะได้ส่วนลดถ่ายรูปสมัครแอร์ไปเลยค่ะ ก็ได้ทั้งขยายเครื่อข่าย ได้ทำ Promotion ไปด้วย



ทีนี้อยากจะแชร์จุดเปลี่ยน รวมถึงแง่คิด ที่ทำให้การเป็นติวเตอร์ของเราเติบโตขึ้นอย่างมาก
อยากให้ติวเตอร์/ฟรีแลนซ์ทั่วไปรับไว้พิจารณานะคะ ขอยกความดีความชอบให้แก่...

>>> การเปลี่ยนแปลงเรื่องสถานที่ค่ะ <<<

คือเราทำทุกอย่างแทบจะเหมือนเดิม แต่พอเปลี่ยนสถานที่ปุ๊ป ติวเตอร์เราโตแบบก้าวกระโดดมากเลยค่ะ ทุกอย่างดูแกรนด์ขึ้นมาทันที

....โควต้าหมดขออนุญาตต่อในคอมเม้นท์นะคะ....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่