สวัสดีค่ะ วันนี้ จขกท จะมาแนะนำ โรงเรียนที่เรียกได้ว่า เป็นโรงเรียนคิดนอกกรอบที่ดี ในประเทศไทย โรงเรียนหนึ่งเลยทีเดียว
เป็นกระทู้แรกนะคะ อาจผิดพลาดบาง
โรงเรียนมีชัยพัฒนา (Mechai Bamboo School) หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่าโรงเรียนไม้ไผ่ เป็นโรงเรียนระดับมัธยมแบบอยู่ประจำ ตั้งอยู่ที่อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ ปีพ.ศ.2551 ปัจจุบันมีจำนวนนักเรียนทั้งหมด 145 คน โดยประมาณ ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1-6
โรงเรียนมีชัยพัฒนา ก่อตั้งขึ้นโดย คุณมีชัย วีระไวทยะ ในความคิดที่ว่า การคิดนอกกรอบ ในด้านการศึกษาไทยในปัจจุบันนั้นเน้นให้นักเรียนท่อง จำ และ นำไปสอบ แต่ไม่มีในเรื่องนวัตกรรม ความคิดเห็นใหม่ๆ หรือการคิดนอกกรอบ ไม่ได้เน้นทักษะอาชีพ ไม่ได้เน้นทักษะชีวิต การศึกษานั้นเราจำเป็นจะต้องให้เด็กศึกษาเป็น ค้นคว้าเป็น วิเคราะห์เป็น เสนอแนะเป็น ในปรัชญาที่ว่า "เรียนให้รู้ ไม่ใช่เรียนจำ"และท่านจึงได้จัดตั้งโรงเรียนขึ้นมาใหม่ ในชื่อว่า โรงเรียนมีชัยพัฒนานั้นเอง
เป้าหมายในการก่อตั้งโรงเรียนคือการสร้างคนดี 1.คนดีต้องมีวินัย 2.คนดีต้องมีความซื่อสัตย์ 3.แบ่งปันเป็น 4.ร่วมรับผิดชอบสังคม 5.รู้จักค้นคว้าหาคำตอบ
6.บริหารจัดการเป็น 7.ส่งเสริมความเสมอภาค เป็นต้น
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า โรงเรียนมีอีกชื่อหนึ่งว่าโรงเรียนไม้ไผ่ เพราะว่า อาคารต่างๆภายในโรงเรียนสร้างจากไม้ไผ่ เพราะ สามารถหาได้ง่ายและคงทนต่อทุกฤดูกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โดมอเนกประสงค์ หรือเรียกว่า geodesic dome โดมไม้ไผ่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่ 700 ตารางเมตร
สามารถบรรจุคนได้ 500คน เพื่อให้นัเรียนได้ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ออกกำลังกาย แข่งกีฬา และเคารพธงชาติ เป็นต้น ห้องเรียนที่สร้างจากไม้ไผ่ เพื่อเพิ่มบรรยากาศความเป็นธรรมชาติ และเข้ากับการเรียนรู้
เรื่องค่าเทอม
โรงเรียนไม่ได้เสียค่าเทอมเป็นเงิน แต่เป็นการทำความดี 400ชั่วโมง ต่อ ภาคเรียน และปลูกต้นไม้ 400 ต้น ต่อภาคเรียน ทั้งผู้ปกครองและตัวนักเรียน เพราะ เรามองเห็นว่า การจ่ายค่าเทอมนั้น เราไม่จำเป็นต้องให้ผู้ปกครองจ่ายเป็นฝ่ายเดียว นักเรียนก็สามารถจ่ายค่าเทอมได้เองด้วย ที่ให้เป็นการทำความดี เพราะ เราไม่จำเป็นต้องเสียค่าเทอมเป็นเงิน ในความคิดที่ว่า เด็กบางคนที่ไม่มีเงินแต่เราสามารถทดแทนโดยการทำความดี ที่เรียกว่าน้ำใจ นั้นเอง
จากการให้ข้อมูลของนักเรียนในโรงเรียนคนนึง บอกว่า "เราไม่ได้เรียนฟรี แต่เราจ่ายในสิ่งที่เรามีคือ เวลา และ น้ำใจ"
เดี๋ยวมาต่อนะคะ
เส้นทางสายใหม่สู่การศึกษไทยในชนบท "โรงเรียนมีชัยพัฒนา"
เป็นกระทู้แรกนะคะ อาจผิดพลาดบาง
โรงเรียนมีชัยพัฒนา (Mechai Bamboo School) หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่าโรงเรียนไม้ไผ่ เป็นโรงเรียนระดับมัธยมแบบอยู่ประจำ ตั้งอยู่ที่อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ ปีพ.ศ.2551 ปัจจุบันมีจำนวนนักเรียนทั้งหมด 145 คน โดยประมาณ ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1-6
โรงเรียนมีชัยพัฒนา ก่อตั้งขึ้นโดย คุณมีชัย วีระไวทยะ ในความคิดที่ว่า การคิดนอกกรอบ ในด้านการศึกษาไทยในปัจจุบันนั้นเน้นให้นักเรียนท่อง จำ และ นำไปสอบ แต่ไม่มีในเรื่องนวัตกรรม ความคิดเห็นใหม่ๆ หรือการคิดนอกกรอบ ไม่ได้เน้นทักษะอาชีพ ไม่ได้เน้นทักษะชีวิต การศึกษานั้นเราจำเป็นจะต้องให้เด็กศึกษาเป็น ค้นคว้าเป็น วิเคราะห์เป็น เสนอแนะเป็น ในปรัชญาที่ว่า "เรียนให้รู้ ไม่ใช่เรียนจำ"และท่านจึงได้จัดตั้งโรงเรียนขึ้นมาใหม่ ในชื่อว่า โรงเรียนมีชัยพัฒนานั้นเอง
เป้าหมายในการก่อตั้งโรงเรียนคือการสร้างคนดี 1.คนดีต้องมีวินัย 2.คนดีต้องมีความซื่อสัตย์ 3.แบ่งปันเป็น 4.ร่วมรับผิดชอบสังคม 5.รู้จักค้นคว้าหาคำตอบ
6.บริหารจัดการเป็น 7.ส่งเสริมความเสมอภาค เป็นต้น
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า โรงเรียนมีอีกชื่อหนึ่งว่าโรงเรียนไม้ไผ่ เพราะว่า อาคารต่างๆภายในโรงเรียนสร้างจากไม้ไผ่ เพราะ สามารถหาได้ง่ายและคงทนต่อทุกฤดูกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โดมอเนกประสงค์ หรือเรียกว่า geodesic dome โดมไม้ไผ่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่ 700 ตารางเมตร
สามารถบรรจุคนได้ 500คน เพื่อให้นัเรียนได้ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ออกกำลังกาย แข่งกีฬา และเคารพธงชาติ เป็นต้น ห้องเรียนที่สร้างจากไม้ไผ่ เพื่อเพิ่มบรรยากาศความเป็นธรรมชาติ และเข้ากับการเรียนรู้
เรื่องค่าเทอม
โรงเรียนไม่ได้เสียค่าเทอมเป็นเงิน แต่เป็นการทำความดี 400ชั่วโมง ต่อ ภาคเรียน และปลูกต้นไม้ 400 ต้น ต่อภาคเรียน ทั้งผู้ปกครองและตัวนักเรียน เพราะ เรามองเห็นว่า การจ่ายค่าเทอมนั้น เราไม่จำเป็นต้องให้ผู้ปกครองจ่ายเป็นฝ่ายเดียว นักเรียนก็สามารถจ่ายค่าเทอมได้เองด้วย ที่ให้เป็นการทำความดี เพราะ เราไม่จำเป็นต้องเสียค่าเทอมเป็นเงิน ในความคิดที่ว่า เด็กบางคนที่ไม่มีเงินแต่เราสามารถทดแทนโดยการทำความดี ที่เรียกว่าน้ำใจ นั้นเอง
จากการให้ข้อมูลของนักเรียนในโรงเรียนคนนึง บอกว่า "เราไม่ได้เรียนฟรี แต่เราจ่ายในสิ่งที่เรามีคือ เวลา และ น้ำใจ"
เดี๋ยวมาต่อนะคะ