ก่อนไปเที่ยวต่างประเทศทุกครั้ง ก็ต้องหาวันหยุดมาเดินช้อปที่ King Power อยู่เสมอ
ชอบมาเลือกซื้อน้ำหอม เครื่องสำอาง แล้วก็มานั่งกินป๊อปคอร์นในเลาจน์
บอกเลยว่าซื้อของใน King Power นี่ล่ะ มั่นใจได้ของแท้ ราคาไม่แพง แถมเป็น Member ก็ได้ส่วนลดเพิ่มไปอีก
ยิ่งเป็นเดือนเกิดก็ยิ่งคุ้มเข้าไปอีก ใช้สิทธิ์กันแบบสะใจมากกก อย่างทริปนี้ที่เราจะไปเวียดนาม ก็ต้องแวะมาสักหน่อย
ปกติเราก็จะเดินอยู่ที่รางน้ำค่ะ แต่วันนี้อารมณ์ดีไปศรีวารีด้วยเลย วันเดียวเที่ยว 2 สาขา
เช็คบัตรสมาชิกกันสักหน่อย บัตรพร้อมเตรียมช้อป ตอนนี้ถ้าเป็นสมาชิกบัตร Navy รับส่วนลด 5% ค่ะ
เราไปถึงตั้งแต่ 10 โมงค่ะ คนน้อยเดินสบาย มีเวลาเลือกของเต็มที่
เดินหาของไปมาปรากฎว่ามีที่สาขาศรีวารี ก็เลยชวนไปนั่งดื่มกาแฟก่อน
ก็มาถึงตั้งแต่เช้า ท้องเรียกร้องอาหารจนทนไม่ไหว
พร้อมแล้วก็เดินทางออกจากรางน้ำขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าไปศรีวารีเลยค่ะ
เราชอบเดินดูพวกเครื่องสำอาง น้ำหอม คือแบบเดินเทสต์ เดินดูไปเรื่อยๆ มาทีไรเวลา 6 ชม. ไม่เคยพอ
เดินไปจนใกล้จะถึงทางออก เจอแล้วของที่ชั้นตามหา สาวกมูมินต้องกรี๊ด
คือเราเห็นตัวนี้ทาง King Power Online ค่ะ เห็นแล้วกรี๊ดมาก ก็เลยมาตามหา
ถามว่าทำไมไม่สั่ง Online ก็แบบว่าอยากมาดูของอย่างอื่นด้วยไง
นอกจากจะได้ตุ๊กตามาแล้ว ยังได้ปากกามาอีก บอกเลยว่ามันหาซื้อยากมาก มาที่นี่คือจบ
ตัวนี้เป็นป้ายฟ้าด้วยนะคะ ซื้อแล้วเอากลับบ้านได้เลยค่ะ
ถึงวันเดินทางแล้ว เราเดินดูของที่ King Power รางน้ำ และศรีวารีมาเพียงพอแล้ว
ก็เอาเวลาไปนั่งรอ ไปนั่งหลับ และไปนั่งกินขนมในเลาจน์
พอดีวันที่ไปช้อปได้ของป้ายฟ้ามาทั้งหมด ก็เลยไม่ได้มารับของที่เคาน์เตอร์สนามบิน มุ่งหน้ามาเลาจน์เลยค่ะ
อิ่มท้อง พร้อมเดินทางแล้วค่ะ ครั้งนี้เราเดินทางด้วยสายการบินเวียดเจ็ทแอร์ ไปลงสนามบินไฮฟ่อง
เรามาถึงไฮฟองประมาณ 17.20 น. เหมาแท็กซี่ไปโรงแรม Doung Dong ที่เราพักคืนแรก
วันที่ 2 เราตื่นกันตี 5 อาบน้ำออกจากโรงแรม 6 โมงเช้า เพื่อนั่งรถบัสเดินทางต่อไปฮานอย
หน้าตาของรถบัสจะเป็นแบบนี้ค่ะ
ถึงโรงแรมเราพักที่โรงแรม Heart Hotel ค่ะ โรงแรมเล็กๆ แต่ห้องพักสะอาด บริการดีมาก สามารถฝากกระเป๋าได้
เริ่มต้นเที่ยวกันแล้วค่ะ ที่แรกไม่ไปไม่ได้ใช่มั้ยคะ บ้านลุงโฮ สุสานโฮจิมินห์ ทำเนียบเหลือง
วิหารเสาเดียว ซึ่งจะอยู่ในบริเวณเดียวกันทั้งหมดค่ะ เสียใจที่วันนั้นสุสานโฮจิมินห์ปิดก็เลยไม่ได้เข้าไปด้านใน
แต่ก็เดินรอบๆ ถือว่าคุ้มค่ามากแล้วค่ะ แนะนำให้มาช่วงเช้าจะดีกว่านะคะ คนน้อยเที่ยวสบาย
จากจุดนี้เราข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามไปกินเฝอกันค่ะ เวลามาเที่ยวไม่มีลายแทงเรื่องอาหารนะคะ
อยากกินร้านไหนก็เข้ากันไปเลยค่ะ ขอบอกว่ารสชาติดีมาก ชามใหญ่สุดๆ แนะนำว่าควรพกน้ำขวดไปดื่มนะคะ
จากจุดนี้เดินชมเมืองไปเรื่อยๆ ก็จะถึงวัด Quan Thanh เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 4 ของฮานอย
จุดเด่นก็คงจะเป็นรูปปั้นทองแดงเทพเจ้า Tran Vu ที่อยู่ด้านในสุดของวัด ที่มีน้ำหนักเกือบ 4.5 ตันค่ะ
วันนี้อากาศดีแดดไม่มีคณะเราก็เลยตัดสินใจเดินกันต่อค่ะ ที่ต่อไปเป็นพระราชวังทังลองค่ะ
มื้อเย็นวันนี้เราตกลงกันว่าจะไปกินบุ่นจ๋าค่ะ เป็นหมูย่างกินกับน้ำซุป อาจาด แล้วก็ขนมจีน
อร่อยมากถึงมากที่สุด ทางโรงแรมแนะนำให้เราไปกินร้าน Dac Kim ค่ะ อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม รสชาติจัดจ้านมาก
เปาะเปี๊ยะทอดไส้ปูก็อร่อยสุดๆ อร่อยแบบต้องกลับมากินอีกให้ได้
กินมื้อเย็นเสร็จก็เดินแวะช้อปของฝาก แถวๆ นั้นเลยค่ะ
เดินกันไปเรื่อยๆ เดินเล่นแถวริมทะเลสาบ บรรยากาศตอนกลางคืนสวยมากค่ะ
เพราะเค้าจะปิดถนนเปิดให้เราเดินเล่นสบายๆ
จากจุดนี้ไปเราก็เดินลัดเลาะกันต่อไปที่โบสถ์เซนต์โจเซฟ แม้จะดึกแค่ไหนคนก็ยังเยอะค่ะ
โบสถ์ใหญ่ดูอลังการงานสร้างเลยทีเดียว ตรงนี้ถ้าเป็นช่วงกลางวันจะมีร้านกาแฟแบบนั่งจิบกาแฟชมบรรยากาศโบสถ์ค่ะ
ขากลับเจอร้านหมูย่าง จัดไปอีกคนละไม้ คืนนี้หลับสบาย
เช้าวันสุดท้ายก่อนจะกลับเราแวะไปที่โบสถ์เซนต์โจเซฟ ไปนั่งจิบกาแฟเบาๆ นั่งสักพักนึงก็เดินย้อนกลับไปที่วัดหง็อกเซิน
ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสไตล์เวียดนามโบราณค่ะ
เที่ยวเสร็จเก็บข้าวของออกจากโรงแรม 11 โมงค่ะ มุ่งหน้าไปยังท่ารถเพื่อเตรียมตัวนั่งกลับไปไฮฟอง
เอาใบจองไปยื่นรับตั๋วที่เคาน์เตอร์ ฝากกระเป๋าเรียบร้อย ก็ออกมานั่งกินข้างหน้าท่ารถค่ะ
เป็นข้าวแกงตักๆ พร้อมน้ำซุป และส้มเสิร์ฟฟรี เจอร้านใจดีอีกแล้ว
ออกจากฮานอยบ่าย 2 ถึง ไฮฟอง 15.30 น. แล้วเราก็มุ่งหน้าต่อไปสนามบินเลยค่ะ
มื้อเย็นไม่ต้องพูดถึงละลายเงินด่งด้วยการซื้อมาม่าในสนามบินกิน ปิดท้ายทริปด้วยความประทับใจ
ถึงเวลาจะน้อยไปหน่อย แต่ได้ไปเปิดหูเปิดตา กลับมาก็หัวใจพองโต พร้อมลุยงานต่อไป
โชคดีมื้อแรกก่อนถึงเวียดนามฝากท้องเบาๆ ไว้ที่เลาจน์ King Power ก็เลยสบายท้อง และสบายเงินในกระเป๋าไปค่ะ
แล้วก็โชคดีอีกที่ได้มาซื้อของส่วนหนึ่งที่ King Power แล้ว ก็เลยไม่ต้องหาของฝาก เอาปากกาที่ซื้อมานี่ล่ะค่ะ
แจกกันไปคนละแท่ง เสียดายนะ อยากเก็บไว้ทั้งหมด แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปซื้อใหม่ได้
สำหรับเราแล้ว "จะไปเมืองนอกทั้งทีเอาเวลาไปเที่ยวดีกว่าค่ะ"
[CR] จะไปเมืองนอกเอาเวลาไปเที่ยวดีกว่าค่ะ เพราะเราไปช้อปของมาแล้วที่ King Power...งานนี้เที่ยวสบายไม่ต้องห่วงซื้อของ
ชอบมาเลือกซื้อน้ำหอม เครื่องสำอาง แล้วก็มานั่งกินป๊อปคอร์นในเลาจน์
บอกเลยว่าซื้อของใน King Power นี่ล่ะ มั่นใจได้ของแท้ ราคาไม่แพง แถมเป็น Member ก็ได้ส่วนลดเพิ่มไปอีก
ยิ่งเป็นเดือนเกิดก็ยิ่งคุ้มเข้าไปอีก ใช้สิทธิ์กันแบบสะใจมากกก อย่างทริปนี้ที่เราจะไปเวียดนาม ก็ต้องแวะมาสักหน่อย
ปกติเราก็จะเดินอยู่ที่รางน้ำค่ะ แต่วันนี้อารมณ์ดีไปศรีวารีด้วยเลย วันเดียวเที่ยว 2 สาขา
ก็มาถึงตั้งแต่เช้า ท้องเรียกร้องอาหารจนทนไม่ไหว
คือเราเห็นตัวนี้ทาง King Power Online ค่ะ เห็นแล้วกรี๊ดมาก ก็เลยมาตามหา
ถามว่าทำไมไม่สั่ง Online ก็แบบว่าอยากมาดูของอย่างอื่นด้วยไง
ตัวนี้เป็นป้ายฟ้าด้วยนะคะ ซื้อแล้วเอากลับบ้านได้เลยค่ะ
ก็เอาเวลาไปนั่งรอ ไปนั่งหลับ และไปนั่งกินขนมในเลาจน์
พอดีวันที่ไปช้อปได้ของป้ายฟ้ามาทั้งหมด ก็เลยไม่ได้มารับของที่เคาน์เตอร์สนามบิน มุ่งหน้ามาเลาจน์เลยค่ะ
วิหารเสาเดียว ซึ่งจะอยู่ในบริเวณเดียวกันทั้งหมดค่ะ เสียใจที่วันนั้นสุสานโฮจิมินห์ปิดก็เลยไม่ได้เข้าไปด้านใน
แต่ก็เดินรอบๆ ถือว่าคุ้มค่ามากแล้วค่ะ แนะนำให้มาช่วงเช้าจะดีกว่านะคะ คนน้อยเที่ยวสบาย
อยากกินร้านไหนก็เข้ากันไปเลยค่ะ ขอบอกว่ารสชาติดีมาก ชามใหญ่สุดๆ แนะนำว่าควรพกน้ำขวดไปดื่มนะคะ
จุดเด่นก็คงจะเป็นรูปปั้นทองแดงเทพเจ้า Tran Vu ที่อยู่ด้านในสุดของวัด ที่มีน้ำหนักเกือบ 4.5 ตันค่ะ
อร่อยมากถึงมากที่สุด ทางโรงแรมแนะนำให้เราไปกินร้าน Dac Kim ค่ะ อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม รสชาติจัดจ้านมาก
เปาะเปี๊ยะทอดไส้ปูก็อร่อยสุดๆ อร่อยแบบต้องกลับมากินอีกให้ได้
กินมื้อเย็นเสร็จก็เดินแวะช้อปของฝาก แถวๆ นั้นเลยค่ะ
เพราะเค้าจะปิดถนนเปิดให้เราเดินเล่นสบายๆ
โบสถ์ใหญ่ดูอลังการงานสร้างเลยทีเดียว ตรงนี้ถ้าเป็นช่วงกลางวันจะมีร้านกาแฟแบบนั่งจิบกาแฟชมบรรยากาศโบสถ์ค่ะ
ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสไตล์เวียดนามโบราณค่ะ
เอาใบจองไปยื่นรับตั๋วที่เคาน์เตอร์ ฝากกระเป๋าเรียบร้อย ก็ออกมานั่งกินข้างหน้าท่ารถค่ะ
เป็นข้าวแกงตักๆ พร้อมน้ำซุป และส้มเสิร์ฟฟรี เจอร้านใจดีอีกแล้ว
มื้อเย็นไม่ต้องพูดถึงละลายเงินด่งด้วยการซื้อมาม่าในสนามบินกิน ปิดท้ายทริปด้วยความประทับใจ
ถึงเวลาจะน้อยไปหน่อย แต่ได้ไปเปิดหูเปิดตา กลับมาก็หัวใจพองโต พร้อมลุยงานต่อไป
แล้วก็โชคดีอีกที่ได้มาซื้อของส่วนหนึ่งที่ King Power แล้ว ก็เลยไม่ต้องหาของฝาก เอาปากกาที่ซื้อมานี่ล่ะค่ะ
แจกกันไปคนละแท่ง เสียดายนะ อยากเก็บไว้ทั้งหมด แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปซื้อใหม่ได้
สำหรับเราแล้ว "จะไปเมืองนอกทั้งทีเอาเวลาไปเที่ยวดีกว่าค่ะ"