[CR] Olympiastadion Berlin

สวัสดีครับ กระทู้นี้ผมจะพาทุกคนเข้าไปดูสนาม Olympiastadion Berlin หรือ Olympic Stadium Berlin สนามกีฬาที่ใช้จัดงานโอลิมปิกฤดูร้อนที่เมืองเบอร์ลินปี 1936
หลายๆคนอาจจะคุ้นกับสนามแห่งนี้จากเรื่อง Race (2016) เกี่ยวกับ Jesse Owens นักวิ่งผิวสีของสหรัฐที่มาเก็บเหรียญทองโอลิมปิกได้ 4 เหรียญที่นี่

ปัจจุบันสนามนี้เป็นสนามเหย้าของทีม Hertha BSC หรือ Hertha Berlin สโมสรจาก Bundesliga และใช้เป็นสนามแข่งขันนัดชิงขนะเลิศ DFB-Pokal หรือฟุตบอลถ้วยของเยอรมันนีทุกๆปี
สนาม Olympiastadion Berlin ยังเป็นสถานที่ชิงชนะเลิศ UEFA Champions League ฤดูกาล 2014/2015 ที่ Barcelona เอาชนะ Juventus ไปได้ 3 ประตูต่อ 1 และเป็นสนามชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 2006 ที่อิตาลีชนะฝรั่งเศสไปได้ในการยิงจุดโทษ รวมไปถึงการจัดงานกีฬาอื่นๆอีกมากมาย


สนามนี้เริ่มแรกถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1916 ภายใต้ชื่อ Deutsches Stadion แต่การแข่งขันถูกยกเลิกไปเนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1
ในปี 1931 เมืองเบอร์ลิน(ในขณะนั้นยังไม่ถูกปกครองภายใต้พรรคนาซี) ได้รับเลือกให้จัดโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1936 และหลังจากที่พรรคนาซีเข้ามามีอำนาจจึงใช้โอกาสนี้ในการโปรโมทพรรคของตนและประเทศ จึงได้สั่งให้มีการสร้างสนามขึ้นใหม่ในชื่อ Olympiastadion โดยใช้เวลาสร้าง 2 ปี (1934-1936)

ในการแข่งขันโอลิมปิกปี 1936 สนามแห่งนี้ยังไม่มีหลังคาและมีความจุประมาณ 9 หมื่นคน
เนื่องจากตามกฎของ FIFA ว่าสนามในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายต้องมีหลังคาบนที่นั่ง ทำให้ต้องมีการต่อเติมหลังคาเสร็จในปี 2006 และทำให้ความจุของสนามลดลงเหลือ 74,745 คน แต่ก็ยังเป็นสนามที่มีความจุมากเป็นอันดับ 3 รองจาก Signal Iduna Park ของ Borussia Dortmund ที่จุได้ 81,359 คน และ Allianz Arena ของ Bayern Munich ที่จุได้ 75,000 คน

การเข้าชมสนามจะหลายแบบ โดยแต่ละแบบก็จะมีไกด์พาทัว ราคาก็จะแตกต่างกันไป
ทัวที่ผมเข้าไปดูใช้เวลาประมาณขั่วโมงครึ่งนะครับ
การทัวที่สนามนี้จะต่างจากการไปสนามฟุตบอลอื่นๆตรงที่จะเน้นในเรื่องประวัติศาสตร์ของสนามและเหตุการณ์ช่วงโอลิมปิกถึงสงครามโลกครั้งที่สองมากกว่าการพูดถึงทีมฟุตบอลที่ใช้สนามนี้
ตรวจสอบราคาได้ที่ http://olympiastadion.berlin/en/stadion-2/guided-tours/
การเข้าชมจะไม่มีในวันที่ Hertha BSC แข่ง หรือมีการจัดงานอย่างอื่นภายในสนามนะครับ

การเดินทางที่สะดวกที่สุดคือ นั่งรถไฟ U2 มาลงที่สถานี Olympiastadion และเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
เดินมาถึงสนามก็จะพบกับสถาปัตยกรรมสมัย 80 ปีที่แล้ว ที่ยังคงความคลาสสิกอยู่
เสาสูงสองต้นพร้อมกับห่วงสัญลักษณ์โอลิมปิก
ห้องจำหน่ายตั๋วพร้อมกับ Shop ของสนามและทางเข้าจะอยู่ทางด้านซ้ายมือนะครับ

เข้ามาแล้ว
หมี UCL
หลังจากพบเจอกับไกด์แล้ว ไกด์ก็จะพาเข้าไปดูส่วนต่างๆของสนามเลยครับ
ก่อนเดินเข้าก็จะเจอกับ Fan Shop ของ Hertha BSC
ภายในสนาม
มองทะลุไปด้านหลังจะเห็น Bell Tower
เท่าที่ผมสังเกตุดู สนามฟุตบอลของเยอรมันบางที่จะสร้างเหมือนสร้างในหลุมนะครับ ประมาณว่าที่นั่งครึ่งนึงของสนามเวลาเข้าไปนั่งต้องเดินลง อีกครึ่งต้องเดินครึ่ง อย่างที่เห็นในภาพนี่เป็นทางเข้าหลักที่อยู่ระดับเดียวกับพื้น

ที่แรกที่ไกด์พามาคือห้องรับรองและที่นั่ง VIP
ภายในห้องก็จะมีภาพของการปรับปรุงสนามในยุคต่างๆตั้งแต่เริ่มสร้างจนถึงปัจจุบัน

ที่นั่ง VIP
เรียกว่าเป็นที่นั่งที่ดีที่สุดเลยก็ได้นะครับ

ถัดไป ไกด์ก็พาพวกเราไปสัมผัสพื้นสนามกัน
อีกความพิเศษของสนามแห่งนี้คือลู่วิ่งจะถูกทาเป็นสีน้ำเงินแทนสีปกติคือสีน้ำตาลเพื่อเป็นเกียรติกับทีม Hertha BSC ที่ใช้สนามแห่งนี้เป็นสนามเหย้าเพราะ สีประจำทีมคือน้ำเงินขาว

ไกด์เล่าให้ฟังว่าแฟนๆของ Hertha BSC อยากให้ทีมสร้างสนามใหม่แทนการเช่าสนามนี้ น่าจะเพราะการมีลู่วิ่งทำให้แฟนบอลรู้สึกไม่ได้ใกล้ชิดนักเตะเท่าที่ควร

ไกด์ยังบอกอีกว่าสีฟ้าทำให้พื้นมีความนุ่มและเด้งกว่าสีน้ำตาลที่ใช้ทั่วไป จึงทำให้นักวิ่งที่มาวิ่งที่นี่อาจวิ่งเร็วกว่าปกติ

มองไปด้านบนจะเห็นที่นั่ง VIP และที่นั่งของสื่อด้านบน
ด้านข้างของที่นั่งสื่อจะมีแผ่นกระจกกั้นเสียงเชียร์จากแฟนบอลด้วย

หลังจากนั้นแล้ว พวกเราก็เดินเข้าไปยังอุโมงนักเตะเดินออกจากสนาม
มุมนี้จะเป็นมุมสัมภาษณ์นักกีฬาของสื่อต่างๆ
ทางไปห้องแต่งตัวและพื้นที่ต่างๆจะอยู่ทางขวามือ
ที่พื้นจะมีพรมวางเป็นทางเดินอยู่ด้วยนะครับ มีไว้เพื่อกันนักเตะลื่นเพราะพื้นเป็นพื้นเรียบ อาจจะไม่เหมาะกับรองเท้าสตั๊ดเท่าไหร่

สนามแห่งนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่สนามในยุโรที่มี Chapel เป็นของตัวเอง

ห้องจัดเลี้ยงที่อยู่ใต้ที่นั่งคนดู
เหมือนไกด์บอกด้วยนะครับว่าแต่ละชั้นจะมีความพิเศษบางอย่าง แต่ผมจำไม่ได้ว่าอะไรมั่ง55555

ทางขึ้นไปห้องแต่งตัว
จากที่ไกด์บอก นี่เป็นสนามเดียวในประเทศที่มีบันไดเลื่อนให้นักเตะในสนาม

ขึ้นไปข้างบนก็จะเป็นทางเดินที่ตกแต่งด้วยชุดแข่งของคู่ชิงชนะเลิศ DFB-Pokal ในปีที่ผ่านๆมา

ห้องแต่งตัว
ในห้องน้ำจะมีอ่าง jacuzzi อยู่ด้วยนะครับ พร้อมกับป้ายห้ามนำสบู่ลงอ่างเด็ดขาด
ภายในสนามยังมีห้องสำหรับจัดการซ้อมหรือ workshop ต่างๆ
วันที่ผมไปมีวัยรุ่นมาซ้อมเต้นกันด้วย

เสร็จแล้วเราก็ออกมานอกสนามทางด้านหลัง ที่เป็น Marathon Gate
ความสำคัญคือเป็นที่ที่นักวิ่งถือคบเพลิงโอลิมปิกผ่านประตูนี้เพื่อเป็นการเปิดงาน

ด้านข้างของทางเข้านี้จะมีป้ายบอกชื่อนักกีฬาที่ได้รับรางวัลต่างๆ

ด้านหลังของตัวสนามทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะเห็น Bell Tower อันใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาหลังจากถูกทำลายโดยกองทัพอังกฤษในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง

และแล้วก็จบการทัวเพียงเท่านี้

แต่ผมยังไม่จบ 5555
ไหนๆจ่ายเงินเข้ามาแล้วก็เอาให้คุ้ม ผมเลยเดินวนรอบสนามต่อเรื่อยๆ
มาทางทิศใต้ของสนามจะเจอกับ ระฆังที่เคยอยู่บน Bell Tower พร้อมกับป้ายประวัติต่างๆ

ทางทิศเหนือจะเป็นสระว่ายน้ำที่เคยใช้ในการแข่งขันโอลิมปิกปี 1936
ตอนผมไปช่วงปลายเดือนมกราคมหิมะยังไม่ละลายเลย

และการไป Olympiastadion Berlin ของผมก็จบเพียงเท่านี้
ใครที่มาเมืองหลวงของประเทศเยอรมันนีแล้วชื่นชอบกีฬาและประวัติศาสตร์ก็มาเยียมชมได้นะครับ ยังมีอีกข้อมูลน่าสนใจอีกเยอะที่ไกด์ได้เล่าให้ฟัง แต่ผมจำไม่ได้ 5555555555เต่าเอือม

ลาล่ะครับ ขอบคุณทุกคนที่เปิดเข้ามาอ่านนะครับอมยิ้ม17
ชื่อสินค้า:   Olympic Stadium Berlin
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่