ปีนี้เราอายุ 33 ปีค่ะ เราคบกับแฟนคนนี้มา 4 ปีแล้ว ตอนนี้ต่างคนต่างทำงานทั้งคู่ ค่าใช้จ่ายเรียกได้ว่ากระเป๋าใครกระเป๋ามัน เพราะไม่อยากให้มีปัญหาภายหลัง เว้นแต่เรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านที่ต้องร่วมกัน ในปีแรกที่คบกัน แฟนเราชวนให้ย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้านของเขา กับพ่อแม่ของเขา เราเคยคุยกับแฟนเรื่องแต่งงานนะคะ เพราะถึงแม้ว่าผู้ใหญ่ของทั้งสองจะรับรู้ ไม่ว่าอะไร แต่เราก็อยากทำให้เป็นเรื่องเป็นราว ส่วนแฟนให้เหตุผลว่า ไม่อยากแต่งเพราะสิ้นเปลือง อยู่กันไปเรื่อยๆแบบนี้ดีแล้ว
ช่วงกลางปีที่แล้ว แฟนซื้อบ้านหลังนึงค่ะ ผ่อนจ่ายกับพี่ชายของเขาคนละครึ่ง เราก็บอกว่า เรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านเราจะช่วยออกในบางส่วนนะ อย่างค่าน้ำค่าไฟ เราจ่ายทั้งหมด ค่าอาหารบ้าง เพราะเราเลิกงานค่ำ ไม่ค่อยได้กลับมาทานที่บ้าน ตอนนี้เรายังไม่ได้แต่งงาน ยังไม่จดทะเบียนสมรส เพราะฉะนั้น ค่าบ้านหลักๆ เราจะไม่เกี่ยวข้องด้วย กับแฟนเราไม่เคยมีปัญหาค่ะ แต่ปัญหาอยู่ที่แม่ของเขา ที่มักจะเหน็บแนมเราเรื่องเงิน เรื่องไม่ช่วยจ่ายค่าบ้าน แต่เราพยายามนิ่งเฉย ไม่พูดว่าเราจ่ายอะไรบ้าง กลัวจะกลายเป็นลำเลิกบุญคุณกันไป ก่อนหน้าเคยทะเลาะมีปากเสียงกันครั้งนึง หลังจากนั้นเราจะเลี่ยงปัญหาโดยการไม่พูดกับเขาถ้าไม่มีเรื่องจำเป็น พยายามนิ่ง แต่เรื่องก็เข้ามาจนได้
แม่เขาก็พูดเรื่องเดิมๆ เนื่องด้วยเราเป็นคนที่ว่า ถ้าไม่ผิดเราไม่ยอม ก็เลยมีเรื่องทะเลาะกัน เขาก็พูดว่า เราเป็นผู้หญิงใจง่าย หอบผ้าหอบผ่อนมาอยู่บ้านผู้ชาย เป็นลูกสะไภ้แย่ๆ บลาๆๆ เราจึงกลับมานั่งคิดว่า ทุกอย่างที่เราทำ เราคิดถูกหรือเปล่า ย้ายเข้าบ้านผู้ชายตอนอายุ 29 อยากแต่งแต่ผู้ชายไม่คิดเรื่องแต่งงาน ไม่ช่วยจ่ายค่าบ้าน แต่ช่วยในเรื่องค่าใช่จ่ายประจำดือนของบ้าน ใช้เงินของตัวเอง เพราะคิดว่าเรามาอยู่กับเขา มาใช้ชีวิตกับเขา ไม่ใช่มาให้เขาเลี้ยง แต่กลับกลายมาโดนว่าเป็นผู้หญิงใจง่าย
บางทีเราก็คิดนะคะ ว่าเรื่องแค่นี้มันเป็นเรื่องเล็กน้อย รักลูกชายเขา ก็ต้องทนให้ได้ แต่บางทีเราก็รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีค่า ถ้าเราทนไม่ไหว จะย้ายออกไป แฟนเราก็ต้องยอม เพราะไม่รู้จะทำยังไง ทางนั้นก็แม่เขา
ใครมีทางออกที่ดีบ้างคะ แฟนเราก็ลำบากใจ เพราะเป็นคนกลาง ถ้าเราตัดสินใจออกไป เท่ากับว่าเราเลิกกันไปโดยปริยาย กลุ้มค่ะ😧
อาจจะงงนิดหน่อยนะคะ พิมพ์ทางมือถือค่ะ ไม่เคยตั้งกระทู้ยาวๆแบบนี้เลย
ผู้หญิงที่ย้ายเข้ามาอยู่บ้านผู้ชายโดยที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน เพราะผู้ชายไม่คิดเรื่องแต่งงาน เรียกว่าใจง่ายหรือเปล่าคะ
ช่วงกลางปีที่แล้ว แฟนซื้อบ้านหลังนึงค่ะ ผ่อนจ่ายกับพี่ชายของเขาคนละครึ่ง เราก็บอกว่า เรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านเราจะช่วยออกในบางส่วนนะ อย่างค่าน้ำค่าไฟ เราจ่ายทั้งหมด ค่าอาหารบ้าง เพราะเราเลิกงานค่ำ ไม่ค่อยได้กลับมาทานที่บ้าน ตอนนี้เรายังไม่ได้แต่งงาน ยังไม่จดทะเบียนสมรส เพราะฉะนั้น ค่าบ้านหลักๆ เราจะไม่เกี่ยวข้องด้วย กับแฟนเราไม่เคยมีปัญหาค่ะ แต่ปัญหาอยู่ที่แม่ของเขา ที่มักจะเหน็บแนมเราเรื่องเงิน เรื่องไม่ช่วยจ่ายค่าบ้าน แต่เราพยายามนิ่งเฉย ไม่พูดว่าเราจ่ายอะไรบ้าง กลัวจะกลายเป็นลำเลิกบุญคุณกันไป ก่อนหน้าเคยทะเลาะมีปากเสียงกันครั้งนึง หลังจากนั้นเราจะเลี่ยงปัญหาโดยการไม่พูดกับเขาถ้าไม่มีเรื่องจำเป็น พยายามนิ่ง แต่เรื่องก็เข้ามาจนได้
แม่เขาก็พูดเรื่องเดิมๆ เนื่องด้วยเราเป็นคนที่ว่า ถ้าไม่ผิดเราไม่ยอม ก็เลยมีเรื่องทะเลาะกัน เขาก็พูดว่า เราเป็นผู้หญิงใจง่าย หอบผ้าหอบผ่อนมาอยู่บ้านผู้ชาย เป็นลูกสะไภ้แย่ๆ บลาๆๆ เราจึงกลับมานั่งคิดว่า ทุกอย่างที่เราทำ เราคิดถูกหรือเปล่า ย้ายเข้าบ้านผู้ชายตอนอายุ 29 อยากแต่งแต่ผู้ชายไม่คิดเรื่องแต่งงาน ไม่ช่วยจ่ายค่าบ้าน แต่ช่วยในเรื่องค่าใช่จ่ายประจำดือนของบ้าน ใช้เงินของตัวเอง เพราะคิดว่าเรามาอยู่กับเขา มาใช้ชีวิตกับเขา ไม่ใช่มาให้เขาเลี้ยง แต่กลับกลายมาโดนว่าเป็นผู้หญิงใจง่าย
บางทีเราก็คิดนะคะ ว่าเรื่องแค่นี้มันเป็นเรื่องเล็กน้อย รักลูกชายเขา ก็ต้องทนให้ได้ แต่บางทีเราก็รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีค่า ถ้าเราทนไม่ไหว จะย้ายออกไป แฟนเราก็ต้องยอม เพราะไม่รู้จะทำยังไง ทางนั้นก็แม่เขา
ใครมีทางออกที่ดีบ้างคะ แฟนเราก็ลำบากใจ เพราะเป็นคนกลาง ถ้าเราตัดสินใจออกไป เท่ากับว่าเราเลิกกันไปโดยปริยาย กลุ้มค่ะ😧
อาจจะงงนิดหน่อยนะคะ พิมพ์ทางมือถือค่ะ ไม่เคยตั้งกระทู้ยาวๆแบบนี้เลย