คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
จะขอเล่าพอสังเขปนะคะ
พอดีเรามาแลกเปลี่ยน แล้วบังเอิญว่าคนที่เราชอบ บ้านใกล้กัน เวลาอยู่ที่โรงเรียนก็ไม่ค่อยได้คุยกันหรอก เพราะเวลาเราคุยกับเค้า เราสองคนก็เขินใส่กัน จะคุยกันแบบเยอะๆเวลาอยู่ด้วยกันแค่สองคนเท่านั้น ก็มีตอนรั่งรถเมล์กลับบ้าน กับเดินกลับบ้านด้วยกัน แล้วก็ดึกๆก็จะส่งข้อความหากันทุกคืน
แล้วช่วง เดือนนึงก่อนกลับ เค้าก็ส่งข้อความหวานๆมาให้ เช่น
"Ich mag dich sehr! Bleib so wie du bist 😜" (แปลว่า ฉันชอบเธอมาก Be yourself นะ)
นอกจากนี้ยังมีชวนไปคอนเสิร์ตด้วยกัน (แต่เราเทเค้า เพราะเราติดธุระจริงๆ T_T)
บางทีก็เดินมาส่งที่บ้าน ทั้งๆที่บ้านเค้าเดินถึงก่อนบ้านเรา
แล้ววันก่อนกลับ เป็นวันที่ทำให้เราแน่ใจว่า เราจะต้องบอกความรู้สึกออกไป เค้าส่งข้อความนี้มาหา
"I'm not planing to lose you... Idc if there are 1 m between us or 1000000 km
i'm still gonna write you 😌I promise
"
มีอีกๆ
"ich hoffe du weisst, wie sehr ich dich mag, auch wenn ich es nicht immer zeigen kann" (แปลว่า ฉันหวังว่าเธอคงจะรู้นะ ว่าชั้นชอบเธอมากแค่ไหน ถึงแม้ฉันจะไม่สามารถแสดงมันออกมาได้ตลอดเวลา) ข้อความนี้แหละค่ะ ที่ทำให้เรารู้สึกว่า จากผู้หญิงคนนึงที่แอบชอบคนนู้นคนนี้ ก็ไม่เคยจะสมหวัง กลับมีหวังขึ้น
เย็นของวันนั้น หลังจากโรงเรียนเลิก เพื่อนๆก็เตรียมเซอไพรซ์ให้ พอจบ ทุกคนก็กำลังเก็บของ เก็บหนังสือตรงโถงทางเดินในตึกเรียน เราเองก็กำลังลงบันไดกลับบ้านกับกลุ่มเพื่อนสนิทเรา(บางทีก็ไม่ได้กลับกับคนที่เราชอบค่ะ เพราะคลาสเรียนไม่ตรงกันทุกวัน) คนที่เราชอบเค้าก็ตะโกนชื่อเรา จากไกลๆ และดังมาก เราก็หยุดชะงัก เค้าวิ่งมาแล้วกอดเราแน่นมาก!!!!!





เพื่อนๆเกือบทั้งโรงเรียนหยุดชะงัก และงงมากว่าเกิดไรขึ้น บอกเลยตอนนั้นเป็นวินาทีที่ สมองว่างมาก คือ... ช็อคและอึ้ง และประหลาดใจลึกๆ หัวใจนี่แทบหลุดออกมาจากอก
ตอนที่เค้ากอดเราอยู่ เราก็กระซิบเค้าว่า ค่ยคุยกันตอนเย็นก็ได้ เดี๋ยวค่อยออกมาเจอกันใหม่หน้าบ้านนะ
พอแยกย้ายกันกลับบ้าน พร้อมทิ้งข้อสงสัยให้เพื่อนหลายๆคนในโรงเรียนว่า เราสองคนไปสนิทกันมาจากไหน ทำไมถึงต้องกอดลาขนาดนี้ และเล่นใหญ่เวอร์วังมาก เพราะปกติ เราไม่คุยกับคนที่เราชอบที่โรงเรียนเลยยยยยยย
... เย็นวันนั้น เค้าออกมาตามสัญญาค่ะ คืนสุดท้ายก่นเราบินกลับไทย อากาศหนาวๆ หิมะเพิ่งตกเสร็จ เรามานัดเจอที่หน้าบ้านค่ะ พอเจอหน้าเค้าก็เขินตัวบิด หัวเลยไปโดนพุ่มไม้ หิมะก็ตกใส่หัวเต็มไปหมด เราก็ขำกลบเกลื่อนความโก๊ะของเรา และแล้วคนที่เราชอบก็เอามือของเค้ามาปัดหิมะบนหัวของเราให้ โหหหหหห... ซีนนั้นยังติดตาอยู่เลยค่ะ






............. ด้วยบรรยกาศเป็นใจ เราก็กลัวเคา้จะนอนดึกด้วย เพราะวันพรุ่งนี้เค้ามีสอบ เราเลยบอกความในใจของเราไป... ว่า... เราชอบเค้า ชอบมาก มีความสุขมากที่ได้คุยกับเค้า ขอบใจที่คอยปลอบใจเวลาเศร้า หรือไม่ว่าจะคอยให้กำลังใจตลอด............
เท่านั้นแหละค่ะ เค้าก็กอดเรา แล้วก็ บอกว่า ชอบเราเหมือนกัน... นางแอบเขินด้วย แล้วบอกกับเราว่า
"ตอนนี้ผมรู้สึกตัวเหมือนเหมือนหิมะหน้าหนาว ที่โดนแสงแดดยามหน้าร้อนเลย" (ผมละลายยยยยยย)
มันเป็นคืนนึงที่น่าจดจำนะ ที่อย่างน้อยคนคนนึงที่เราเชื่อใจ ไม่ต้องรู้ว่าเป็นในสถานะอะไร เพื่อน หรืออะไรก็ตาม เค้าก็ชอบที่เราเป็นเราเหมือนกัน...
นั่นแหละค่ะ พอเรากลับมาไทย... สองเดือนถัดมา เพื่อนสนิทลงทุนโทรมารายงานจากห้องเรียนว่า คนที่เราชอบ กับเพื่อนในห้องคนนึงคบเป็นแฟนกันแล้ว... ค่ะ



พอดีเรามาแลกเปลี่ยน แล้วบังเอิญว่าคนที่เราชอบ บ้านใกล้กัน เวลาอยู่ที่โรงเรียนก็ไม่ค่อยได้คุยกันหรอก เพราะเวลาเราคุยกับเค้า เราสองคนก็เขินใส่กัน จะคุยกันแบบเยอะๆเวลาอยู่ด้วยกันแค่สองคนเท่านั้น ก็มีตอนรั่งรถเมล์กลับบ้าน กับเดินกลับบ้านด้วยกัน แล้วก็ดึกๆก็จะส่งข้อความหากันทุกคืน
แล้วช่วง เดือนนึงก่อนกลับ เค้าก็ส่งข้อความหวานๆมาให้ เช่น
"Ich mag dich sehr! Bleib so wie du bist 😜" (แปลว่า ฉันชอบเธอมาก Be yourself นะ)
นอกจากนี้ยังมีชวนไปคอนเสิร์ตด้วยกัน (แต่เราเทเค้า เพราะเราติดธุระจริงๆ T_T)
บางทีก็เดินมาส่งที่บ้าน ทั้งๆที่บ้านเค้าเดินถึงก่อนบ้านเรา
แล้ววันก่อนกลับ เป็นวันที่ทำให้เราแน่ใจว่า เราจะต้องบอกความรู้สึกออกไป เค้าส่งข้อความนี้มาหา
"I'm not planing to lose you... Idc if there are 1 m between us or 1000000 km
มีอีกๆ
"ich hoffe du weisst, wie sehr ich dich mag, auch wenn ich es nicht immer zeigen kann" (แปลว่า ฉันหวังว่าเธอคงจะรู้นะ ว่าชั้นชอบเธอมากแค่ไหน ถึงแม้ฉันจะไม่สามารถแสดงมันออกมาได้ตลอดเวลา) ข้อความนี้แหละค่ะ ที่ทำให้เรารู้สึกว่า จากผู้หญิงคนนึงที่แอบชอบคนนู้นคนนี้ ก็ไม่เคยจะสมหวัง กลับมีหวังขึ้น
เย็นของวันนั้น หลังจากโรงเรียนเลิก เพื่อนๆก็เตรียมเซอไพรซ์ให้ พอจบ ทุกคนก็กำลังเก็บของ เก็บหนังสือตรงโถงทางเดินในตึกเรียน เราเองก็กำลังลงบันไดกลับบ้านกับกลุ่มเพื่อนสนิทเรา(บางทีก็ไม่ได้กลับกับคนที่เราชอบค่ะ เพราะคลาสเรียนไม่ตรงกันทุกวัน) คนที่เราชอบเค้าก็ตะโกนชื่อเรา จากไกลๆ และดังมาก เราก็หยุดชะงัก เค้าวิ่งมาแล้วกอดเราแน่นมาก!!!!!
ตอนที่เค้ากอดเราอยู่ เราก็กระซิบเค้าว่า ค่ยคุยกันตอนเย็นก็ได้ เดี๋ยวค่อยออกมาเจอกันใหม่หน้าบ้านนะ
พอแยกย้ายกันกลับบ้าน พร้อมทิ้งข้อสงสัยให้เพื่อนหลายๆคนในโรงเรียนว่า เราสองคนไปสนิทกันมาจากไหน ทำไมถึงต้องกอดลาขนาดนี้ และเล่นใหญ่เวอร์วังมาก เพราะปกติ เราไม่คุยกับคนที่เราชอบที่โรงเรียนเลยยยยยยย
... เย็นวันนั้น เค้าออกมาตามสัญญาค่ะ คืนสุดท้ายก่นเราบินกลับไทย อากาศหนาวๆ หิมะเพิ่งตกเสร็จ เรามานัดเจอที่หน้าบ้านค่ะ พอเจอหน้าเค้าก็เขินตัวบิด หัวเลยไปโดนพุ่มไม้ หิมะก็ตกใส่หัวเต็มไปหมด เราก็ขำกลบเกลื่อนความโก๊ะของเรา และแล้วคนที่เราชอบก็เอามือของเค้ามาปัดหิมะบนหัวของเราให้ โหหหหหห... ซีนนั้นยังติดตาอยู่เลยค่ะ
............. ด้วยบรรยกาศเป็นใจ เราก็กลัวเคา้จะนอนดึกด้วย เพราะวันพรุ่งนี้เค้ามีสอบ เราเลยบอกความในใจของเราไป... ว่า... เราชอบเค้า ชอบมาก มีความสุขมากที่ได้คุยกับเค้า ขอบใจที่คอยปลอบใจเวลาเศร้า หรือไม่ว่าจะคอยให้กำลังใจตลอด............
เท่านั้นแหละค่ะ เค้าก็กอดเรา แล้วก็ บอกว่า ชอบเราเหมือนกัน... นางแอบเขินด้วย แล้วบอกกับเราว่า
"ตอนนี้ผมรู้สึกตัวเหมือนเหมือนหิมะหน้าหนาว ที่โดนแสงแดดยามหน้าร้อนเลย" (ผมละลายยยยยยย)
มันเป็นคืนนึงที่น่าจดจำนะ ที่อย่างน้อยคนคนนึงที่เราเชื่อใจ ไม่ต้องรู้ว่าเป็นในสถานะอะไร เพื่อน หรืออะไรก็ตาม เค้าก็ชอบที่เราเป็นเราเหมือนกัน...
นั่นแหละค่ะ พอเรากลับมาไทย... สองเดือนถัดมา เพื่อนสนิทลงทุนโทรมารายงานจากห้องเรียนว่า คนที่เราชอบ กับเพื่อนในห้องคนนึงคบเป็นแฟนกันแล้ว... ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
สงสัยค่ะ ถ้าบอกฝรั่งว่า "ฉันชอบเธอ" เขาจะคิดว่าเราชอบแบบไหนคะ เพื่อน หรือ แฟน?
ตอนแรกก็ลังเลค่ะว่าจะบอก รัก หรือ ชอบ ดี เพราะ ถ้าบอกรักไปเลยก็จะดูออกตัวเยอะไปหน่อย เพราะจะกลับไทยแล้ว ก็เลยไม่อยากจะผูกใครไว้แน่ๆ ใช้คำว่า รัก เอาไว้กันโอกาส ทั้งตัวเอง และตัวเค้าเอง แต่การลังเลนี้มันก็มีสาเหตุนะคะว่าทำไม...
ขอบคุณค่ะ
ขออนุญาตเขียนที่มาที่ไปในคอมเนต์นะคะ