[CR] แบกเป้..ไปเอราวัณ Backpack Trip 3วัน 2คืน @Kanchanaburi

การเดินทางครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของสมาชิกที่ลงทะเบียนเรียนวิชาท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านฝั่งธน
ให้นักศึกษาออกเดินทางเพื่อหาประสบการณ์โดยที่สมาชิกทั้ง 7 คนไม่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันมาก่อน
แล้วมันจะเป็นยังง่ะ!! จะหนุกม่ะ!! โปรดติดตามกันค้าบบบ



เริ่มจัดทริปกันเลยยย…
วันแรก 8 เมษายน 60 :
- นัดรวมพลกันที่ป้ายรถเมล์หน้ามหาวิทยาลัย โบกแท็กซี่กันไปที่สถานีรถไฟธนบุรี บอกเลยช่วงเวลาเที่ยงๆบ่ายๆนี่ ทั้งร้อน ทั้งรถติดสุดๆๆ
- ถึงแล้วจ้า… สถานีรถไฟธนบุรี เป็นสถานีเล็กๆ ไปถึงก็รีบไปซื้อตั๋วก่อนเลย รถไฟที่เราจะนั่งไปกาญจน์เป็นชั้นธรรมดา ขบวน 259 เวลา 13.55น. ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ถือเป็นการประหยัดงบประมาณ รถไฟจะถึงสถานีปลายทางคือ สถานีรถไฟสะพานข้ามแม่น้ำแคว เวลาประมาณ 16.40 น. แอบบอกหน่อยว่า รถไฟที่จะไปกาญจนบุรีมี 2 รอบคือ 7.45น. และ 13.55น. ถ้าคนที่มีเวลาเที่ยวน้อยแนะนำให้ไปรอบเช้าดีกว่า อีกอย่างนั่งรถไฟตอนบ่ายไม่สนุกเลยนะ very hot สุดๆ

- รถไฟเริ่มเคลื่อนขบวนออกไปแล้ว คิดในใจ ลาแล้วกรุงเทพ หนีไปเที่ยวกาญจน์ดีกว่า… ช่วงแรกๆก้อตื่นเต้น เพื่อนบางคนเพิ่งเคยนั่งรถไฟครั้งแรกถ่ายรูป เซลฟี่กันใหญ่ สักพักมีนายตั๋วมาตรวจตั๋ว 555 หลังจากนั้นทุกคนก็หลับบบบจ้า

- หลับไปหนึ่งตื่น ตื่นมาก็หิว Signature ของรถไฟอย่างหนึ่งที่ถ้าใครไม่ได้ลองถือว่าพลาดมาก คือ อาหารต่างๆนานาที่พลัดกันเดินขายไปมา ของอร่อยและเด็ดจริงจัง คือ ไก่ทอดกรอบนอกนุ่มในน่องโต๊โต กับข้าวเหนียวร้อนๆ ฟินจิงๆ ของกินเล่นอย่างสาคูไส้หมูก็มาจ้า ข้าวราดแกงใส่กระทง เชื่อมั้ยกระทงละ 10 บาทเองอ่ะ แถมยังอร่อยมากด้วยนะ

- เรามีภาพบรรยายกาศบนรถไฟ และวิวตลอดเส้นทางที่พวกเรานั่งผ่านมาฝากด้วยนะ ได้ฟิลลิ่งเบาๆ

- ทนแดด ทนร้อน ในที่สุดเราก็ถึงแล้วนะจ๊ะ กาญจนบุรี เราลงสถานีสะพานข้ามแม่น้ำแคว เพราะสะดวกในการเดินทางเข้าที่พัก
อากาศที่นี่ร้อนสมคำร่ำลือจริงๆว่ากาญจนบุรีร้อนที่สุดในประเทศไทย 555 เราตัดสินใจแบกเป้เดินเท้าเข้าไปยังที่พักที่เราได้จองไว้

- ที่พักคืนแรกที่เราจะพักกันคือ “ Warm Well Hostel ” จำนวน 2 ห้อง ราคารวม 1,842 บาท ได้ราคาที่ถูกเพราะเราจองผ่านเว็บของ AGODA จะบอกว่าที่พักเดินทางมาง่ายมากๆ อยู่บนถนนแม่น้ำแคว 16 ซอยมาเลเซีย ห้องใหม่ ตกแต่งสวย สะอาด และบรรยากาศดี พี่ที่ดูแลที่นี่ก็น่ารัก แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว และบริการต่างๆให้ด้วย เรามาดูที่พักคืนนี้ของเราดีกว่า…

- มีจักรยาน และมอเตอร์ไซต์ให้เช่าขี่ด้วยแหละ จักรยาน 40 บาท มอเตอร์ไซต์ 120 บาท เช่าได้ 24 ชม.

- ช่างกำลังวาดจิตรกรรมฝาผนังอยู่เลยอ่ะ ใหม่มากจริงๆ

- ห้องพักแบบ Family Room นอนได้ 4 คน เครื่องอำนวยความสะดวกที่มีให้ คือ ทีวี ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น
ไดร์เป่าผม และwifi แรงเฟ่อออ


- ห้องพักแบบ Triple Room นอนได้ 3 คน เครื่องอำนวยความสะดวกที่มีให้ คือ ทีวี ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น
ไดร์เป่าผม และwifi ห้องอาจจะเล็กกว่า Family นิดหน่อย แต่สำหรับ 3 คนก็โอมากเลยย

- หลังจากพักผ่อนตามอัธยาศัยกันสักพัก นึกขึ้นได้ว่าพระอาทิตย์ใกล้ตกดินแว้ววว ออกไปเดินเล่นถ่ายรูปที่สะพานข้ามแม่น้ำแควดีกว่า
อีกอย่างท้องเริ่มเรียกร้องอาหารแล้วว

- สิ่งที่ทำให้พวกเราสะดุดตาและรีบเข้าไปดูคือ แถวนี้มีร้านขายเพชร พลอย กำไลหินสีเยอะมากๆ ถูกใจสาวๆอย่างแน่นอน ซื้อกันไปคนละอันสองอัน

- ช่วงเย็นๆมีคนมาเดินเล่นที่สะพานเยอะมาก อากาศดี ลมพัดเย็นสบาย มีร้านค้าขายของให้ซื้อมากมาย ในแม่น้ำจะมีแพล่องไปมาให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่ชอบพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ร้านอาหารที่เป็นแพลอยน้ำน่านั่งมาก เสียดายที่พวกเราไม่ได้เข้าไปลองชิมกัน ฮือออ

- อาหารมื้อแรกที่กาญจน์ ที่ร้านบ้านสวนบัว ขายอาหารหลากหลายทั้งคาวและหวาน มีเป็นอาหารจานเดียว เช่น สเต็ก ข้าวผัด
ของหวานก็เป็นพวกไอติม เค้ก น้ำปั่น เป็นต้น และเมนูที่เป็นสั่งเป็นกับข้าวด้วย รสชาติก็โอเคนะ แต่ปริมาณน้อย ราคาก็แพงอยู่
นี่ไงที่เรากินวันนี้

- และนี่คือภาพหลักฐานของความหิวโหยขั้นสุด สงสัยจะเหนื่อยจริง ใช้พลังงานมากไปหน่อย
ทุกอย่างหมดเกลี้ยงหายวับไปกับตา 55555

- กินอาหารเสร็จก็สัก2ทุ่มได้เราเดินหา 7-11 กันนานมาก อย่างไกล ขาไปเดินไปเรื่อยๆ ขากลับเหมารถมอเตอร์ไซต์พ่วงกลับจ้า เหมา 2 คัน 100 บาท
- คืนนี้พักผ่อนกันให้เต็มที่ พรุ่งนี้เราพร้อมลุยกันต่อจ้า

เช้าวันที่สอง ตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้น
- เดินออกจากที่พักฟ้ายังมืดอยู่เลยง่ะ ง่วงก็ง่วง แต่พอถึงสะพานข้ามแม่น้ำแควเห็นพระอาทิตย์ที่กำลังจะขึ้น ท้องฟ้าสีแดงแล้วก็คุ้มค่าสำหรับการตื่นเช้าในครั้งนี้ วิวสวยมาก มีนักท่องเที่ยวมาตั้งกล้องถ่ายรูปเพียบ รวมถึงพวกเราด้วยยึดทางรถไฟกันเลยทีเดียว

- คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มเมื่อมีคนบอกว่ารถไฟกำลังจะวิ่งมา เรากำลังยืนอยู่บนสะพาน รถไฟจะวิ่งผ่านหน้าเราแบบใกล้มากๆๆ มาครั้งนี้ไม่เสียเที่ยวแล้วว

- หิวแล้ว หิวแล้ว หาอาหารเช้ากินดีกว่า โอวัลตินร้อน กับข้าวเหนียวหมูปิ้ง นี่มันสวรรค์ของคนตื่นเช้าจริงๆ น่ากินป่ะล่ะ
ยังไม่พอแค่นั้นกลับไปจัดขนมปังที่ที่พักมีไว้บริการอีก ตุนไว้เผื่อเที่ยวอีกหลายที่ 55

- สายแว้วว เก็บกระเป๋า เช็คเอาต์ รีบออกไปเที่ยวกันเถอะ เช้านี้เราจะไปเที่ยวกันที่พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2
พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 นี้ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2538 โดยคุณอรัญ จันทร์ศิริ ที่เป็นผู้รวบรวมเรื่องราว และสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ในสมัยสงคราม เพื่อจัดแสดงให้เห็นสิ่งที่หลงเหลือไว้ โดยจัดแสดงเป็นหอศิลป์ และพิพิธภัณฑ์สงคราม ด้านนอกอาคาร จะได้เห็นซากรถจักรไอน้ำ ส่วนด้านในมีภาพถ่ายทางประวัติศาสตร์สงคราม อาวุธ และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ

นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงประวัติศาสตร์ชาติไทย ตั้งแต่สงครามระหว่างไทยกับพม่า มีของสะสมต่างๆ เช่นดาบ ลูกระเบิด เงินโบราณ ยานพาหนะของชาวญี่ปุ่นที่ใช้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เช่นรถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ เรือ และหุ่นจำลองสามมิติ แสดงภาพเหตุการณ์เมื่อครั้งเชลยศึกถูกเกณฑ์ไปสร้างทางรถไฟ รวมถึงความเป็นอยู่ของเชลยศึก และจุดแรกของการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่ทำด้วยไม้ ก่อนที่จะย้ายไปยังที่ปัจจุบัน

การเดินทางไปพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2
อยู่เยื้องกับที่จอดรถบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว ตรงข้ามตลาดพลอยและของที่ระลึก ห่างจากจากสะพานข้ามแม่น้ำแควประมาณ 200 เมตร
- เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 7.00 - 18.30 น.
- ค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างประเทศ 40 บาท
ชื่อสินค้า:   กาญจนบุรี - พิพิธภัณฑ์พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่2 - สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก - สะพานข้ามแม่น้ำแคว - - พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด - เขื่อนศรีนครินทร์ - น้ำตกเอราวัณ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่