สวัสดีค่ะ และแล้วก็ได้เวลารีวิวกับเค้าบ้าง อยากจะรีวิว เพราะว่ามีคนมาถามเยอะด้วย ทั้งที่พัก และการเดินทาง ทุกอย่างมีจุดเริ่มต้นของมันค่ะ..
เราเดินทางด้วยสายการบิน เวียดนามแอร์ไลน์ มีการพักค่อนข้างหลายชั่วโมง และเนื่องจากเป็นการเดินทางครั้งแรกมันก็ต้องมีผิดพลาดกันบ้าง หลงกันบ้าง ไปค่ะ ไปต่อ..
ขาไปเราไปรอต่อเครื่องที่โฮจิมินท์ ค่ะ เป็นเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง เครื่องออกอีกที 6 โมงเช้าพอออกมาแล้วขึ้นไปประมาณชั้น food curt ค่ะมีที่นั่งรอและคนไม่พลุกพล่านเท่าไหร่ หรือว่าเพราะไปถึงประมาณ สามทุ่มอันนี้ก็ไม่รู้เพราะจากไทยไปเวียดนามประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ รอไปค่ะ นอนค่ะนอน อยากนอนสนามบินนานละ อยากรู้ว่ารู้สึกยังไง ....มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ไม่เหงาเลย มีคนมาพูดให้ฟังตลอด ระวังด้วยนะคะ ไม่ได้ปลอดภัยไปทุกที่หรอกค่ะ ^^
เดินทางต่อค่ะ ได้ทานแล้ว มื้อเช้า >< เนื่องจากขออาหารเป็น ซีฟู้ดไป เลยจะได้ก่อนอาหารปกติค่ะ แหะแหะ


คนอื่นก็มองไปสิ ... อาหารรสชาติไม่แย่นะคะ แต่ก็ไม่อร่อยเว่อ กินได้ค่ะ รสชาติเซฟๆ
ถึงแล้วววว นาริตะ ประเทศ ญี่ปุ่น ได้มาเยือนแดนอาทิตย์อุทัยแล้ววว ><

ไปค่ะ จัดการตัวเองให้เรียบร้อย เพราะข้างนอกน่าจะหนาวแน่นอน ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ หาทางลงไปซื้อตั๋วรถไฟเข้าเมืองค่ะ
เราซื้อตัวของ Keisei Limited Express + Metro Pass 72 HR. คือตั๋วรถเข้าเมือง + รถไฟในโตเกียวประมาณ 3 วัน แต่นับเป็น ชั่วโมงนะคะ ราคา 5,400 เยนค่ะ ประมาณ 1,700 บาท (ค่าเงินตอนนั้น)

*ยืมรูปจากเน็ตค่ะ
สุดสายที่สถานี UENO STATION (G16) ค่ะ ต่อไปที่สาย GINZA LINE เพื่อจะไปที่พักแรก เราจะไปที่ BUNKA HOSTEL TOKYO >> TAWARAMACHI STATION (G18) อยู่ย่านไทโต อาซากุสะ ประมาณนั้น ขาออกขนกระเป๋ามาเยอะ หาทางที่มีลิฟขึ้นนะคะ ที่นี่มีทางขึ้นแบบบันได และลิฟค่ะ แล้วค่อยไปหาทางออกเอา
แถวที่พักของกินเยอะค่ะ ส่วนใหญ่เป็นข้าวหน้าหมู หน้าเนื้อ ราเม็ง เปิดถึงดึกค่ะ บางร้าน ตีสาม ตีสี่ บางร้าน 24 ชม. ตรงข้ามที่พักมี ร้าน แมคโดนัลค่ะ ถ้าอยากกินนะ เดินออกไปอีกหน่อย ก็จะมี FAMILY MART ค่ะ ถ้าอยู่แถวนั้นนานๆ ก็ไม่อดหรอกค่ะ ^^

เราไปทัวร์ ชินจูกุกันเล้ยยย


โอ้โหหหห เดินแบบ ไม่รู้ทิศรู้ทางเลยจ้า หิวสิจ๊ะ มื๊อแรกอดใจมานานเจอหน่อยแล้วกัน ซูชิวนไปจ้า

เดินวนไป วน BIG CAMERA วน ABC MART วนๆๆๆ วนจนไปเจอสตรอเบอร์รี่ลูกใหญ่ อร่อยยยยย หวานนนนน ฉ่ำค้า แต่ระวังอย่าเคยชินถือเดินกินนะจ๊ะ ยืนกินหน้าร้านเลยค่ะ อิอิ
หมดค่ำคืนแรก เดินเก็บความเย็นในชุ่มฉ่ำ พรุ่งนี้เดินทางแต่เช้า ไป KAWAGUCHIKO กันนนนน ><
6.00 ตื่นสายกัน check out จาก ที่พัก แล้วจัดการฝากสัมภาระใบใหญ่ไว้ก่อน เดี๋ยวกลับมาเอานะจ๊ะ
สำหรับประสบการณ์ตื่นสายในครั้งนี้ทำให้ต้องจนไปอีกวัน เพราะเราจะใช้บริการ แท็กซี่ญี่ปุ่นกันจ้า
ชอบมากเลย ประตูเปิดรับอัตโนมัติ พนักงานขับรถ พยายามสื่อสารกับเราดี ขึ้นรถปุ๊ปเราก็ยื่นสถานที่ที่เราจะไปเลยจ้า ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แต่หมดไปประมาณ พันกว่าบาทไทย... T T

ดีมากๆ เลยค่ะ แทกซี่มาจอดให้เราที่ชั้น 3 ของอาคารที่เราต้องขึ้นรถ ลงแท็กซี่แล้วก็ขึ้นไปที่ชั้น 4 กัน ค่ะ

(ภาพจากเน็ตค่ะ เวลานั้นรีบมาก)
สำหรับตั๋วไป คาวากุชิโกะเราจองออนไลน์มาจากทางเว็บ เราเลยเอาแค่เอกสารใบจองยื่นให้เจ้าหน้าที่เพื่อออกตั๋วจริงขึ้นรถ ไม่ต้องรอคิวซื้อตั๋ว ซึ่งอาจจะไม่มีที่ว่างก็ได้
นี่ไง ได้มาแล้ว เที่ยวละ 1750 เยน ประมาณ 560บาท ไป-กลับ 1120 บาทไทย ไม่มีส่วนลดจ้า

เนื่องจากตื่นเช้าและรีบ ที่สถานี มี FAMILY MART ค่ะ จัดเสบียงซะหน่อย ทานบนรถเลยจ้า


ทานอิ่มแล้วก็หลับไปประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงสถานี KAWAGUCHIKO STATION ก่อนถึงก็จะถึง สวนสนุก Fuji-Q Highland ก่อนนะจ๊ะ
เราไปลงสุดสาย ดังนั้นไม่ต้องกังวลจ้า
ถึงแล้ว ขึ้นรถRetro Bus (RED LINE) ไปที่พักกันค่ะ

เราพักที่ K’S HOUSE BACKPACKER KAWAGUCHIKO
จริง.....ตอนนั้นเราหลงนิดหน่อย ประมาณ ครึ่งชั่วโมง (นิดไปมากกกกกกก) เดินหลงเป็น กิโล ไป K’S HOUSE FUJI VIEW ดีมากที่สตาฟที่นั่นกำลังจะไปที่ ที่เราพัก ก็เลยได้นั่งรถกลับ เพราะขาลากมากกก
ปรากฏว่าที่พักที่เราต้องพักนั้น.....เป็นสี่แยกที่เราเดินผ่านไป .... 555555555555
และที่คือบรรยากาศที่หลงไป
.
.
.

(วิวจาก K's House Fuji view ค่ะ )

พักจ้า เติมพลังด้วยราเม็ง ที่ Station 3 แล้วไปเริ่มต้นที่ Station 22 กันเลยยย อยากเจอฟูจิซังเต็มๆตาจะแย่แล้ววว ><
ไปลุย รอบทะเลสาบกันเล้ยยย ^^//
เรารอ Retro bus ที่หน้าร้าน ราเม็งค่ะ เนื่องจากหน้าร้านเป็นป้าย Station 3 พอดี แล้วเราก็ไปเริ่มที่ Station 22 ค่ะ (เราขึ้น RED LINE ค่ะ)
(หน้าร้านราเม็ง ฝั่งตรงข้ามมี 7-11 นะค้าา)
เนื่องจากเวลาที่เราไปก็ประมาณ เกือบเที่ยงแล้วจึงได้ภาพภูเขาไฟฟูจิแบบย้อนแสงมาค่ะ แต่ได้เห็นความอลังการ แค่นี้ก็รู้สึกดีแล้วค่ะ อากาศประมาณ 5-6 องศาค่ะ กำลังดี แต่แสงแดดแรงแยงตามาก พกแว่นกันแดดไปด้วยนะคะ ^^
จิบลาเต้อุ่นๆ กับวิวฟูจิ และอากาศเย็นๆ ฟินมากๆค่า
เราย้อนกลับมาค่ะ มาที่ Station 19 น่าจะเป็น Art Museum อะไรสักอย่างค่ะ เป็นคาเฟ่ ถ่ายรูปสวยๆค่ะ จริงๆ อากาศดี อะไรก็ดีไปหมดจริงๆ ค่ะ แหะแหะ อ้อ ได้รูปที่มีแบคกราวน์เป็นฟูจิด้วยนะคะ ดีไปอีกกกกก

ไปค่ะ กลับที่พักกัน เพราะว่าหนาวมากแล้ว มือแข็งแล้ว อีกอย่างเดี๋ยวรถหมด เราอยู่ตรงนั้นจนถึงประมาณ บ่าย2 ได้เวลา Check in ที่พักค่ะ อ้อ ฝากกระเป๋าไว้แล้ว ไปห้องเรากันดีกว่า กลับไปที่ Station 4 OGI ค่ะ เราพัก K’s House ค่ะ ห้องแบบเรียวกัง บริการดี พนักงานพูดภาษาอังกฤษ โอเคเลยค่ะ แล้วยังมีสตาร์ฟประมาณนักเรียนแลกเปลี่ยนด้วยค่ะ เพื่อนต่างชาติเยอะทีเดียว
>> รีวิว ที่พัก K’s House Backpacker Kawaguchiko <<
เรานอนพักแปปเดียวก็มืดแล้วค่ะ ยังไม่ได้ทานข้าวเลย ต้องไปจัดสิคะ เฮ่..
เราเดินย้อนไป Station 3 แต่ฝั่งตรงข้ามกับร้านราเม็งเมื่อตอนเที่ยง เป็นร้านที่มีหลากหลายเมนูค่ะ ข้าว ราเม็ง เบอร์เกอร์ ขนมหวาน น้ำ นู่น นี่ นั่น เยอะแยะค่ะ
หนาวมาก อยากกินอะไรร้อนๆ แต่พอมาเสิร์ฟ ความร้อนก็หายไปแล้ว อิอิ

เราทานเบอร์เกอร์ค่ะ มีเคียงข้าวเหมือนข้าวปิ้ง คล้ายๆ ข้าวจี่บ้านเราเลยค่ะ แต่ข้าวร่วน ไม่เกาะ กันค่ะ ข้าวจี่น่าจะอร่อยกว่า ยังไม่เคยชิมข้าวจี่เหมือนกันค่ะ แหะ แหะ ตบด้วยพุดดิ้งฟรุ้ตตี้เบาๆ ค่ะ อิ่มหนำสำราญญ ...
อย่าคิดว่าจะกลับค่ะ ข้างๆร้าน มีเซเว่น แวะซะหน่อย หาอาหารเช้าไว้ทาน
Good Morning เช้าวันนี้ต้องกลับจากคาวากุชิโกะแล้วค่า...


ขามายังไง ขากลับก็อย่างนั้นค่า ..
ตอนซื้อมีตั๋วขากลับมาด้วย มารอรถ Bus stop3 สำหรับไป Shinjuku เลยค่ะ

ชอบรถที่มีปลั๊กชาร์จแบต ไม่เปลือง Power Bank ค่ะ อิอิ
หลับๆ ตื่นๆ สักพักก็ถึงที่หมายที่เราขึ้นรถค่ะ แต่รถมาจอดที่ชั้น 3 ลงมาค่ะ ลงมา ขึ้น Subway ไปกันค่า
ไปที่พักกันเล้ยยยยยย

>> K’s House Backpacker Tokyo
Kuramae Station exit 4
>> เลี้ยวซ้าย เข้าซอย 500 เมตร ที่พักอยู่ขวามือ

>> เดินเลยที่พักไป 100-200 เมตร เซเว่น ซ้ายมือค่ะ สะดวกมาก หรือจะก่อนเข้าซอยที่พัก ข้ามถนนไป มี Lawson ค่ะ ขนมแปลกๆเยอะมาก อร่อยด้วย
>>
ที่พักมีลิฟต์แล้วนะคะ
***แนะนำเลย ราคาถูก สะดวก สะอาด***
วันเที่ยววันสุดท้าย
>>
วัดเซ็นโซจิ อาซากุสะ (เดินจากที่พักประมาณ 1 กม.)

แต่งสีก็ให้ความรู้สึกต่าง อิอิ
ข้ามถนนไปอีกนิดเดียว จะถึงแล้ว เย้เย้
เดินไปชมวิว ตึกอาซาฮี และโตเกียวสกายทรี
ไปต่อที่ศาลเจ้าเมจิ ที่ชิบูย่า ** เดินทาง Tokyo subway ประมาณ 30-40 นาที >> ขึ้นสถานีกลับหลังหัน ข้ามสะพานหิน เดินเข้าไปเรื่อยๆ ตามคนเข้าไปเลยค่ะ ถึงแน่นอน เดินสักพักนะคะ แต่ว่าเดินได้เรื่อยๆ เลยค่ะ อากาศดี แต่พื้นเป็นหิน และดินร่วน มีความฟุ้งๆ เวลาคนเดิน ก็สวมแมสด้วยก็ดีค่ะ
ชอปปิ้งเร็วๆ ที่ชิบูย่า >>ร้านแนะนำแบบเร็วๆ
ไปต่อที่ชินจูกุ ที่เดิม (ยังคงหลงต่อเนื่อง)
ไปต่อที่ชินจูกุ ที่เดิม (ยังคงหลงต่อเนื่อง)
เช้าวันสุดท้าย เก็บของออกจากที่พัก ประมาณ 6 โมงเช้าค่ะ หนาวดี ขนกระเป๋าจากที่พัก ออกจากซอย ข้ามถนน ไปลง Subway ฝั่งตรงข้ามค่ะ เพราะว่ามี ลิฟต์ >> ไปลงสถานี UENO STATION เพื่อต่อรถ KEISE
[CR] รีวิว ญี่ปุ่น ง๊ายงาย ไม่ใช่แค่นิยาม !! (ดาร์ฟเดี๋ยวมาแปะรูป)
เราเดินทางด้วยสายการบิน เวียดนามแอร์ไลน์ มีการพักค่อนข้างหลายชั่วโมง และเนื่องจากเป็นการเดินทางครั้งแรกมันก็ต้องมีผิดพลาดกันบ้าง หลงกันบ้าง ไปค่ะ ไปต่อ..
ขาไปเราไปรอต่อเครื่องที่โฮจิมินท์ ค่ะ เป็นเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง เครื่องออกอีกที 6 โมงเช้าพอออกมาแล้วขึ้นไปประมาณชั้น food curt ค่ะมีที่นั่งรอและคนไม่พลุกพล่านเท่าไหร่ หรือว่าเพราะไปถึงประมาณ สามทุ่มอันนี้ก็ไม่รู้เพราะจากไทยไปเวียดนามประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ รอไปค่ะ นอนค่ะนอน อยากนอนสนามบินนานละ อยากรู้ว่ารู้สึกยังไง ....มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ไม่เหงาเลย มีคนมาพูดให้ฟังตลอด ระวังด้วยนะคะ ไม่ได้ปลอดภัยไปทุกที่หรอกค่ะ ^^
เดินทางต่อค่ะ ได้ทานแล้ว มื้อเช้า >< เนื่องจากขออาหารเป็น ซีฟู้ดไป เลยจะได้ก่อนอาหารปกติค่ะ แหะแหะ
คนอื่นก็มองไปสิ ... อาหารรสชาติไม่แย่นะคะ แต่ก็ไม่อร่อยเว่อ กินได้ค่ะ รสชาติเซฟๆ
ถึงแล้วววว นาริตะ ประเทศ ญี่ปุ่น ได้มาเยือนแดนอาทิตย์อุทัยแล้ววว ><
ไปค่ะ จัดการตัวเองให้เรียบร้อย เพราะข้างนอกน่าจะหนาวแน่นอน ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ หาทางลงไปซื้อตั๋วรถไฟเข้าเมืองค่ะ
เราซื้อตัวของ Keisei Limited Express + Metro Pass 72 HR. คือตั๋วรถเข้าเมือง + รถไฟในโตเกียวประมาณ 3 วัน แต่นับเป็น ชั่วโมงนะคะ ราคา 5,400 เยนค่ะ ประมาณ 1,700 บาท (ค่าเงินตอนนั้น)
*ยืมรูปจากเน็ตค่ะ
สุดสายที่สถานี UENO STATION (G16) ค่ะ ต่อไปที่สาย GINZA LINE เพื่อจะไปที่พักแรก เราจะไปที่ BUNKA HOSTEL TOKYO >> TAWARAMACHI STATION (G18) อยู่ย่านไทโต อาซากุสะ ประมาณนั้น ขาออกขนกระเป๋ามาเยอะ หาทางที่มีลิฟขึ้นนะคะ ที่นี่มีทางขึ้นแบบบันได และลิฟค่ะ แล้วค่อยไปหาทางออกเอา
แถวที่พักของกินเยอะค่ะ ส่วนใหญ่เป็นข้าวหน้าหมู หน้าเนื้อ ราเม็ง เปิดถึงดึกค่ะ บางร้าน ตีสาม ตีสี่ บางร้าน 24 ชม. ตรงข้ามที่พักมี ร้าน แมคโดนัลค่ะ ถ้าอยากกินนะ เดินออกไปอีกหน่อย ก็จะมี FAMILY MART ค่ะ ถ้าอยู่แถวนั้นนานๆ ก็ไม่อดหรอกค่ะ ^^
โอ้โหหหห เดินแบบ ไม่รู้ทิศรู้ทางเลยจ้า หิวสิจ๊ะ มื๊อแรกอดใจมานานเจอหน่อยแล้วกัน ซูชิวนไปจ้า
เดินวนไป วน BIG CAMERA วน ABC MART วนๆๆๆ วนจนไปเจอสตรอเบอร์รี่ลูกใหญ่ อร่อยยยยย หวานนนนน ฉ่ำค้า แต่ระวังอย่าเคยชินถือเดินกินนะจ๊ะ ยืนกินหน้าร้านเลยค่ะ อิอิ
หมดค่ำคืนแรก เดินเก็บความเย็นในชุ่มฉ่ำ พรุ่งนี้เดินทางแต่เช้า ไป KAWAGUCHIKO กันนนนน ><
6.00 ตื่นสายกัน check out จาก ที่พัก แล้วจัดการฝากสัมภาระใบใหญ่ไว้ก่อน เดี๋ยวกลับมาเอานะจ๊ะ
สำหรับประสบการณ์ตื่นสายในครั้งนี้ทำให้ต้องจนไปอีกวัน เพราะเราจะใช้บริการ แท็กซี่ญี่ปุ่นกันจ้า
ชอบมากเลย ประตูเปิดรับอัตโนมัติ พนักงานขับรถ พยายามสื่อสารกับเราดี ขึ้นรถปุ๊ปเราก็ยื่นสถานที่ที่เราจะไปเลยจ้า ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แต่หมดไปประมาณ พันกว่าบาทไทย... T T
ดีมากๆ เลยค่ะ แทกซี่มาจอดให้เราที่ชั้น 3 ของอาคารที่เราต้องขึ้นรถ ลงแท็กซี่แล้วก็ขึ้นไปที่ชั้น 4 กัน ค่ะ
(ภาพจากเน็ตค่ะ เวลานั้นรีบมาก)
สำหรับตั๋วไป คาวากุชิโกะเราจองออนไลน์มาจากทางเว็บ เราเลยเอาแค่เอกสารใบจองยื่นให้เจ้าหน้าที่เพื่อออกตั๋วจริงขึ้นรถ ไม่ต้องรอคิวซื้อตั๋ว ซึ่งอาจจะไม่มีที่ว่างก็ได้
นี่ไง ได้มาแล้ว เที่ยวละ 1750 เยน ประมาณ 560บาท ไป-กลับ 1120 บาทไทย ไม่มีส่วนลดจ้า
เนื่องจากตื่นเช้าและรีบ ที่สถานี มี FAMILY MART ค่ะ จัดเสบียงซะหน่อย ทานบนรถเลยจ้า
ทานอิ่มแล้วก็หลับไปประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงสถานี KAWAGUCHIKO STATION ก่อนถึงก็จะถึง สวนสนุก Fuji-Q Highland ก่อนนะจ๊ะ
เราไปลงสุดสาย ดังนั้นไม่ต้องกังวลจ้า
ถึงแล้ว ขึ้นรถRetro Bus (RED LINE) ไปที่พักกันค่ะ
เราพักที่ K’S HOUSE BACKPACKER KAWAGUCHIKO
จริง.....ตอนนั้นเราหลงนิดหน่อย ประมาณ ครึ่งชั่วโมง (นิดไปมากกกกกกก) เดินหลงเป็น กิโล ไป K’S HOUSE FUJI VIEW ดีมากที่สตาฟที่นั่นกำลังจะไปที่ ที่เราพัก ก็เลยได้นั่งรถกลับ เพราะขาลากมากกก
ปรากฏว่าที่พักที่เราต้องพักนั้น.....เป็นสี่แยกที่เราเดินผ่านไป .... 555555555555
และที่คือบรรยากาศที่หลงไป
.
.
.
(วิวจาก K's House Fuji view ค่ะ )
พักจ้า เติมพลังด้วยราเม็ง ที่ Station 3 แล้วไปเริ่มต้นที่ Station 22 กันเลยยย อยากเจอฟูจิซังเต็มๆตาจะแย่แล้ววว ><
ไปลุย รอบทะเลสาบกันเล้ยยย ^^//
เรารอ Retro bus ที่หน้าร้าน ราเม็งค่ะ เนื่องจากหน้าร้านเป็นป้าย Station 3 พอดี แล้วเราก็ไปเริ่มที่ Station 22 ค่ะ (เราขึ้น RED LINE ค่ะ)
(หน้าร้านราเม็ง ฝั่งตรงข้ามมี 7-11 นะค้าา)
เนื่องจากเวลาที่เราไปก็ประมาณ เกือบเที่ยงแล้วจึงได้ภาพภูเขาไฟฟูจิแบบย้อนแสงมาค่ะ แต่ได้เห็นความอลังการ แค่นี้ก็รู้สึกดีแล้วค่ะ อากาศประมาณ 5-6 องศาค่ะ กำลังดี แต่แสงแดดแรงแยงตามาก พกแว่นกันแดดไปด้วยนะคะ ^^
จิบลาเต้อุ่นๆ กับวิวฟูจิ และอากาศเย็นๆ ฟินมากๆค่า
เราย้อนกลับมาค่ะ มาที่ Station 19 น่าจะเป็น Art Museum อะไรสักอย่างค่ะ เป็นคาเฟ่ ถ่ายรูปสวยๆค่ะ จริงๆ อากาศดี อะไรก็ดีไปหมดจริงๆ ค่ะ แหะแหะ อ้อ ได้รูปที่มีแบคกราวน์เป็นฟูจิด้วยนะคะ ดีไปอีกกกกก
ไปค่ะ กลับที่พักกัน เพราะว่าหนาวมากแล้ว มือแข็งแล้ว อีกอย่างเดี๋ยวรถหมด เราอยู่ตรงนั้นจนถึงประมาณ บ่าย2 ได้เวลา Check in ที่พักค่ะ อ้อ ฝากกระเป๋าไว้แล้ว ไปห้องเรากันดีกว่า กลับไปที่ Station 4 OGI ค่ะ เราพัก K’s House ค่ะ ห้องแบบเรียวกัง บริการดี พนักงานพูดภาษาอังกฤษ โอเคเลยค่ะ แล้วยังมีสตาร์ฟประมาณนักเรียนแลกเปลี่ยนด้วยค่ะ เพื่อนต่างชาติเยอะทีเดียว
>> รีวิว ที่พัก K’s House Backpacker Kawaguchiko <<
เรานอนพักแปปเดียวก็มืดแล้วค่ะ ยังไม่ได้ทานข้าวเลย ต้องไปจัดสิคะ เฮ่..
เราเดินย้อนไป Station 3 แต่ฝั่งตรงข้ามกับร้านราเม็งเมื่อตอนเที่ยง เป็นร้านที่มีหลากหลายเมนูค่ะ ข้าว ราเม็ง เบอร์เกอร์ ขนมหวาน น้ำ นู่น นี่ นั่น เยอะแยะค่ะ
หนาวมาก อยากกินอะไรร้อนๆ แต่พอมาเสิร์ฟ ความร้อนก็หายไปแล้ว อิอิ
เราทานเบอร์เกอร์ค่ะ มีเคียงข้าวเหมือนข้าวปิ้ง คล้ายๆ ข้าวจี่บ้านเราเลยค่ะ แต่ข้าวร่วน ไม่เกาะ กันค่ะ ข้าวจี่น่าจะอร่อยกว่า ยังไม่เคยชิมข้าวจี่เหมือนกันค่ะ แหะ แหะ ตบด้วยพุดดิ้งฟรุ้ตตี้เบาๆ ค่ะ อิ่มหนำสำราญญ ...
อย่าคิดว่าจะกลับค่ะ ข้างๆร้าน มีเซเว่น แวะซะหน่อย หาอาหารเช้าไว้ทาน
Good Morning เช้าวันนี้ต้องกลับจากคาวากุชิโกะแล้วค่า...
ขามายังไง ขากลับก็อย่างนั้นค่า ..
ตอนซื้อมีตั๋วขากลับมาด้วย มารอรถ Bus stop3 สำหรับไป Shinjuku เลยค่ะ
ชอบรถที่มีปลั๊กชาร์จแบต ไม่เปลือง Power Bank ค่ะ อิอิ
หลับๆ ตื่นๆ สักพักก็ถึงที่หมายที่เราขึ้นรถค่ะ แต่รถมาจอดที่ชั้น 3 ลงมาค่ะ ลงมา ขึ้น Subway ไปกันค่า
ไปที่พักกันเล้ยยยยยย
>> K’s House Backpacker Tokyo Kuramae Station exit 4
>> เลี้ยวซ้าย เข้าซอย 500 เมตร ที่พักอยู่ขวามือ
>> เดินเลยที่พักไป 100-200 เมตร เซเว่น ซ้ายมือค่ะ สะดวกมาก หรือจะก่อนเข้าซอยที่พัก ข้ามถนนไป มี Lawson ค่ะ ขนมแปลกๆเยอะมาก อร่อยด้วย
>> ที่พักมีลิฟต์แล้วนะคะ
***แนะนำเลย ราคาถูก สะดวก สะอาด***
วันเที่ยววันสุดท้าย
>> วัดเซ็นโซจิ อาซากุสะ (เดินจากที่พักประมาณ 1 กม.)
แต่งสีก็ให้ความรู้สึกต่าง อิอิ
ข้ามถนนไปอีกนิดเดียว จะถึงแล้ว เย้เย้
เดินไปชมวิว ตึกอาซาฮี และโตเกียวสกายทรี
ไปต่อที่ศาลเจ้าเมจิ ที่ชิบูย่า ** เดินทาง Tokyo subway ประมาณ 30-40 นาที >> ขึ้นสถานีกลับหลังหัน ข้ามสะพานหิน เดินเข้าไปเรื่อยๆ ตามคนเข้าไปเลยค่ะ ถึงแน่นอน เดินสักพักนะคะ แต่ว่าเดินได้เรื่อยๆ เลยค่ะ อากาศดี แต่พื้นเป็นหิน และดินร่วน มีความฟุ้งๆ เวลาคนเดิน ก็สวมแมสด้วยก็ดีค่ะ
ชอปปิ้งเร็วๆ ที่ชิบูย่า >>ร้านแนะนำแบบเร็วๆ
ไปต่อที่ชินจูกุ ที่เดิม (ยังคงหลงต่อเนื่อง)
ไปต่อที่ชินจูกุ ที่เดิม (ยังคงหลงต่อเนื่อง)
เช้าวันสุดท้าย เก็บของออกจากที่พัก ประมาณ 6 โมงเช้าค่ะ หนาวดี ขนกระเป๋าจากที่พัก ออกจากซอย ข้ามถนน ไปลง Subway ฝั่งตรงข้ามค่ะ เพราะว่ามี ลิฟต์ >> ไปลงสถานี UENO STATION เพื่อต่อรถ KEISE