เรากับA(นามสมมติ)รู้จักกันตั้งแต่ปี1 สนิทกันมากเรียนคณะเดียวกัน เป็นเมทกัน แต่เคยมีครั้งนึง ที่เค้าโกรธ เพราะเพื่อนๆคุยกันแล้วแกล้งไม่บอกเค้า เค้าก็โกรธมาก ขี้น้อยใจสุดๆอ่ะ ต้องเข้าไปง้อแต่ก็ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากเค้าเลย จนในที่สุดรอเวลาให้เค้าใจเย็น(หลายวันมาก) ก็เลยเขียนเป็นข้อความขอโทษ และบอกความรุ้สึกยาว1หน้ากระดาษA4 ตอนเช้าเราก็คุยกัน เรื่องราวดำเนินมาเรื่อยๆ เราก็ได้รู้จักนิสัย&สัน_านแย่ๆของกันและกันแต่อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้เพราะเป็นคนตรงพูดจาแรง มีอะไรก็บอกกันตรงๆ และสัน_านที่แย่ที่สุดของทั้งคู่คือ
ทิฐิสูงงมากก เหมือนกันแต่ก็ไม่มีอะไรร้ายแรง จนกระทั่งขึ้นปี2 คณะเราต้องเลือกภาควิชาเราก็มีความชอบที่ต่างกัน ซึ่งส่งผลให้ต่างคนก็ต่างมีเพื่อนใหม่ เข้าเจอร์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มาจากคำว่าmajorมากขึ้นไม่ค่อยมีเวลาได้คุย อยู่ด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน จะมีก็แต่เพื่อนอีกคนที่พอจะปลีกเวลามากินข้าว พูดคุยด้วยกันได้ขอใช้ชื่อว่าBนะคะ (เรากับAไม่ได้เป็นเมทกันแต่ห้องใกล้ๆกัน) นั่นแหละค่ะ เรากับBก็อยู่กัน2คนไปไหนมาไหนกัน2คนทำให้Aคิดว่าเรากับBสนิทกันจนลืมเค้า เค้าคงไม่มีความจำเป็นอะไรในชีวิตเรากับBหรอก เค้าเลยปลีกตัวไปอยู่แต่กับเพื่อนเจอร์เค้า ซึ่งนั่นทำให้เราเสียใจมาก เราแคร์มันที่สุดแต่มันปฏิบัติกับเราเฉกเช่นแค่คนรู้จักคนนึงไม่ได้สำคัญอะไร แต่กลับให้ความสำคัญกับเพื่อนเจอร์ต่อหน้าเราอ่ะ ตอนนั้นเราร้องไห้ออกมาเลย แอบเดินออกมาเงียบๆจากกลุ่มเพื่อนเจอร์กลับไปที่ห้องแล้วร้องไห้แบบหนักมากชนิดที่คนอย่างเราไม่เคยเสียน้ำตามากมายแบบนี้ให้กับเพื่อนคนไหนเลยนอกจากมัน ร้องไห้จนต้องหายใจทางปากอ่ะร้องไห้จนหลับไป วันนั้นก็ไม่ไปเรียน ตื่นมาตาบวมมากก ด้วยความเสียใจเราก็แอบไปพูดระบายกับเพื่อนเจอร์เรา จนเพื่อนที่รุ้จักกันตั้งแต่ปี1พูดขึ้นมาว่าไม่เคยเห็นเราร้องไห้หนักขนาดนี้เลย ปกติเห็นแต่หัวเราะ กวนส้นทีน ซึ่งเราดูน่าสงสารมากๆในสายตาเพื่อนที่เราไประบาย เราก็พยายามทำตัวปกติไปหาAที่ห้องไปพูดคุย แต่สุดท้ายพอกลับมาที่ห้องตัวเองก็น้ำตาไหล สะอึกสะอื้นอยู่แบบนั้น แทบจะทุกวัน หรือบางวันร้อง2-3รอบ เราเคยรอA จนตี2 โดยมีเพื่อนเจอร์มาส่งพูดคุยกันแบบสนิทสนม ซึ่งเราไม่เคยได้รับคำพูดแบบนั้นเลยตั้งแต่เข้าเจอร์ ก็อาการน้อยใจค่ะร้องไห้ต่อ ไประบายกับBบ้างกับกลุ่มเพื่อนในเจอร์บ้าง ครั้งหนึ่งเราก็รอAเช่นเคยรอจนหลับไป สาเหตุที่รอก็เพราะแคร์ไงคะ อยากพูดคุยด้วยเพราะแต่ละวันแทบไม่ได้คุย ไม่ได้เจอกันเลย และเช้าก็ได้รู้ว่าAไม่กลับห้องเพราะออกไปกินเหล้านอกมอ เมาไม่ได้สติจนเพื่อนเจอร์เค้าต้องช่วยกันประคองกลับมาห้อง T_T เหตุการณ์ดำเนินไปจนทำให้เราเกลียดเพื่อนของAเกลียดมากๆเพราะAจะพูดจะเล่าอะไรก็เอ่ยแต่เพื่อนเค้าตลอดๆ เสียใจนะเวลาที่อยู่ด้วยกัน พูดคุยกันก็น้อยมากแล้วยังจะพูดถึงคนอื่นอีก
.
.
.
จนเรากับเพื่อนในเจอร์คนหนึ่งมีปัญหากันและไม่ได้คุยกันอีก(เพราะความทิฐิสูงของเราเองแหละ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพื่อนเรามาเล่าให้ฟังว่าเพื่อนคนนั้น(ที่ไม่ได้คุยกัน)มาพูดกับเพื่อนที่มาเล่าให้เราฟังว่า เราอ่ะชอบแสดงสีหน้าไม่พอใจใส่คนที่ไม่ชอบอะไรประมาณนี้ แล้วก็พาลมาไม่คุยกับเค้า ทำไมไม่นึกถึงตอนที่ตัวเอง(ตัวเองหมายถึงเรา)ทุกข์ ตอนที่ตัวเองเสียใจเรื่องAแล้วมาให้เค้าช่วยเหลือเป็นเพื่อนระบายความเสียใจ พาไปกินข้าวร้องเพลงบ้าง ไรงี้ พอเราได้รู้นี่ถึงกับอึ้งอ่ะ นี่เราเสียเพื่อนคนนึงเพราะสัน_านส่วนตัว เเละเพราะเราเอาแต่แคร์Aโดยไม่ได้ให้ความสนใจเพื่อนคนอื่นขนาดนี้เลยเหรอ เศร้าไปอีกแต่ก็ททำอะไรไม่ได้ในเมื่อเราผิดใจกันไม่ได้คุยกันแล้ว
.
.
.
เรื่องราวของเราAและBก็ค่อยๆผ่านไป มีครั้งนึงตอนปี2เทอม2 Aบอกว่าตัดสินใจจะไปอยู่หอนอก เรากับBนี่โคตรเฟลอ่ะ แต่เราหนักกว่าคือน้ำตารื้นและร้องไห้ตรงนั้นเลย ร้องไห้ต่อหน้าAเลย จากเข้มแข็งมาตลอดแต่เหตุการณ์นั้นเราเสียใจมากๆ ความเข้มแข็งไม่เหลือแล้ว ช่วงนั้นเราค่อนข้างจิตตก ในหัวก็มีแต่เรื่องAวนเวียน และทุกครั้งที่นึกถึงก็จบด้วยการแอบร้องไห้คนเดียวจนหลับไป เช้าตื่นมาก็ตาบวมเช่นเคย เป็นแบบนี้จนไม่ไหว ต้องเอาชีวิตตัวเองออกมาจากวังวนเดิมๆที่มีแต่ความเสียใจโดยที่ไม่ได้ส่งผลดีต่อตัวเองเลย ตอนนั้นหันหน้าเข้าหาธรรมะค่าา 5555 แต่ดีนะได้มีโอกาสรู้จักคนใหม่ๆที่เป็นกัลยาณมิตรที่ดี ให้คำแนะนำว่าเราไม่ใช่เจ้าของชีวิตเค้า เราไปบังคับให้เค้าเป็นในแบบที่เราต้องการไม่ได้ หรือเราอาจมีเวรมีกรรมร่วมกันมาจึงต้องทำให้เราต้องมาเสียใจทุกข์ใจเเบบนี้ เราก็ต้องหมั่นแผ่เมตตาให้เค้า ให้เค้ามีแต่ความสุขอย่าได้สร้างความทุกข์กับเราเลย อย่าเอาเค้ามายึดติดกับความคิดของเรา ให้ปล่อยผ่านความคิดแย่ๆนี้ออกไป ทำใจให้ว่างนึกถึงความดีของเค้าหรือสิ่งดีๆที่ได้ทำร่วมกัน บลาๆๆ พี่คนนี้นที่เราไปปรึกษาเค้าให้ข้อคิดเรื่องเพื่อนไว้ดีมากๆ เราก็ปฏิบัติตามที่เค้าบอกคือสวดมนต์ แผ่เมตตา นั่งสมาธิ หาหนังสือธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนในเรื่องต่างๆ ซึ่งมันช่วยได้จริงๆค่ะ เราให้อภัยAและเพื่อนเอที่เราเกลียดได้ ละได้ ปล่อยวางได้ แล้วเราก็ ไม่เสียน้ำตาให้Aอีกเลย กลายเป็นผู้หญิงที่สตรองมาก!!!! รับมือกับความคิดแย่ๆที่ต้องเผชิญได้ ทั้งในเรื่องของAและอื่นๆ ..
.
.
เหตุการณ์ล่วงเลยจนปี3 Aไปอยู่หอนอกโดยที่เรากับBเป็นเมทกัน และสนิทกันมากกกก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซึ่งตั้งแต่ปี1ที่เห็นBครั้งแรกไม่ถูกชะตาด้วยเลย เเววตาที่ดุของผญ.คนนี้ดูไม่ค่อยเป็นมิตร แต่นิสัยเด็กน้อยมากกก ขี้งอแง ขี้อ้อน ขี้น้อยใจ(แต่นางจะบอกนะว่านางน้อยใจ)และที่สำคัญเป็นที่ปรึกษที่ดีคนนึงเลยทีเดียว เราและ Bก็ไม่ค่อยได้เจอกับA แต่ก็นานๆครั้งก็นัดกันไปเที่ยวบ้าง กินข้าวข้างนอกบ้าง ทำบุญบ้าง ตามวิสัย...
.
.
.
ปี4เทอม1Aยังคงอยู่หอนอก แต่เทอม2Aเข้ามมาอยู่หอในกับเราและB เนื่องจากค่าใช้จ่ายเยอะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เพิ่งจะคิดได้เหรอวะ ก็เข้ามาเป็นเมทกัน ก็จัดได้ว่าห้องเราคุยกันเสียงดังมากกกกกกได้ยินไปทั้งชั้นอ่ะ วันๆก็คุยกัน หัวเราะกัน นินทาชาวบ้านกัน555 เราจะมีกลุ่มแชตทั้งในไลน์ เเละเฟซบุ๊ก จนเมื่อไม่กี่วันมานี้ เราได้คุยเเชตกับB คือนินทาAนั่นแหละ และขณะนั้นAพูดและแสดงพฤติกรรมหรือกมลสัน_านออกมาได้อย่างน่าถีบมากก เราเลยเล่าเรื่องๆนึงที่เพื่อนคนนึงมาพูดกับเราว่าAเป็นคนที่เดาอารมณไม่ถูก เดาใจยาก(จริงๆมีข้อความที่รุนแรงกว่านี้แต่ขออุบไว้นะ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เหอะๆๆ อีเพื่อนนั่นเจอสัน_านแค่เศษเสี้ยวของสัน_านทั้งหมดของAยังรับไม่ได้ แล้วกรูว์ล่ะคะ เจอมามากมายเท่าไหร่แล้วอะไรประมาณนั้น เราก็เล่าให้Bรู้ สาเหตุที่ต้องนินทาAก็เพราะAเป็นคนที่ รับไม่ได้ถ้ามีคนมาพูดว่านางในเรื่องนิสัยที่ไม่ดีของนาง โดยพฤติกรรมที่แสดงออกคือจะพูดว่า "
ก็แล้วแต่ดิ ก็กรูเป็นของกรูแบบเนี้ยะ " และ " โนสนheeสนtadอารัยทั้งนั้น" คร่ะ!!ซิส ปากบอกไม่สนแต่สนทุกอย่างที่เค้าว่า

เลยค่ะ นั่นแหละค่ะBดันโพล่งขึ้นมาว่า "จริงอ่ะ มัน(เพื่อนที่มาพูดกับเรา)พูดงี้จริงดิวะ" อินี่ก็ปากพล่อย ถามกลับมาในแชตก็ได้ นั่นแหละฮะท่านผู้ชม!! "คุยไรกันอ่ะ " Aโพล่งถามขึ้น เราก็บอกในส่วนที่มันรับได้ไป
"แค่นี้จริงเหรอ คุยกันตั้งเยอะแยะ" "กรูว์จะออกจากกลุ่มละ

คุยกันไป2คนเถอะ กูไม่ได้สำคัญอะไรนิ่"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จริงๆ นางพูดแบบนี้เรื่อยๆแหละ เพราะความขี้น้อยใจ คิดว่าเรากับBสนิทกัน โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีนางก็ได้ นั่นแหละค่ะ ออกจากกลุ่มแชตทั้งในเฟซ และไลน์ บึ้งตึงไม่พูดกับเราและBๆ พูดด้วย ถามนู่นนี่ก็เงียบ นิ่ง และวันนี้เราพึ่งรู้ว่าAลบเราออกจากเพื่อนในเฟซ อันฟอลเราในทวิต เราไม่สามารถเห็นสิ่งที่Aโพสต์อะไรได้เลย คงจะตั้งไว้ไม่ให้เราเห็น(มั้ง) ส่วนในทวิตเตอร์เราอันฟอลนางซักพักแล้วเพราะเราตั้งใจตามแค่ศิลปินนักร้อง แต่นางฟอลเราอยู่ และนางมักจะทวิตความรุ้สึกแทบจะตลอดในทวิตเตอร์ ค่ะ...วันนี้นางอันฟอลเราเเละตั้งเป็นไพรเวท เราไม่สามารถรับรู้ความเคลื่อนไหวใดๆได้เลย และไม่มีวี่แววว่าAจะคุยด้วยเลย ค.รู้สึกเราก็อึดอัดนะอยู่ห้องเดียวกันจากปกติมีแต่เสียงหัวเราะดังๆ แต่ไม่กี่วันมานี้กลับเงียบเป็นป่าช้า พยายามจะหัวเราะเช่นที่เคยเป็นแต่ก็หัวเราะไม่สุดอ่ะ เหมือนฝืนตัวเอง มันอึมครึมเหมือนจะร้องไห้แต่ก็ไม่ร้อง แบบ...ก็รุ้ว่าซักวันเราคงเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนสนิทเป็นแค่คนรู้จัก เนื่องด้วยนิสัยของทั้งคู่
คงต้องทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น กับการบอกตัวเองว่า ก่อนนี้ไม่มีคนๆนี้เป็นเพื่อนเรายังอยู่ได้ ต่อไปนี้ถ้าจะไม่มีก็ไม่ตายซักหน่อย ก็แค่เพื่อนที่แคร์มากๆ คนนึงในช่วงชีวิตมหา'ลัย จะกลายเป็นคนรุ้จักเดินสวนกันในห้องเดียวกันแต่ไม่คุยกันก็เท่านั้นเอง......
ยิ่งดึกก็ยิ่งเงียบนิ่งเงียบก็ยิ่งคิด......และรอคอยให้ทำใจให้ได้จริงๆ.....
Ps.ขอบคุณพื้นที่ในพันทิปที่เป็นเพื่อนสนิทคนนึงที่ทำให้เราได้ระบาย และได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆอีกมากมายแม้ไม่ได้คุยกันแต่ก็ได้แสดงทัศนะต่างๆร่วมกัน ถกเถียงกัน ขอบคุณค่ะ.
เป็นเพื่อนกันตอนปี1และ(คงจะ)เลิกคบกันตอนปี4 เพราะเค้าไม่คุยกับเรา
.
.
.
จนเรากับเพื่อนในเจอร์คนหนึ่งมีปัญหากันและไม่ได้คุยกันอีก(เพราะความทิฐิสูงของเราเองแหละ) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ พอเราได้รู้นี่ถึงกับอึ้งอ่ะ นี่เราเสียเพื่อนคนนึงเพราะสัน_านส่วนตัว เเละเพราะเราเอาแต่แคร์Aโดยไม่ได้ให้ความสนใจเพื่อนคนอื่นขนาดนี้เลยเหรอ เศร้าไปอีกแต่ก็ททำอะไรไม่ได้ในเมื่อเราผิดใจกันไม่ได้คุยกันแล้ว
.
.
.
เรื่องราวของเราAและBก็ค่อยๆผ่านไป มีครั้งนึงตอนปี2เทอม2 Aบอกว่าตัดสินใจจะไปอยู่หอนอก เรากับBนี่โคตรเฟลอ่ะ แต่เราหนักกว่าคือน้ำตารื้นและร้องไห้ตรงนั้นเลย ร้องไห้ต่อหน้าAเลย จากเข้มแข็งมาตลอดแต่เหตุการณ์นั้นเราเสียใจมากๆ ความเข้มแข็งไม่เหลือแล้ว ช่วงนั้นเราค่อนข้างจิตตก ในหัวก็มีแต่เรื่องAวนเวียน และทุกครั้งที่นึกถึงก็จบด้วยการแอบร้องไห้คนเดียวจนหลับไป เช้าตื่นมาก็ตาบวมเช่นเคย เป็นแบบนี้จนไม่ไหว ต้องเอาชีวิตตัวเองออกมาจากวังวนเดิมๆที่มีแต่ความเสียใจโดยที่ไม่ได้ส่งผลดีต่อตัวเองเลย ตอนนั้นหันหน้าเข้าหาธรรมะค่าา 5555 แต่ดีนะได้มีโอกาสรู้จักคนใหม่ๆที่เป็นกัลยาณมิตรที่ดี ให้คำแนะนำว่าเราไม่ใช่เจ้าของชีวิตเค้า เราไปบังคับให้เค้าเป็นในแบบที่เราต้องการไม่ได้ หรือเราอาจมีเวรมีกรรมร่วมกันมาจึงต้องทำให้เราต้องมาเสียใจทุกข์ใจเเบบนี้ เราก็ต้องหมั่นแผ่เมตตาให้เค้า ให้เค้ามีแต่ความสุขอย่าได้สร้างความทุกข์กับเราเลย อย่าเอาเค้ามายึดติดกับความคิดของเรา ให้ปล่อยผ่านความคิดแย่ๆนี้ออกไป ทำใจให้ว่างนึกถึงความดีของเค้าหรือสิ่งดีๆที่ได้ทำร่วมกัน บลาๆๆ พี่คนนี้นที่เราไปปรึกษาเค้าให้ข้อคิดเรื่องเพื่อนไว้ดีมากๆ เราก็ปฏิบัติตามที่เค้าบอกคือสวดมนต์ แผ่เมตตา นั่งสมาธิ หาหนังสือธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนในเรื่องต่างๆ ซึ่งมันช่วยได้จริงๆค่ะ เราให้อภัยAและเพื่อนเอที่เราเกลียดได้ ละได้ ปล่อยวางได้ แล้วเราก็ ไม่เสียน้ำตาให้Aอีกเลย กลายเป็นผู้หญิงที่สตรองมาก!!!! รับมือกับความคิดแย่ๆที่ต้องเผชิญได้ ทั้งในเรื่องของAและอื่นๆ ..
.
.
เหตุการณ์ล่วงเลยจนปี3 Aไปอยู่หอนอกโดยที่เรากับBเป็นเมทกัน และสนิทกันมากกกก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เราและ Bก็ไม่ค่อยได้เจอกับA แต่ก็นานๆครั้งก็นัดกันไปเที่ยวบ้าง กินข้าวข้างนอกบ้าง ทำบุญบ้าง ตามวิสัย...
.
.
.
ปี4เทอม1Aยังคงอยู่หอนอก แต่เทอม2Aเข้ามมาอยู่หอในกับเราและB เนื่องจากค่าใช้จ่ายเยอะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ก็เข้ามาเป็นเมทกัน ก็จัดได้ว่าห้องเราคุยกันเสียงดังมากกกกกกได้ยินไปทั้งชั้นอ่ะ วันๆก็คุยกัน หัวเราะกัน นินทาชาวบ้านกัน555 เราจะมีกลุ่มแชตทั้งในไลน์ เเละเฟซบุ๊ก จนเมื่อไม่กี่วันมานี้ เราได้คุยเเชตกับB คือนินทาAนั่นแหละ และขณะนั้นAพูดและแสดงพฤติกรรมหรือกมลสัน_านออกมาได้อย่างน่าถีบมากก เราเลยเล่าเรื่องๆนึงที่เพื่อนคนนึงมาพูดกับเราว่าAเป็นคนที่เดาอารมณไม่ถูก เดาใจยาก(จริงๆมีข้อความที่รุนแรงกว่านี้แต่ขออุบไว้นะ) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ อะไรประมาณนั้น เราก็เล่าให้Bรู้ สาเหตุที่ต้องนินทาAก็เพราะAเป็นคนที่ รับไม่ได้ถ้ามีคนมาพูดว่านางในเรื่องนิสัยที่ไม่ดีของนาง โดยพฤติกรรมที่แสดงออกคือจะพูดว่า " ก็แล้วแต่ดิ ก็กรูเป็นของกรูแบบเนี้ยะ " และ " โนสนheeสนtadอารัยทั้งนั้น" คร่ะ!!ซิส ปากบอกไม่สนแต่สนทุกอย่างที่เค้าว่า
"แค่นี้จริงเหรอ คุยกันตั้งเยอะแยะ" "กรูว์จะออกจากกลุ่มละ
คงต้องทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น กับการบอกตัวเองว่า ก่อนนี้ไม่มีคนๆนี้เป็นเพื่อนเรายังอยู่ได้ ต่อไปนี้ถ้าจะไม่มีก็ไม่ตายซักหน่อย ก็แค่เพื่อนที่แคร์มากๆ คนนึงในช่วงชีวิตมหา'ลัย จะกลายเป็นคนรุ้จักเดินสวนกันในห้องเดียวกันแต่ไม่คุยกันก็เท่านั้นเอง......
ยิ่งดึกก็ยิ่งเงียบนิ่งเงียบก็ยิ่งคิด......และรอคอยให้ทำใจให้ได้จริงๆ.....
Ps.ขอบคุณพื้นที่ในพันทิปที่เป็นเพื่อนสนิทคนนึงที่ทำให้เราได้ระบาย และได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆอีกมากมายแม้ไม่ได้คุยกันแต่ก็ได้แสดงทัศนะต่างๆร่วมกัน ถกเถียงกัน ขอบคุณค่ะ.