ปล่อย AKG K702 65TH ANNIVERSARY EDITION (ประกันศูนย์) made in Austria ราคา 7990 (รวมส่ง Kerry Express / เชียงใหม่นัดรับของได้)

หูฟังแบบ open back เน้นเรื่อง เสียงกลาง ที่คมชัดและเต็มไปด้วยลายละเอียด บวกกับ soundstage ที่กว้างขวาง ตัวหูฟังน้ำหนักเบามาก สายรัดด้านบนทำจากหนังแท้ ปรับอัตโนมัติตามรูปศีรษะ ค่า impedance ไม่สูงมาก ทำให้ใช้ DAC/AMP ระดับปานกลางก็สามารถขับได้สบายๆ
ใช้มาประมาณ 6 เดือน ขอปล่อยที่ราคา 7990 บาท ครับ หูฟังมีประกันศูนย์ หรือ สามารถเคลมผ่านหน้าร้านของมั่นคงก็ได้ (ยังมีประกันอยู่อีก 1 ปี กับ 5 เดือน เช็ตได้จากหน้าเว็บของมั่นคง) สภาพ 99% คือ มีฝุ่นเกาะที่ ตัวแพด memory foam นิดหน่อย ซึ่งตัวแพดสามารถถอดสามารถเปลี่ยนได้ นอกเหนือจากนั้นสภาพแทบไม่เปลี่ยนไปจากที่ซื้อมาครับ
สาเหตุที่ขายเพราะอยากจะลองเปลี่ยนไปเล่นยี่ห้ออื่นบ้าง
ปล. DACAMP ที่เห็นในรูปเป็น DAC/AMP คือ Aune T1se (ผมก็ขายนะครับตัวนี้ถ้าท่านใดสนใจ มีประกันกับร้านมั่นคง แต่ขอขายยกชุดพร้อมกับหลอด Amperex 6922 กับ E88CC ที่ผมซื้อมาทีหลัง และตัวจ่ายไฟที่ผมสั่งซื้อมาเองกับทาง AUNE ที่จีน ทั้งหมดราคารวมทั้งสิ้น 7000 บาทครับ)
ติดต่อผมได้ทาง Line
Line ID: bamboo1989
โทร 088-2807921 (ขอเป็นช่วงเย็นนะครับ ตอนกลางวันสอนหนังสือที่มหาลัย)
หรืออินบ็อกซ์มาที่เฟซบุ๊คของผม Kris Ngamvaseenont
ผมเขียนรีวิวไว้สั้นๆเพื่อท่านใดสนใจรายละเอียดของตัวหูฟัง

เป็นรุ่นที่ผลิตออกมาเพื่อฉลองครบรอบ 65 ปีของ AKG โดยความพิเศษของรุ่นนี้ที่นอกจากจะเป็นรุ่นที่ made in Austria แล้ว มันยังมีการปรับจูนเสียงเบสเพิ่ม ทำให้เสียงของรุ่นนี้ค่อนข้างจะไปในทาง dark เล็กน้อย แต่ก็ยังคงลักษณะพิเศษของ AKG ในตระกูล K701 / K702 คือ มี soundstage ที่กว้าง และมีเสียงกลางที่พริ้วไหว
ผมคิดว่าใครที่ชอบความกว้างของ soundstage ในแบบ K701/ K702 แต่ไม่ชอบเสียงที่ bright จนเกินไป และสภาวะไร้เสียงเบสของ K701/K702 น่าจะชอบรุ่นนี้ เพราะให้เสียงที่ค่อนข้างจะสบายหูกว่า มีเบสเพิ่มมาให้ แต่ไม่ทิ้งลายเส้นของ soundstage ที่กว้างอย่างไม่น่าเชื่อตามสไตล์หูฟังในตระกูล K701/K702
ตัว driver ของรุ่นนี้เป็นแบบไดอาแฟรมสองชั้น ทำให้ได้เสียงที่ค่อนข้างจะเที่ยงตรง เหมาะกับการใช้เป็นหูฟังประเภท refernce แต่ถ้าใช้ DAC/AMP ที่มีภาคหลอดด้วย ก็จะทำให้คุณสมบัติด้าน reference ไม่กวนใจ ทำให้สามารถฟังเพลงแนว Jazz กับ Classic ได้อย่างไหลลื่น

ผมคิดว่าแนวเพลงที่เหมาะกับหูฟังตัวนี้ คือ Jazz, Classic, Pop และเพลงที่เน้น Vocal ยกตัวอย่างเช่น ผมใช้ DAC/AMP รุ่นที่มีภาคหลอดฟัง John Coltrane ซึ่งเพลงส่วนใหญ่ของ John Coltrane จะอัดมาแบบ mono ซึ่งถ้าใช้หูฟังบางรุ่นจะไม่ได้บรรยากาศ (เช่น HE-400i ของผมที่ค่อนข้างจะให้เสียงที่คมจนเกินไป) แต่กับ AKG ตัวนี้ไม่มีปัญหาเพราะเสียงมันค่อนข้าง dark และให้เสียงที่มีลมๆ เลยให้ทำให้การฟังเสียงแซคของ Coltrane ได้บรรยากาศดีมาก เพราะความที่หูฟังมันโปร่งจึงไปกันได้กับกับการอัดแบบเก่า
หรือถ้าจะใช้ฟังเพลงแนว vocal เช่น ผมฟัง My heart will go on แบบไฟล์ DSD ของ Celine Dion หูฟังตัวนี้ให้เสียงที่นุ่มนวล มี dynamic จนสามารถสังเกตลายละเอียดเล็กๆในวิธีการร้องของเธอได้ เช่น ตอนที่เธอ เปลี่ยนเสียงจาก mouth tone เป็น head tone เพื่อใช้เสียงหลบ หูฟังปกติจะแยกไม่ออกเลย เพราะ Celine Dion มีเทคนิคที่ทำให้น้ำหนักของเนื้อเสียงเมื่อต้องสลับจากเสียงจริงไปเป็นเสียงหลบแทบจะไม่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม AKG ตัวนี้ ด้วยความที่มันเป็นหูฟังแบบ reference จึงช่วยให้สามารถสัมผัส dynamic และ รายละเอียดเล็กๆแบบนี้ได้ ซึ่งทำห้การฟังมีความน่าสนใจมากขึ้นเยอะ
สำหรับแนวเพลงแบบ Classic ถือได้ว่าเป็นจุดเด่นของ AKG ตัวนี้ เนื่องจากมันได้รับอิทธิพลการออกแบบมาจากบรรพบุรุษ คือ K701 และ K702 จึงทำให้การแบ่งแยกชิ้นเครื่องดนตรี หรือ instrumental seperation ดีเยี่ยม แม้กระทั่งเสียงเคาะเล็กๆ ที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่ามีในเพลงด้วย ก็ถูกแสดงมาออกมาผ่านหูฟังตัวนี้
สำหรับท่านที่อยากอ่านความเห็นของคนอื่นเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บ head-fi นะครับ
http://www.head-fi.org/products/akg-k702-65th-anniversary-edition
หรือในบอร์ดของมั่นคง
https://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=106056
ข้างใต้นี้เป็นประกันที่ยังมีอยู่กับมั่นคงนะครับ
ปล่อย AKG K702 65TH ANNIVERSARY EDITION (ประกันศูนย์) made in Austria ราคา 7990 (รวมส่ง Kerry Express)
ใช้มาประมาณ 6 เดือน ขอปล่อยที่ราคา 7990 บาท ครับ หูฟังมีประกันศูนย์ หรือ สามารถเคลมผ่านหน้าร้านของมั่นคงก็ได้ (ยังมีประกันอยู่อีก 1 ปี กับ 5 เดือน เช็ตได้จากหน้าเว็บของมั่นคง) สภาพ 99% คือ มีฝุ่นเกาะที่ ตัวแพด memory foam นิดหน่อย ซึ่งตัวแพดสามารถถอดสามารถเปลี่ยนได้ นอกเหนือจากนั้นสภาพแทบไม่เปลี่ยนไปจากที่ซื้อมาครับ
สาเหตุที่ขายเพราะอยากจะลองเปลี่ยนไปเล่นยี่ห้ออื่นบ้าง
ปล. DACAMP ที่เห็นในรูปเป็น DAC/AMP คือ Aune T1se (ผมก็ขายนะครับตัวนี้ถ้าท่านใดสนใจ มีประกันกับร้านมั่นคง แต่ขอขายยกชุดพร้อมกับหลอด Amperex 6922 กับ E88CC ที่ผมซื้อมาทีหลัง และตัวจ่ายไฟที่ผมสั่งซื้อมาเองกับทาง AUNE ที่จีน ทั้งหมดราคารวมทั้งสิ้น 7000 บาทครับ)
ติดต่อผมได้ทาง Line
Line ID: bamboo1989
โทร 088-2807921 (ขอเป็นช่วงเย็นนะครับ ตอนกลางวันสอนหนังสือที่มหาลัย)
หรืออินบ็อกซ์มาที่เฟซบุ๊คของผม Kris Ngamvaseenont
ผมเขียนรีวิวไว้สั้นๆเพื่อท่านใดสนใจรายละเอียดของตัวหูฟัง
เป็นรุ่นที่ผลิตออกมาเพื่อฉลองครบรอบ 65 ปีของ AKG โดยความพิเศษของรุ่นนี้ที่นอกจากจะเป็นรุ่นที่ made in Austria แล้ว มันยังมีการปรับจูนเสียงเบสเพิ่ม ทำให้เสียงของรุ่นนี้ค่อนข้างจะไปในทาง dark เล็กน้อย แต่ก็ยังคงลักษณะพิเศษของ AKG ในตระกูล K701 / K702 คือ มี soundstage ที่กว้าง และมีเสียงกลางที่พริ้วไหว
ผมคิดว่าใครที่ชอบความกว้างของ soundstage ในแบบ K701/ K702 แต่ไม่ชอบเสียงที่ bright จนเกินไป และสภาวะไร้เสียงเบสของ K701/K702 น่าจะชอบรุ่นนี้ เพราะให้เสียงที่ค่อนข้างจะสบายหูกว่า มีเบสเพิ่มมาให้ แต่ไม่ทิ้งลายเส้นของ soundstage ที่กว้างอย่างไม่น่าเชื่อตามสไตล์หูฟังในตระกูล K701/K702
ตัว driver ของรุ่นนี้เป็นแบบไดอาแฟรมสองชั้น ทำให้ได้เสียงที่ค่อนข้างจะเที่ยงตรง เหมาะกับการใช้เป็นหูฟังประเภท refernce แต่ถ้าใช้ DAC/AMP ที่มีภาคหลอดด้วย ก็จะทำให้คุณสมบัติด้าน reference ไม่กวนใจ ทำให้สามารถฟังเพลงแนว Jazz กับ Classic ได้อย่างไหลลื่น
ผมคิดว่าแนวเพลงที่เหมาะกับหูฟังตัวนี้ คือ Jazz, Classic, Pop และเพลงที่เน้น Vocal ยกตัวอย่างเช่น ผมใช้ DAC/AMP รุ่นที่มีภาคหลอดฟัง John Coltrane ซึ่งเพลงส่วนใหญ่ของ John Coltrane จะอัดมาแบบ mono ซึ่งถ้าใช้หูฟังบางรุ่นจะไม่ได้บรรยากาศ (เช่น HE-400i ของผมที่ค่อนข้างจะให้เสียงที่คมจนเกินไป) แต่กับ AKG ตัวนี้ไม่มีปัญหาเพราะเสียงมันค่อนข้าง dark และให้เสียงที่มีลมๆ เลยให้ทำให้การฟังเสียงแซคของ Coltrane ได้บรรยากาศดีมาก เพราะความที่หูฟังมันโปร่งจึงไปกันได้กับกับการอัดแบบเก่า
หรือถ้าจะใช้ฟังเพลงแนว vocal เช่น ผมฟัง My heart will go on แบบไฟล์ DSD ของ Celine Dion หูฟังตัวนี้ให้เสียงที่นุ่มนวล มี dynamic จนสามารถสังเกตลายละเอียดเล็กๆในวิธีการร้องของเธอได้ เช่น ตอนที่เธอ เปลี่ยนเสียงจาก mouth tone เป็น head tone เพื่อใช้เสียงหลบ หูฟังปกติจะแยกไม่ออกเลย เพราะ Celine Dion มีเทคนิคที่ทำให้น้ำหนักของเนื้อเสียงเมื่อต้องสลับจากเสียงจริงไปเป็นเสียงหลบแทบจะไม่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม AKG ตัวนี้ ด้วยความที่มันเป็นหูฟังแบบ reference จึงช่วยให้สามารถสัมผัส dynamic และ รายละเอียดเล็กๆแบบนี้ได้ ซึ่งทำห้การฟังมีความน่าสนใจมากขึ้นเยอะ
สำหรับแนวเพลงแบบ Classic ถือได้ว่าเป็นจุดเด่นของ AKG ตัวนี้ เนื่องจากมันได้รับอิทธิพลการออกแบบมาจากบรรพบุรุษ คือ K701 และ K702 จึงทำให้การแบ่งแยกชิ้นเครื่องดนตรี หรือ instrumental seperation ดีเยี่ยม แม้กระทั่งเสียงเคาะเล็กๆ ที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่ามีในเพลงด้วย ก็ถูกแสดงมาออกมาผ่านหูฟังตัวนี้
สำหรับท่านที่อยากอ่านความเห็นของคนอื่นเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บ head-fi นะครับ
http://www.head-fi.org/products/akg-k702-65th-anniversary-edition
หรือในบอร์ดของมั่นคง
https://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=106056
ข้างใต้นี้เป็นประกันที่ยังมีอยู่กับมั่นคงนะครับ