หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะพิลอูลวินและพุกาม ตอนที่ 5
กระทู้สนทนา
บันทึกนักเดินทาง
ประเทศพม่า
เที่ยวต่างประเทศ
กลับมารีวิวอีกครั้งกับทริปตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะพุกามและพิลอูลวิน ตอนที่ 5 หลังจากห่างหายไปนานเนื่องจากงานที่พันรัดตัวบวกกับเดินสายเที่ยวดะทั้งในประเทศและต่างประเทศอยู่ตลอด ช่วงนี้ว่าง ๆ เห็นว่ากระทู้รีวิวเที่ยวพม่าเริ่มไม่ค่อยมีก็เลยรีวิวให้ต่อนะครับ เผื่อมีท่านใดสนใจอยากตามรอยเที่ยวดะแบบผมบ้าง กระทู้นี้อาจไม่ถูกใจใครบ้างก็ได้เพราะสไตล์การเที่ยวของผมจะเน้นอยู่ที่เมืองนั้น ๆ นานหน่อยแล้วเจาะลึกชมสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนั้นจนเกือบทั่วนะครับ โดยในตอนนี้จะเน้นชมโบราณสถานในเมืองพุกามย่านใกล้กับ New Bagan หากใครเป็นนักเที่ยวผู้ชื่นชอบชมโบราณสถานแล้วไม่ว่าโบราณสถานนั้นจะมีขนาดใหญ่หรือเล็ก มีชื่อเสียงหรือไม่ แสดงว่าคุณมาชมถูกกระทู้แล้วนะครับ เพราะผมจะเปิดเผยให้เห็นโบราณสถานอื่น ๆ ในเมืองพุกามหลายแห่งที่เพื่อน ๆ ชาวพันทิปยังไม่เคยลงในห้องบลูแพลนเนตให้เพื่อน ๆ ชมกันอย่างจุใจเลยครับ
แต่ถ้าใครไม่ได้เป็นคอชอบชมของเก่าแล้วแหละก้อ คุณก็อาจดูภาพและข้อมูลเผิน ๆ ก็ได้ครับ เผื่อคุณมีเวลาว่างพอในการเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมืองพุกามแล้ว คุณอาจเลือกบรรจุสถานที่ท่องเที่ยวอื่นที่ผมรีวิวใส่ไปเพิ่มเติมทริปของคุณก็ได้นะครับ กระทู้นี้อาจจะยาวเกินไป แต่ผมคิดว่าคนที่ต้องการไปเที่ยวเมืองพุกามก็คงต้องการข้อมูลเชิงลึกเพื่อใช้ในการวางแผนเที่ยวนะครับ ดังนั้นผมจึงรีวิวข้อมูลละเอียดนิดนึงนะครับ (หากไม่ชอบอย่าว่ากันนะครับ)
ถ้าพร้อมแล้วก็ไปทำความเข้าใจทริปตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะพิลอูลวินและพุกามของผมก่อนนะครับ
วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - มัณฑะเลย์ และเดินทางต่อไปเมืองพิลอูลวิน เที่ยวยามเย็นที่เมืองพิลอูลวิน
วันที่ 2 : เที่ยวพิลอูลวิน
วันที่ 3 : เดินทางจากเมืองพิลอูลวินไปเมืองพุกาม และเที่ยวยามเย็นที่เมืองพุกาม
วันที่ 4 : เที่ยวกลุ่มโบราณสถานในย่านนยองอู และทางตอนใต้ของเมืองพุกาม
วันที่ 5 : เที่ยวกลุ่มโบราณสถานในย่านเมืองเก่าพุกาม (Old Bagan)
วันที่ 6 : เที่ยวกลุ่มโบราณสถานในย่านใกล้เมืองใหม่พุกาม (์New Bagan)
วันที่ 7 : เที่ยวภูเขาไฟโปปา และเที่ยวเก็บตกโบราณสถานที่เหลือในเมืองพุกาม
วันที่ 8 : เดินทางจากเมืองพุกามไปเมืองมัณฑะเลย์ และเที่ยวเก็บตกโบราณสถานในเมืองสกาย
วันที่ 9 : เดินทางกลับกรุงเทพฯ
วันที่ 6 : เที่ยวกลุ่มโบราณสถานในย่านใกล้เมืองใหม่พุกาม (์New Bagan)
วันนี้ผมออกเดินทางจากโรงแรมสายหน่อยเหมือนนักท่องเที่ยวคนอื่น 9.30 น. เพราะวันนี้ฟ้าฝนไม่เป็นใจฝนตกเทลงมาแต่เช้า ก่อนจะหยุดตกได้ก็ปาไป 9 โมงกว่าแล้ว เนี่ยถ้าใครวางแผนจะเที่ยวเมืองพุกามวันนี้วันเดียวมีหวังขาดทุนแน่ ๆ เพราะเริ่มต้นเที่ยวได้ช้า มาช่วงปลายหน้าฝนก็อย่างนี้หวังอากาศเป็นใจทุกวันได้ยาก สถานที่แรกที่ขี่ E - bike ไปเที่ยวชมก็ต่อมาจากเมื่อวานที่จบทริปที่มิงคลาเซดี วันนี้เที่ยวต่อในย่านใกล้กับเมืองใหม่พุกาม ขี่รถไปที่แรกคือ
กุบโยคจีที่หมู่บ้านมยิงกาบา (Gu Byauk Gyi)
โบราณสถานที่ชื่อว่า กุบโยคจีนี้มี 2 แห่งนะครับ แห่งแรกอยู่ใกล้ ๆ กับวิหารอโลพยี ซึ่งผมก็ได้ไปชมในวันต่อมานะครับ
ขี่รถจากโรงแรมที่พักไปราว 8 ก.ม. ขี่แป๊บเดียวก็ถึง ขนาดว่าฝนเพิ่งหยุดตกไม่นาน มาถึงก็เจอกรุ๊ปทัวร์จีนลงมาเที่ยวที่นี่ ดูแล้วช่างคึกคักไปด้วยผู้คน เสียงดังจนวุ่นวายและหาตำแหน่งถ่ายภาพโบราณสถานโดยไม่ติดคนได้ยาก
โบราณสถานแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่โต มองจากภายนอกคิดว่าไม่น่าสนใจอะไร แต่พอได้เข้าไปชมภายในเจติยวิหารแล้ว กลับพบภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ยังค่อนข้างสมบูรณ์มากและงดงามมากแห่งหนึ่งของพุกาม ถ้าให้ผมเปรียบเทียบภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ไปชมมาทุกแห่งในเมืองพุกาม ผมว่าที่นี่ภาพจิตรกรรมฝาผนังสมบูรณ์และงดงามมากที่สุดนะครับ เสียดายว่าเจ้าหน้าที่เข้าไม่ให้ถ่ายภาพจิตรกรรมข้างในนะครับ เห็นเดินคุมกันแน่นหนาเหลือเกินก็เลยไม่มีภาพจิตรกรรมภายในมาฝากท่านผู้ชมนะครับ แนะนำว่าใครมาเที่ยวเมืองพุกามควรพกไฟฉายมาด้วยจะดีมาก เวลาชมภาพจิตรกรรมฝาผนังในเจติยวิหารที่มืด ๆ หรือเวลาปีนบันไดขึ้นไปชมวิวบนวิหารต่าง ๆ จะได้มองเห็น อย่าคิดว่าอาศัยแสงไฟฉายจาก Smart phone จะช่วยได้นะครับ เพราะผมก็คิดอย่างนั้นมาก่อนเลยไม่ได้เตรียมมา สุดท้ายแสงจากโทรศัพท์ก็ยังไม่สว่างเพียงพอในการชมได้ ผมเห็นไกด์ชาวพม่าพกติดตัวกันเกือบทุกคน มืออาชีพเค้าย่อมรู้ว่าต้องใช้อะไร เรามือสมัครเล่นเลยพลาด 55555 .....
เดินดูเจติยวิหารของกุบโยคจีกันดีกว่านะครับ
อาคารเจติยวิหารของกุบโยคจีสร้างเป็นอาคารทรงยอดศิขรขนาดเล็ก ภายในอาคารสามารถเดินเข้าไปชมภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในได้ ข้างในส่วนใหญ่เขียนวาดเรื่องอดีตพระพุทธเจ้าเป็นภาพยอดฮิตของเค้าเหมือนที่พบในวิหารแห่งอื่น ๆ ในเมืองพุกาม ต่างกันแค่ที่นี่จะสมบูรณ์และสีสดชัดเจนกว่า บริเวณตัวอาคารเจติยวิหารก็ยังหลงเหลือลวดลายปูนปั้นให้เราได้ชมกันด้วยนะครับ
ลวดลายประดับตรงซุ้มหน้าต่างของอาคาร
ลายปูนปั้นกาบบนกาบล่างตรงมุมผนังด้านนอกของอาคารเจติยวิหาร
จากจุดนี้เดินไปอีกไม่ไกลก็จะเจอกับโบราณสถานที่น่าสนใจอีกแห่งมีชื่อว่า
มยาเซดี (Myazedi Pagoda)
เรียกว่ามาจุดเดียวได้ชมเพิ่มเป็น 2 จุดคุ้มนะครับไม่เสียแรงขี่รถมาไกลจากโรงแรม
มยาเซดีนับว่าเป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งของพุกาม เพราะสถานที่แห่งนี้นักโบราณคดีได้พบจารึกมยาเซดี ซึ่งเป็นจารึกที่กล่าวถึงการสร้างวัดแห่งนี้ เพื่อน ๆ ฟังแล้วอาจสงสัยว่าแล้วมันจะสำคัญได้อย่างไงใช่ไหมครับ เพราะเกือบทุกที่เค้าก็ทำจารึกบอกประวัติการสร้างวัดกันทั้งนั้น
ผมจะเฉลยให้ฟังนะครับ ที่จารึกหลักนี้มีความสำคัญมากเพราะเปรียบได้กับจารึกโรเชตต้าของอียิปต์ยังไงยังงั้นแหละครับ เพราะจารึกหลักนี้เป็นกุญแจไขปริศนาให้นักโบราณคดีสามารถถอดความหมายของภาษาพม่าโบราณ (พุกาม) และภาษาพยู (ศรีเกษตร) ได้สำเร็จโดยเทียบกับภาษามอญ เนื่องจากจารึกหลักนี้สลักข้อความเหมือนกันทั้ง 4 ด้าน ด้านละภาษากันคือ ภาษาพม่าโบราณ (พุกาม) ภาษาพยู (ศรีเกษตร) ภาษาบาลี และภาษามอญ ซึ่งจารึกหลักนี้สร้างขึ้นโดยพระดำริของเจ้าชายราชกุมาร ไปดูหน้าตาของจารึกกันครับว่าเป็นยังไง
จารึกจัดแสดงไว้ในห้องลูกกรงนี้แหละครับ อยู่ตรงลานวัดหน้าวิหารเลย
ด้านหน้าห้องลูกกรงนี้ก็มีแผ่นป้ายแสดงความสำคัญจารึกมยาเซดี พร้อมทั้งจารึกหลักนี้ยังได้รับรองว่าเป็นเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในฐานะมรดกความทรงจำของโลกจากยูเนสโกด้วยนะครับ เหมือนจารึกพ่อขุนรามคำแหงของบ้านเราเปรี๊ยบ
ภายในพื้นที่วัดมยาเซดีก็มีเจดีย์ประธานสีทองที่ตอนนี้กำลังบูรณะซ่อมแซมอยู่ วัดนี้ผ่านการบูรณะจนไม่ค่อยเหลือสภาพของเก่าแล้วนะครับ ดู ๆ ไปก็มีแต่ของบูรณะใหม่ทั้งนั้น
ด้านข้างวัดก็มีร้านค้าขายของฝากของที่ระลึกด้วยนะครับ เป็นดัชนีบ่งชี้ว่าที่นี่ก็มีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวเยอะเหมือนกัน ฮิฮิฮิ...
ชมวัดมยาเซดีเสร็จแล้ว ผมก็ขี่รถไปเที่ยวชมสถานที่แห่งอื่นต่อ ที่ต่อไปแวะไป
วัดมนูหะ (Manuha Temple)
ขี่รถไปไม่กี่อึดใจก็ถึงแล้ว โบราณสถานในเมืองพุกามนี้ดีอย่างอยู่ใกล้ ๆ กันเลยไม่เสียเวลาขี่รถไปนาน ๆ เหมือนอย่างเมืองยอร์กยากาตาร์ของอินโดนีเซียที่ไปมา
วัดนี้เป็นวัดยอดฮิตที่ใครมาเที่ยวเมืองพุกามต้องห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เนื่องจากวัดนี้มีความเกี่ยวข้องกับประวัติการแผ่ขยายอำนาจของอาณาจักรพุกามไปยังดินแดนอาณาจักรมอญที่อยู่ตอนใต้ของพุกามแถบปากแม่น้ำอิระวดี ประวัติเค้ากล่าวว่าวัดนี้สร้างโดยพระเจ้ามนูหะ กษัตริย์ของอาณาจักรมอญแห่งเมืองสะเทิม พระองค์ท่านทำสงครามพ่ายแพ้พระเจ้าอโนรธาแห่งอาณาจักรพุกามก็เลยถูกนำตัวมาเป็นเชลยพร้อมด้วยพระมเหสีและเชื้อพระวงศ์อยู่ที่หมู่บ้านมยิงกาบาของเมืองพุกาม
พระองค์ท่านได้สร้างพระพุทธรูปของวัดให้มีขนาดใหญ่คับแน่นเต็มวิหาร ดูแล้วอึดอัดเพื่อสะท้อนความรู้สึกที่พระองค์อึดอัดคับข้องใจที่ต้องเป็นเชลยอยู่ในดินแดนของศัตรู เรียกว่าใครมาชมพระพุทธรูปก็ต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอึดอัดจริง ๆ เพราะช่องทางเดินลอดระหว่างนิ้วพระพุทธรูปกับผนังแคบจริง ๆ นักท่องเที่ยวอย่างผมเดินแล้วอึดอัดรำคาญครับ เพราะเดินลำบากต้องต่อคิวกันเดินและถ่ายรูปก็ยากเพราะพื้นที่จำกัดครับ....
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะพิลอูลวินและพุกาม ตอนที่ 4
กระทู้ที่เขียนในตอนนี้จะเป็นเรื่องราวต่อเนื่องของการเดินทางในวันที่ 5 ที่ผมเที่ยวชมโบราณสถานในเมืองพุกามสไตล์เที่ยวดะแวะไปเรื่อย ๆ ตามแบบคนชอบดูของเก่า ในตอนนี้จะเป็นการตะลุยดูโบราณสถานในย่านเมืองเก่า
สมาชิกหมายเลข 2889847
ตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะพิลอูลวินและพุกาม ตอนที่ 3
กระทู้ที่เขียนในตอนนี้จะเป็นเรื่องราวการเดินทางในวันที่ 3 ที่ผมเดินทางจากเมืองพิลอูลวินไปเมืองพุกาม และวันที่ 4 เป็นการเที่ยวเมืองพุกามเต็มวันเป็นวันแรกตั้งแต่เช้าจรดเย็นย่ำจนพระอาทิตย์ลาลับจากขอบฟ้า
สมาชิกหมายเลข 2889847
ตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะพิลอูลวินและพุกาม ตอนที่ 2
กระทู้ที่เขียนในตอนนี้เป็นการเที่ยวในเมืองพิลอูลวินเป็นวันที่ 2 นะครับของทริปการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองพิลอูลวินและเมืองพุกามทั้งหมด 9 วันของผม โดยตอนนี้จะไปเที่ยวลุยเมืองพิลอูลวินกันทั้งวันเลย เมือง
สมาชิกหมายเลข 2889847
สอบถามทางไปวัดสุทัศน์ พักอยู่หลังม.จันทรเกษม
ขออนุญาตสอบถามทางค่ะ ถ้าเราจะไปวัดสุทัศน์ เราต้องเดินทางยังไงคะ พอดีอาจารย์ให้ไปถ่ายงานเกี่ยวกับภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สุดเลยเลือกที่นี่ พักอยู่หลังม.ราชภัฏจันทรเกษม ไปหาอ่านมาเค้าบอกว่าขึ้นรถเมล์ไปได้
สมาชิกหมายเลข 6964185
พาชมวัดชมภูเวก วัดสมัยพระนารายณ์มหาราช จ.นนทบุรี มีโบสถ์โบราณ พระโบราณศักดิ์สิทธิ์ และพระแม่ธรณีที่สวยงามมาก
วัดชมภูเวก สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี วัดโบราณสร้างขึ้นในสมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดย ชาวมอญ(พ่อปู่ศรีชมภู) ขึ้นทะเบียนเป็น โบราณสถานของชาติ เมื่อ 14 พ.ค. พ.ศ. 2517 .มีจิตรกรรมฝาผนังยุคอยุธยาตอนกลาง มีภา
chattering box
ใครเคยเอาภาพจิตรกรรมฝาผนังของวัด มาใช้งานในเชิงพาณิชย์บ้างคะ มีการขออนุญาติอย่างไรบ้างคะ
พอดีมีโปรเจค ที่ต้องนำภาพจิตรกรรมฝาผนังจากวัดดัง วัดนึงมาทำสื่อดิจิตัล ในเชิงพาณิชย์ค่ะ เลยอยากทราบขั้นตอนในการขออนุญาตอย่างถูกต้อง พอดีลองหาทางติดต่อวัด และกรมศิลปากรประจำจังหวัดนั้นๆ แต่ข้อมูลติดต่อ
โยเกิร์ตในช่องแช่ผัก
ตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะพิลอูลวินและพุกาม ตอนที่ 6 (ตอนจบ)
ในที่สุดก็เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายของกระทู้ตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะพิลอูลวินและพุกามกันแล้วนะครับ ไม่คิดว่าตนเองจะมีความอดทนและมีเวลาในการเขียนกระทู้ได้ยาวนานหลังเดินทางทริปนี้จบไปแล้วถึงครึ่งปี โดยในตอ
สมาชิกหมายเลข 2889847
โบราณสถาน วัดปรางค์หลวง จังหวัดนนทบุรี
วัดปรางค์หลวง (หลวงพ่ออู่ทอง) วัดที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัด นนทบุรีรี32 หมู่ 1 ต.บางม่วง อ.บางใหญ่, จังหวัดนนทบุรีขอเชิญร่วมทำบุญประเพณีวัน สงกรานต์ระหว่างวันที่ ๑๓ - ๑๖ เมษายน ๒๕๖๘ ณ ศาลาการเปรียญ วัด
สมาชิกหมายเลข 7580351
ชวนไปชมจิตรกรรมฝาผนัง ภาพวาดสีฝุ่น วัดม่วง อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิป กระทู้นี้เป็นบันทึกเดินทางไปเที่ยวชมวัดที่สิงห์บุรี เราไปบ้านเพื่อน เลยชวนเจ้าถิ่นไปชมวัด ภาพวาดสวยมากค่ะ ภายในวัดมีเจดีย์อิฐย่อมุมสิบสอง โบสถ์ และวิหารที่มีภาพวาด
sisudach
ปราสาทพนมรุ้ง
ปราสาทพนมรุ้ง ตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้ง ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นโบราณสถานศิลปะแบบเขมรในประเทศไ
สมาชิกหมายเลข 2746646
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
ประเทศพม่า
เที่ยวต่างประเทศ
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 43
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะพิลอูลวินและพุกาม ตอนที่ 5
กลับมารีวิวอีกครั้งกับทริปตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะพุกามและพิลอูลวิน ตอนที่ 5 หลังจากห่างหายไปนานเนื่องจากงานที่พันรัดตัวบวกกับเดินสายเที่ยวดะทั้งในประเทศและต่างประเทศอยู่ตลอด ช่วงนี้ว่าง ๆ เห็นว่ากระทู้รีวิวเที่ยวพม่าเริ่มไม่ค่อยมีก็เลยรีวิวให้ต่อนะครับ เผื่อมีท่านใดสนใจอยากตามรอยเที่ยวดะแบบผมบ้าง กระทู้นี้อาจไม่ถูกใจใครบ้างก็ได้เพราะสไตล์การเที่ยวของผมจะเน้นอยู่ที่เมืองนั้น ๆ นานหน่อยแล้วเจาะลึกชมสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนั้นจนเกือบทั่วนะครับ โดยในตอนนี้จะเน้นชมโบราณสถานในเมืองพุกามย่านใกล้กับ New Bagan หากใครเป็นนักเที่ยวผู้ชื่นชอบชมโบราณสถานแล้วไม่ว่าโบราณสถานนั้นจะมีขนาดใหญ่หรือเล็ก มีชื่อเสียงหรือไม่ แสดงว่าคุณมาชมถูกกระทู้แล้วนะครับ เพราะผมจะเปิดเผยให้เห็นโบราณสถานอื่น ๆ ในเมืองพุกามหลายแห่งที่เพื่อน ๆ ชาวพันทิปยังไม่เคยลงในห้องบลูแพลนเนตให้เพื่อน ๆ ชมกันอย่างจุใจเลยครับ
แต่ถ้าใครไม่ได้เป็นคอชอบชมของเก่าแล้วแหละก้อ คุณก็อาจดูภาพและข้อมูลเผิน ๆ ก็ได้ครับ เผื่อคุณมีเวลาว่างพอในการเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมืองพุกามแล้ว คุณอาจเลือกบรรจุสถานที่ท่องเที่ยวอื่นที่ผมรีวิวใส่ไปเพิ่มเติมทริปของคุณก็ได้นะครับ กระทู้นี้อาจจะยาวเกินไป แต่ผมคิดว่าคนที่ต้องการไปเที่ยวเมืองพุกามก็คงต้องการข้อมูลเชิงลึกเพื่อใช้ในการวางแผนเที่ยวนะครับ ดังนั้นผมจึงรีวิวข้อมูลละเอียดนิดนึงนะครับ (หากไม่ชอบอย่าว่ากันนะครับ)
ถ้าพร้อมแล้วก็ไปทำความเข้าใจทริปตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะพิลอูลวินและพุกามของผมก่อนนะครับ
วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - มัณฑะเลย์ และเดินทางต่อไปเมืองพิลอูลวิน เที่ยวยามเย็นที่เมืองพิลอูลวิน
วันที่ 2 : เที่ยวพิลอูลวิน
วันที่ 3 : เดินทางจากเมืองพิลอูลวินไปเมืองพุกาม และเที่ยวยามเย็นที่เมืองพุกาม
วันที่ 4 : เที่ยวกลุ่มโบราณสถานในย่านนยองอู และทางตอนใต้ของเมืองพุกาม
วันที่ 5 : เที่ยวกลุ่มโบราณสถานในย่านเมืองเก่าพุกาม (Old Bagan)
วันที่ 6 : เที่ยวกลุ่มโบราณสถานในย่านใกล้เมืองใหม่พุกาม (์New Bagan)
วันที่ 7 : เที่ยวภูเขาไฟโปปา และเที่ยวเก็บตกโบราณสถานที่เหลือในเมืองพุกาม
วันที่ 8 : เดินทางจากเมืองพุกามไปเมืองมัณฑะเลย์ และเที่ยวเก็บตกโบราณสถานในเมืองสกาย
วันที่ 9 : เดินทางกลับกรุงเทพฯ
วันที่ 6 : เที่ยวกลุ่มโบราณสถานในย่านใกล้เมืองใหม่พุกาม (์New Bagan)
วันนี้ผมออกเดินทางจากโรงแรมสายหน่อยเหมือนนักท่องเที่ยวคนอื่น 9.30 น. เพราะวันนี้ฟ้าฝนไม่เป็นใจฝนตกเทลงมาแต่เช้า ก่อนจะหยุดตกได้ก็ปาไป 9 โมงกว่าแล้ว เนี่ยถ้าใครวางแผนจะเที่ยวเมืองพุกามวันนี้วันเดียวมีหวังขาดทุนแน่ ๆ เพราะเริ่มต้นเที่ยวได้ช้า มาช่วงปลายหน้าฝนก็อย่างนี้หวังอากาศเป็นใจทุกวันได้ยาก สถานที่แรกที่ขี่ E - bike ไปเที่ยวชมก็ต่อมาจากเมื่อวานที่จบทริปที่มิงคลาเซดี วันนี้เที่ยวต่อในย่านใกล้กับเมืองใหม่พุกาม ขี่รถไปที่แรกคือ กุบโยคจีที่หมู่บ้านมยิงกาบา (Gu Byauk Gyi) โบราณสถานที่ชื่อว่า กุบโยคจีนี้มี 2 แห่งนะครับ แห่งแรกอยู่ใกล้ ๆ กับวิหารอโลพยี ซึ่งผมก็ได้ไปชมในวันต่อมานะครับ
โบราณสถานแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่โต มองจากภายนอกคิดว่าไม่น่าสนใจอะไร แต่พอได้เข้าไปชมภายในเจติยวิหารแล้ว กลับพบภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ยังค่อนข้างสมบูรณ์มากและงดงามมากแห่งหนึ่งของพุกาม ถ้าให้ผมเปรียบเทียบภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ไปชมมาทุกแห่งในเมืองพุกาม ผมว่าที่นี่ภาพจิตรกรรมฝาผนังสมบูรณ์และงดงามมากที่สุดนะครับ เสียดายว่าเจ้าหน้าที่เข้าไม่ให้ถ่ายภาพจิตรกรรมข้างในนะครับ เห็นเดินคุมกันแน่นหนาเหลือเกินก็เลยไม่มีภาพจิตรกรรมภายในมาฝากท่านผู้ชมนะครับ แนะนำว่าใครมาเที่ยวเมืองพุกามควรพกไฟฉายมาด้วยจะดีมาก เวลาชมภาพจิตรกรรมฝาผนังในเจติยวิหารที่มืด ๆ หรือเวลาปีนบันไดขึ้นไปชมวิวบนวิหารต่าง ๆ จะได้มองเห็น อย่าคิดว่าอาศัยแสงไฟฉายจาก Smart phone จะช่วยได้นะครับ เพราะผมก็คิดอย่างนั้นมาก่อนเลยไม่ได้เตรียมมา สุดท้ายแสงจากโทรศัพท์ก็ยังไม่สว่างเพียงพอในการชมได้ ผมเห็นไกด์ชาวพม่าพกติดตัวกันเกือบทุกคน มืออาชีพเค้าย่อมรู้ว่าต้องใช้อะไร เรามือสมัครเล่นเลยพลาด 55555 .....
เดินดูเจติยวิหารของกุบโยคจีกันดีกว่านะครับ
อาคารเจติยวิหารของกุบโยคจีสร้างเป็นอาคารทรงยอดศิขรขนาดเล็ก ภายในอาคารสามารถเดินเข้าไปชมภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในได้ ข้างในส่วนใหญ่เขียนวาดเรื่องอดีตพระพุทธเจ้าเป็นภาพยอดฮิตของเค้าเหมือนที่พบในวิหารแห่งอื่น ๆ ในเมืองพุกาม ต่างกันแค่ที่นี่จะสมบูรณ์และสีสดชัดเจนกว่า บริเวณตัวอาคารเจติยวิหารก็ยังหลงเหลือลวดลายปูนปั้นให้เราได้ชมกันด้วยนะครับ
ลวดลายประดับตรงซุ้มหน้าต่างของอาคาร
ลายปูนปั้นกาบบนกาบล่างตรงมุมผนังด้านนอกของอาคารเจติยวิหาร
จากจุดนี้เดินไปอีกไม่ไกลก็จะเจอกับโบราณสถานที่น่าสนใจอีกแห่งมีชื่อว่า มยาเซดี (Myazedi Pagoda) เรียกว่ามาจุดเดียวได้ชมเพิ่มเป็น 2 จุดคุ้มนะครับไม่เสียแรงขี่รถมาไกลจากโรงแรม
มยาเซดีนับว่าเป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งของพุกาม เพราะสถานที่แห่งนี้นักโบราณคดีได้พบจารึกมยาเซดี ซึ่งเป็นจารึกที่กล่าวถึงการสร้างวัดแห่งนี้ เพื่อน ๆ ฟังแล้วอาจสงสัยว่าแล้วมันจะสำคัญได้อย่างไงใช่ไหมครับ เพราะเกือบทุกที่เค้าก็ทำจารึกบอกประวัติการสร้างวัดกันทั้งนั้น
ผมจะเฉลยให้ฟังนะครับ ที่จารึกหลักนี้มีความสำคัญมากเพราะเปรียบได้กับจารึกโรเชตต้าของอียิปต์ยังไงยังงั้นแหละครับ เพราะจารึกหลักนี้เป็นกุญแจไขปริศนาให้นักโบราณคดีสามารถถอดความหมายของภาษาพม่าโบราณ (พุกาม) และภาษาพยู (ศรีเกษตร) ได้สำเร็จโดยเทียบกับภาษามอญ เนื่องจากจารึกหลักนี้สลักข้อความเหมือนกันทั้ง 4 ด้าน ด้านละภาษากันคือ ภาษาพม่าโบราณ (พุกาม) ภาษาพยู (ศรีเกษตร) ภาษาบาลี และภาษามอญ ซึ่งจารึกหลักนี้สร้างขึ้นโดยพระดำริของเจ้าชายราชกุมาร ไปดูหน้าตาของจารึกกันครับว่าเป็นยังไง
จารึกจัดแสดงไว้ในห้องลูกกรงนี้แหละครับ อยู่ตรงลานวัดหน้าวิหารเลย
ด้านหน้าห้องลูกกรงนี้ก็มีแผ่นป้ายแสดงความสำคัญจารึกมยาเซดี พร้อมทั้งจารึกหลักนี้ยังได้รับรองว่าเป็นเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในฐานะมรดกความทรงจำของโลกจากยูเนสโกด้วยนะครับ เหมือนจารึกพ่อขุนรามคำแหงของบ้านเราเปรี๊ยบ
ภายในพื้นที่วัดมยาเซดีก็มีเจดีย์ประธานสีทองที่ตอนนี้กำลังบูรณะซ่อมแซมอยู่ วัดนี้ผ่านการบูรณะจนไม่ค่อยเหลือสภาพของเก่าแล้วนะครับ ดู ๆ ไปก็มีแต่ของบูรณะใหม่ทั้งนั้น
ด้านข้างวัดก็มีร้านค้าขายของฝากของที่ระลึกด้วยนะครับ เป็นดัชนีบ่งชี้ว่าที่นี่ก็มีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวเยอะเหมือนกัน ฮิฮิฮิ...
ชมวัดมยาเซดีเสร็จแล้ว ผมก็ขี่รถไปเที่ยวชมสถานที่แห่งอื่นต่อ ที่ต่อไปแวะไป วัดมนูหะ (Manuha Temple)
ขี่รถไปไม่กี่อึดใจก็ถึงแล้ว โบราณสถานในเมืองพุกามนี้ดีอย่างอยู่ใกล้ ๆ กันเลยไม่เสียเวลาขี่รถไปนาน ๆ เหมือนอย่างเมืองยอร์กยากาตาร์ของอินโดนีเซียที่ไปมา
วัดนี้เป็นวัดยอดฮิตที่ใครมาเที่ยวเมืองพุกามต้องห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เนื่องจากวัดนี้มีความเกี่ยวข้องกับประวัติการแผ่ขยายอำนาจของอาณาจักรพุกามไปยังดินแดนอาณาจักรมอญที่อยู่ตอนใต้ของพุกามแถบปากแม่น้ำอิระวดี ประวัติเค้ากล่าวว่าวัดนี้สร้างโดยพระเจ้ามนูหะ กษัตริย์ของอาณาจักรมอญแห่งเมืองสะเทิม พระองค์ท่านทำสงครามพ่ายแพ้พระเจ้าอโนรธาแห่งอาณาจักรพุกามก็เลยถูกนำตัวมาเป็นเชลยพร้อมด้วยพระมเหสีและเชื้อพระวงศ์อยู่ที่หมู่บ้านมยิงกาบาของเมืองพุกาม
พระองค์ท่านได้สร้างพระพุทธรูปของวัดให้มีขนาดใหญ่คับแน่นเต็มวิหาร ดูแล้วอึดอัดเพื่อสะท้อนความรู้สึกที่พระองค์อึดอัดคับข้องใจที่ต้องเป็นเชลยอยู่ในดินแดนของศัตรู เรียกว่าใครมาชมพระพุทธรูปก็ต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอึดอัดจริง ๆ เพราะช่องทางเดินลอดระหว่างนิ้วพระพุทธรูปกับผนังแคบจริง ๆ นักท่องเที่ยวอย่างผมเดินแล้วอึดอัดรำคาญครับ เพราะเดินลำบากต้องต่อคิวกันเดินและถ่ายรูปก็ยากเพราะพื้นที่จำกัดครับ....