คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
ณ วันนี้คือเจ้าของเดิม ต้องเอาโฉนดไปเช็คที่ สนง.ที่ดินว่า ทางนิติฯ ได้แจ้งอายัตินิติกรรม ไว้หรือไม่
ถ้าแจ้งก็ต้องไปจ่ายก่อนแล้ว นิติฯ ออกเอกสารปลอดหนี้เป็นหลักฐานมาให้ สนง.ที่ดิน ก็จะสามารถโอนได้
ถ้านิติฯ ไม่ได้แจ้ง ตามกฎหมาย สามารถโอนได้ทันทีถือว่า นิติฯ บกพร่องต่อหน้าที่
แต่หลังจากรับโอนแล้ว เจ้าของใหม่ก็ต้องจ่ายนับจากวันที่โอนกรรมสิทธิ์
นิติฯ ก็ต้องตามฟ้องคุณพ่อ จขกท.เอาเอง นั่นคือข้อบกพร่องที่นิติฯ ต้องรับผิดชอบต่อลูกบ้านโดยส่วนรวม ฐานไม่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ๆ ระบุใน พรบ.จัดสรรที่ดิน 2543
อัตราค่าส่วนกลางจะต้องจัดเก็บตามมติที่ประชุมใหญ่ ดังนั้น ลูกบ้านทุกหลังจึงควรถือเป็นหน้าที่ ๆ จะเข้าร่วมประชุมใหญ่ทุกครั้ง การที่มาอ้างในวันหลังว่า ไม่ทราบ ไม่รับรู้ นั้น หากการดำเนินการเป็นไปตามมติที่ประชุมใหญ่ โดยมีรายงานการประชุมที่นิติฯยื่นต่อ สนง.ที่ดินเป้นหลักฐานแล้ว นั่นถือเป็นกฎหมายสำหรับชุมชนครับ
อยากเปลี่ยนหรือแก้ ต้องหาเสียงสนับสนุนให้เพียงพอและนำเสนอในที่ประชุมใหญ่ครั้งต่อไป หาก ที่ประชุมเห็นชอบ ส่งรายงานการประชุมไป สนง.ที่ดิน นั่นก็เสมือน กฎหมายใหม่ภายใน มบ. ภายใต้ พรบ.จัดสรรที่ดิน 2543 ครับ
ตาม พรบ.แล้วการเป็นสมาชิกใน มบ. ตามพรบ.จัดสรรที่ดิน จะอยู่อาศัยหรือไม่ ไม่เป็นข้ออ้างในการไม่ชำระค่าส่วนกลาง
ใน 3 หลังของ มบ.ผม
หลังหนึ่ง อยู่อาศัย แต่ประกาศว่า พอใจจะจ่ายเดือนละ 500 เท่านั้น ไม่สนใจมติอื่นใดทั้งสิ้น เขาโอนเงินเข้าบัญชีนิติฯเดือนละ 500 ทางนิติฯ ไม่รับรู้ครับ เพราะถือว่าไม่ชำระในอัตราตามมติที่ประชุมใหญ่
หลังที่ 2 อ้างว่า ไม่ได้อยู่บ้านเลย ให้น้องชายมาอยู่เป็นครั้งคราวเท่านั้น ไม่คุ้มเลยที่จะจ่ายตามอัตรา
หลังที่ 3 เจ้าของให้เขาเช่า ผู้เช่าบอกว่า จ่ายค่าส่วนกลางไปให้เจ้าของบ้านทุกเดือน แต่เจ้าของบ้านดันบอกกับนิติฯว่า ให้ผู้เช่าเป็นคนจ่าย
นิติฯ ก็เลยดำเนินตามที่กฎหมายกำหนดคือ เจ้าของที่ดินที่มีชื่อในโฉนด คือผู้รับผิดชอบครับ
ยังมีหลังที่ 4 ตามมาหลังนี้ไม่จ่ายมาแล้ว 4 เดือน โดนระงับบริการสาธารณะแล้ว (ไม่จ่ายเกิน 3 เดือน) พอถึงเดือนที่ 6 เขาก็เอามาจ่าย 2 เดือน + ค่าปรับ 10% เพื่อให้ไม่โดนแจ้งอายัติ ก็ไม่รู้ว่าคุ้มหรือเปล่า คงดูท่าทีว่า นิติฯจะฟ้อง 3 หลังแรกหรือไม่
มีอีก มบ.นึง ห่าง มบ.ผมประมาณ 3.5 กม. เป็นโครงการของศุภาลัยเช่นกัน สร้างก่อน มบ.ผม 2 ปี ที่นั่นฟ้องไป 7 หลังแล้ว มีตัวอย่างคำตัดสินมาให้ นิติฯ มบ.ผมใช้เป็น case study ได้ดี ก็เลยได้อาศัยจ้างทนายคนเดียวกันเลย
ถ้าแจ้งก็ต้องไปจ่ายก่อนแล้ว นิติฯ ออกเอกสารปลอดหนี้เป็นหลักฐานมาให้ สนง.ที่ดิน ก็จะสามารถโอนได้
ถ้านิติฯ ไม่ได้แจ้ง ตามกฎหมาย สามารถโอนได้ทันทีถือว่า นิติฯ บกพร่องต่อหน้าที่
แต่หลังจากรับโอนแล้ว เจ้าของใหม่ก็ต้องจ่ายนับจากวันที่โอนกรรมสิทธิ์
นิติฯ ก็ต้องตามฟ้องคุณพ่อ จขกท.เอาเอง นั่นคือข้อบกพร่องที่นิติฯ ต้องรับผิดชอบต่อลูกบ้านโดยส่วนรวม ฐานไม่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ๆ ระบุใน พรบ.จัดสรรที่ดิน 2543
อัตราค่าส่วนกลางจะต้องจัดเก็บตามมติที่ประชุมใหญ่ ดังนั้น ลูกบ้านทุกหลังจึงควรถือเป็นหน้าที่ ๆ จะเข้าร่วมประชุมใหญ่ทุกครั้ง การที่มาอ้างในวันหลังว่า ไม่ทราบ ไม่รับรู้ นั้น หากการดำเนินการเป็นไปตามมติที่ประชุมใหญ่ โดยมีรายงานการประชุมที่นิติฯยื่นต่อ สนง.ที่ดินเป้นหลักฐานแล้ว นั่นถือเป็นกฎหมายสำหรับชุมชนครับ
อยากเปลี่ยนหรือแก้ ต้องหาเสียงสนับสนุนให้เพียงพอและนำเสนอในที่ประชุมใหญ่ครั้งต่อไป หาก ที่ประชุมเห็นชอบ ส่งรายงานการประชุมไป สนง.ที่ดิน นั่นก็เสมือน กฎหมายใหม่ภายใน มบ. ภายใต้ พรบ.จัดสรรที่ดิน 2543 ครับ
ตาม พรบ.แล้วการเป็นสมาชิกใน มบ. ตามพรบ.จัดสรรที่ดิน จะอยู่อาศัยหรือไม่ ไม่เป็นข้ออ้างในการไม่ชำระค่าส่วนกลาง
ใน 3 หลังของ มบ.ผม
หลังหนึ่ง อยู่อาศัย แต่ประกาศว่า พอใจจะจ่ายเดือนละ 500 เท่านั้น ไม่สนใจมติอื่นใดทั้งสิ้น เขาโอนเงินเข้าบัญชีนิติฯเดือนละ 500 ทางนิติฯ ไม่รับรู้ครับ เพราะถือว่าไม่ชำระในอัตราตามมติที่ประชุมใหญ่
หลังที่ 2 อ้างว่า ไม่ได้อยู่บ้านเลย ให้น้องชายมาอยู่เป็นครั้งคราวเท่านั้น ไม่คุ้มเลยที่จะจ่ายตามอัตรา
หลังที่ 3 เจ้าของให้เขาเช่า ผู้เช่าบอกว่า จ่ายค่าส่วนกลางไปให้เจ้าของบ้านทุกเดือน แต่เจ้าของบ้านดันบอกกับนิติฯว่า ให้ผู้เช่าเป็นคนจ่าย
นิติฯ ก็เลยดำเนินตามที่กฎหมายกำหนดคือ เจ้าของที่ดินที่มีชื่อในโฉนด คือผู้รับผิดชอบครับ
ยังมีหลังที่ 4 ตามมาหลังนี้ไม่จ่ายมาแล้ว 4 เดือน โดนระงับบริการสาธารณะแล้ว (ไม่จ่ายเกิน 3 เดือน) พอถึงเดือนที่ 6 เขาก็เอามาจ่าย 2 เดือน + ค่าปรับ 10% เพื่อให้ไม่โดนแจ้งอายัติ ก็ไม่รู้ว่าคุ้มหรือเปล่า คงดูท่าทีว่า นิติฯจะฟ้อง 3 หลังแรกหรือไม่
มีอีก มบ.นึง ห่าง มบ.ผมประมาณ 3.5 กม. เป็นโครงการของศุภาลัยเช่นกัน สร้างก่อน มบ.ผม 2 ปี ที่นั่นฟ้องไป 7 หลังแล้ว มีตัวอย่างคำตัดสินมาให้ นิติฯ มบ.ผมใช้เป็น case study ได้ดี ก็เลยได้อาศัยจ้างทนายคนเดียวกันเลย
แสดงความคิดเห็น
ได้รับโอนบ้านจากพ่อ นิติเรียกหนี้ค่าส่วนกลางได้ไหม?
แต่ช่วง10ปีที่ผ่านมานี้คุณพ่อไม่ค่อยสบายเลยมาอาศัยอยู่กับผมแทน
5ปีที่ผ่านมาปรากฏว่าหมู่บ้านก็ได้จัดตั้งนิติแล้วก็เรียกเก็บค่าส่วนกลาง โดยที่ทางพ่อผมไม่ได้รับแจ้งอะไรเลย
เมื่อไม่กี่วันนี้พ่อผมเกิดนึกขึ้นได้ว่าอยากโอนให้ผม ก็เลยไปดำเนินการโอนกันเสร็จเรียบร้อย
วันนั้นผมก็เลยพาพ่อไปดูบ้านเล่นๆ ปรากฏว่าทางนิติมาเห็นเข้าพอดี ก็แจ้งว่าทางผมติดหนี้ค่าส่วนกลางอยู่
ทางผมก็เลยแจ้งว่าพ่อผมไม่ได้รับแจ้งอะไรมาก่อนเลย อยู่ก็ไม่ได้อยู่ (แถมมีขโมยงัดบ้านดึงสายไฟออกไปหมด)
เอาเป็นว่าแบบนี้ได้ไหม ในเมื่อผมได้รับโอนจากพ่อไปแล้ว ผมจะขอจ่ายนับจากนี้ไป
แต่ทางนิติไม่ยินยอมบอกว่าต้องจ่ายไม่งั้นจะไปแจ้งกรมที่ดินไม่ให้ผมโอนบ้านหลังจากนี้
คือจริงๆผมก็อยากจ่ายนะครับ แต่ผมสงสัยว่าในทางกฏหมายแล้ว ผมต้องชำระค่าส่วนกลางที่ทางนิติบอกว่าผมเป็นหนี้อยู่หรือไม่?