สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
กระทู้ตั้งแล้ว 1 ครั้ง คนเข้ามาตอบน้อย OK. คุณอยากรับฟังอีกหน ก็จะบอกให้สบายใจ หรือเจ็บปวดก็ไม่แน่ใจ ต้องถามนิดนะครับหากแนะ แล้วบอกแล้ว คุณทำได้ไหม เท่านั้น ?
การที่เขาเพิกเฉยกับคุณเพราะเข้าเองไม่มีทางออก รัก ก็รัก แต่หากกว่ารัก คือเขาไม่สามารถเผยกับทางบ้านได้เลยมีคนรักต่างศาสนาเพราะมันคือสิ่งที่ปิดหนทางรักเขาและคุณ อีกหนึ่งคุณไม่ได้บอกมาเลยว่า แฟนคุณสัญชาติอะไร หากอินเดีย หรือปากีสถานหรือประเทศไกล้เคียงสองประเทศนี้หากใช่ ก็รับทราบครับว่าคนย่านนั้น เขาเชื่อฟังพ่อแม่เขาสุดๆสังคมเขาคลุมถุงชนมาแตไหนแต่ไร หากจะให้เป็นไปได้อีกทางคุณจะต้องเปลื่ยนศาสนาตามเขา แต่......ทางบ้านเขาจะยอมรับคุณได้หรือไม่นั้น คือปัญหาครับ เพราะทางบ้านเขาย่อมอยากได้คนสัญชาติเดียวกันมาเป็นสะใภ้
สังคมของมุสลิมคุณทราบไหมว่า ผู้หญิงคือต้องรับฟังหรือทำตาม และต้องรับฟังคำสั่งของสามี ไม่ว่าผิดหรือถูกห้ามโต้แย้งทั้งนั้น ผมไม่ได้ขู่นะครับเพราะผมเองคลุกคลีกับสังคม อินเดียมุสลิม มานานพอควร
รับได้ไหมที่ต้องละหมาดวันละห้าครั้ง (เพราะคุณบอกครอบครัวชายเคร่งศาสนา) และอดอาหารเดือน Ramadan เดือนถือศีลอด จากค่อนแจ้งคือจะกินอาหารช่วงตีสามเศษๆ เวลาสุดท้ายที่จะดื่มน้ำคือก่อนตีห้าราวๆนั้น แล้วจะงดน้ำอาหารจนยัน 18 น.ไกล้ค่ำ
หากทางครอบครัวคุณ ยังถือพุทธ แน่นอนหากมีคนตาย คุณจะไม่สามารถมากราบขอขมาศพ ไหรือร่วมพิธีทางศาสนาไม่ได้ หรือไหว้ศพไม่ได้ถือว่าผิดครับห้ามทำ
คุณรับได้ไหมหากวันดีคืนดีหากเขาไปปิ๊งคนอื่นๆ และอยากมีเมียเพิ่ม และจะขอร้องแกมบังคับให้คุณไปขอหญิงนั้นมาร่วมใช้สามีร่วมกันกับคุณ คุณก็ต้องไปทั้งที่ในใจคุณเจ็บปวด แต่ต้องทำเพราะมันคือสิ่งที่ทั้งขู่ทั้งปลอบ ยกแม่น้ำทั้งห้ามาสาธยายให้คุณเห็นด้วย
นี่คือสิ่งเล็กน้อยที่คุณจะต้องรับทราบ และให้ศึกษาครับ หากทำได้ จัดไปหากทำไม่ได้ ก็ถอยออกมาครับ
การที่เขาเพิกเฉยกับคุณเพราะเข้าเองไม่มีทางออก รัก ก็รัก แต่หากกว่ารัก คือเขาไม่สามารถเผยกับทางบ้านได้เลยมีคนรักต่างศาสนาเพราะมันคือสิ่งที่ปิดหนทางรักเขาและคุณ อีกหนึ่งคุณไม่ได้บอกมาเลยว่า แฟนคุณสัญชาติอะไร หากอินเดีย หรือปากีสถานหรือประเทศไกล้เคียงสองประเทศนี้หากใช่ ก็รับทราบครับว่าคนย่านนั้น เขาเชื่อฟังพ่อแม่เขาสุดๆสังคมเขาคลุมถุงชนมาแตไหนแต่ไร หากจะให้เป็นไปได้อีกทางคุณจะต้องเปลื่ยนศาสนาตามเขา แต่......ทางบ้านเขาจะยอมรับคุณได้หรือไม่นั้น คือปัญหาครับ เพราะทางบ้านเขาย่อมอยากได้คนสัญชาติเดียวกันมาเป็นสะใภ้
สังคมของมุสลิมคุณทราบไหมว่า ผู้หญิงคือต้องรับฟังหรือทำตาม และต้องรับฟังคำสั่งของสามี ไม่ว่าผิดหรือถูกห้ามโต้แย้งทั้งนั้น ผมไม่ได้ขู่นะครับเพราะผมเองคลุกคลีกับสังคม อินเดียมุสลิม มานานพอควร
รับได้ไหมที่ต้องละหมาดวันละห้าครั้ง (เพราะคุณบอกครอบครัวชายเคร่งศาสนา) และอดอาหารเดือน Ramadan เดือนถือศีลอด จากค่อนแจ้งคือจะกินอาหารช่วงตีสามเศษๆ เวลาสุดท้ายที่จะดื่มน้ำคือก่อนตีห้าราวๆนั้น แล้วจะงดน้ำอาหารจนยัน 18 น.ไกล้ค่ำ
หากทางครอบครัวคุณ ยังถือพุทธ แน่นอนหากมีคนตาย คุณจะไม่สามารถมากราบขอขมาศพ ไหรือร่วมพิธีทางศาสนาไม่ได้ หรือไหว้ศพไม่ได้ถือว่าผิดครับห้ามทำ
คุณรับได้ไหมหากวันดีคืนดีหากเขาไปปิ๊งคนอื่นๆ และอยากมีเมียเพิ่ม และจะขอร้องแกมบังคับให้คุณไปขอหญิงนั้นมาร่วมใช้สามีร่วมกันกับคุณ คุณก็ต้องไปทั้งที่ในใจคุณเจ็บปวด แต่ต้องทำเพราะมันคือสิ่งที่ทั้งขู่ทั้งปลอบ ยกแม่น้ำทั้งห้ามาสาธยายให้คุณเห็นด้วย
นี่คือสิ่งเล็กน้อยที่คุณจะต้องรับทราบ และให้ศึกษาครับ หากทำได้ จัดไปหากทำไม่ได้ ก็ถอยออกมาครับ
แสดงความคิดเห็น
พอจะเป็นไปได้ไหมที่มุสลิมจะรักกับคนพุทธโดยไม่ต้องหลบๆซ่อนๆ
สวัสดีเพื่อนๆทุกคนนะคะ ตอนนี้เรามีเรื่องน่าปวดหัวที่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกสักที ก็ตามหัวข้อกระทู้นั่นแหละค่ะ
เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์และฟังความเห็นจากเพื่อนๆดูค่ะ เริ่มเลยนะคะ
เมื่อปีที่แล้วเราไปเรียนภาษาที่ประเทศอังกฤษมาค่ะ แค่ช่วงสั้นๆ4 เดือน แล้วได้ไปพบรักกับผู้ชายคนนึงที่นู่น
เขาไม่ใช่ฝรั่งค่ะ หน้าออกแขกๆ พอเราคุยไปคุยมาก็เพิ่งรู้ว่าเขาเป็นมุสลิม ครอบครัวเขาย้ายมาอยู่ที่อังกฤษนานมากแล้ว
ตอนนั้นเราทั้งคู่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คบกันไปขำๆ เพราะเรามาเรียนแปปเดียวเขาก็ไม่กล้าจริงจังกับเรา ส่วนเราก็เหงามากตอนนั้น
ได้มีเพื่อนอยู่ที่นี่สักคนก็ดีเหมือนกัน คิดว่าพอกลับไทย ทุกอย่างก็คงจบไป
แต่ไปๆมาๆ เราก็เริ่มจริงจังกันมากขึ้น เรารู้สึกว่านิสัยเราเข้ากันทุกอย่าง เวลาอยู่ด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกันมันมีความสุขมาก
เขามาหาเรา มาแฮงเอาท์กับเพื่อนๆคนไทยของเราบ่อย แต่เราไม่เคยไปเจอเพื่อนเขาเลย
และพอถึงเวลาที่เราต้องกลับไทย พอเขามาส่งที่สนามบินนั่นแหละค่ะ เราทั้งคู่ก็เศร้ามากๆ เราหยุดร้องไห้ไม่ได้เลย
ตั้งแต่ตอนนั้นเราก็รู้สึกว่าเราจริงจังกับเขามาก และไม่อยากเลิก เขาเองก็คงคิดเหมือนกัน จากนั้นเราก็คบกันต่อมาเรื่อยๆ
แบบ Long distance relationship วีดีโอคอลหากันทุกวัน ตอนเช้าก่อนเขาไปทำงาน กับตอนเย็นเขาเลิกงาน เป็นแบบนี้ทุกๆวัน
อีกไม่กี่เดือนต่อมาเขาก็มาหาเราที่ไทย อยู่ด้วยกันสองอาทิตย์ และหลังจากนั้นประมานสี่เดือนเราก็ไปหาเขาที่อังกฤษ
ก็ตกลงกันว่าคงไปๆมาๆกันแบบนี้แหละ ตอนนี้ก็เกือบปีแล้วที่รู้จักกันมา ความสัมพันธ์ก็เรื่มจริงจังมากขึ้น
เขาก็เล่าให้เราฟังมาบ้างในตอนแรกๆว่า ครอบครัวเขาต้องการให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงมุสลิมด้วยกัน แม่เขาก็ขอให้เขาแต่งงานมาตั้งแต่สองปีที่แล้ว
แต่เขายังไม่พร้อมก็ปฏิเสธมาตลอด เราก็เคยถามว่า อ้าว แล้วระหว่างเรามันจะเป็นไปได้เหรอ เขาก็บอกว่าทุกอย่างมันเป็นไปได้หมดแหละ
แต่เขาก็ไม่กล้ารับปากกับเราว่ามันจะเป็นไปได้อย่างที่เราหวังไว้ ถ้าพ่อแม่เขาไม่ยอมเขาก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะที่บ้านเขาเป็นมุสลิมที่ค่อนข้างเคร่งมากๆ
พอความสัมพันธ์มันเริ่มจริงจังขึ้นเราก็อึดอัด เพราะเราไม่เคยรู้จักเพื่อนหรือคนในสังคมของเขาเลย (ยกเว้นเพื่อนที่เป็นคนไทยของเราที่เป็นคนทำให้เรา
ได้รู้จักกับเขาที่อังกฤษ เพราะมันไปเมาแล้วรู้จักคนไปทั่ว) เขาไม่เคยแนะนำเพื่อนหรือใครให้เรารู้จักเลย เขาปิดเราเป็นความลับกับครอบครัวเขา
เขาบอกว่าครอบครัวเขาจะรู้ไม่ได้ เพราะคงจะรับไม่ได้และให้เลิกกับเรา เขาไม่สามารถคุยโทรศัพท์กับเราให้ครอบครัวเขาได้ยินได้
หรือแม้กระทั่งเวลาอยู่กับเพื่อนเขาก็ต้องแยกตัวออกมาคุย พอเราเรื่มทนไม่ไหว เราก็เลยถามเขาไปว่าตกลงระหว่างเรานี่ทำยังไงจะได้อยู่ด้วยกัน
คือเราวางแผนไว้ว่าจะไปเรียนต่อโทที่อังกฤษ เขาก็บอกเราว่า เราต้องมาเรียนต่อ แล้วจากนั้นก็ค่อยหางานทำที่นั่น ถ้าเราหาทางอยู่ที่นั่นได้แล้ว
ค่อยมาคิดกันอีกทีว่าจะบอกครอบครัวเขายังไง ซึ่งก็ไม่แน่อยู่ดีว่าครอบครัวเขาจะรับได้ และการไปหางานที่นู่นมันก็เป็นเรื่องที่ยากมากๆเพราะ
เราไม่มีเวิร์คเพอมิท จากที่เราเคยศึกษามาตามอินเตอร์เน็ต คนส่วนใหญ่ก็จะแต่งงานก่อนเพื่อให้ได้วีซ่าไปอยู่ที่นู่น แล้วถึงจะหางานทำ
แต่สำหรับเขามันคงเป็นเรื่องที่ยากมากๆที่จะแต่งงานโดยที่ตัวเรายังอยู่ที่ไทย เขาบอกว่าครอบครัวเขาคงไม่ยอมรับ
สรุปก็คือ ตอนนี้ทุกๆอย่างไม่มีอะไรแน่นอนในความสัมพันธ์ของเราเลย เราขอร้องให้เขาพาเพื่อนมารู้จักเราสักคนนึงได้ไหม
อย่างน้อยๆมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา เราจะได้ติดต่อจากเพื่อนเขาได้ ไม่ใช่ไม่รู้จักสังคมของเขาเลยแบบนี้
เขาก็ตกลง แต่ไปๆมาๆก็ไม่ได้พาเราไปรู้จักใครเลย เราขอร้องเท่าไรเขาก็บอกแค่ว่าไม่รู้จะแนะนำใครให้รู้จัก เพื่อนๆทุกคนก็รู้จักและสามารถ
ลิ้งค์ไปถึงครอบครัวเขาได้หมดเลย จนเราเหนื่อยจะพูดเรื่องนี้มากๆแล้ว ตอนที่เขามาไทย เขาขอไปเจอเพื่อน เจอครอบครัวเรา เราก็พาไป
เพราะคิดว่าเขาคงจะพาเราไปรู้จักเหมือนกัน แต่ก็เปล่าเลย เราก็ยังทนคบต่อมาเรื่อยๆเพราะรักมากๆ ไม่อยากเลิก
ถึงแม้จะรู้ว่ามันอาจจะเป็นไปไม่ได้ เพราะเราเชื่อว่า ถ้าเขารักเราจริงเขาคงจะไม่ทำอะไรให้เราเสียใจ แต่มันทรมานมากๆ หรือบางทีมันผิดที่เรา
ตั้งแต่แรกที่ไปรู้จักกัน แล้วก็รักกันโดยไม่รู้ตัวถึงแม้จะรู้ว่ามันคบกันยากขนาดนี้
เมื่อวานเรายื่นคำขาดไปว่า ถ้าเขายังไม่สามารถทำให้เราแน่ใจได้ว่าคบไปเรื่อยๆแล้ววันนึงเขาจะไม่บอกเลิกเราเพื่อไปแต่งงานตามที่ครอบครัวเขา
ขอร้อง หรือถ้าเขาไม่แนะนำเพื่อนหรือใครในสังคมของเขาให้เรารู้จักได้เลย เราก็คงไม่มีเหตุผลที่จะคบกันต่อไป
ซึ่งคำตอบก็เหมือนเดิม เขาให้ความแน่นอนอะไรเราไม่ได้เลย ซึ่งนี่มันก็เกือบปีแล้ว เราอึดอัดมาก แต่ก็ไม่อยากเลิก
ไม่รู้จะทำยังไง ตอนนี้เราคุยกับเขาน้อยลง เพราะเราเครียดมาก เหมือนกับพอถึงจุดที่เราต้องการความแน่นอนของชีวิตแล้วเขาให้ไม่ได้
เขาก็พูดแค่ว่าเขาทำให้ไม้ได้จริงๆ ถ้าเราไม่มีความสุขเขาก็จะปล่อยเราไป ซึ่งแน่นอนเราไม่อยากเลิก แต่ก็ทรมาน
เราควรจะคบต่อไป โดยที่ทำใจไว้เลยว่าอนาคตอาจจะต้องเสียใจ ครอบครัวเขาอาจจะไม่ยอมรับเรา แล้วเราก็ต้องปล่อยเขาไป
แต่มันก็ไม่แฟร์กับเรา เพราะตอนนี้เราเป็นความลับของเขาที่เขาปิดเราจากทุกคนรอบตัวเขา และพอถึงเวลาที่เขาต้องไป
เขาก็ไปมีครอบครัวของเขา ส่วนเราก็คงอยู่คนเดียว จะเริ่มใหม่กับใครก็คงต้องใช้เวลา คิดไม่ออกเลยค่ะตอนนี้ื มืดแปดเก้าสิบสิบเอ็ดด้านเลยค่ะ