พระพุทธองค์ทรงค้นพบอริยะสัจ ๔ ท่านจึงบำเพ็ญเพียรทำจิตให้ว่างจากการปรุงแต่ง (มรรค) ทำอยู่หลายปีจนสมองเริ่มไม่ตอบรับข้อมูลใดๆ ตะกอนต่างๆ(ขยะสมอง) เริ่มลงเหมือนน้ำขุ่นที่ค่อยๆใส จิตที่ว่างต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ วันหนึ่งประมาณ ๗๐-๘๐% เริ่มเห็นทุกอย่างตามความเป็นจริง จึงเริ่มเห็น ไฟราคะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ (ที่มากระทบจิต) จึงไม่ปล่อยให้จิตออกจากสมาธิ (ปรุงแต่ง แม้นแต่ปัญญา) ว่างอยู่อย่างนั้นจนเข้าอาณาปานสติ จิตเป็นหนึ่ง(เอก) อยู่กับลมหายใจ เป็นลมปราณที่ยาวและลึก จนถึงซึ่งนิพพาน มิต้องอาศัยทุ่นใดๆให้จิตเกาะอีกต่อไป เพื่อนเอ๋ยท่านทุกคนมาไกลแล้ว อย่าแวะกลางทางเลยจงเดินไปให้สุดทาง แบ่งปันประสบการณ์ อย่ามาแตกฉานทางภาษาแล้วขัดแย้งกันเลย มุ่งสู่ความหลุดพ้น อย่าแสวงหา ลาภ ยศ สรรเสริญ สุขเลย จะไปไม่สุดทาง
(เรายังหันไปหันมาอยู่)
ขบวนการทางจิต หยุดสั่งจิต จะกลายเป็นสะกดจิตตนเอง
(เรายังหันไปหันมาอยู่)