ตะพรตสักทอง
ปกติไม่ใช่แนวนี้ครับ แต่ ขอซักเรื่องนึงครับ พอดีนึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องนิ้อยู่ด้วย 555555
คงต้องย้อนความไปถึง สมัยผมบวชครับ 5-6ปีที่แล้วครับ คือ ผมจะขอไม่ลงลึกรายละเอียดถึงสถานที่และตัวบุคคลในลักษณะชี้เฉพาะนะครับ คือพอดีช่วงนี้ มีเหตุที่ต้องได้เห็นมันบ่อยๆครับ ก็เลยนึกขึ้นมาได้ เข้าเรื่องเลยนะครับ
ซักปี 54-55 ผมบวชครับ ผิดหวังจากความรัก ทะเลาะกับพ่อเพราะเรื่องงานที่บ้าน และเรื่องการใช่ชีวิตของผม ผมจึงคิดจะบวชครับ ก็พูดตามตรงว่า บวชเพราะเบื่อปัญหา อยากไปพักกายพักใจ พักตับ 55555 ผมบวชนานนะครับ 6เดือนได้ แค่ไม่ได้บวชช่วงเข้า-ออกพรรษาเท่านั้น วัดที่ผมบวชนี้ ค่อนข้างเป็นวัดที่เก่าแก่ในอำเภอครับ ไม่เก่าสุด แต่มีเกจิดังในท้องที่อยู่ ขึ้นชื่อเรื่องเมตตาและการหาของหายมากๆ ผมก็ คนนึง ที่จะเรียกว่าคนเล่นของก็คงไม่ใช่ เพียงแต่สะสมพระเครื่องที่ชอบ เครื่องรางที่ถูกใจครับ ประคด ที่เอวนี่ เต็มไปด้วยตะกรุด เย็บติดไว้ เคยมีประสบการณ์ร่วมกันมาบ้างครับ ตามประสาวัยรุ่นเดี่ยวกลางคืน(ทุกวันนี้ ผมก็ยังผูกประคดนี้อยู่ เพราะผ่านการทำวัตร ผ่านมนตร์ พิธีกับผมมาเยอะ) ซึ่งอาจเพราะผมบวชนานกว่าวัยรุ่นทั่วไปครับ ท่านเจ้าอาวาสรูปใหม่นี่ดำรงแท่นเกจิอาจารย์รูปเก่าที่ได้ละสังขารไปนั้น จึงค่อนข้างสนิทกัน(จริงๆก็เป็นญาติห่างๆกันด้วย) ผมเองก็ได้เรียนมนตร์ อะไรที่ในหนังสือไม่มีมาบ้าง ส่วนตัวไม่เกิดผลครับ เขาว่าผมเพ่งและตั้งใจไม่พอ 5555555 ช่วยงานวัดทุกอย่างครับ สึกออกมาได้ของดีมาเต็มตัว(ไม่ได้สักครับ เพราะไม่มีที่ให้สักของละ 5555)
หลังจากสึกมาได้ซักปีนึงครับ ผมก็ได้รับสายนึง เป็นเบอร์ของโฆษกวัด โทรมาหาผม บอกว่า เจ้าอาวาสขอทำบุญ ขอยืมรถบรรทุกที่บ้าน มาขนกิ่งไม้ให้หน่อย ผมก็ตบปากรับคำโดยไม่ถามรายละเอียดครับ เพราะไม่คิดจะปฏิเสธอยู่แล้ว เมื่อไปถึงงาน พระอาจารย์(เจ้าอาวาส)กำลังทำพิธีอยู่ ต้นไม่ที่จะตัดนั้นคือ ต้นสักทองครับ ต้นมันใหญ่มาก 4-5คนโอบได้มั้งครับ อยู่หน้าวิหารใหม่ ซึ่งจะย้ายต้นไม่นี้ออก เพราะว่า จะตั้งเพราะสิวลีแทน ผมก็เหวอครับ ต้นใหญ่ขนาดนี้ จะตัดจริงหรอ? พระอาจารย์บอกว่า ย้าย!!! ตัดก็ติดคุก ถึงจะเป็นของวัด ก็คือย้ายไปวัดที่อยู่ข้างเคียง เป็นวัดป่า นะจะเป็นประโยชน์กว่าครับ ซึ่ง วันที่ต้องใช้รถผมนั้น เพียงแต่ตัดกิ่งก้านที่แผ่ขยายออก เพื่อให้รถเครนมายกต้นไม้ขึ้นและย้ายในวันรุ่งขึ้น ระหว่างคุย เขาก็เริ่มตัดกัน ผมก็พระอาจารย์ก็คุยกันถึงความหลังสมัยผมบวชกันครับ เพราะผมก็เคยปีนต้นไม่นี้ เพื่อตัดกิ่งไม่ให้มันแทงดันวิหารใหม่ ก็ยืนคุยกันอยู่ห่างจากรัศมิกิ่งก้านอยู่นะครับ แต่รหว่างคุย ก็มีกิ้งไม้กิ่งนึง เรียกท่อนไม่เลยก็ได้ครับ ยาวประมาณ 2 เมตรครับ เส้นรอบวงกำลังพอดีมือครับผมก็หยิบขึ้นมาแล้วพูดลอยๆขึ้นมาแบบไม่คิดอะไรว่า
“โอ หลวงพ่อครับ ท่อนพอดีมือเลย น่าไปทำตะพรต”
“ ก็เอาไปสิ”
“ได้หรอครับหลวงพ่อ”
“เออ กูให้ ยังไงกูก็ต้องทำพิธี แล้วไอ้ที่ตัดทิ้งเนี่ย ถ้าขนไปไม่หมด ก็มีคนมาหยิบไปอยู่ดี เอาไปเถอะ”
ผมก็จัดแจงยกมือไหว้ต้นสักอีกทีครับ แล้วก็จัดแจงลอกเปลือกไม้(แข็งโคตรรรรรร) ตัดจนได้ทรง สรุปก็ได้ซักประมาณความยาวที่เมตรนึงได้ครับ ทรงสวยเลย โค้งได้รูป เนื้อสีอ่อนสวยครับ ผมกลับบ้าน ก็เอามาขัด มาเหลาต้อ เพราะไม่สัด มันไม่เหมือนต้นไม่เล็กที่เอามือลอกเปลือกได้ มันต้องใช้มีดฟัน ผมก็กลับบ้านมานั่งขัดไปครับ แต่งทรงไปเรื่อยเลยครับ ตอนยังไม่เสร็จ ผมก็เอาไว้ในโรงรถครับ ซักสัปดาห์นึงผมก็แต่งทรงจนเสร็จครับ เคลือบเลม่อนออยเรื่อยๆ เพราะไม่อยากเคลือบแล็คครับ ผมว่าผมฝอยมานานละ เข้าเรื่องนะครับ แรกๆที่เข้าห้องมาอยู่ มันจะมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นครับ คือ เรียกว่าดีก็มีดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ปกติบ้านผม เจ้าที่แรงครับ อย่างที่เคยเล่าไว้ ก่อนหน้านี้ปกติดี พอเอาเข้าห้องนอน คืนแรกผมกลับบ้านมาดึกมาก ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนนี่ล่ะครับกลับมาตี 3 ได้ ทั้งๆที่วันรุ่งขึ้น ต้องไปประชุมกับลูกค้าตั้งแต่9โมง ก็คิดว่า ยังไงเราก็ตื่นได้อยู่แล้ว นอนหลับยาวเลยครับ รู้สึกตัวอีกที เสียงเหมือนมีใครทุบประตูห้องผม แรงมากๆ ประตูไม้แท้ขนาดกว้าง 1 เมตร กะพรือทั้งบานครับ ตอนผมสะดุ้งขึ้นมาหยิบแว่นใส่ ไอ้พวงของแต่งบ้านลายนกฮูกที่แขวนไว้ที่ลูกบิดยังสั่นอยู่เลยครับ ผมก็คิดว่าแม่มาปลุก มองนาฬิกา ตายแล้ว 8 โมง ที่ตั้งปลุกไว้7โมง กดปิดไปหมด ก็ตื่นไปอาบน้ำ ไปประชุมปกติครับกลับมาบ้านบ่ายๆ เจอแม่นั่งเล่นเฟสบุ๊คอยู่ ผมก็เลยพูดขึ้นมาว่า
“แม่ ปลุก ดีๆก็ได้ ปลุกซะดังเลย”
“ปลุกไรวะ แม่ออกมาส่งน้องตั้งแต่6โมง 50 ป๊ามุงก็ออกไปทำรถตั้งแต่ตี 4กว่า ยังไม่กลับเลย”
เดี๋ยวบ่ายๆมาต่อนะครับ ^^
ไม่รู้จะมีใครสนใจอ่านมั้ย
ตะพรตสักทอง
ปกติไม่ใช่แนวนี้ครับ แต่ ขอซักเรื่องนึงครับ พอดีนึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องนิ้อยู่ด้วย 555555
คงต้องย้อนความไปถึง สมัยผมบวชครับ 5-6ปีที่แล้วครับ คือ ผมจะขอไม่ลงลึกรายละเอียดถึงสถานที่และตัวบุคคลในลักษณะชี้เฉพาะนะครับ คือพอดีช่วงนี้ มีเหตุที่ต้องได้เห็นมันบ่อยๆครับ ก็เลยนึกขึ้นมาได้ เข้าเรื่องเลยนะครับ
ซักปี 54-55 ผมบวชครับ ผิดหวังจากความรัก ทะเลาะกับพ่อเพราะเรื่องงานที่บ้าน และเรื่องการใช่ชีวิตของผม ผมจึงคิดจะบวชครับ ก็พูดตามตรงว่า บวชเพราะเบื่อปัญหา อยากไปพักกายพักใจ พักตับ 55555 ผมบวชนานนะครับ 6เดือนได้ แค่ไม่ได้บวชช่วงเข้า-ออกพรรษาเท่านั้น วัดที่ผมบวชนี้ ค่อนข้างเป็นวัดที่เก่าแก่ในอำเภอครับ ไม่เก่าสุด แต่มีเกจิดังในท้องที่อยู่ ขึ้นชื่อเรื่องเมตตาและการหาของหายมากๆ ผมก็ คนนึง ที่จะเรียกว่าคนเล่นของก็คงไม่ใช่ เพียงแต่สะสมพระเครื่องที่ชอบ เครื่องรางที่ถูกใจครับ ประคด ที่เอวนี่ เต็มไปด้วยตะกรุด เย็บติดไว้ เคยมีประสบการณ์ร่วมกันมาบ้างครับ ตามประสาวัยรุ่นเดี่ยวกลางคืน(ทุกวันนี้ ผมก็ยังผูกประคดนี้อยู่ เพราะผ่านการทำวัตร ผ่านมนตร์ พิธีกับผมมาเยอะ) ซึ่งอาจเพราะผมบวชนานกว่าวัยรุ่นทั่วไปครับ ท่านเจ้าอาวาสรูปใหม่นี่ดำรงแท่นเกจิอาจารย์รูปเก่าที่ได้ละสังขารไปนั้น จึงค่อนข้างสนิทกัน(จริงๆก็เป็นญาติห่างๆกันด้วย) ผมเองก็ได้เรียนมนตร์ อะไรที่ในหนังสือไม่มีมาบ้าง ส่วนตัวไม่เกิดผลครับ เขาว่าผมเพ่งและตั้งใจไม่พอ 5555555 ช่วยงานวัดทุกอย่างครับ สึกออกมาได้ของดีมาเต็มตัว(ไม่ได้สักครับ เพราะไม่มีที่ให้สักของละ 5555)
หลังจากสึกมาได้ซักปีนึงครับ ผมก็ได้รับสายนึง เป็นเบอร์ของโฆษกวัด โทรมาหาผม บอกว่า เจ้าอาวาสขอทำบุญ ขอยืมรถบรรทุกที่บ้าน มาขนกิ่งไม้ให้หน่อย ผมก็ตบปากรับคำโดยไม่ถามรายละเอียดครับ เพราะไม่คิดจะปฏิเสธอยู่แล้ว เมื่อไปถึงงาน พระอาจารย์(เจ้าอาวาส)กำลังทำพิธีอยู่ ต้นไม่ที่จะตัดนั้นคือ ต้นสักทองครับ ต้นมันใหญ่มาก 4-5คนโอบได้มั้งครับ อยู่หน้าวิหารใหม่ ซึ่งจะย้ายต้นไม่นี้ออก เพราะว่า จะตั้งเพราะสิวลีแทน ผมก็เหวอครับ ต้นใหญ่ขนาดนี้ จะตัดจริงหรอ? พระอาจารย์บอกว่า ย้าย!!! ตัดก็ติดคุก ถึงจะเป็นของวัด ก็คือย้ายไปวัดที่อยู่ข้างเคียง เป็นวัดป่า นะจะเป็นประโยชน์กว่าครับ ซึ่ง วันที่ต้องใช้รถผมนั้น เพียงแต่ตัดกิ่งก้านที่แผ่ขยายออก เพื่อให้รถเครนมายกต้นไม้ขึ้นและย้ายในวันรุ่งขึ้น ระหว่างคุย เขาก็เริ่มตัดกัน ผมก็พระอาจารย์ก็คุยกันถึงความหลังสมัยผมบวชกันครับ เพราะผมก็เคยปีนต้นไม่นี้ เพื่อตัดกิ่งไม่ให้มันแทงดันวิหารใหม่ ก็ยืนคุยกันอยู่ห่างจากรัศมิกิ่งก้านอยู่นะครับ แต่รหว่างคุย ก็มีกิ้งไม้กิ่งนึง เรียกท่อนไม่เลยก็ได้ครับ ยาวประมาณ 2 เมตรครับ เส้นรอบวงกำลังพอดีมือครับผมก็หยิบขึ้นมาแล้วพูดลอยๆขึ้นมาแบบไม่คิดอะไรว่า
“โอ หลวงพ่อครับ ท่อนพอดีมือเลย น่าไปทำตะพรต”
“ ก็เอาไปสิ”
“ได้หรอครับหลวงพ่อ”
“เออ กูให้ ยังไงกูก็ต้องทำพิธี แล้วไอ้ที่ตัดทิ้งเนี่ย ถ้าขนไปไม่หมด ก็มีคนมาหยิบไปอยู่ดี เอาไปเถอะ”
ผมก็จัดแจงยกมือไหว้ต้นสักอีกทีครับ แล้วก็จัดแจงลอกเปลือกไม้(แข็งโคตรรรรรร) ตัดจนได้ทรง สรุปก็ได้ซักประมาณความยาวที่เมตรนึงได้ครับ ทรงสวยเลย โค้งได้รูป เนื้อสีอ่อนสวยครับ ผมกลับบ้าน ก็เอามาขัด มาเหลาต้อ เพราะไม่สัด มันไม่เหมือนต้นไม่เล็กที่เอามือลอกเปลือกได้ มันต้องใช้มีดฟัน ผมก็กลับบ้านมานั่งขัดไปครับ แต่งทรงไปเรื่อยเลยครับ ตอนยังไม่เสร็จ ผมก็เอาไว้ในโรงรถครับ ซักสัปดาห์นึงผมก็แต่งทรงจนเสร็จครับ เคลือบเลม่อนออยเรื่อยๆ เพราะไม่อยากเคลือบแล็คครับ ผมว่าผมฝอยมานานละ เข้าเรื่องนะครับ แรกๆที่เข้าห้องมาอยู่ มันจะมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นครับ คือ เรียกว่าดีก็มีดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ปกติบ้านผม เจ้าที่แรงครับ อย่างที่เคยเล่าไว้ ก่อนหน้านี้ปกติดี พอเอาเข้าห้องนอน คืนแรกผมกลับบ้านมาดึกมาก ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนนี่ล่ะครับกลับมาตี 3 ได้ ทั้งๆที่วันรุ่งขึ้น ต้องไปประชุมกับลูกค้าตั้งแต่9โมง ก็คิดว่า ยังไงเราก็ตื่นได้อยู่แล้ว นอนหลับยาวเลยครับ รู้สึกตัวอีกที เสียงเหมือนมีใครทุบประตูห้องผม แรงมากๆ ประตูไม้แท้ขนาดกว้าง 1 เมตร กะพรือทั้งบานครับ ตอนผมสะดุ้งขึ้นมาหยิบแว่นใส่ ไอ้พวงของแต่งบ้านลายนกฮูกที่แขวนไว้ที่ลูกบิดยังสั่นอยู่เลยครับ ผมก็คิดว่าแม่มาปลุก มองนาฬิกา ตายแล้ว 8 โมง ที่ตั้งปลุกไว้7โมง กดปิดไปหมด ก็ตื่นไปอาบน้ำ ไปประชุมปกติครับกลับมาบ้านบ่ายๆ เจอแม่นั่งเล่นเฟสบุ๊คอยู่ ผมก็เลยพูดขึ้นมาว่า
“แม่ ปลุก ดีๆก็ได้ ปลุกซะดังเลย”
“ปลุกไรวะ แม่ออกมาส่งน้องตั้งแต่6โมง 50 ป๊ามุงก็ออกไปทำรถตั้งแต่ตี 4กว่า ยังไม่กลับเลย”
เดี๋ยวบ่ายๆมาต่อนะครับ ^^
ไม่รู้จะมีใครสนใจอ่านมั้ย