วันที่ 2 ของการท่องเที่ยวใน ไต้หวัน เช้านี้ยังมีสายฝนตกหนักพอควร กว่าจะได้ก้าวเท้าออกจากโรงแรมก็เกือบ 10 โมง แต่ฝนยังตกปรอยๆอยู่ วันนี้มีเป้าหมายจะไปขึ้นกระเช้าที่เมาคงไปเดินถ่ายรูปที่ไร่ชาด้านบนเขา ออกจากโรงแรมหาอะไรกินมื้อเช้าจนอิ่มจะได้ไม่กังวลมื้อกลางวัน เราเดินทางกันด้วยรถไฟเหมือนเดิมเริ่มจากสถานีซีเหมิน (Ximen) นั่งรถไฟสายสีน้ำเงินไปต่อรถไฟอีกขบวนที่ สถานีซงเชียว ฟู่ซิง (Zhongxiao Fuxing) นั่งไปรถสายสีน้ำตาลไปลงสุดทางที่ ไทเปซู (Taipei Zoo) ออกจากสถานีรถไฟเดินไปที่สถานีกระเช้าเมาคง ระยะทางประมาณ 300 เมตรอากาศเย็นฝนตกปรอยๆ เดินสบาย
สวนหย่อมก่อนถึงสถานีกระเช้าเมาคงมีรูปปั้น มีจุดถ่ายรูปป้ายสวนสัตว์ไทเป U-bike มีอยู่ทุกที่นักท่องเที่ยวอย่างเราสามารถลงทะเบียนแล้วจ่ายค่าเช่าด้วย อีซี่ การ์ดได้ แต่ครั้งนี้ไม่ได้ปั่นเพราะเจอฝนเกือบตลอดทริป
ตึกข้างหน้าคือสถานีขึ้นกระเช้าเมาคง เดินถ่ายรูปได้เรื่อยๆ แถวนี้เงียบๆ ไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่านมาส่วนใหญ่มีแต่นักท่องเที่ยว
เดินถ่ายรูปในสวนหย่อมไปเรื่อยๆ พี่หมีแพนด้า ท่าทางน่ารักดียังมีรูปปั้นสัตว์ท่าทางน่ารักอีกหลายตัวในสวนหย่อมแห่งนี้
สุดทางเดินสวนหย่อมจะถึงสถานีกระเช้าเมาคง จากนั้นเข้าไปในสถานีกระเช้าที่ออกตั๋วอยู่ชั้นบนของสถานี
ในสถานีกระเช้ามีร้านขายของที่ระลึกเกี่ยวกับชาและไอศครีมรสชาขายด้วย ใครไม่มี อีซี่ การ์ด หยอดเงินที่ตู้อัตโนมัติซื้อตั๋วได้เลยจะลงสถานีไหนก็จ่ายเฉพาะจุดที่เราจะลง มีที่เที่ยวอยู่สามจุด 1. สถานีสวนสัตว์ ไทเป (Taipei Zoo South Station) 2. สถานีวัดซีหนาน (Zhinan Temple station) 3. สถานีเมาคง (Maokong Station) ราคาก็ต่างกันไปถ้าใช้ตู้ขายตั๋วไม่เป็น สามารถซื้อกับเจ้าหน้าที่ในช่องขายตั๋วได้
กระเช้าจะเป็นแบบพื้นกระจกใส เราจะสามารถมองเห็นความเขียวสดชื่นของป่าไม้ด้านล่างได้ กระเช้าจะค่อยๆวิ่งไปเรื่อยๆ จอกตามสถานีต่างๆ เรื่อยไปจนถึงสถานียอดเขาเมาคงใช้เวลาประมาณ 30 นาทีได้ชมวิวป่าเขาและวิวเมืองไปเพลินๆ
อากาศบนยอดเขามีหมอกลงอุณหภูมิประมาณ 10 องศาในช่วงกลางเดือนมีนา เย็นขนาดเวลาพูดแล้วมีควันออกปาก ขณะที่บ้านเราร้อนกันจักกะแร้ชุ่มฉ่ำ
ถ้าเดินมาทางด้านขวาจะมีร้านขายน้ำชาเรียงรายตลอดทาง รวมถึงพวกคาเฟ่และร้านอาหาร เดินไปสักระยะจะพบทางเดินลงไปเที่ยวชมไร่ชาเป็นการเดินลงเขาและขึ้นเขาซึ่งทางเดินจะเชื่อม ไปยังสถานที่เที่ยวต่างๆ บนเขาเมาคง จะมีป้ายบอกทางเดินไปจุดต่างๆตลอดทางไม่ต้องกลัวหลง กลัวเหนื่อยอย่างเดียวพอเพราะแต่ละจุดไกลกันพอสมควร
มีแมวไปทุกที่ ภาพปูนปั้นน่ารักบนกำแพง ในภาพด้านล่างไม่รู้คือเตาเผาอะไรสักอย่างในสมัยก่อน
ทางเดินคดเคี้ยวไปเรื่อยๆตลอดทางมีร้าน้ำชาและมีร้านอาหารหลายร้าน เวลาเดินควรระวังรถด้วยมีทั้งรถบัสและรถเก๋ง ถนนค่อนข้างแคบตามทางโค้งโปรดระวังรถด้วยอย่าถ่ายรูปเพลิน
ทางเดินตามไร่ชา ทำดีมีการปูพื้นหินอย่างดี เจอคุณลุง คุณป้าชาวไต้หวันสูงอายุมาเดินออกกำลังกายกันด้วยแข็งแรงจริงๆ ไร่ชาจะปลูกันตามไหล่เขาเหมือนไร่ชาทางเหนือบ้านเรา แต่ที่ไต้หวันเป็นต้นกำเนิดชาอู่หลงและทิกวนอิม ที่นักดื่มชาทั้งหลายยกนิ้วให้ในเรื่องคุณภาพของชา ปลูกกันมานานหลายร้อยปี
ยอดใบชาที่เก็บเอามาทำพวกชาเขียว เขาจะเก็บชากันในช่วงเช้ามืด นอกจากพวกชาเราจะเห็นมีการปลูกพวกผักกาด ผักสลัดด้วยแซมไปกับไร่ชา
ป้ายบอกทางไปสถานที่ต่างๆ ตอนแรกเดินไปวัดฉางชานแต่เดินไปสักระยะเหมือนมันไกลกว่าที่ป้ายบอกเดินแค่ 1 กิโล เราเลยเดินกลับเพราะขึ้นเขาลงเขาเมื่อยหัวเข่าเหมือนกันและฝนก็ยังตกๆ หยุดๆ ตลอดเวลา
นอกจากไร่ชาแล้ว ตามทางเดินบางช่วงเราจะเจอกับต้นซากุระด้วยแม้ไม่ได้มีเยอะแต่กำลังผลิดอกออกมาสวยงาม แต่ก็มีบางต้นดอกร่วงไปเกือบหมดแล้ว เข้าใจว่าอากาศคงแปรปรวนพอสมควรเพราะช่วงนี้น่าจะเป็นหน้าซากุระบาน เลยไม่ค่อยได้เก็บภาพซากุระมามากเท่าไหร่ ที่เราแพลนว่าจะไปชมก็ยังไม่บาน บางที่ก็ร่วงจนเกือบหมดต้นแล้ว
นอกจากไร่ชาแล้ว ตามทางเดินบางช่วงเราจะเจอกับต้นซากุระด้วยแม้ไม่ได้มีเยอะแต่กำลังผลิดอกออกมาสวยงาม แต่ก็มีบางต้นดอกร่วงไปเกือบหมดแล้ว เข้าใจว่าอากาศคงแปรปรวนพอสมควรเพราะช่วงนี้น่าจะเป็นหน้าซากุระบาน เลยไม่ค่อยได้เก็บภาพซากุระมามากเท่าไหร่ ที่เราแพลนว่าจะไปชมก็ยังไม่บาน บางที่ก็ร่วงจนจะหมดต้นแล้ว
ถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆต้นซากุระที่เมาคงไม่ค่อยสูงถ่ายภาพโคลสได้อัพสะดวกดี มีผู้สูงอายุชาวไต้หวันมาเดินเที่ยวเยอะเจอหลายกลุ่ม เดินขึ้นเขาลงเขากันอย่างคล่องแคล่ว
++ ติดตามอัพเดทพูดคุยกันได้อีกช่องทางที่เพจ
https://www.facebook.com/Letseatandtravel ชอบกดไลค์ ไลค์กดแชร์ ++
[CR] ++Review++ Let's Eat & Travel Taiwan ไปเท่าที่จะไปได้ : บทที่2 เที่ยวไร่ชาขึ้นกระเช้าเมาคง ชมวิวเมืองไทเปยามค่ำคืน
วันที่ 2 ของการท่องเที่ยวใน ไต้หวัน เช้านี้ยังมีสายฝนตกหนักพอควร กว่าจะได้ก้าวเท้าออกจากโรงแรมก็เกือบ 10 โมง แต่ฝนยังตกปรอยๆอยู่ วันนี้มีเป้าหมายจะไปขึ้นกระเช้าที่เมาคงไปเดินถ่ายรูปที่ไร่ชาด้านบนเขา ออกจากโรงแรมหาอะไรกินมื้อเช้าจนอิ่มจะได้ไม่กังวลมื้อกลางวัน เราเดินทางกันด้วยรถไฟเหมือนเดิมเริ่มจากสถานีซีเหมิน (Ximen) นั่งรถไฟสายสีน้ำเงินไปต่อรถไฟอีกขบวนที่ สถานีซงเชียว ฟู่ซิง (Zhongxiao Fuxing) นั่งไปรถสายสีน้ำตาลไปลงสุดทางที่ ไทเปซู (Taipei Zoo) ออกจากสถานีรถไฟเดินไปที่สถานีกระเช้าเมาคง ระยะทางประมาณ 300 เมตรอากาศเย็นฝนตกปรอยๆ เดินสบาย
สวนหย่อมก่อนถึงสถานีกระเช้าเมาคงมีรูปปั้น มีจุดถ่ายรูปป้ายสวนสัตว์ไทเป U-bike มีอยู่ทุกที่นักท่องเที่ยวอย่างเราสามารถลงทะเบียนแล้วจ่ายค่าเช่าด้วย อีซี่ การ์ดได้ แต่ครั้งนี้ไม่ได้ปั่นเพราะเจอฝนเกือบตลอดทริป
ตึกข้างหน้าคือสถานีขึ้นกระเช้าเมาคง เดินถ่ายรูปได้เรื่อยๆ แถวนี้เงียบๆ ไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่านมาส่วนใหญ่มีแต่นักท่องเที่ยว
เดินถ่ายรูปในสวนหย่อมไปเรื่อยๆ พี่หมีแพนด้า ท่าทางน่ารักดียังมีรูปปั้นสัตว์ท่าทางน่ารักอีกหลายตัวในสวนหย่อมแห่งนี้
สุดทางเดินสวนหย่อมจะถึงสถานีกระเช้าเมาคง จากนั้นเข้าไปในสถานีกระเช้าที่ออกตั๋วอยู่ชั้นบนของสถานี
ในสถานีกระเช้ามีร้านขายของที่ระลึกเกี่ยวกับชาและไอศครีมรสชาขายด้วย ใครไม่มี อีซี่ การ์ด หยอดเงินที่ตู้อัตโนมัติซื้อตั๋วได้เลยจะลงสถานีไหนก็จ่ายเฉพาะจุดที่เราจะลง มีที่เที่ยวอยู่สามจุด 1. สถานีสวนสัตว์ ไทเป (Taipei Zoo South Station) 2. สถานีวัดซีหนาน (Zhinan Temple station) 3. สถานีเมาคง (Maokong Station) ราคาก็ต่างกันไปถ้าใช้ตู้ขายตั๋วไม่เป็น สามารถซื้อกับเจ้าหน้าที่ในช่องขายตั๋วได้
กระเช้าจะเป็นแบบพื้นกระจกใส เราจะสามารถมองเห็นความเขียวสดชื่นของป่าไม้ด้านล่างได้ กระเช้าจะค่อยๆวิ่งไปเรื่อยๆ จอกตามสถานีต่างๆ เรื่อยไปจนถึงสถานียอดเขาเมาคงใช้เวลาประมาณ 30 นาทีได้ชมวิวป่าเขาและวิวเมืองไปเพลินๆ
อากาศบนยอดเขามีหมอกลงอุณหภูมิประมาณ 10 องศาในช่วงกลางเดือนมีนา เย็นขนาดเวลาพูดแล้วมีควันออกปาก ขณะที่บ้านเราร้อนกันจักกะแร้ชุ่มฉ่ำ
ถ้าเดินมาทางด้านขวาจะมีร้านขายน้ำชาเรียงรายตลอดทาง รวมถึงพวกคาเฟ่และร้านอาหาร เดินไปสักระยะจะพบทางเดินลงไปเที่ยวชมไร่ชาเป็นการเดินลงเขาและขึ้นเขาซึ่งทางเดินจะเชื่อม ไปยังสถานที่เที่ยวต่างๆ บนเขาเมาคง จะมีป้ายบอกทางเดินไปจุดต่างๆตลอดทางไม่ต้องกลัวหลง กลัวเหนื่อยอย่างเดียวพอเพราะแต่ละจุดไกลกันพอสมควร
มีแมวไปทุกที่ ภาพปูนปั้นน่ารักบนกำแพง ในภาพด้านล่างไม่รู้คือเตาเผาอะไรสักอย่างในสมัยก่อน
ทางเดินคดเคี้ยวไปเรื่อยๆตลอดทางมีร้าน้ำชาและมีร้านอาหารหลายร้าน เวลาเดินควรระวังรถด้วยมีทั้งรถบัสและรถเก๋ง ถนนค่อนข้างแคบตามทางโค้งโปรดระวังรถด้วยอย่าถ่ายรูปเพลิน
ทางเดินตามไร่ชา ทำดีมีการปูพื้นหินอย่างดี เจอคุณลุง คุณป้าชาวไต้หวันสูงอายุมาเดินออกกำลังกายกันด้วยแข็งแรงจริงๆ ไร่ชาจะปลูกันตามไหล่เขาเหมือนไร่ชาทางเหนือบ้านเรา แต่ที่ไต้หวันเป็นต้นกำเนิดชาอู่หลงและทิกวนอิม ที่นักดื่มชาทั้งหลายยกนิ้วให้ในเรื่องคุณภาพของชา ปลูกกันมานานหลายร้อยปี
ยอดใบชาที่เก็บเอามาทำพวกชาเขียว เขาจะเก็บชากันในช่วงเช้ามืด นอกจากพวกชาเราจะเห็นมีการปลูกพวกผักกาด ผักสลัดด้วยแซมไปกับไร่ชา
ป้ายบอกทางไปสถานที่ต่างๆ ตอนแรกเดินไปวัดฉางชานแต่เดินไปสักระยะเหมือนมันไกลกว่าที่ป้ายบอกเดินแค่ 1 กิโล เราเลยเดินกลับเพราะขึ้นเขาลงเขาเมื่อยหัวเข่าเหมือนกันและฝนก็ยังตกๆ หยุดๆ ตลอดเวลา
นอกจากไร่ชาแล้ว ตามทางเดินบางช่วงเราจะเจอกับต้นซากุระด้วยแม้ไม่ได้มีเยอะแต่กำลังผลิดอกออกมาสวยงาม แต่ก็มีบางต้นดอกร่วงไปเกือบหมดแล้ว เข้าใจว่าอากาศคงแปรปรวนพอสมควรเพราะช่วงนี้น่าจะเป็นหน้าซากุระบาน เลยไม่ค่อยได้เก็บภาพซากุระมามากเท่าไหร่ ที่เราแพลนว่าจะไปชมก็ยังไม่บาน บางที่ก็ร่วงจนเกือบหมดต้นแล้ว
นอกจากไร่ชาแล้ว ตามทางเดินบางช่วงเราจะเจอกับต้นซากุระด้วยแม้ไม่ได้มีเยอะแต่กำลังผลิดอกออกมาสวยงาม แต่ก็มีบางต้นดอกร่วงไปเกือบหมดแล้ว เข้าใจว่าอากาศคงแปรปรวนพอสมควรเพราะช่วงนี้น่าจะเป็นหน้าซากุระบาน เลยไม่ค่อยได้เก็บภาพซากุระมามากเท่าไหร่ ที่เราแพลนว่าจะไปชมก็ยังไม่บาน บางที่ก็ร่วงจนจะหมดต้นแล้ว
ถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆต้นซากุระที่เมาคงไม่ค่อยสูงถ่ายภาพโคลสได้อัพสะดวกดี มีผู้สูงอายุชาวไต้หวันมาเดินเที่ยวเยอะเจอหลายกลุ่ม เดินขึ้นเขาลงเขากันอย่างคล่องแคล่ว
++ ติดตามอัพเดทพูดคุยกันได้อีกช่องทางที่เพจ https://www.facebook.com/Letseatandtravel ชอบกดไลค์ ไลค์กดแชร์ ++
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น