พนักงานบีทีเอสคะ ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ค่ะ

สวัสดีค่ะ เราขอมาเล่าประสบการณ์การใช้บริการรถไฟฟ้า bts ที่ทำให้เราเสียความรู้สึกมากๆ ปกติเราจะเจอเเต่คนรู้จักมาเล่าให้ฟัง เเต่วันนี้เจอกับตัวเองเลยค่ะ เพิ่งเขียนเป็นครั้งเเรก ถ้ามีอะไรผิดพลาดข้ออภัยด้วยนะคะ

        เรื่องเกิดวันนี้ค่ะ ช่วงเวลาเย็นประมาณ 4โมงกว่าได้ค่ะ สาขาสยาม วันนี้เรามาทำธุระที่สยาม เมื่อทำธุระเสร็จ เราจะกลับคอนโดโดยใช้ bts ในการเดินทางกลับบ้าน (ขอเกริ่นก่อนว่าเราเพิ่งมาอยู่กับพี่ที่คอนโด พี่สาวเลยให้บัตรมา เพื่อใช้เป็นบัตรเข้าออกคอนโดได้ เเละสามารถใช้บริการรถไฟฟ้า bts ได้ด้วย) เมื่อเราเเตะบัตรเข้ามาในสถานีเเล้ว ได้มีพนักงานคนนึงเดินตรงเข้ามาหาเรา เเบบเดินตรงดิ่งเลยค่ะ รู้เลยว่าเดินมาหาเรา โดยเข้ามาขอตรวจบัตรเรา เเละพูดใส่เราด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีเลยตลอดการสนทนา รวมถึงการทำหน้าสีหน้าที่ไม่ดีใส่ด้วย

พนักงาน : น้องใช้บัตรอะไรเเตะเข้ามาคะ (เราก็เเสดงบัตรให้เขาดูทันที ขอบอกก่อนว่าตัวบัตร หน้าบัตรจะเลือนเเล้วเเต่ยังพอมองเห็นลางๆ เพราะซื้อคอนโดมานานเเล้ว ทำให้ไม่เห็นข้อมูลบนบัตรชัดมากนัก)
พนักงาน : มันคือบัตรอะไร
เรา :  เป็นบัตรของคอนโดค่ะ ใช้เข้าออก bts ได้ (ไม่ได้พูดรายละเอียดบัตรมากนักเพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่น่าจะทราบชื่อคอนโดอยู่เเล้ว)
พนักงาน : เป็นคอนโดของใครคะ
เรา : พี่สาวค่ะ (ถึงบัตรจะลางจนมองไม่ค่อยเห็นเเล้ว เเต่เราไม่อยากโกหก เลยตอบไปตรงๆเลยว่าของพี่สาว)
พนักงาน : ห้ามใช้บัตรของคนอื่น ต้องเป็นบัตรที่ใช้ชื่อของตนเองเท่านั้น
เรา : (เราก็พยักหน้ารับทราบ) บอกต่อว่าเป็นของพี่สาว นามสกุลเดียวกันเลย อยู่คอนโดเดียวกัน เราไม่รู้เงื่อนไขนี่เพราะเพิ่งได้มา
พนักงาน : ต้องใช้บัตรที่ชื่อเเละนามสกุลตรงหน้าบัตรเท่านั้น
(เค้าหยิบบัตรของเราไปจากมือเรา เราก้พยักหน้ารับทราบตลอด รู้ว่าผิดเลยพยักหน้าตลอด รีบกลับบ้านด้วยเลยไม่อยากมีปัญหาอะไร)

          หลังจากนั้นเขาคืนบัตรให้ เราโล่งอกมากคะ เเต่เเล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เราเดินออกมากับเพื่อนคุยเล่นๆกัน เราก็คุยกับเพื่อนว่า 'สงสัยเขามาสุ่มตรวจบัตร' (เพราะเราก็เพิ่งอ่านกระทู้พันทิปที่มีคนโพสต์เรื่องคนใช้บัตรผิดประเภท) คือเราพูดเเบบไม่คิดอะไรเลยค่ะ คุยกับเพื่อนด้วย เราเดินจนเกือบถึงตีนบรรไดเลื่อนขึ้นชั้นบน แล้วทีนี้พนักงานคนนั้นก็ตะโกนไล่หลังขึ้นมา ซึ่งเราได้ยินไม่ชัดว่าเค้าพูดว่าอะไร คิดว่าคุยกับคนอื่นด้วยซ้ำ เลยไม่ได้หันไปมอง ขึ้นบันไดเลื่อนปกติ  ระหว่างจะขึ้นสุดบรรไดเลื่อนพนักงานคนนั้นก็ขึ้นมาประชิดตัวเราข้างๆ เเละถามเราว่า 'เมื่อกี้น้องพูดอะไรนะคะ' ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดี กระเเทกกระทั้นมาก (เราตกใจนะคะ พูดเสียงดัง ยิ่งเป็นสยามช่วงเย็นด้วย T.T)  เราก็ตอบว่า 'คุยกับเพื่อนว่าสงสัยมาสุ่มตรวจบัตร' พอสุดทางบันไดเลื่อน ก็มียาม 2-3 โดยประมาณที่ตามองเห็นนะค่ะ  มายืนล้อมเรากับเพื่อนไว้  ข้างหน้าเราจะมียาม 2 คน กับพนักงานคนนั้น เเละ ใกล้ๆจะมีอีกคน ขอบอกคะว่าตอนนั้นงงมาก เค้าคงวอกันให้มาที่เรา เหมือนเราทำผิดยิ่งใหญ่มาก ดีนะคะที่เป็นมุม โบกี้เเรกคนเลยไม่เยอะมาก

      จากนั้นพนักงานได้บอกว่าขอยึดบัตร ซึ่งเราไม่ได้ยื่นให้เขาตอนนั้นทันทีคะ เราได้เก็บบัตรใส่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง พนักงานก็เอื้อมมือมาจะเเย่งบัตรจากกระเป๋ากางเกงเรา ในระหว่างการสนทนา เขาพูดเสียงดังมากเหมือนพยายามให้คนหันมามองเราเลย
แล้วเพื่อนเราก็พูดกับพนักงานค่ะ

เพื่อน : ให้ยามออกไปก่อนก็ได้ไหมคะเพราะเราไม่ได้จะหนีไปไหน แล้วไม่ได้ทำผิดขนาดต้องมียามมายืนเฝ้า แล้วบัตรยังไม่ยึดไม่ได้หรอคะเพราะเพิ่งได้บัตรมา ขอไปแก้ไขให้ถูกต้องก่อน เพราะเพิ่งรู้จากพี่(พนักงาน) ครั้งแรกค่ะว่าไม่สามารถใช้บัตรชื่อคนอื่นได้
พนักงาน : ไม่ได้ เพราะเราไปกวนเขา
(คือเราไม่ได้กวนเลยจริงๆ เรารู้ว่าผิดเเละเราก็รีบมาก ไม่อยากมีปัญหาอยู่เเล้ว อุส่าห์โล่งอกที่เขาปล่อยเรา เราคงไม่หาเรื่องให้ตัวเองเเน่นอนคะ เขาก็คงเข้าใจผิด ดูเขาโมโหมาก)
เรา : เอางี้นะค่ะ จะให้บัตรค่ะ เเต่ขอชื่อคุณมาก่อน เป็นผู้จัดการใช่ไหมค่ะ เพราะเราจะได้รู้ว่าเราให้บัตรกับใครไป
(เราดูจากท่าทางก็พอจะเดาได้ว่าน่าจะเป็นผู้จัดการ ดูยามกลัวๆกัน)
พนักงาน : ไม่ให้ ต้องให้บัตรมาก่อน
เรา : ให้ชื่อมาก่อนได้ค่ะ ยามยืนขนาดนี้ เเละเเค่บัตร เราให้อยู่เเล้ว เเต่ขอชื่อก่อน ไม่ก็ยื่นให้พร้อมกันเลย
(ทำยังไงเขาก็ไม่ยอมให้ชื่อเขามาก่อน เราไม่ทราบด้วยสาเหตุอะไร อาจจะเป็นนโยบายของบริษัทรึป่าวที่ห้ามเเจ้งชื่อกับลูกค้าก่อน เราพยายามมองป้ายชื่อที่ห้อยก็มองไม่เห็นมันพลิกปิดไว้) คนก็มองๆ เขาก็ไม่ยอม เราเลยบอกขอโทรหาพี่สาว เพราะพี่สาวเป็นเจ้าของบัตร เจ้าของคอนโด เราต้องทราบก่อนว่านิติจะให้ทำยังไง พนังงานก็มีท่าทางที่ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ ต้องการจะยึดบัตรอย่างเดียว จะเอาเดี๋ยวนี้!! เราได้คุยกับพี่สาวทางโทรศัพท์ต่อหน้าเขาเลย พี่สาวก็บอกให้บัตรเขาไปได้ เเต่ต้องได้ชื่อเขา เพราะอยู่ๆจะให้บัตรใครไปก็ไม่รู้ ไม่มีชื่อข้อมูล อะไรเลยไม่ได้ เขาก็ไม่ยอมให้ชื่อ มีการพูดเสียงดังใส่เราตลอดเวลา พี่สาวเราบอกขอคุยกับพนักงานคนนี้หน่อย เพราะพี่สาวเราเป็นเจ้าของบัตร จะได้ยืนยันความเป็นพี่น้อง เเละถ้าจะยึดก็เเจ้งรายละเอียดให้พี่สาวก่อนยึดบัตร พนักงานตอบปฎิเสธในการคุยกับพี่เราด้วยน้ำเสียงที่เเย่มากๆๆๆๆๆๆ เราก็ไม่รู้จะทำยังไง

เรา : เมื่อไม่ให้ชื่อ ก็ขอถ่ายวีดีโอตอนรับบัตรไว้หน่อยได้มั้ยคะ เพราะเราจะได้มีหลักฐานว่าได้ให้บัตรไปเเล้ว  จะได้ไปทำบัตรกับนิติใหม่ได้ (ซึ่งพนักงานก็ไม่ยอม)
พนักงาน : ถ้าถ่ายจะเเจ้งความ
(เราเลยไม่ได้ถ่ายค่ะ ตามที่เขาพูด กลัวจะทำให้เรื่องมันใหญ่โต)

ขอบอกนะคะตอนนั้นตกใจมาก เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรเเบบนี้ เอายามมายืนเฝ้า บัตรก็จะยึด ขอถ่ายรูป วีดีโอให้มีหลักฐานว่าให้บัตรเเล้วก็ไม่ยอม ชื่อก้ไม่ให้ เราไม่มีตัวเลือกอะไรเลยค่ะ เลยโทรหาพี่อีกครั้งว่าจะทำยังไงดี พี่สาวก็จะมาเองเลย  จะมาคุยกับพนักงาน เราก็ไม่อยากให้เรื่องมันวุ่นวาย เเละรีบมากอยากไปจากตรงนี้ ขอร้องให้พนักงานคุยกับพี่เราหน่อย เเต่คุยยังไม่ทันจบประโยคกับพี่สาวเค้าก็กดวางเองเลยคะ ไม่หังอะไรทั้งนั้น

       สุดท้ายเราก็ต้องยอมยื่นบัตรให้พนักงานไป โดยไม่มีหลักประกัน หรือให้เซ็นต์อะไรทั้งนั้น คือบัตรมันไม่ใช้บัตรทั่วไปค่ะ มันสามารถเข้าออกคอนโดได้ ซึ่งเเน่ใจว่าพนักงานก็ต้องรู้ว่าคอนโดตั้งอยู่ที่ไหน เราจะรู้ได้ยังไงว่าเค้าเอาบัตรไปทำไรต่อ หลังจากเรายื่นบัตรให้

เรา : ขอชื่อด้วยค่ะ ที่ตกลงกันว่าจะให้
(เราจะได้รู้ว่าเอ้อใครยืดไปนะ ตอนไปทำบัตรใหม่จะได้มีหลักฐานยืนยันกับนิติตามที่บอกไป)
พนักงาน : ไม่มีกระดาษ (เเต่มีปากกา)
เรา:  (เราก็ยื่นไอโฟนให้) พิมพ์ใส่โน้ตก็ได้ค่ะ เเค่ขอชื่อ หรือจะเขียนใส่เเขนหนูก็ได้ เพราะรีบมากเเล้ว
พนักงาน : ไม่มีๆ (เเละมีการเดินไปถามผู้โดยสารคนอื่นที่ยืนต่อเเถวอยู่ด้วยว่ามีกระดาษไหม ก็ไม่มีใครมี) เขาเลยวอลงไปข้างล่างพูดอะไรสักอย่างในวอ เราก็ได้ยินไม่ชัด คิดว่าน่าจะวอขอกระดาษ เเต่ระหว่างการรอนั้นยามเเละพนักงานคนนั้นยังยืนเฝ้าเราอยู่นะคะ ถึงจะยึดบัตรไปเเล้ว(อย่างคนมีความผิดค่ะอิอิ)
        จนเมื่อพนักงานได้กระดาษ เขาก็ส่งกระดาษที่มีชื่อตัวเองมาให้เราค่ะ เสร็จเขาก็เชิญเราลงไปซื้อบัตรข้างล่างค่ะ จะเรียกว่าเชิญก็ไม่ถูกนะคะ เหมือนกึ่งไล่ๆเลย55555 เราก็ลงไปข้างล่างเพื่อซื้อบัตร ด้วยความไม่รู้ เราเลยไปขอซื้อช่องด้านในมีพนักงานอยู่ เพราะเรามาจากทางในสถานนีค่ะ โดยปกติถ้าบัตรผิดพลาด หรือมีปัญหาเราสามารถสอบถามพนักงานในช่องในสถานีได้ อันนี้ความเข้าใจเราเองนะคะ พนักงานคนเดิมก็เดินมาไล่เราค่ะ บอกว่าให้เดินออกไปข้างนอก ห้ามซื้อตรงนี้ ออกไปซื้อข้างนอก น้ำเสียงห้วนมากๆ ไล่เราอย่างหมู อย่างหมา ชี้ไล่เราออกไป คนก็น่าจะมองนะคะ ยามก็เดินตาม ยิ่งพูดจาไม่ดีใส่เราอีก เราก็งงเข้าไปใหญ่ เราไม่มีปัญหากับการซื้อบัตรใหม่เลยค่ะ ทำผิดโดนยืด โอเค ซื้อบัตรใหม่ เเต่อยากได้คำพูดที่ดีกว่านี้ค่ะ  ขอบอกตรงๆนะค่ะ เราเสียความรู้สึกมากๆ เรายอมรับนะค่ะ ว่าเราทำผิดกฏของเขาแต่พนักกงานต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรอคะ เราเป็นลูกค้าของบีทีเอส เเละคอนโดนี่ค่ะ เเต่เรากลับได้รับการบริการเเบบนี่กลับมา เราเลยเดินออกมานอกสถานี ถึงจะรีบเเต่เราเลือกที่จะเสียเวลาไปขึ้นสถานีชิดลมค่ะ เพราะไม่อยากเจอพนักงานคนเดิมอีก

       หลังจากเดินมาบีทีเอสชิดลม เราเลยเข้าไปสอบถามผู้จัดการสาขาชิดลม เพราะพี่สาวเราบอกว่านิติเเจ้งว่าก่อนยึดไปต้องให้เราเซ็นต์เอกสารก่อนเราจะยึดบัตรเรา เราข้องใจมาก เเต่เดินออกมาจากสยามเเล้ว เลยถามสาขาชิดลมละกัน

เรา : ขอสอบถามนะคะ คือเราโดนยึดบัตรมา เลยอยากสอบถามว่าเราต้องทำยังไงบ้าง ต้องเเจ้งนิติรึเปล่า หรือยังไง เพราะบัตรเราต้องใช้เข้าออกคอนโด ตอนนี้เลยไม่รู้จะเข้าคอนโดยังไง
พนักงาน : โดนยึดที่นี่หรอคะ
เรา : ป่าวค่ะ ที่สยาม เลยอยากสอบถามขั้นตอนการยึด
พนักงาน : เดี๋ยวโทรสอบถามที่สยามให้ได้นะคะ
เรา : ไม่เป็นไรค่ะ คือไม่อยากมีปัญหา เพราะเราผิดที่ใช้บัตรของพี่เเต่อยากทราบว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป เพราะนิติบอกต้องเซ็นต์ เเต่ไม่เห็นว่าพนักงานจะให้เราเซ็นต์อะไรเลย
พนักงาน : ใช่ค่ะ ต้องมีการเซ็นต์ เเละพนักงานต้องเเจ้งว่าต้องมีกระบวนการยังไงต่อไป ต้องตรวจสอบบัตร เเละส่งคืนบัตรไปทางคอนโด หรือยังไง พนักงานที่สยามต้องอธิบาย เขาได้อธิบายรึเปล่าค่ะ
เรา : ไม่ได้อธิบายอะไรเลยค่ะ ไม่มีการให้เซ็นต์อะไรทั้งนั้น
พนักงาน : พนักงานชื่ออะไรค่ะ
(เราก็ยื่นกระดาษชื่อพนักงานคนนั้นให้)
พนักงาน : อ๋อออ.... (เเละพูดชื่อพนักงานคนที่เรามีปัญหาด้วย) ยังงี้สามารถร้องเรียนได้นะคะ เเต่ก็เข้าใจที่ทำผิดกฏใช่มั้ยคะ
เรา : ใช่ค่ะ รู้ว่าตัวเองผิดค่ะ เเต่อยากทราบขั้นตอนการยึดตามที่เเจ้ง เเละเขาทำกริยาไม่ดีใส่เราด้วย
พนักงาน : ได้ค่ะ ร้องเรียนได้ที่เบอร์นี่เลยค่ะ (เเละเค้าก็จดเบอร์ลงไปในกระดาษใบเดิม)
เราก็ขอบคุณพนักงานที่ชิดลมค่ะ เพราะถ้าเราไม่ได้ข้อมูลจากเขา เราจะไม่รู้เลย ว่าพนักงานคนนั้น ยึดบัตรเราโดยไม่เเจ้ง หรือให้เราเซ็นต์เอกสารอะไรทั้งนั้น ให้เพียงกระดาษเน่าๆ พร้อมชื่อของตัวเองมาให้เราอย่างเดียวค่ะ


คือที่เล่ามาเราเสียความรู้สึกมากค่ะ ที่ได้รับการบริการจากพนักงาน(ระดับหัวหน้า)แบบนี้ เราอาจจะทำผิดไป แต่พนักงานคนนั้นก็ปฏิบัติไม่ดีกับเราเหมือนกันค่ะ ทั้ง
1.เดินตรงเข้ามาพูดใส่หน้าเราในตอนที่เราเดินเข้า BTS
2.ตะโกนไล่หลังเราขึ้นมาระหว่างเราขึ้นบันไดเลื่อน
3.เรียกยามให้มายืนดัก,เฝ้าเราไว้ตลอดสถานการณ์ เหมือนเราทำผิดมาก และพูดเสียงดังตลอดเวลาเพื่อให้คนอื่นมอง
4.พยายามจะแย่งบัตรจากเราโดยที่เรายังถืออยู่
5.ยึดบัตรของเราไปโดยไม่แจงแจกหรืออธิบายขั้นตอนต่างๆให้เราเข้าใจเลย มัวแต่จะยึดให้ได้อย่างเดียว ซึ่งในขั้นตอนนี้ที่จริงต้องมีการเซ็นต์เอกสารเพื่อให้เข้าใจตรงกัน แต่นี่ไม่มีเลยค่ะ ไม่มีการพูดถึงอะไรทั้งสิ้น เมื่อได้บัตรไปแล้วก็วอสั่งให้คนเอากระดาษขึ้นมาให้ และไล่เราลงไปซื้อบัตรใหม่แค่นั้น
6.ใช้คำพูดที่ไม่ดีมากๆตลอดสถานการณ์
7.หรือเพราะบัตรเราเป็นบัตรฟรี เลยได้รับการปฏิบัติเเบบนี้คะ

ที่เราเล่ามาทั้งหมดเราเเค่อยากเเชร์ประสบการณ์ เเละเราอยากให้มีการปรับปรุงการบริการของพนักงานบีทีเอส(คนนี้)ให้ดีกว่านี้ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 24
จขกท รบกวน IB ชื่อมาหน่อยครับ พี่สาวผมทำงานฝ่ายบุคคลของ BTS GROUP
ความคิดเห็นที่ 10
เข้ามาปลอบใจจขกท.ครับ เหตุการณ์มันผ่านไปแล้วเราย้อนเวลากลับไปไม่ได้ แต่ ณ เวลานั้นคุณยังมีสติดีขอชมครับ

ขอแนะนำตามนี้ครับ

1. แจ้งนิติที่คอนโด ให้ระงับบัตรเก่าและออกบัตรใหม่ และหากเกิดอะไรมิชอบขึ้นที่คอนโดให้ต้องสงสัยว่าเป็นพนง.บีทีเอสคนที่ยึดบัตร และแจ้งชื่อพนง.คนนั้นที่นิติเอาไว้

2. แจ้งความที่สน.โดยให้พี่สาวคุณเป็นคนแจ้ง ระบุว่าถูกยึดบัตรโดยการบังคับของพนง.และไม่มีเอกสารระบุความยินยอมของเจ้าของบัตร ซึ่งบัตรนั้นมีความสำคัญคือใช้เข้าออกคอนโดด้วย

3. ร้องเรียนไปที่บีทีเอส แนบใบแจ้งความและกระทู้นี้ไปด้วย ระบุชื่อพนง.คนนั้น อธิบายว่าไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ควรกระทำ ใช้กริยาวาจาไม่สุภาพและมีท่าทีคุกคาม ให้บีทีเอสทำหนังสือชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจดหมายขอโทษจากผู้บังคับบัญชาพร้อมลายเซ็นของพนง.คนนั้นด้วย

อาจดูเยอะไปหน่อย แต่สิ่งที่คนของบีทีเอสทำมันยิ่งกว่าเสียมารยาทและต้องได้รับการแก้ไขจริงๆครับ
ความคิดเห็นที่ 68
ถ้าเป็นผมน่ะ เรื่องนี้สนุกไปแล้ว ผมจะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตของพนักงานคนนั้นเลย จะโทรเรียกตำรวจ
จะถ่ายรูป ถ่ายคลิป โทรเรียกพี่สาว ไลฟ์ลงเฟส คือถึงเราจะผิดแต่เราไม่ตั้งใจ เราไม่รู้กฎ ก็แจ้งกันดีๆ มาทำกริยาแบบนี้ใส่
ก็เอาซะหน่อยอยากจะรู้ว่าเก่งจริงเหมือนปากไหม
ความคิดเห็นที่ 37
เราโทรไปร้องเรียนเเล้วค่ะ เล่าเรื่องให้ call center ฟังตามที่เกิดขึ้นจริง ทางพนักงานบอกเราต้องรอเรื่อง 5-7 วันทำการ เพื่อตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด เเละเขาจะติดต่อกลับหาเรา

เรื่องบัตรนี่ จะขอบอกว่าเราไม่ทราบรายละเอียดมากนัก มันประมาณว่าเป็นสิทธิพิเศษของคนที่ซื้อคอนโด เมื่อซื้อคอนโดก็จะได้บัตรผ่านเข้าออกประตู เเละสามารถนำบัตรไปใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสได้ฟรี เเต่เงื่อนไขก็น่าจะต้องเป็นเจ้าของคอนโดเท่านั้นที่มีชื่ออยู่ที่บัตร

เเละเราก็ยืนยันเลยค่ะ ว่าเราพูดเเค่นั้นจริง คือเราทำผิด เขาให้บัตรคืนเเล้ว เราจะไปทำให้มันมีเรื่องทำไม เเยกย้ายกลับบ้านดีกว่าค่ะ

Call center แจกเเจงรายละเอียดให้ฟังทุกอย่าง เเบบดีมากเลยค่ะเขาเข้าใจทางเรา เเละเข้าใจทางพนักงานด้วย

ส่วนบัตรเราก็ไปเเจ้งเรื่องกับนิติ เพื่อทำใหม่ค่ะ เเละทำเป็นชื่อเราเพื่อให้ถูกต้องตามกฏของบัตร

เรื่องทุกอย่างน่าจะจบลงด้วยดีค่ะ ให้ทางฝ่ายนั้น สอบสวนพนักงานเเละ ตัดสินไปตามเหตุเเละผลค่ะ เเต่ก็ไม่อยากให้เขาทำกิริยาเเบบนี้กับผู้โดยสารคนอื่นอีกค่ะ เลยเเจ้งเรื่องไว้ให้ทางบริษัททราบเรื่อง

เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนให้เราเลยค่ะ เมื่อรู้ว่าทำผิดก็เเก้ไขให้ถูก จะได้ไม่เกิดเรื่องเเบบนี้ขึ้นอีก
ความคิดเห็นที่ 1
เป็นผมบอกเลยว่าเรื่องใหญ่ครับ ผิดก็ส่วนผิดอันนี้ยอมรับ แต่กริยาการพูดจาของพนักงาน การไม่แจ้งสิทธิ์และรายละเอียดให้กับลูกค้าทราบ อันนี้ยาวครับ ลักษณะคล้ายๆมีการข่มขู่ ใช้อารมณ์ส่วนตัวในการทำงานด้านบริการ สำหรับผมต่อให้ใครบอกว่าเรื่องเล็กน้อยก็ต้องใหญ่ครับแบบนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่