คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3

สำหรับถนนแห้ง
PowerSlick
ก็คือยาง Slick ทั่วไปที่ใว้ใช้เฉพาะทางเรียบและทางแห้ง “เท่านั้น” โดยที่ยางแบบPowerSlick นั้นก็แบ่งออกไปอีก 3 แบบเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน และสภาพสนามนั้นๆ
PowerSlick Hard : ยางขอบยางจะเป็นสีเหลือง ซึ่งเจ้ายาง Hard ด้วยเนื้อยางที่แข็งมากนั้นจะเหมาะกับพื้นสนามที่ค่อนข้างร้อน ด้วยตัวเนื้อยางมีความแข็งทำให้ต้องใช้ความร้อนและเวลาจนกว่ามันจะแสดงสมรรถนะได้เต็มที่
PowerSlick Medium : ยางขอบจะเป็นสี เทา จะเป็นยางมารฐานของทุกสนาม โดยที่รอบ FreePractice ทั้ง 1 และ 2 จะใส่ยางนี้ลงไปลองเชิงก่อน เนื่องจากเนื้อยางที่ไม่แข็งและไม่นิ่มจนเกินไปเหมาะกับทุกๆ สภาพผิวสนาม
PowerSlick Soft : ยางขอบจะเป็นสีขาว โดยที่ยาง Soft จะเน้นการใช้งานกับพื้น Track ที่เย็น ถึงเย็นมาก เช่นพื้น Track ที่แห้งแล้วหลังจากฝนตกไม่นาน เพราะเนื้อยางมีความนิ่มอยู่แล้วจึงไม่ต้องใช้ความร้อนในการบดยาง

สำหรับถนนเปียก
PowerRain
เป็นยางที่เพื่มลายยางเข้ามา เพื่อสมรรถนะในการรีดน้ำออกนั่นเอง โดยที่เจ้ายางนี้จะเน้นใส่เฉพาะเวลาที่ฝนตกเท่านั้น เพราะยางชนิดนี้จะหมดเร็วมาก และ การยึกเกาะถนนดีไม่ท่ายาง Slick ซึ่งเจ้า PowerRain ก็ยังแยกย่อยออกไปเป็น 2 แบบ
PowerRain Hard : ยางขอบจะเป็นสีเทา ซึ่งยางนี้จะใส่เมื่อ ฝนหยุดแล้ว แต่สนามยังเปียกอยู่เล็กน้อย
PowerRain Soft : ยางขอบจะเป็นสีฟ้า เจ้าตัวนี้เป็นตัวมารฐานใส่ตอนฝนตก หรือฝนหยุดได้หมาดๆและผิวยังมีน้ำอยู่
แต่สำหรับยางฝนมักจะมีเมนูลับของแต่ละสำนัก ตัวอย่างที่เด่นชัด เช่นเมื่อฤดูกลาลที่แล้ว Cal Crutchlow นักแข่งจากทีม Honda ที่ตัดสิใจเลือกใช้ยางฝนแบบ Hard ทั้งหน้าและหลัง แหวกแนว ทีมเจ้าถิ่นอย่าง Yamaha และ HondaRepsolที่ใช้ หลัง Hard หน้า Soft ที่สนาม Brno Circuit ทำให้ ช่วงท้ายของการแข่งเกิดอาการ วิ่งแบบ“เซฟยาง” ทำให้วิ่งได้ไม่เต็มที่ กลับกันที่ Crutchlow ใช้ยาง Hard ทำให้ยางนั้นถูกบดมาอย่างได้ที่ ไล่กดจากตำแหน่งที่ 15 จนจบอันดับที่ 1 ไปอย่างชิลๆนั่นเองครับ

สำหรับถนนแห้ง
PowerSlick
ก็คือยาง Slick ทั่วไปที่ใว้ใช้เฉพาะทางเรียบและทางแห้ง “เท่านั้น” โดยที่ยางแบบPowerSlick นั้นก็แบ่งออกไปอีก 3 แบบเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน และสภาพสนามนั้นๆ
PowerSlick Hard : ยางขอบยางจะเป็นสีเหลือง ซึ่งเจ้ายาง Hard ด้วยเนื้อยางที่แข็งมากนั้นจะเหมาะกับพื้นสนามที่ค่อนข้างร้อน ด้วยตัวเนื้อยางมีความแข็งทำให้ต้องใช้ความร้อนและเวลาจนกว่ามันจะแสดงสมรรถนะได้เต็มที่
PowerSlick Medium : ยางขอบจะเป็นสี เทา จะเป็นยางมารฐานของทุกสนาม โดยที่รอบ FreePractice ทั้ง 1 และ 2 จะใส่ยางนี้ลงไปลองเชิงก่อน เนื่องจากเนื้อยางที่ไม่แข็งและไม่นิ่มจนเกินไปเหมาะกับทุกๆ สภาพผิวสนาม
PowerSlick Soft : ยางขอบจะเป็นสีขาว โดยที่ยาง Soft จะเน้นการใช้งานกับพื้น Track ที่เย็น ถึงเย็นมาก เช่นพื้น Track ที่แห้งแล้วหลังจากฝนตกไม่นาน เพราะเนื้อยางมีความนิ่มอยู่แล้วจึงไม่ต้องใช้ความร้อนในการบดยาง

สำหรับถนนเปียก
PowerRain
เป็นยางที่เพื่มลายยางเข้ามา เพื่อสมรรถนะในการรีดน้ำออกนั่นเอง โดยที่เจ้ายางนี้จะเน้นใส่เฉพาะเวลาที่ฝนตกเท่านั้น เพราะยางชนิดนี้จะหมดเร็วมาก และ การยึกเกาะถนนดีไม่ท่ายาง Slick ซึ่งเจ้า PowerRain ก็ยังแยกย่อยออกไปเป็น 2 แบบ
PowerRain Hard : ยางขอบจะเป็นสีเทา ซึ่งยางนี้จะใส่เมื่อ ฝนหยุดแล้ว แต่สนามยังเปียกอยู่เล็กน้อย
PowerRain Soft : ยางขอบจะเป็นสีฟ้า เจ้าตัวนี้เป็นตัวมารฐานใส่ตอนฝนตก หรือฝนหยุดได้หมาดๆและผิวยังมีน้ำอยู่
แต่สำหรับยางฝนมักจะมีเมนูลับของแต่ละสำนัก ตัวอย่างที่เด่นชัด เช่นเมื่อฤดูกลาลที่แล้ว Cal Crutchlow นักแข่งจากทีม Honda ที่ตัดสิใจเลือกใช้ยางฝนแบบ Hard ทั้งหน้าและหลัง แหวกแนว ทีมเจ้าถิ่นอย่าง Yamaha และ HondaRepsolที่ใช้ หลัง Hard หน้า Soft ที่สนาม Brno Circuit ทำให้ ช่วงท้ายของการแข่งเกิดอาการ วิ่งแบบ“เซฟยาง” ทำให้วิ่งได้ไม่เต็มที่ กลับกันที่ Crutchlow ใช้ยาง Hard ทำให้ยางนั้นถูกบดมาอย่างได้ที่ ไล่กดจากตำแหน่งที่ 15 จนจบอันดับที่ 1 ไปอย่างชิลๆนั่นเองครับ
แสดงความคิดเห็น
ยางแต่ละแบบของMotoGP ใช้ในสถานการณ์ไหนบ้างครับ
Medium
Soft
ยางฝน
มีสี่แบบ เข้าใจถูกรึเปล่าครับ
แบบไหนใช้ในสถานการณ์ใดบ้าง หรือเอาตามคนขี่ถนัด
เพราะบางเรซนักแข่งก็เลือกยางต่างแบบกันไป
เพิ่งเริ่มดูไม่นานครับ แหะๆ
ในไทยคนดู MotoGP เยอะรึเปล่าครับ นอกจากเพจใน facebook แล้วเค้าไปคุยกันตรงไหนบ้าง
ขอบคุณครับ