[CR] Big Cleaning Day @หลีเป๊ะ???

กระทู้รีวิว

ขออนุญาตแตกกระทู้มาจากกระทู้นี้ค่ะ
https://pantip.com/topic/36373232
เพราะเราก็เป็นหนึ่งในนั้น

เราเป็นคนหนึ่งค่ะที่ชอบเที่ยวและยิ่งเที่ยวแบบมีสาระ ได้ทำสิ่งดีๆเพื่อคนอื่นด้วยแม้เพียงเล็กน้อย เราไม่เคยลังเลเลย
และทริปนี้ที่เพจนี้จัดขึ้นมา เป็นการเที่ยวกึ่งอาสาที่ได้รับความร่วมมือจัดร่วมกับอบจ.สตูล และรับคนแค่ 60 คน*
โดยในกำหนดการ(แรก)มีนายก อบจ.มากล่าวเปิดงาน มีสันทนาการ และดูเหมือนว่าจะมีอาหารให้กินเกือบทุกมื้อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในราคา 2990 บาท/คน (ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ราคาเดียวกัน)
เป็นราคาที่ดีงาม ได้เที่ยว ได้ทำดี ในราคาที่เราเอื้อมถึง

ตอนแรกน้องสาวมาชวนค่ะ บอกว่าเหลือ 3 ที่สุดท้าย พวกเราจึงรีบโอนเงินจองเพราะกลัวพลาดทริปดีๆ
พอจองเสร็จเรียบร้อย เล่าให้น้องสาวอีกคนฟัง น้องสาวบอก "ไปด้วยๆ พ่วงหลานไปอีกคนด้วยนะ"
เราจึงให้น้องสาวคนแรกจัดการถามเพจว่าสามารถรับอีก 2 คนได้ไหม ซึ่งคำตอบคือ "ได้ รีบโอนเงินมาจองนะ"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เชื่อไหมว่า สงกรานต์ที่ผ่านมาเราไม่มีความตื่นเต้นกับเทศกาลกันเลย
แต่พวกเราคิดถึงทริปหลีเป๊ะ ทะเลสวยๆ และงานอาสาที่เราอยากจะปลูกฝังหลานของเราให้รู้จักการแบ่งปัน

พอใกล้วันเดินทางทางเพจให้เราเข้ากลุ่มไลน์เพื่อทำความรู้จัก แลกเปลี่ยน พูดคุยกัน
แต่เอ๊ะ ทำไมมีคน 100+ ซึ่งทางแอดมินเพจให้คำตอบว่า คนของอบจ.มาร่วมด้วยครับ
เราก็คิดว่าคงไม่มีอะไร คงควบคุมได้ คงเป็นกิจกรรมใหญ่โตที่มีคนเป็นร้อย (ชักตื่นเต้นแล้วสิ)

ก่อนวันเดินทางมีคนแจ้งเรื่องพยากรณ์อากาศ ว่าจะมีพายุทำให้ต้องมาโหวตกันในไลน์ว่าจะไปต่อและยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น
หรือจะเลื่อนออกไปก่อน ซึ่งเสียงส่วนมากคือไปต่อ และมีบางคนทำเรื่องขอคืนเงินไป (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าได้เงินกันครบหรือยังนะคะ)

แล้ววันที่เรารอคอยก็มาถึง
วันเดินทาง พระเจ้าช่วย คนเกือบ 300 คนมารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมาย ณ ปั๊ม ปตท.สนามเป้า
เราก็พยายามมองหาเจ้าหน้าที่หรือสต๊าฟที่คอยเช็คชื่อ ตรวจสอบคน ดูแลช่วยเหลือกัน
แต่ก็หามีไม่ ... สภาพในตอนนั้น รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพวกต่างด้าว ลักลอบเข้าเมืองอ่ะค่ะ
ตามกำหนดการนัด 19.00 น. และให้เวลาเลทถึง 19.30 น. (มีคนมาไม่ทันด้วยนะคะ)
ประมาณ 18.30 น. มีเสียงตะโกนมาว่าให้ขึ้นรถตู้ได้ เลือกที่นั่งเองได้เลย เพื่อที่รถตู้คันที่เหลือจะได้เข้ามาจอดได้
ผึ้งแตกรังเลยอ่ะค่ะ เพราะทุกคนอยากจะนั่งรวมกับเพื่อนของตัวเอง
และเชื่อว่ามีหลายคนที่ไม่ชอบที่จะนั่งหลังสุดเพราะเมารถ แต่ก็ต้องจำยอมนั่งเพราะกลัวว่าจะไม่ได้ไป 555
พวกเรามีกัน 6 คน (เด็ก 1) เรานั่งแถว 3 กับแถว 4 (นับคนขับแถวแรก มี 4 แถว) ((เมารถเหรอ ก็กินยาไปนะ))
พอรถเต็ม รถก็ออกไปรอที่ปั๊ม ปตท.เส้นพระราม 2 ซึ่งรอนานมาก เพราะต้องรอให้ครบ 26-27 คัน OMG
พวกเราก็เริ่มคิดแล้วว่า คนเกือบ 300 คน ต้องมีปัญหาเยอะแน่ๆ แต่ก็ยังวางใจ ไว้ใจ เพราะภาพที่เพจมันสวยงาม

คืนแรกบนรถของพวกเรา หลับไปเพราะฤทธิ์ยาค่ะ
แต่พอตอนเช้าตื่นขึ้นมาเพราะพี่โชเฟอร์คันที่เรานั่ง รับหน้าที่ถ่ายรูป ถ่ายคลิปคณะรถตู้เพื่อโพสต์ในเพจ
พี่โชเฟอร์ต้องขับเร็วมากๆ เพื่อแซงรถทุกคัน แล้วถ่ายคลิป ต้องกันรถ และสุดท้ายต้องตามปิดท้าย เพื่อภาพที่สวยงาม
ทำให้สมาชิคในรถเราทุกคนแอบกลัวในความดริฟของพี่โชเฟอร์ และที่แย่คือ รถเราไปถึงปั๊มที่พักจอดเข้าห้องน้ำช้าสุด
ต้องไปต่อคิวเข้าห้องน้ำ ต้องไปซื้ออาหารใน 7-eleven ซื้อเสร็จยังไม่ทันกิน ก็เร่งขึ้นรถแล้ว (เพราะคันอื่นมาถึงนานแล้วไงคะ)

ระหว่างทางมีฝนตก มีทำทาง และความล่าช้าของคนเกือบ 300 คน
ทำให้พวกเราไปถึงท่าเรือปากบารากันเกือบ 11 โมง
ไหนหล่ะอบจ. ไหนงานเปิด คือไม่มีอะไรเลย งงเด้ๆ
แล้วกิจกรรมสันทนาการก็เพิ่งมารู้วันเดินทางว่าไม่มีแล้ว เพราะทางอุทยานไม่อนุญาต (แอบเสียใจ)

มีกลุ่มคนไม่ถึง 15 คน เรียกให้พวกเราเข้าแถว ตะโกนโหวกเหวกตรงท่าเรือนั่นแหล่ะค่ะ
(เดาว่าเป็นสต๊าฟ เพราะไม่มีการแนะนำใดๆ รูปโปรไฟล์ในไลน์ก็มิได้ช่วยอะไร555)
เข้าใจว่าคนเยอะ แต่ถ้าคุณรู้ว่าจะมีคนมากขนาดนี้คุณควรมีทีมงานที่พร้อม และมีอุปกรณ์ในการใช้งานที่ดีมากกว่านี้ป่าวคะ
พวกเราได้รับอาหารกลางวันเป็นข้าวผัดกะเพรา+ไข่ดาวคนละ 1 กล่อง (อาหารมื้อ 1)
หลานเรากินได้แค่ไข่ดาวเท่านั้นเองค่ะ (ก็ดีไปอย่าง ได้สอนเค๊าไปในตัว คิดบวกค่ะๆ)

พอได้ขึ้นเรือ การได้รับลมทะเลเย็นๆ มันก็ทำให้รู้สึกดีขึ้น
เรือพาเราไปเที่ยว 2 จุด จุดละ 15 นาที
เกาะตะรุเตา เกาะไข่ และไปจบที่เกาะอาดัง
ใช่แล้วค่ะ เราจะกางเต็นท์พักกันที่นี่
สำหรับคนที่ไม่มีเต็นท์ต้องจอง/โอนเงิน 350/เต็นท์ และมีค่าถุงนอนอีกต่างหาก
ซึ่งพอไปถึงก็เกิดปัญหาค่ะ บางคนไม่มีเต็นท์ บางคนเข้าเต็นท์ไปทำความสะอาดแล้วแต่โดนไล่ออกมา
บางคนสัมภาระหาย ฯลฯ
ปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากสต๊าฟล้วนๆเลยค่ะ
หากมีสต๊าฟคอยบอกเราตอนถึงเกาะว่าเราจะต้องทำอะไรยังไงบ้าง
หากมีการทำป้ายติดกระเป๋า มีการตรวจสอบ
และหากมีการแนะนำตัวว่านี่คือสต๊าฟ มันคงจะดีกว่านี้
ห้องน้ำเราก็ต้องเดินหาเอง ซึ่งตอนแรกเราไม่รู้ว่ามีอีกฟากนึงที่เป็นห้องอาบน้ำ
หลายคน(รวมทั้งเราด้วย)ต้องไปอาบกันในห้องส้วม (อนาถมาก)
และในส่วนปลั๊กไฟ ทางทีมงานได้แจ้งแต่แรกแล้วว่าอาจมีไม่เพียงพอ ให้ติด Power Bank ไปด้วยนะ
แต่ก็ไม่คิดว่าจะแย่ขนาดนี้ ขนาดที่เราต้องเดินตามหาปลั๊กไฟกันเอง และเราก็ต้องนั่งเฝ้าอุปกรณ์ของเราเพราะกลัวหาย *-*
เราเอาปลั๊กรางไป เราก็ไม่ได้หวงนะ ใครจะมาจิ้มต่อ เราโอเค
แต่เราไม่ไหวแล้ว ง่วงและเพลียมากๆ เลยตัดสินใจไม่ชาร์ตระ ใช้แค่ใน Power Bank ที่เรามีก้อพอ หมดก็คือหมด
เราจึงบอกคนที่จิ้มต่อว่า น้องจะชาร์ตต่อก็ได้นะคะ พี่จะฝากปลั๊กรางพี่ด้วยได้ไหม ซึ่งน้องเค๊าบอกว่าเดี๋ยวน้องก็จะไปนอนแล้ว
เราจึงดึงออกหมดเลย (ซึ่งตรงนี้ก็ขออภัยเพื่อนๆร่วมค่ายด้วยนะคะ)

ตัดมาที่อาหารบุฟเฟ่ต์ทะเล (มื้อที่ 2)
เรานั่งเรือมาที่เกาะหลีเป๊ะค่ะ พอมาถึง ความรู้สึกเดิมมาอีกแล้ว เหมือนโดนปล่อยเกาะ
เพราะไม่มีสต๊าฟ ไม่มีใครคอยบอกว่าจะให้รออะไรยังไงที่ไหน พอเรือมาครบแล้ว เราถึงทราบและเดินตามๆกันไปจนถึงร้านอาหาร
ภาพบุฟเฟ่ต์ในหัว กับภาพที่เห็นช่างแตกต่าง
อาหาร 6 อย่าง สำหรับ 5 คน (ไก่ผัดผงกะหรี่/ปลาหมึกทอด/ผัดผัก/ต้ม(ยำ)ปลา/ปลาย่างและปูคนละ 1ตัว)
โดยทีมงานแบ่งสมาชิคเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มกินข้าว กับกลุ่มเดินถนนคนเดิน (สลับกัน)
เราอยู่ในกลุ่มแรกที่กินข้าวก่อน ซึ่งมารู้ตอนหลังว่ากลุ่มหลังอาหารไม่พอ
มีคุณแม่ลูก 2 ต้องพากันไปหาซื้อกินเอง ทำให้มาขึ้นเรือกลับช้าและโดนตำหนิ
และที่เห็นกับตาคืออาหารที่เหลือในกลุ่มแรกถูกนำไปจัดใหม่ให้กลุ่มที่2 (เพราะอาหารเศษๆเค๊ากวาดทิ้งแต่อาหารเหลือเยอะเค๊าถือเข้าครัว)
ถ้าเข้าใจผิดก็ขออภัยนะคร๊าาาาา

กินข้าวเสร็จ เราต้องไปเดินถนนคนเดิน และพร้อมกันที่ท่าเรือ 2 ทุ่ม
ขาไปก็เดินตามกันเป็นขบวน ขากลับก็มืด ก็หลงกันสิคะ
ไม่มีสต๊าฟคอยบอก คอยชี้จุด (สต๊าฟที่นี่ติดต่อกันทางไลน์เท่านั้นค่ะ ถ้าไม่มีเน็ท ไม่มีแบต คือพลาดการติดต่อ คือผิดค่ะ)
เอา(ฟระ) ทางอยู่ที่ปากกลัวอะไร ตปท.คนเดียวยังไปหลงมาแล้ว
แล้ววันแรกก็จบด้วยความรู้สึกแย่ๆ ด้วยประการฉะนี้
นอนเอาแรง พรุ่งนี้มีเก็บขยะ มีดำน้ำ zzzzzzzzzzzzzz

ปล.ขออภัยที่ไม่มีรูปประกอบ แต่จะพยายามเล่าให้เห็นภาพนะคะ