ขอออกตัวก่อนว่าเราชอบผลงานเป๊กผลิตโชคมาตั้งนานแล้ว คือเราฟังแต่เพลง ไม่เคยคิดจะทำความรู้จักตัวตนของศิลปินเลย แทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีข่าวแย่ๆอะไรเกิดขึ้นกับเค้าบ้าง รู้แค่ว่าผลงานเพลงน้อยลงมากๆในช่วงหลังๆ
จนตอนนี้ได้มาติ่งเค้าแบบเต็มตัว ได้มาทำความรู้จักตัวตนของเค้า มันทำให้เราได้เห็นอะไรดีๆเยอะมากจากผู้ชายคนนี้ที่นอกเหนือจากความสามารถทางการร้องเพลง การเต้น และการ entertain (จากจุดนี้ไปจะเรียกเป๊กว่าเฮียนะคะ) คือเฮียเป็นตัวอย่างที่ดีให้พวกเราเห็นหลายอย่างมากจริงๆ ขอแยกเป็นข้อๆนะคะ
1. ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น: อันนี้ชัดๆเลยเรื่องอาชีพศิลปินนักร้องของเฮีย คือเฮียรักการร้องเพลง นักร้องดูจะเป็นอาชีพเดียวที่เฮียทำแล้วมีความสุข ก็ตั้งใจทำงานเพลงให้ออกมาดี บางอัลบั้มมีร่วมคิดคอนเซ็ปและแต่งเพลงเองด้วยซ้ำ เวลาโชว์ก็เต็มที่ทุกงาน แม้ว่าจะมีคนดูสิบคนยี่สิบคนก็ตาม ที่แฟนเพลงน้อยลงส่วนนึงคงเพราะมีกระแสข่าวไม่ดีเกี่ยวกับเฮีย แต่เฮียก็ไม่สน ไม่เคยออกมาโต้ ไม่ออกมาตั้งโต๊ะแถลง คงถือคติที่ว่าอะไรที่รู้อยู่แล้วว่าจริงไม่จริงก็ไม่รู้จะออกมาโวยวายทำไม เฮียก็เลยได้แต่ก้มหน้าร้องเพลง ทำในสิ่งที่ตัวเองรักให้ดีที่สุด ทำไปเรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยมาเกือบสิบปี ความพยายามของเฮียก็เป็นผล ความสำเร็จมันสวยงามมาก สวยจนทุกคนต้องออกปากชม จนมันช่วยกลบกระแสข่าวไม่ดีลงไปได้ ถ้าเกิดเฮียถอดใจแล้วไม่ร้องเพลงต่อในวันนั้น พวกเราก็คงไม่ได้เห็นศิลปินคุณภาพอย่างที่เห็นในวันนี้
2. การปิดทองหลังพระเป็นเรื่องที่ดีเสมอ ต่อให้ไม่มีใครเห็น อย่างน้อยตัวคุณเองนั่นแหละที่รู้: นอกจากเฮียจะไม่เคยออกมาโต้ข่าวไม่ดีแล้ว เฮียยังไม่เคยออกมาโฆษณาป่าวประกาศคุณความดีทั้งหลายที่ตัวเองเคยทำ คือเป็นคนดีโดยเนื้อแท้ ทำดีแล้วมีความสุขก็ทำต่อไป เฮียเคยไปช่วยร้องเพลงในงานการกุศลโดยที่ไม่รับค่าตัวบ่อยมาก เคยไปช่วยแจกของน้ำท่วม ทำดนตรีเปิดหมวกกับเพื่อนๆนำเงินไปบริจาค ปีที่ผ่านมาเฮียก็บวชเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้ในหลวง ร.9 (อันนี้บอกตามตรงเราพึ่งมารู้ข่าวหลังเฮียเป็นกระแส) ล่าสุดไม่กี่วันที่ผ่านมาเฮีย cancelled งานเพื่อไปร้องเพลงช่วยงานการกุศลโดยที่ไม่รับค่าตัว คือต่อให้ดังแค่ไหน เฮียก็ยังเป็นคนดีคนเดิมเสมอ สำหรับเรา เหมือนเฮียปิดทองหลังพระมาโดยตลอด คือมันเยอะมากจนทองมันล้นออกมาข้างหน้าองค์พระในปีนี้
3. การเปิดใจยอมรับฟังความคิดเห็นคนอื่น: ถ้าเป็นความคิดเห็นที่”ติเพื่อก่อ”เฮียก็พร้อมรับฟังแล้วนำมาปรับปรุงตัวเองเสมอ อย่างตอนหลังเปิดหน้ากากก็มีกระแสดรามาว่าพูดไม่ชัด (ขอแทรกตรงนี้ว่ามันมีอะไรหลายอย่างเบื้องหลังที่เราไม่รู้ วันนั้นที่ถอดหน้ากากคือเฮียถ่ายติดกันหลายเทป ลากยาวตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึงตี 5 ของอีกวัน พี่เอ๊ะจิรากรยังออกตัวแทนว่าเป๊กพูดรู้เรื่องก็เก่งแค่ไหนแล้ว) พอมีนักข่าวถามเฮียก็ยอมรับตรงๆว่าพูดไม่ชัด แต่จะพยายามพูดให้ชัดขึ้น แล้วเฮียก็ทำได้จริงๆจนไม่กี่วันมานี้มีข่าวสื่อหนึ่งเขียนข่าวว่าตอนนี้เฮียพูดชัดแล้ว (ถึงแม้จะมีแอบแซะนิดหน่อยก็ตาม) นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล็กๆน้อยๆ เป็นเสียงเตือนด้วยความเป็นห่วงจากแฟนเพลงของเฮีย ว่าเฮียรับงานเยอะจนการแสดงดรอปลงไหม ลืมเนื้อบ่อยไปหรือเปล่า จนงานล่าสุดเฮียก็แสดงให้เห็นว่าเฮียตั้งใจกับการแสดงมากแค่ไหน จนสุดท้ายมันออกมาดีและเป๊ะปังมากๆ
4. การมองโลกในแง่ดี: ต่อจากข้อที่ผ่านมา หลายๆเรื่องดรามามันเกิดจากความเป็นห่วง(ที่บางทีอาจจะมากจนเกินไป) เฮียก็มองว่ามันเป็นเสียงเตือนด้วยความห่วงใย เช่นเรื่องบางเรื่องที่อาจจะไม่เป๊ะในการแสดงสด เฮียก็บอกว่าเฮียจะตั้งใจให้มากขึ้น แต่ถ้าครั้งนี้เฮียทำไม่ได้ ก็ให้โอกาสเฮียได้พยายามในครั้งต่อไปนะ แต่สุดท้ายก็ทำได้แล้วนะเออ ;)
5. การปล่อยวาง: การที่ต้องทนกับเรื่องแย่ๆมาได้หลายปีนี่จิตใจต้องเข้มแข็งมากนะ อะไรที่มันบั่นทอนจิตใจและไม่เป็นความจริงเฮียก็ไม่สนใจ ก็ปล่อยผ่านไป แต่มีอันนึงที่เฮียเคยบอกว่ามันแรงไป (ซึ่งเราฟังแล้วยังหัวร้อนแทน) คือที่เฮียเดินห้างกับพ่อแล้วมีคนเอาไปเขียนข่าวว่าเป็นเด็กเสี่ย อันนี้ขนาดเราเองยังรับไม่ได้จริงๆ แต่สุดท้ายเฮียก็ไม่ได้ออกมาโวยวายอะไร พูดกันตรงๆถ้าเป็นเราเราคงฟ้องสำนักข่าวนั้นไปแล้ว
6. การใช้ชีวิตให้คุ้มค่า: ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เวลาไปออกงานต่างจังหวัด หรือเวลาว่างจากงาน เฮียจะใช้เวลาท่องเที่ยว มีทั้งแบบเที่ยวหรู เที่ยวสนุกสุดเหวี่ยงกับเพื่อน และที่เป็นเอกลักษณ์เลยคือเที่ยวแบบลูกทุ่ง ใช้ชีวิตติดดิน พักตามโฮมสเตย์ต่างจังหวัด ไม่บอกว่าตัวเองเป็นดารา เรียนรู้วิถีชีวิตของคนที่นั่น เขาทำอะไรเฮียทำแบบนั้น เขากินอะไรเฮียกินแบบนั้น ทั้งๆที่ก็ลูกคุณหนู แต่ก็ไม่ปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้อีกด้านของชีวิต ซึ่งดูเจ้าตัวจะ happy มากๆซะด้วย ลองคิดกลับกันว่าถ้าเฮียใช้ช่วงเวลาที่ผ่านมาจมอยู่กับข่าวแย่ๆ เฮียจะได้มีความทรงจำดีๆแบบนี้มาเก็บไว้และมาแบ่งปันพวกเราไหม ยิ่งตอนนี้งานล้นมือ อย่าหวังว่าจะได้ทำอะไรแบบนั้นเลย แค่เวลาพักผ่อนยังแทบจะไม่มี ช่วงนี้งานเยอะก็เหนื่อยหน่อยนะเฮีย :p
7. รักและใส่ใจคนที่เรารักและรักเราให้มากที่สุด: คือครอบครัว เพื่อน คนใกล้ตัว เฮียรักมากอยู่แล้วคงไม่ขอพูดถึง แต่บางอย่างเฮียแสดงออกชัดเจนมาก เช่นเวลาตอบคำถาม(ที่ไม่ค่อยดีนัก)ของนักข่าว ก็จะตอบแบบรวมๆ พอใจไม่พอใจก็แสดงออกแบบมีมารยาท ยิ้มได้ก็ยิ้ม ไม่อยากยิ้มก็ทำหน้าหล่อปกติ (อันนี้ขออวยนิดนึง 555’) ไม่มีสร้างภาพ แต่พอเวลาอยู่กับแฟนคลับเฮียจะให้เต็มร้อยมาก ตอนงานห้างแตกครั้งแรก เวทีแสดงค่อนข้างคับแคบ ก็ทำการแสดงไป แต่เฮียรู้ว่าแฟนๆของเค้าเป็นร้อยๆนั่งอยู่ข้างนอก มารอตั้งแต่บ่ายทนตากแดดร้อนๆก็มี ก็เดินลงเวทีไปร้องเพลงให้ฟังถึงที่ รับของ พบปะพูดคุยทักทาย เรียกได้ว่าทั่วถึงทุกคน อย่างงานล่าสุดที่ค่อนข้างทางการ ก็มีเซเลบริตี้จะมาคว้าตัวขอถ่ายรูป เฮียก็มาทักทาย+ถ่ายรูปกับแฟนๆที่มารอเขาตั้งแต่หัววันก่อน ทุกคนที่เป็นแฟนคลับเฮียเลยรักเฮียมาก เพราะรู้ว่ารักที่พวกเขาให้ไปเฮียได้รับ แถมให้กลับมาเกินร้อยอีก เวลาเฮียมีการแสดงที่ไหน แฟนๆเลยมีใจตามไปให้กำลังใจกันแน่นทุกงาน อย่างที่เห็นว่าเฮียทำห้างแตกไปหลายห้างภายในเวลาไม่ถึงเดือน เพราะทั้งเฮียทั้งแฟนคลับรู้ว่าการได้ทำอะไรเพื่อคนที่เรารักมันคุ้มค่าเสมอ มันก็เลยออกมาเป็นปรากฏการ์อย่างที่เห็น
สุดท้ายเราอยากบอกว่าเฮียต้องมีด้านที่ไม่ดีอยู่แล้ว เราทุกคนก็ด้วย แต่เราเลือกได้ว่าจะมองและหยิบมุมไหนของศิลปินมาเป็นแบบอย่าง มาเป็นบทเรียนให้กับชีวิตของเรา ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
เค้าว่ากันว่า ตัวอย่างที่ดีมีค่ามากกว่าคำสอน และ ‘เป๊ก ผลิตโชค’ ก็คือครูคนหนึ่งที่สอนการใช้ชีวิตให้กับเรา
จนตอนนี้ได้มาติ่งเค้าแบบเต็มตัว ได้มาทำความรู้จักตัวตนของเค้า มันทำให้เราได้เห็นอะไรดีๆเยอะมากจากผู้ชายคนนี้ที่นอกเหนือจากความสามารถทางการร้องเพลง การเต้น และการ entertain (จากจุดนี้ไปจะเรียกเป๊กว่าเฮียนะคะ) คือเฮียเป็นตัวอย่างที่ดีให้พวกเราเห็นหลายอย่างมากจริงๆ ขอแยกเป็นข้อๆนะคะ
1. ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น: อันนี้ชัดๆเลยเรื่องอาชีพศิลปินนักร้องของเฮีย คือเฮียรักการร้องเพลง นักร้องดูจะเป็นอาชีพเดียวที่เฮียทำแล้วมีความสุข ก็ตั้งใจทำงานเพลงให้ออกมาดี บางอัลบั้มมีร่วมคิดคอนเซ็ปและแต่งเพลงเองด้วยซ้ำ เวลาโชว์ก็เต็มที่ทุกงาน แม้ว่าจะมีคนดูสิบคนยี่สิบคนก็ตาม ที่แฟนเพลงน้อยลงส่วนนึงคงเพราะมีกระแสข่าวไม่ดีเกี่ยวกับเฮีย แต่เฮียก็ไม่สน ไม่เคยออกมาโต้ ไม่ออกมาตั้งโต๊ะแถลง คงถือคติที่ว่าอะไรที่รู้อยู่แล้วว่าจริงไม่จริงก็ไม่รู้จะออกมาโวยวายทำไม เฮียก็เลยได้แต่ก้มหน้าร้องเพลง ทำในสิ่งที่ตัวเองรักให้ดีที่สุด ทำไปเรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยมาเกือบสิบปี ความพยายามของเฮียก็เป็นผล ความสำเร็จมันสวยงามมาก สวยจนทุกคนต้องออกปากชม จนมันช่วยกลบกระแสข่าวไม่ดีลงไปได้ ถ้าเกิดเฮียถอดใจแล้วไม่ร้องเพลงต่อในวันนั้น พวกเราก็คงไม่ได้เห็นศิลปินคุณภาพอย่างที่เห็นในวันนี้
2. การปิดทองหลังพระเป็นเรื่องที่ดีเสมอ ต่อให้ไม่มีใครเห็น อย่างน้อยตัวคุณเองนั่นแหละที่รู้: นอกจากเฮียจะไม่เคยออกมาโต้ข่าวไม่ดีแล้ว เฮียยังไม่เคยออกมาโฆษณาป่าวประกาศคุณความดีทั้งหลายที่ตัวเองเคยทำ คือเป็นคนดีโดยเนื้อแท้ ทำดีแล้วมีความสุขก็ทำต่อไป เฮียเคยไปช่วยร้องเพลงในงานการกุศลโดยที่ไม่รับค่าตัวบ่อยมาก เคยไปช่วยแจกของน้ำท่วม ทำดนตรีเปิดหมวกกับเพื่อนๆนำเงินไปบริจาค ปีที่ผ่านมาเฮียก็บวชเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้ในหลวง ร.9 (อันนี้บอกตามตรงเราพึ่งมารู้ข่าวหลังเฮียเป็นกระแส) ล่าสุดไม่กี่วันที่ผ่านมาเฮีย cancelled งานเพื่อไปร้องเพลงช่วยงานการกุศลโดยที่ไม่รับค่าตัว คือต่อให้ดังแค่ไหน เฮียก็ยังเป็นคนดีคนเดิมเสมอ สำหรับเรา เหมือนเฮียปิดทองหลังพระมาโดยตลอด คือมันเยอะมากจนทองมันล้นออกมาข้างหน้าองค์พระในปีนี้
3. การเปิดใจยอมรับฟังความคิดเห็นคนอื่น: ถ้าเป็นความคิดเห็นที่”ติเพื่อก่อ”เฮียก็พร้อมรับฟังแล้วนำมาปรับปรุงตัวเองเสมอ อย่างตอนหลังเปิดหน้ากากก็มีกระแสดรามาว่าพูดไม่ชัด (ขอแทรกตรงนี้ว่ามันมีอะไรหลายอย่างเบื้องหลังที่เราไม่รู้ วันนั้นที่ถอดหน้ากากคือเฮียถ่ายติดกันหลายเทป ลากยาวตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึงตี 5 ของอีกวัน พี่เอ๊ะจิรากรยังออกตัวแทนว่าเป๊กพูดรู้เรื่องก็เก่งแค่ไหนแล้ว) พอมีนักข่าวถามเฮียก็ยอมรับตรงๆว่าพูดไม่ชัด แต่จะพยายามพูดให้ชัดขึ้น แล้วเฮียก็ทำได้จริงๆจนไม่กี่วันมานี้มีข่าวสื่อหนึ่งเขียนข่าวว่าตอนนี้เฮียพูดชัดแล้ว (ถึงแม้จะมีแอบแซะนิดหน่อยก็ตาม) นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล็กๆน้อยๆ เป็นเสียงเตือนด้วยความเป็นห่วงจากแฟนเพลงของเฮีย ว่าเฮียรับงานเยอะจนการแสดงดรอปลงไหม ลืมเนื้อบ่อยไปหรือเปล่า จนงานล่าสุดเฮียก็แสดงให้เห็นว่าเฮียตั้งใจกับการแสดงมากแค่ไหน จนสุดท้ายมันออกมาดีและเป๊ะปังมากๆ
4. การมองโลกในแง่ดี: ต่อจากข้อที่ผ่านมา หลายๆเรื่องดรามามันเกิดจากความเป็นห่วง(ที่บางทีอาจจะมากจนเกินไป) เฮียก็มองว่ามันเป็นเสียงเตือนด้วยความห่วงใย เช่นเรื่องบางเรื่องที่อาจจะไม่เป๊ะในการแสดงสด เฮียก็บอกว่าเฮียจะตั้งใจให้มากขึ้น แต่ถ้าครั้งนี้เฮียทำไม่ได้ ก็ให้โอกาสเฮียได้พยายามในครั้งต่อไปนะ แต่สุดท้ายก็ทำได้แล้วนะเออ ;)
5. การปล่อยวาง: การที่ต้องทนกับเรื่องแย่ๆมาได้หลายปีนี่จิตใจต้องเข้มแข็งมากนะ อะไรที่มันบั่นทอนจิตใจและไม่เป็นความจริงเฮียก็ไม่สนใจ ก็ปล่อยผ่านไป แต่มีอันนึงที่เฮียเคยบอกว่ามันแรงไป (ซึ่งเราฟังแล้วยังหัวร้อนแทน) คือที่เฮียเดินห้างกับพ่อแล้วมีคนเอาไปเขียนข่าวว่าเป็นเด็กเสี่ย อันนี้ขนาดเราเองยังรับไม่ได้จริงๆ แต่สุดท้ายเฮียก็ไม่ได้ออกมาโวยวายอะไร พูดกันตรงๆถ้าเป็นเราเราคงฟ้องสำนักข่าวนั้นไปแล้ว
6. การใช้ชีวิตให้คุ้มค่า: ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เวลาไปออกงานต่างจังหวัด หรือเวลาว่างจากงาน เฮียจะใช้เวลาท่องเที่ยว มีทั้งแบบเที่ยวหรู เที่ยวสนุกสุดเหวี่ยงกับเพื่อน และที่เป็นเอกลักษณ์เลยคือเที่ยวแบบลูกทุ่ง ใช้ชีวิตติดดิน พักตามโฮมสเตย์ต่างจังหวัด ไม่บอกว่าตัวเองเป็นดารา เรียนรู้วิถีชีวิตของคนที่นั่น เขาทำอะไรเฮียทำแบบนั้น เขากินอะไรเฮียกินแบบนั้น ทั้งๆที่ก็ลูกคุณหนู แต่ก็ไม่ปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้อีกด้านของชีวิต ซึ่งดูเจ้าตัวจะ happy มากๆซะด้วย ลองคิดกลับกันว่าถ้าเฮียใช้ช่วงเวลาที่ผ่านมาจมอยู่กับข่าวแย่ๆ เฮียจะได้มีความทรงจำดีๆแบบนี้มาเก็บไว้และมาแบ่งปันพวกเราไหม ยิ่งตอนนี้งานล้นมือ อย่าหวังว่าจะได้ทำอะไรแบบนั้นเลย แค่เวลาพักผ่อนยังแทบจะไม่มี ช่วงนี้งานเยอะก็เหนื่อยหน่อยนะเฮีย :p
7. รักและใส่ใจคนที่เรารักและรักเราให้มากที่สุด: คือครอบครัว เพื่อน คนใกล้ตัว เฮียรักมากอยู่แล้วคงไม่ขอพูดถึง แต่บางอย่างเฮียแสดงออกชัดเจนมาก เช่นเวลาตอบคำถาม(ที่ไม่ค่อยดีนัก)ของนักข่าว ก็จะตอบแบบรวมๆ พอใจไม่พอใจก็แสดงออกแบบมีมารยาท ยิ้มได้ก็ยิ้ม ไม่อยากยิ้มก็ทำหน้าหล่อปกติ (อันนี้ขออวยนิดนึง 555’) ไม่มีสร้างภาพ แต่พอเวลาอยู่กับแฟนคลับเฮียจะให้เต็มร้อยมาก ตอนงานห้างแตกครั้งแรก เวทีแสดงค่อนข้างคับแคบ ก็ทำการแสดงไป แต่เฮียรู้ว่าแฟนๆของเค้าเป็นร้อยๆนั่งอยู่ข้างนอก มารอตั้งแต่บ่ายทนตากแดดร้อนๆก็มี ก็เดินลงเวทีไปร้องเพลงให้ฟังถึงที่ รับของ พบปะพูดคุยทักทาย เรียกได้ว่าทั่วถึงทุกคน อย่างงานล่าสุดที่ค่อนข้างทางการ ก็มีเซเลบริตี้จะมาคว้าตัวขอถ่ายรูป เฮียก็มาทักทาย+ถ่ายรูปกับแฟนๆที่มารอเขาตั้งแต่หัววันก่อน ทุกคนที่เป็นแฟนคลับเฮียเลยรักเฮียมาก เพราะรู้ว่ารักที่พวกเขาให้ไปเฮียได้รับ แถมให้กลับมาเกินร้อยอีก เวลาเฮียมีการแสดงที่ไหน แฟนๆเลยมีใจตามไปให้กำลังใจกันแน่นทุกงาน อย่างที่เห็นว่าเฮียทำห้างแตกไปหลายห้างภายในเวลาไม่ถึงเดือน เพราะทั้งเฮียทั้งแฟนคลับรู้ว่าการได้ทำอะไรเพื่อคนที่เรารักมันคุ้มค่าเสมอ มันก็เลยออกมาเป็นปรากฏการ์อย่างที่เห็น
สุดท้ายเราอยากบอกว่าเฮียต้องมีด้านที่ไม่ดีอยู่แล้ว เราทุกคนก็ด้วย แต่เราเลือกได้ว่าจะมองและหยิบมุมไหนของศิลปินมาเป็นแบบอย่าง มาเป็นบทเรียนให้กับชีวิตของเรา ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ