THE DRAGON’S BACK
#นักจ้องเที่ยว #TM03
สวัสดีครับ นี่คงเป็น Review แรกสำหรับผม วันนี้เราจะพาทุกท่านไปเดินบนหลังมังกรหรือที่ภาษาสากลจะเรียกว่า “Dragon’s Back” ที่ฮ่องกงกันครับ
สิ่งที่จะต้องเตรียมก่อนการเดินทาง
1. บัตร Octopus Card สำคัญมากครับ เพราะบัตรเดียวจะเดินทาง จะกินก็ใช้ได้หมด
2. อาหารจำพวกขนมปัง และน้ำควรจะนำติดตัวไปหน่อยครับ
3. การแต่งกาย
- ตามฤดูกาลเลยครับ แต่ด้านบนนั้นลมแรงมาก ถ้าจะใส่หมวกระวังปลิวด้วยครับ
- ส่วนใครสายวิ่ง จะใส่ Compress ชุดวิ่ง เป้น้ำก็จัดได้เลยครับ ไม่ต้องอายตอนผมไปมีคนใส่เยอะแยะครับ
พร้อมกันหรือยังครับ !!! Let’s go.
เริ่มต้นเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MTR มุ่งหน้าไป สถานี Central หรือ Admiralty จากนั้นให้เปลี่ยนสายรถไฟฟ้าไปเป็น Island Line(สายสีฟ้า) ขึ้นขบวนที่มุ่งหน้าไป Chai Wan เพื่อไปลงที่สถานี Shau Kei Wan
ออกจากรถไฟฟ้าแล้วให้มุ่งไปยังทางออก A ได้เลยครับ แนะนำว่าควรจะซื้อน้ำดื่มตุนไว้เลย รวมถึงขนมปังซัก ชิ้นสองชิ้นน่ะครับ ตรงทางออก A ในสถานีรถไฟฟ้าด้านขวาจะมี Seven Eleven อยู่ครับ
เดินมาเรื่อยๆ ก็จะเจอป้ายทางออก A1/A2/A3 ให้เลือกออก ทางออก A3
เพื่อความมั่นใจว่าใช่ทางออก A3 คุณจะเห็นบันไดกว้างๆให้เดินขึ้น สามารถวอร์มร่างกายขึ้นบันไดเล่นตรงนี้ก่อนก็ได้น่ะครับ ฮ่าๆ
ขึ้นมากจากสถานีรถไฟฟ้าแล้วจะเจอป้ายนี้ เป็นป้ายของสายรถบัสที่เราจะนั่งไปสู่ Dragon’s Back นั่นเอง โดยเราจะใช้บริการรถเมลล์สาย 9
เดินไปเรื่อยๆก็จะเจอป้ายบอกตลอดทาง
อีกนิดจะเจอป้ายยให้เดินขึ้นสะพานลอยสีชมพูไป เดินขึ้นไป แล้วไปลงอีกฝั่งครับ ปล.ตรงจุดนี้ให้เหลียวมองไปทางซ้ายจะเห็นรถบัสสาย 9 จอดอยู่แต่ก็ไม่ควรข้ามถนนเดินตัดไปเนอะ เดินขึ้นสะพานลอยชมพู วอร์มขากันไปพลางๆ
เดินลงมาจากสะพานลอยก็ต่อคิวขึ้นรถบัสสาย 9 กันเลยครับ เตรียมบัตร Octopus card ไว้ด้วยครับ ตอนขึ้นรถไปก็แตะบัตร Octopus card ไปหนึ่งทีเลย
ขึ้นไปก็หาที่นั่งเลยครับ ถ้าเป็นไปได้นั่งด้านหลังที่สามารถมองเห็นจอที่มีไว้บอกป้ายจอดแต่ละป้ายก็จะสะดวกมาก
แต่ถ้าคนเยอะจริงๆ ให้สังเกตุคนที่ใส่ชุดกีฬาหรือชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่ก็จะเดินทางไปลงที่ป้าย Dragon’s back กันทั้งนั้น
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20-30 นาทีแล้วแต่สภาพจราจรครับ ใครที่เมารถง่าย ควรจะเตรียมกินยาแก้เมารถหรือพกถุงพลาสติกไปด้วยครับ เพราะเส้นทางที่รถวิ่งค่อนข้างคดเคี้ยวและขึ้นเขาเยอะ
ปล.สังเกตุรถบัสที่นี่ตอนขึ้นจะบังคับให้ขึ้นประตูหน้าเท่านั้นเพราะจะต้องจ่ายเงินที่ด้านหน้า แต่ตอนลงก็ให้ลงที่ประตูกลางได้ครับ (ไอเดียนี้ดีมากเลยครับ)
เราจะมาลงกันที่ป้ายนี้ครับ ถ้าเห็นป้ายหน้าตาแบบนี้ก็กดกริ่งได้เลย
เพื่อความมั่นใจก็ให้ดูด้านขวาครับถ้าเห็นวิวนี้ก็แสดงว่ามาถึงจุดขึ้น Dragon’s back แน่นอน
จุดนี้จะมีห้องน้ำให้บริการ เข้าให้เรียบร้อยจากตรงนี้เลยน่ะครับ รวมถึงสามารถศึกษาแผนที่ได้จากจุดนี้ได้เลย
ไปกันต่อเลยครับ เวลาแห่งความสนุก ความสุข และวิวบนหลังมังกร กำลังจะเกิดขึ้น ไปกันเลย หลังมังกร รอเราอยู่ !!!!
เดินกันไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักครับ Dragon’s back นี้ถือว่าเป็นเขาที่เหมาะกับมือใหม่ฝึกความแข็งแรงขาเลยครับ ทางเดินขึ้นประมาณนี้
เดินไปก็จะเจอป้ายบอกทางเป็นระยะๆ และวิวสวยๆ เราต้องมุ่งหน้าไปยัง Dragon’s back น่ะครับ ส่วนถนนที่รถบัสมาจอดเขาเรียกว่า Shek O Road ครับ
ระหว่างทางอาจจะเจอ นักวิ่ง Trail มาซ้อมวิ่งกันเป็นระยะๆ ใครอยากวิ่งก็วิง ใครอยากเดินก็เต็มที่ครับเดินมาจนเจอ ศาลาพักใจและทางแยก อย่าเพิ่งท้อนะครับ อีกนิดเดียวเราจะขึ้นไปหลังมังกรแล้วครับ
เดินมาอีกนิดก็จะได้พบกับวิวนี้ครับ ถ้าเห็นวิวนี้แสดงว่าตอนนี้ ยืนอยู่บนหลังมังกรแล้ว เราจะเดินต่อไปทางซ้าย
ปล. อย่าลืมเดินไปถ่ายรูปทางด้านขวาด้วยนะ แล้วระวังหมวกปลิวครับ บนนี้ลมจะแรงมาก
มุ่งหน้าไปทางซ้ายและเดินบนหลังมังกรไปเรื่อยๆ ใครหิวก็หาร่มไม้แวะกินอาหารได้เลย แต่อย่าทิ้งขยะไว้นะ เก็บใสกระเป๋าไว้ก่อนครับ
เห็นหลังมังกรกันแล้วก็เดินต่อไป วิวระหว่างทางก็สวยไม่เบา อีกนิดเดียวเราจะถึงจุดพิชิต Dragon’s back แล้วนะ
จุดนี้ไม่อยากนึกเลยว่าถ้ามาหน้าร้อน หัวจะร้อนขนาดไหน
เดินมาแล้วที่สำคัญคือ อย่าลืมที่จะมองกลับไปด้านหลังด้วยนะ ความสวยงามรอเราอยู่
Distance post ที่ระบุในแผนที่ก็จะมีบอกตลอดทาง เห็น H 087 เมื่อไหร่ อีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว
ในที่สุด เราคือผู้พิชิต The Dragon’s back
จากจุดพิชิตจุดนี้ใครอยากเดินย้อนกลับไปลงทางเดิมเพื่อกลับไปขึ้นรถบัสก็สามารถทำได้นะ แต่ผมยังไม่หยุดยั้ง อยากรู้อยากเห็นและเลือกที่จะเดินต่อไป แต่ทางหลังจากนี้จะเป็นทางลงเป็นส่วนใหญ่ และสามารถไปขึ้นรถบัสได้เหมือนกัน
เดินลงมายาวๆ เลยทางค่อนข้างร่มรื่นมาก
จนมาเจอกับป้ายทางแยกนี้ให้เลี้ยวขวามุ่งหน้า TAI TAM GAP
ปล.ตอนไปก็ไม่รู้ว่าควรจะไปทางไหนเหมือนกัน โทรศัพท์เน็ตหมด ผมเลยเดาว่าไปทางขวา ดันถูกด้วยแหะ
เดินตามทางยาวๆ ไปเลยครับ ส่วนใครมาซ้อมวิ่งหลังจากจุดนี้ไป ทำความเร็วเต็มที่เลย ความร่มรื่นนี้ไร้คำบรรยายเลยครับ
เห็น Distance post H 093 ก็จะใกล้จุดลงเพื่อไปขึ้นรถบัสกลับเข้าเมืองกันแล้ว
มาถึงป้ายนี้ก็จะมีทางให้เลี้ยวขวา กับตรงไป ให้ตรงลงไปเลย เพราะจะมีป้ายจอดรถบัสอยู่
- ปล. ผมจะมาแก้มือไปทางขวาให้สุดแน่นอน เนื่องจากรอบนี้เตรียมตัวมาน้อย น้ำหมด อาหารหมด
รูปนี้มองย้อนไปก็คือทางที่เราลงมาจาก Dragons’ back นั่นเอง
ตรงไปตามทางจะมีป้ายบอกทางมุ่งหน้า Shek O road ครับไปทางนั้นเลย
ถึงจุดนี้ก็แสดงว่ามาถูกทางแล้วครับ มองไปฝั่งตรงข้ามถนน จะมีป้ายหยุดรถบัส ให้ไปรอกลับเข้าเมืองได้เลย
ขอบคุณทุกท่านที่ทนอ่านรีวิวมาจนจบน่ะครับ หวังหว่ารีวิวนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคนออกเดินทางไปตามหาสิ่งใหม่ๆน่ะครับ
ความสุขมันอยู่รอบตัวเรา ถ้าไม่ออกไปคว้ามาเราไม่มีทางจะได้มัน ลองสละเวลาแค่ปีละ สองสามวัน ออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ กันดูครับ
หากอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามกันมาได้ครับ แล้วจะมาพบกันใหม่
by mind_zephyr #นักจ้องเที่ยว #Travel for life #TM03
[CR] Review The Dragon's Back Hong Kong by TM03 #นักจ้องเที่ยว
#นักจ้องเที่ยว #TM03
สวัสดีครับ นี่คงเป็น Review แรกสำหรับผม วันนี้เราจะพาทุกท่านไปเดินบนหลังมังกรหรือที่ภาษาสากลจะเรียกว่า “Dragon’s Back” ที่ฮ่องกงกันครับ
สิ่งที่จะต้องเตรียมก่อนการเดินทาง
1. บัตร Octopus Card สำคัญมากครับ เพราะบัตรเดียวจะเดินทาง จะกินก็ใช้ได้หมด
2. อาหารจำพวกขนมปัง และน้ำควรจะนำติดตัวไปหน่อยครับ
3. การแต่งกาย
- ตามฤดูกาลเลยครับ แต่ด้านบนนั้นลมแรงมาก ถ้าจะใส่หมวกระวังปลิวด้วยครับ
- ส่วนใครสายวิ่ง จะใส่ Compress ชุดวิ่ง เป้น้ำก็จัดได้เลยครับ ไม่ต้องอายตอนผมไปมีคนใส่เยอะแยะครับ
พร้อมกันหรือยังครับ !!! Let’s go.
เริ่มต้นเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MTR มุ่งหน้าไป สถานี Central หรือ Admiralty จากนั้นให้เปลี่ยนสายรถไฟฟ้าไปเป็น Island Line(สายสีฟ้า) ขึ้นขบวนที่มุ่งหน้าไป Chai Wan เพื่อไปลงที่สถานี Shau Kei Wan
ออกจากรถไฟฟ้าแล้วให้มุ่งไปยังทางออก A ได้เลยครับ แนะนำว่าควรจะซื้อน้ำดื่มตุนไว้เลย รวมถึงขนมปังซัก ชิ้นสองชิ้นน่ะครับ ตรงทางออก A ในสถานีรถไฟฟ้าด้านขวาจะมี Seven Eleven อยู่ครับ
เดินมาเรื่อยๆ ก็จะเจอป้ายทางออก A1/A2/A3 ให้เลือกออก ทางออก A3
เพื่อความมั่นใจว่าใช่ทางออก A3 คุณจะเห็นบันไดกว้างๆให้เดินขึ้น สามารถวอร์มร่างกายขึ้นบันไดเล่นตรงนี้ก่อนก็ได้น่ะครับ ฮ่าๆ
ขึ้นมากจากสถานีรถไฟฟ้าแล้วจะเจอป้ายนี้ เป็นป้ายของสายรถบัสที่เราจะนั่งไปสู่ Dragon’s Back นั่นเอง โดยเราจะใช้บริการรถเมลล์สาย 9
เดินไปเรื่อยๆก็จะเจอป้ายบอกตลอดทาง
อีกนิดจะเจอป้ายยให้เดินขึ้นสะพานลอยสีชมพูไป เดินขึ้นไป แล้วไปลงอีกฝั่งครับ ปล.ตรงจุดนี้ให้เหลียวมองไปทางซ้ายจะเห็นรถบัสสาย 9 จอดอยู่แต่ก็ไม่ควรข้ามถนนเดินตัดไปเนอะ เดินขึ้นสะพานลอยชมพู วอร์มขากันไปพลางๆ
เดินลงมาจากสะพานลอยก็ต่อคิวขึ้นรถบัสสาย 9 กันเลยครับ เตรียมบัตร Octopus card ไว้ด้วยครับ ตอนขึ้นรถไปก็แตะบัตร Octopus card ไปหนึ่งทีเลย
ขึ้นไปก็หาที่นั่งเลยครับ ถ้าเป็นไปได้นั่งด้านหลังที่สามารถมองเห็นจอที่มีไว้บอกป้ายจอดแต่ละป้ายก็จะสะดวกมาก
แต่ถ้าคนเยอะจริงๆ ให้สังเกตุคนที่ใส่ชุดกีฬาหรือชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่ก็จะเดินทางไปลงที่ป้าย Dragon’s back กันทั้งนั้น
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20-30 นาทีแล้วแต่สภาพจราจรครับ ใครที่เมารถง่าย ควรจะเตรียมกินยาแก้เมารถหรือพกถุงพลาสติกไปด้วยครับ เพราะเส้นทางที่รถวิ่งค่อนข้างคดเคี้ยวและขึ้นเขาเยอะ
ปล.สังเกตุรถบัสที่นี่ตอนขึ้นจะบังคับให้ขึ้นประตูหน้าเท่านั้นเพราะจะต้องจ่ายเงินที่ด้านหน้า แต่ตอนลงก็ให้ลงที่ประตูกลางได้ครับ (ไอเดียนี้ดีมากเลยครับ)
เราจะมาลงกันที่ป้ายนี้ครับ ถ้าเห็นป้ายหน้าตาแบบนี้ก็กดกริ่งได้เลย
เพื่อความมั่นใจก็ให้ดูด้านขวาครับถ้าเห็นวิวนี้ก็แสดงว่ามาถึงจุดขึ้น Dragon’s back แน่นอน
จุดนี้จะมีห้องน้ำให้บริการ เข้าให้เรียบร้อยจากตรงนี้เลยน่ะครับ รวมถึงสามารถศึกษาแผนที่ได้จากจุดนี้ได้เลย
ไปกันต่อเลยครับ เวลาแห่งความสนุก ความสุข และวิวบนหลังมังกร กำลังจะเกิดขึ้น ไปกันเลย หลังมังกร รอเราอยู่ !!!!
เดินกันไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักครับ Dragon’s back นี้ถือว่าเป็นเขาที่เหมาะกับมือใหม่ฝึกความแข็งแรงขาเลยครับ ทางเดินขึ้นประมาณนี้
เดินไปก็จะเจอป้ายบอกทางเป็นระยะๆ และวิวสวยๆ เราต้องมุ่งหน้าไปยัง Dragon’s back น่ะครับ ส่วนถนนที่รถบัสมาจอดเขาเรียกว่า Shek O Road ครับ
ระหว่างทางอาจจะเจอ นักวิ่ง Trail มาซ้อมวิ่งกันเป็นระยะๆ ใครอยากวิ่งก็วิง ใครอยากเดินก็เต็มที่ครับเดินมาจนเจอ ศาลาพักใจและทางแยก อย่าเพิ่งท้อนะครับ อีกนิดเดียวเราจะขึ้นไปหลังมังกรแล้วครับ
เดินมาอีกนิดก็จะได้พบกับวิวนี้ครับ ถ้าเห็นวิวนี้แสดงว่าตอนนี้ ยืนอยู่บนหลังมังกรแล้ว เราจะเดินต่อไปทางซ้าย
ปล. อย่าลืมเดินไปถ่ายรูปทางด้านขวาด้วยนะ แล้วระวังหมวกปลิวครับ บนนี้ลมจะแรงมาก
มุ่งหน้าไปทางซ้ายและเดินบนหลังมังกรไปเรื่อยๆ ใครหิวก็หาร่มไม้แวะกินอาหารได้เลย แต่อย่าทิ้งขยะไว้นะ เก็บใสกระเป๋าไว้ก่อนครับ
เห็นหลังมังกรกันแล้วก็เดินต่อไป วิวระหว่างทางก็สวยไม่เบา อีกนิดเดียวเราจะถึงจุดพิชิต Dragon’s back แล้วนะ
จุดนี้ไม่อยากนึกเลยว่าถ้ามาหน้าร้อน หัวจะร้อนขนาดไหน
เดินมาแล้วที่สำคัญคือ อย่าลืมที่จะมองกลับไปด้านหลังด้วยนะ ความสวยงามรอเราอยู่
Distance post ที่ระบุในแผนที่ก็จะมีบอกตลอดทาง เห็น H 087 เมื่อไหร่ อีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว
ในที่สุด เราคือผู้พิชิต The Dragon’s back
จากจุดพิชิตจุดนี้ใครอยากเดินย้อนกลับไปลงทางเดิมเพื่อกลับไปขึ้นรถบัสก็สามารถทำได้นะ แต่ผมยังไม่หยุดยั้ง อยากรู้อยากเห็นและเลือกที่จะเดินต่อไป แต่ทางหลังจากนี้จะเป็นทางลงเป็นส่วนใหญ่ และสามารถไปขึ้นรถบัสได้เหมือนกัน
เดินลงมายาวๆ เลยทางค่อนข้างร่มรื่นมาก
จนมาเจอกับป้ายทางแยกนี้ให้เลี้ยวขวามุ่งหน้า TAI TAM GAP
ปล.ตอนไปก็ไม่รู้ว่าควรจะไปทางไหนเหมือนกัน โทรศัพท์เน็ตหมด ผมเลยเดาว่าไปทางขวา ดันถูกด้วยแหะ
เดินตามทางยาวๆ ไปเลยครับ ส่วนใครมาซ้อมวิ่งหลังจากจุดนี้ไป ทำความเร็วเต็มที่เลย ความร่มรื่นนี้ไร้คำบรรยายเลยครับ
เห็น Distance post H 093 ก็จะใกล้จุดลงเพื่อไปขึ้นรถบัสกลับเข้าเมืองกันแล้ว
มาถึงป้ายนี้ก็จะมีทางให้เลี้ยวขวา กับตรงไป ให้ตรงลงไปเลย เพราะจะมีป้ายจอดรถบัสอยู่
รูปนี้มองย้อนไปก็คือทางที่เราลงมาจาก Dragons’ back นั่นเอง
ตรงไปตามทางจะมีป้ายบอกทางมุ่งหน้า Shek O road ครับไปทางนั้นเลย
ถึงจุดนี้ก็แสดงว่ามาถูกทางแล้วครับ มองไปฝั่งตรงข้ามถนน จะมีป้ายหยุดรถบัส ให้ไปรอกลับเข้าเมืองได้เลย
ขอบคุณทุกท่านที่ทนอ่านรีวิวมาจนจบน่ะครับ หวังหว่ารีวิวนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคนออกเดินทางไปตามหาสิ่งใหม่ๆน่ะครับ
หากอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามกันมาได้ครับ แล้วจะมาพบกันใหม่
by mind_zephyr #นักจ้องเที่ยว #Travel for life #TM03
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น