สวัสดี พี่ๆน้องๆ ลุง ป้า น้า อา ทุกท่านครับ


ห่างหายไปนานจากหน้าที่การงานที่ต้องเดินทางไปในหลายๆที่
รอบนี้มีโอกาสจึงขอนำเรื่องราวการเดินทางครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งในชีวิตมาเล่าสู่กันฟังครับ........
CRF 250 rally....Road To Mui'ne
จากการทำผลงานในนามทีม Just Ride it กว่าสองปีที่ผ่านมาในฐานนะ รีวิวเวอร์ บล๊อคเกอร์ หรือสุดแท้แต่จะเรียกขานกันตามความถนัด
Just Ride it ก็ถูกเลือกให้ไปเข้าร่วมในทริปการเดินทางข้ามผ่านสาม3ประเทศ
ไทย - กัมพูชา - เวียดนาม เดินทางกันด้วยเจ้า CRF250rally ไปกับคณะพี่น้องสื่อมวลชนสายมอเตอร์สปอร์ต
รวมไปถึงทีมถ่ายทำรายการ Viewfinder Thailand และ Journey of the Souls ในคอนเซป The Fearless Destination
บอกตรงๆว่าเกิดอาการ งง + สตั๊น ว่าทีมงานเล็กๆบ้าๆบอๆ มีสาระบ้างไม่มีสาระบ้างอย่าง Just ride it ก็เป็นผู้ถูกเลือกแฮะ!!!


เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ
งานนี้ตัวผมเองจำเป็นต้องฉายเดี่ยวฮะ ในแผนการเดินทางครั้งนี้เราจะเดินทางกันทั้งหมด 5 วัน
เริ่มออกสตาร์ทจากประเทศไทย ออกทางด่านอรัญประเทศผ่านกัมพูชาไปสู่จุดหมายปลายทางที่ ฟานเที๊ยต มุยเน่ ประเทศเวียดนาม
Day1
สระแก้ว - ปอยเปต - เสียมเรียบ ระยะทาง 149Km

ก่อนออกเดินทางก็ต้องบรีฟเส้นทาง รวมไปถึงกฏระเบียบต่างๆในกัมพูชาจากทีมงานและไกด์
ที่จะพาเราผ่านด่านข้ามแดนไปยังกัมพูชากันก่อน
ก็ว่ากันตามสไตล์ไทยๆเรานะครับมีการตีธงปล่อยรถเอาฤกษ์เอาชัย กันเล็กน้อยก่อนออกเดินทาง

อ้อ ลืมไปงานนี้มีขวัญใจผมไปด้วย คุณส้ม อมรา
สาวเท่สายลุยแบบนี้โดนใจผู้ชายมุ้งมิ้งแบบผมยิ่งนักที่สำคัญงานนี้นางขี่ CRF250rally ไปกับเราด้วยจ้า

การข้ามฝั่งไปเมืองปอยเปต ใช้เส้นทางผ่านทางด่านคลองลึก ตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ

มองไปไกลๆนั่น กัมพูชา ขั้นตอนการผ่านแดนฝั่งไทยขอแค่มีเอกสารครบๆก็ผ่านฉลุย

ส่วนการจะผ่านเข้าด่านกัมพูชานั้นหามาตรฐานอะไรไม่ค่อยจะได้ บทจะให้ผ่านก็ผ่านบทจะไม่ให้ผ่านก็ต้องหันหัวกลับซะงั้น
ผ่านด่านกัมพูชาจากอรัญประเทศไปปอยเปต ไม่ยากครับชิลๆทางนู้นยินดีต้อนรับ
แต่!!!!การจะผ่านด่านแบบที่คณะเราเดินทางไป คือข้ามด่านไปแล้วไปออกเวียดนามนั้นค่อนข้างลำบากถ้าไม่ผ่านทัวร์....
ถึงผ่านทัวร์ในขั้นตอนการยื่นเอกสารก็ต้องยื่นกันเองนะจ๊ะ ชุลมุนพอสมควร

แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดีสิ่งแรกหลังจากที่ข้ามแดนมาถึง ปอยเปต ก็ต้องนี่เลยจ้าเปลี่ยนซิมก่อน
เผื่อ หลงทาง หรือหลุดขบวน จะได้โทรตามกันได้ กัมพูชาก็มี4G ให้ใช้เด้ออออออออ

นอกจากเปลี่ยนซิมมือถือแล้ว ก็คือการสลับเลนในการจราจรกัมพูชาวิ่งขวา ช่วงแรกก็มรการสับสนกันบ้างเล็กน้อย
คุณพี่โอ ไกด์ทริปนี้บอกว่าการขับขี่ในวันแรกสิ่งต้องระวังคือ วัว!!

ที่นี่เลี้ยงวัวกันทุกบ้าน ช่วงเย็นๆ วัวที่ชาวบ้านปล่อยออกไปหากิน มันจะตอกบัตรเดินกลับบ้านกัน
ถ้าเจอวัวให้ชะลอความเร็วลงแล้วอ้อมหลังมันเพราะวัว ไม่มีเกียร์ถอย
เอาว่าโอกาสที่มันจะถอยหลังมาให้เราชนยากกว่าเดินหน้ามาชนเรานะจ๊ะ
#ถถถถถถถ

ถนนหนทาง และการจราจรในกัมพูชา ถือว่าดีกว่าที่จิตนาการไว้มาก
ตอนแรกแอบกังวลว่าสภาพถนนจะเป็นยังไงน้า ต้องงัดวิชาทางฝุ่นมาใช้กันตั้งแต่วันแรกเลยรึเปล่า
เปล่าเลยจ้า ถนนหนทางก็ราดยางเหมือนบ้านเรานี่แหละ แต่ขนาดจะเล็กกว่าหน่อยคือไม่มีถนน4เลน 8เลนแบบบ้านเราอ่ะนะ

ขี่กันมาได้ครึ่งทางอากาศค่อนข้างร้อนแบบแห้งๆ ก็แวะพักกันซะหน่อย

มาเจอของกินเล่นเป็นกล้วยปิ้ง คือเอากล้วยกิ่งดิบมาฝานเป็นแผ่นบางๆเอามาทับต่อกันเป็นแผ่น
แล้วเอาไปปิ้งบนเตาถ่าน เห็นแวบแรกนึกว่าปลาหมึกปิ้ง 5555+

รสชาติก็......กล้วยปิ้งนี่ล่ะฮะ !!!!!

จากนั้นก็เดินทางต่อมุ่งหน้าไป บารายตะวันตก อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มนุษย์สร้างขึ้น ในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1
เพื่อใช้ในการเกษตร และ เป็นแหล่งประมงน้ำจืด อยู่ทางตะวันตกของนครธม
มีขนาดกว้าง 2.2 กิโลเมตร ยาว 8 กิโลเมตร ลึกโดยเฉลี่ย 7 เมตร มีพื้นที่ 1,760 เฮกตาร์ [1 เฮกตาร์ = 10,000 ตารางเมตร]
จุน้ำได้ราว 123 ล้านลูกบาศก์ลิตร ใจกลางของบารายมีเกาะเล็กๆตั้งอยู่เรียกว่า แม่บุญตะวันตกซึ่งยังคงมีน้ำขังอยู่จนถึงทุกวันนี้
ทางเข้าไปก็ฝุ่นแดง วิ่งแล้วฟุ้งๆพอเป็นกระสัย

อ่านไม่ออก....

ก็พักถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำกันนิดหน่อย คิดในใจถ้ามีโดรนบินถ่ายน่าจะเห็นความยิ่งใหญ่อลังการ
ของอ่างเก็บน้ำจืดขนาดยักษ์ ที่สร้างด้วยน้ำมือมนุษย์ในสมัย ขอมโบราณเป็นแน่แท้....ก่อนจะเดินทางต่อมุ่งหน้าสู้ที่พัก

วันแรกกับระยะทาง 149Km ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
ถึงที่พักโดยสวัสดิภาพ คืนเเรกเราพักกันที่ Empress Ankor Hotel เสียมเลียบ
พักร่างที่โดนอบด้วยไอร้อนของทั้งลมและแดดมาทั้งวันเพื่อเตรียมตัวเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้น
[SR] RIDENOW - ควบ CRF250rally ตะลุยผ่าน3ประเทศ ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม ไปเล่นทรายที่ "มุยเน่"
ห่างหายไปนานจากหน้าที่การงานที่ต้องเดินทางไปในหลายๆที่
รอบนี้มีโอกาสจึงขอนำเรื่องราวการเดินทางครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งในชีวิตมาเล่าสู่กันฟังครับ........
CRF 250 rally....Road To Mui'ne
จากการทำผลงานในนามทีม Just Ride it กว่าสองปีที่ผ่านมาในฐานนะ รีวิวเวอร์ บล๊อคเกอร์ หรือสุดแท้แต่จะเรียกขานกันตามความถนัด
Just Ride it ก็ถูกเลือกให้ไปเข้าร่วมในทริปการเดินทางข้ามผ่านสาม3ประเทศ
ไทย - กัมพูชา - เวียดนาม เดินทางกันด้วยเจ้า CRF250rally ไปกับคณะพี่น้องสื่อมวลชนสายมอเตอร์สปอร์ต
รวมไปถึงทีมถ่ายทำรายการ Viewfinder Thailand และ Journey of the Souls ในคอนเซป The Fearless Destination
บอกตรงๆว่าเกิดอาการ งง + สตั๊น ว่าทีมงานเล็กๆบ้าๆบอๆ มีสาระบ้างไม่มีสาระบ้างอย่าง Just ride it ก็เป็นผู้ถูกเลือกแฮะ!!!
เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ
งานนี้ตัวผมเองจำเป็นต้องฉายเดี่ยวฮะ ในแผนการเดินทางครั้งนี้เราจะเดินทางกันทั้งหมด 5 วัน
เริ่มออกสตาร์ทจากประเทศไทย ออกทางด่านอรัญประเทศผ่านกัมพูชาไปสู่จุดหมายปลายทางที่ ฟานเที๊ยต มุยเน่ ประเทศเวียดนาม
Day1
สระแก้ว - ปอยเปต - เสียมเรียบ ระยะทาง 149Km
ก่อนออกเดินทางก็ต้องบรีฟเส้นทาง รวมไปถึงกฏระเบียบต่างๆในกัมพูชาจากทีมงานและไกด์
ที่จะพาเราผ่านด่านข้ามแดนไปยังกัมพูชากันก่อน
ก็ว่ากันตามสไตล์ไทยๆเรานะครับมีการตีธงปล่อยรถเอาฤกษ์เอาชัย กันเล็กน้อยก่อนออกเดินทาง
อ้อ ลืมไปงานนี้มีขวัญใจผมไปด้วย คุณส้ม อมรา
สาวเท่สายลุยแบบนี้โดนใจผู้ชายมุ้งมิ้งแบบผมยิ่งนักที่สำคัญงานนี้นางขี่ CRF250rally ไปกับเราด้วยจ้า
การข้ามฝั่งไปเมืองปอยเปต ใช้เส้นทางผ่านทางด่านคลองลึก ตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ
มองไปไกลๆนั่น กัมพูชา ขั้นตอนการผ่านแดนฝั่งไทยขอแค่มีเอกสารครบๆก็ผ่านฉลุย
ส่วนการจะผ่านเข้าด่านกัมพูชานั้นหามาตรฐานอะไรไม่ค่อยจะได้ บทจะให้ผ่านก็ผ่านบทจะไม่ให้ผ่านก็ต้องหันหัวกลับซะงั้น
ผ่านด่านกัมพูชาจากอรัญประเทศไปปอยเปต ไม่ยากครับชิลๆทางนู้นยินดีต้อนรับ
แต่!!!!การจะผ่านด่านแบบที่คณะเราเดินทางไป คือข้ามด่านไปแล้วไปออกเวียดนามนั้นค่อนข้างลำบากถ้าไม่ผ่านทัวร์....
ถึงผ่านทัวร์ในขั้นตอนการยื่นเอกสารก็ต้องยื่นกันเองนะจ๊ะ ชุลมุนพอสมควร
แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดีสิ่งแรกหลังจากที่ข้ามแดนมาถึง ปอยเปต ก็ต้องนี่เลยจ้าเปลี่ยนซิมก่อน
เผื่อ หลงทาง หรือหลุดขบวน จะได้โทรตามกันได้ กัมพูชาก็มี4G ให้ใช้เด้ออออออออ
นอกจากเปลี่ยนซิมมือถือแล้ว ก็คือการสลับเลนในการจราจรกัมพูชาวิ่งขวา ช่วงแรกก็มรการสับสนกันบ้างเล็กน้อย
คุณพี่โอ ไกด์ทริปนี้บอกว่าการขับขี่ในวันแรกสิ่งต้องระวังคือ วัว!!
ที่นี่เลี้ยงวัวกันทุกบ้าน ช่วงเย็นๆ วัวที่ชาวบ้านปล่อยออกไปหากิน มันจะตอกบัตรเดินกลับบ้านกัน
ถ้าเจอวัวให้ชะลอความเร็วลงแล้วอ้อมหลังมันเพราะวัว ไม่มีเกียร์ถอย
เอาว่าโอกาสที่มันจะถอยหลังมาให้เราชนยากกว่าเดินหน้ามาชนเรานะจ๊ะ
#ถถถถถถถ
ถนนหนทาง และการจราจรในกัมพูชา ถือว่าดีกว่าที่จิตนาการไว้มาก
ตอนแรกแอบกังวลว่าสภาพถนนจะเป็นยังไงน้า ต้องงัดวิชาทางฝุ่นมาใช้กันตั้งแต่วันแรกเลยรึเปล่า
เปล่าเลยจ้า ถนนหนทางก็ราดยางเหมือนบ้านเรานี่แหละ แต่ขนาดจะเล็กกว่าหน่อยคือไม่มีถนน4เลน 8เลนแบบบ้านเราอ่ะนะ
ขี่กันมาได้ครึ่งทางอากาศค่อนข้างร้อนแบบแห้งๆ ก็แวะพักกันซะหน่อย
มาเจอของกินเล่นเป็นกล้วยปิ้ง คือเอากล้วยกิ่งดิบมาฝานเป็นแผ่นบางๆเอามาทับต่อกันเป็นแผ่น
แล้วเอาไปปิ้งบนเตาถ่าน เห็นแวบแรกนึกว่าปลาหมึกปิ้ง 5555+
รสชาติก็......กล้วยปิ้งนี่ล่ะฮะ !!!!!
จากนั้นก็เดินทางต่อมุ่งหน้าไป บารายตะวันตก อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มนุษย์สร้างขึ้น ในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1
เพื่อใช้ในการเกษตร และ เป็นแหล่งประมงน้ำจืด อยู่ทางตะวันตกของนครธม
มีขนาดกว้าง 2.2 กิโลเมตร ยาว 8 กิโลเมตร ลึกโดยเฉลี่ย 7 เมตร มีพื้นที่ 1,760 เฮกตาร์ [1 เฮกตาร์ = 10,000 ตารางเมตร]
จุน้ำได้ราว 123 ล้านลูกบาศก์ลิตร ใจกลางของบารายมีเกาะเล็กๆตั้งอยู่เรียกว่า แม่บุญตะวันตกซึ่งยังคงมีน้ำขังอยู่จนถึงทุกวันนี้
ทางเข้าไปก็ฝุ่นแดง วิ่งแล้วฟุ้งๆพอเป็นกระสัย
อ่านไม่ออก....
ก็พักถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำกันนิดหน่อย คิดในใจถ้ามีโดรนบินถ่ายน่าจะเห็นความยิ่งใหญ่อลังการ
ของอ่างเก็บน้ำจืดขนาดยักษ์ ที่สร้างด้วยน้ำมือมนุษย์ในสมัย ขอมโบราณเป็นแน่แท้....ก่อนจะเดินทางต่อมุ่งหน้าสู้ที่พัก
วันแรกกับระยะทาง 149Km ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
ถึงที่พักโดยสวัสดิภาพ คืนเเรกเราพักกันที่ Empress Ankor Hotel เสียมเลียบ
พักร่างที่โดนอบด้วยไอร้อนของทั้งลมและแดดมาทั้งวันเพื่อเตรียมตัวเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้น