สวัสดีคะ วันนี้เราจะมาแชร์เรื่องสถานเสริมความงามแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่โอเคสำหรับเราอย่างมาก
ถามว่าไม่โอเคยังไง มาฟังกันคะ
คลินิกนี้เพิ่งได้มีการเปลี่ยนชื่อไม่นาน เดิม ชื่อขึ้นต้นว่า De Gra.... แล้วเพิ่งได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น Gra..da
เมื่อเดือน ก.พ 60 เราได้มีการสมัครคอร์ดความงามกับทางคลินิกไป ด้วยคำโปรยของพนักงงาน ที่รุมๆตื้อๆเราอยู่ 4-5 คน ซื้อคอร์ดไปมูลค่า 1 แสนบาท
แต่พอเรามาอ่านข้อตกลงในสัญญากับไม่ตรงกับคำพูดที่พนักงงานได้พูดไว้ ซึ่งตรงนั้นเรายอมรับว่าเราพลาด ด้วยความรีบ และพนักงานชวนคุย ชวนดูนี่ตลอดเวลา พนักงานก็ดูร้อนรน เลยไม่ได้เอ๊ะใจอ่านสัญญา และเชื่อในคำพูดของพนักงงาน ก็เลยคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่แล้วข้อตกลงในสัญญาก็คือเรื่องของระยะเวลาการบริการ ในสัญญาระบุว่าภายใน 2 ปี แล้วทางคลินิกมีสิทธิ์ที่จะยกเลิกสัญญาโดยไม่แจ้งล่วงหน้า แต่ที่พนักงงานบอกเราก็คือ ได้ตลอดชีพ เราก็เอาสิ มันไม่ใช่ล่ะ เนื้อหาไม่ตรงกัน อีกทั้งสัญญามันควรจะเป็นอะไรที่ชัดเจน ถูกต้อง เพื่อสิทธิของลูกค้าเอง เพราะถึงเวลาครบกำหนด 2 ปี ทางคลินิกอาจจะยกเลิกสัญญาเราได้
เราเริ่มรู้สึกไม่โอเคแล้ว เลยลองเสิชข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ก็เจอเรื่องราวที่คนมาแชร์ มารีวิวคลินิกนี้มากมาย แต่สิ่งที่พบ คือมีแต่ภาพพจน์ด้านลบ ด้านลบจริงๆคะที่เจอ หลายคนมากมาย ทั้งราคาการบริการที่แพงมากเกินควร แต่กลับไม่ได้ผล เครื่องรักษาที่มีแค่เครื่องเดียว แล้วใช้สับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน ทำให้ไม่สามารถตอบสนองการบริการของลูกค้าได้ ต้องมีการเลื่อนนัดในบ่อยครั้ง และยังมีอื่นๆอีกหลายอย่าง เราก็เอาแล้ว คลินิกนี้มันไม่โอเคจริงๆแล้ว เราไม่ไว่ใจล่ะ ไม่อยากจะไปทำแล้ว ทั้งเราก็ได้ติดต่อไปยังคนที่มารีวิวคลินิก เพื่อสอบถามพูดคุย ทางเค้าก็อยากยกเลิกสัญญา แต่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ซึ่งเค้าปัจจุบันก็ยังใช้บริการอยู่ แต่ใช้ด้วยความเสียดายเงินที่จ่ายไปแล้ว ทั้งๆที่เค้าไม่พอใจในการบริการเลย
เราก็ไม่รอช้า รีบทำสัญญายกเลิกการบริการและขอคืนเงิน และส่งจดหมายแบบตอบรับ ส่งไปยังคลินิกและธนาคาร (ตามกฎหมายการใช้บัตรเครดิต ต้องไม่จำกัดสิทธิผู้บริโภคที่จะยกเลิกสัฐญญสัญญาภายใน 30 วัน ซึ่งเราใช้บัตรเครดิตรูด) ไปในวันรุ่งขึ้น แต่ผลปรากฎว่าทางคลินิกไม่ยอมยกเลิกสัญญาให้ แจ้งให้เราต้องมาใช้บริการ แล้วเค้าไม่คืนเงินให้ ซึ่งเราก็บอกเหตุผลทั้งหมด แต่ทางคลินิกก็ยังไม่มีการดำเนินการอะไรใดๆทั้งสิ้น เราจึงได้ส่งเรื่องฟ้องไปยังมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค และ สคบ. เพราะรู้สึกว่าเริ่มทนไม่ไหวกับการเพิกเฉยของเค้า ซึ่งตอนแรกเราขอคุยกับทางผู้จัดการ แต่ทางเค้าก็พยายามไม่ให้คุย ไม่ให้เข้าถึง ซึ่งเราก็รอทาง สคบ จัดการเรื่องนี้อยู่
อยากจะเรียนถึงคลินิกว่า ถ้าคุณเองเป็นลูกค้า แล้วคุณเจอแบบที่เราเจอ คุณจะยังอยากที่จะใช้บริการกับคลินิกนี้อยู่มั้ย ?? การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จด้วยดี คุณต้องมีทั้งบริการและมาตรฐานที่ดี และที่สำคัญที่สุดในทุกอาชีพ คือ จรรยาบรรณนะคะ!!
นี้คือสิ่งที่เรามาแชร์ คิดว่าใครหลายๆคนในพันทิพนี้คงเคยได้เจอกับตัวมาบ้าง เพราะเราเสิชหากระทู้ในพันทิพนี้ ก็มีคนมาตั้งกระทู้เกี่ยวกับคลินิกนี้เช่นกัน แชร์ไว้เป็นอุทาหรณ์คะ อย่าได้หลงกลเชียวคะ
รู้ไว้ จะได้ไม่หลงกล!! สถานเสริมความงานแห่งหนึ่ง (คลินิก Gra..da)
ถามว่าไม่โอเคยังไง มาฟังกันคะ
คลินิกนี้เพิ่งได้มีการเปลี่ยนชื่อไม่นาน เดิม ชื่อขึ้นต้นว่า De Gra.... แล้วเพิ่งได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น Gra..da
เมื่อเดือน ก.พ 60 เราได้มีการสมัครคอร์ดความงามกับทางคลินิกไป ด้วยคำโปรยของพนักงงาน ที่รุมๆตื้อๆเราอยู่ 4-5 คน ซื้อคอร์ดไปมูลค่า 1 แสนบาท
แต่พอเรามาอ่านข้อตกลงในสัญญากับไม่ตรงกับคำพูดที่พนักงงานได้พูดไว้ ซึ่งตรงนั้นเรายอมรับว่าเราพลาด ด้วยความรีบ และพนักงานชวนคุย ชวนดูนี่ตลอดเวลา พนักงานก็ดูร้อนรน เลยไม่ได้เอ๊ะใจอ่านสัญญา และเชื่อในคำพูดของพนักงงาน ก็เลยคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่แล้วข้อตกลงในสัญญาก็คือเรื่องของระยะเวลาการบริการ ในสัญญาระบุว่าภายใน 2 ปี แล้วทางคลินิกมีสิทธิ์ที่จะยกเลิกสัญญาโดยไม่แจ้งล่วงหน้า แต่ที่พนักงงานบอกเราก็คือ ได้ตลอดชีพ เราก็เอาสิ มันไม่ใช่ล่ะ เนื้อหาไม่ตรงกัน อีกทั้งสัญญามันควรจะเป็นอะไรที่ชัดเจน ถูกต้อง เพื่อสิทธิของลูกค้าเอง เพราะถึงเวลาครบกำหนด 2 ปี ทางคลินิกอาจจะยกเลิกสัญญาเราได้
เราเริ่มรู้สึกไม่โอเคแล้ว เลยลองเสิชข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ก็เจอเรื่องราวที่คนมาแชร์ มารีวิวคลินิกนี้มากมาย แต่สิ่งที่พบ คือมีแต่ภาพพจน์ด้านลบ ด้านลบจริงๆคะที่เจอ หลายคนมากมาย ทั้งราคาการบริการที่แพงมากเกินควร แต่กลับไม่ได้ผล เครื่องรักษาที่มีแค่เครื่องเดียว แล้วใช้สับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน ทำให้ไม่สามารถตอบสนองการบริการของลูกค้าได้ ต้องมีการเลื่อนนัดในบ่อยครั้ง และยังมีอื่นๆอีกหลายอย่าง เราก็เอาแล้ว คลินิกนี้มันไม่โอเคจริงๆแล้ว เราไม่ไว่ใจล่ะ ไม่อยากจะไปทำแล้ว ทั้งเราก็ได้ติดต่อไปยังคนที่มารีวิวคลินิก เพื่อสอบถามพูดคุย ทางเค้าก็อยากยกเลิกสัญญา แต่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ซึ่งเค้าปัจจุบันก็ยังใช้บริการอยู่ แต่ใช้ด้วยความเสียดายเงินที่จ่ายไปแล้ว ทั้งๆที่เค้าไม่พอใจในการบริการเลย
เราก็ไม่รอช้า รีบทำสัญญายกเลิกการบริการและขอคืนเงิน และส่งจดหมายแบบตอบรับ ส่งไปยังคลินิกและธนาคาร (ตามกฎหมายการใช้บัตรเครดิต ต้องไม่จำกัดสิทธิผู้บริโภคที่จะยกเลิกสัฐญญสัญญาภายใน 30 วัน ซึ่งเราใช้บัตรเครดิตรูด) ไปในวันรุ่งขึ้น แต่ผลปรากฎว่าทางคลินิกไม่ยอมยกเลิกสัญญาให้ แจ้งให้เราต้องมาใช้บริการ แล้วเค้าไม่คืนเงินให้ ซึ่งเราก็บอกเหตุผลทั้งหมด แต่ทางคลินิกก็ยังไม่มีการดำเนินการอะไรใดๆทั้งสิ้น เราจึงได้ส่งเรื่องฟ้องไปยังมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค และ สคบ. เพราะรู้สึกว่าเริ่มทนไม่ไหวกับการเพิกเฉยของเค้า ซึ่งตอนแรกเราขอคุยกับทางผู้จัดการ แต่ทางเค้าก็พยายามไม่ให้คุย ไม่ให้เข้าถึง ซึ่งเราก็รอทาง สคบ จัดการเรื่องนี้อยู่
อยากจะเรียนถึงคลินิกว่า ถ้าคุณเองเป็นลูกค้า แล้วคุณเจอแบบที่เราเจอ คุณจะยังอยากที่จะใช้บริการกับคลินิกนี้อยู่มั้ย ?? การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จด้วยดี คุณต้องมีทั้งบริการและมาตรฐานที่ดี และที่สำคัญที่สุดในทุกอาชีพ คือ จรรยาบรรณนะคะ!!
นี้คือสิ่งที่เรามาแชร์ คิดว่าใครหลายๆคนในพันทิพนี้คงเคยได้เจอกับตัวมาบ้าง เพราะเราเสิชหากระทู้ในพันทิพนี้ ก็มีคนมาตั้งกระทู้เกี่ยวกับคลินิกนี้เช่นกัน แชร์ไว้เป็นอุทาหรณ์คะ อย่าได้หลงกลเชียวคะ