สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิพย์ พอดีเรามีเรื่องของครอบครัวจะมาปรึกษาค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับทางกฎหมายการหย่าร้าง ขอเล่าเรื่องครอบครัวนิดนึงก่อนนะคะ ครอบครัวเราเป็นครอบครัวใหญ่ที่อยู่รวมกันมีเรา,น้องชาย,คุณอา4คน และคุณย่า เป็นครอบครัวทางคุณพ่อค่ะ เราอยู่กับทางคุณพ่อเพราะท่านทั้ง2แยกทางกัน แต่ปัจจุบันคุณพ่อเสียแล้วค่ะ ในครอบครัวจะมีคุณอาอยู่1ท่านค่ะ เป็นเสาหลักของบ้านในการดูแลค่าใช้จ่าย(เป็นอาผู้หญิง) ขอเรียกว่าอา Tแล้วกันนะคะ เรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องของอาT ปัจจุบันอาTอายุประมาณ57ปี เมื่อ29ปีก่อนท่านแต่งงานกับผู้ชายชาวอังกฤษชื่ออา Jคุณอาทั้ง2รักกันมากค่ะ พบรักกันที่อังกฤษ อาTเป็นเชฟร้านอาหารไทยที่ลอนดอน ส่วนอาJเป็นวิศวะกรที่นั่น อาTและJอยู่กินกัน3ปีแล้วก็เก็บเงินแต่งงานกันที่เมืองไทย พร้อมทั้งจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ท่านทั้ง2ต้องทำงานอยู่ที่อังกฤษหลังแต่งงานจึงได้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมที่นั่น จากนั่นก็ทำงานอยู่อังกฤษราวๆ10กว่าปี อาJก็มีโอกาสได้เปลี่ยนเป็นงานใหม่ที่ได้เงินดีขึ้นจึงขอให้อาT เลิกทำงานแล้วมาเป็นแม่บ้านพร้อมย้ายสำมโนครัวไปอยู่ที่ประเทศสวีเดนแล้วซื้อบ้านหลังใหญ่1หลังไว้ที่นั่น (จริงๆอาTต้องการทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวที่ไทยด้วยเงินของอาเองและมีแพลนจะเปิดร้านอาหารที่เป็นของตัวเองที่ลอนดอนแล้วให้พี่น้องมาช่วยงานกันที่นั่น) อาTยอมยกเลิกแพลนนั้นเพราะอาJบอกว่าเราจะเก็บเงินกันก่อนอีกครั้งเมื่อถึงเวลาเราจะใช้บั้นปลายชีวิตที่ไทยไปตายที่นั่นด้วยกัน อาTก็พลิกชีวิตจากworking woman มาเป็นแม่บ้านเต็มตัวดูแลทุกอย่าง พร้อมทั้งค้นพบตัวตนว่าสามารถวาดภาพด้วยสีน้ำได้ เลยรับจ๊อบพิเศษเล็กๆที่ไม่เร่งรีบบ้างบางครั้งให้ได้มีตังค์นิดๆหน่อยจากความสามารถตัวเอง อา2คนมีความสุขกับชีวิตครอบครัวที่สวีเดนมากค่ะ เพราะในหมู่บ้านที่อาๆอยู่เป็นกลุ่มคนไทยอาศัยอยู่ที่นั่นหลายหลัง บ้านของอาTและอาJใหญ่ที่สุดในหมู่บ้านและเป็นแหล่งรวมเพื่อนบ้านในการทำบุญ ปาร์ตี้ต่างๆ อาTและอาJเป็นที่รักของทุกคน เป็นคู่รักตัวอย่าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวทางไทย, เพื่อนทางลอนดอน, เพื่อนทางสวีเดน จะมองว่าอาทั้ง2เป็นครอบครัวที่อบอุ่นแม้จะไม่มีลูก แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใจกัน พออยู่ไปซักระยะอาJเกิดอุบัติเหตุทำให้ขาหักตั้งแต่เท้าไปจนถึงต้นขา จึงดามเหล็กไว้แล้วพักรักษาอยู่ประมาณ2-3ปี จากนั้นเมื่ออาJเริ่มปกติเดินได้ อาTก็เกิดมีไวรัสในเลือดไม่แน่ใจว่าใช่ไวรัสอะไรแต่มันเป็นโรคติดต่อค่ะ ก็พักรักษาอยู่ใกล้หมอเฝ้าระวังอาการตลอด2-3ปี เพื่อไม่ให้เกิดภาวะช็อก เมื่อคุณหมอคอนเฟิมว่าอาTสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติแล้ว เคราะห์ซ้ำกรรมซัดค่ะ อาJดันมาเป็นโรคหัวใจซะได้ ห้ามตื่นเต้น ห้ามเครียด หลังจากนั้นอาJได้ไปดูงานอยู่ อเมกาบ่อยๆเนื่องจากว่าตอนนี้ตำแหน่งงานอาJเป็นวิศวะกรอาวุโสคือเกษียณอายุงานแล้วแต่สามารถทำต่อได้จนถึง65ปี ปัจจุบัน61ปีเป็นที่ปรึกษาของบริษัทซึ่งการบินไปแต่ละครั้งจะอยู่ยาวครั้งละ3เดือนแล้วกลับสวีเดนอยู่แค่5-6วัน(แกเป็นผู้ชำนาญการวิศวะบริษัททำเครื่องผลิตเคเบิล)ดังนั้นเนี่ยอาTเลยขออาJกลับไปอยู่ดูแลแม่ที่ไทยปีละ6เดือนแล้วอาJจะมาหาที่ไทยช่วงคริสมาสและช่วงสงกรานต์แล้วบินกลับสวีเดนด้วยกันเป็นแบบนี้มาประมาณ3ปีค่ะ แต่เค้าskypeคุยกันทั้งเช้า กลางวัน เย็น สวีทมากๆ จบการเท้าความแค่นี้นะคะ ถ้าอ่านแล้ว งง ต้องขอโทษจริงๆค่ะ ปกติเล่าอะไรไม่ค่อยรู้เรื่อง T-T
ค่ะต่อไปนี้จะขอเข้าประเด็นเลยนะคะ คือช่วงปี59เข้า60อาJมีท่าทีเปลี่ยนไปคือติดต่ออาTน้อยลงโดยไม่ทราบสาเหตุจนหายไป แต่แล้ววันนึงช่วงเดือน กันยายน 59 อาJส่งข้อความมาขอหย่าอาTค่ะ สาเหตุคือช่วง6-7ปีที่ผ่านมาคิดกับอาTแค่พี่น้อง มันไม่เหมือนเดิม แล้วก็ไม่ได้มีอะไรกันเลยตลอดเวลานั้น ต้องขอบอกก่อนนะคะว่า ตอนนี้อาTอายุ58 อาJอายุ61 ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นเป็นช่วงที่อาทั้ง2สลับกันไม่สบายตามที่ได้เล่าไว้ตอนต้น อาJบอกว่ายังมีความต้องการอย่างว่าอยู่ แต่อาTบอกเหตุผลกับครอบครัวว่าตอนนั้นเราต่างก็ไม่สบาย ไม่เคยเห็นเลยว่าอาJจะอยากมีเพศสัมพันธ์ อยู่ๆก็มาให้เหตุผลแบบนี้ อีกอย่างอาJบอกว่าตอนนี้เจอผู้หญิงที่ดีที่รักมากคนนึงอยากจะใช้บั้นปลายชีวิตกับผู้หญิงคนนี้ (แอบทราบมาว่าเธอคนนั้นท้องค่ะ) แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นคนไทย เจอกันกับอาJในช่วงเมษาปี 59 ตอนที่อาJมาเยี่ยมครอบครัวที่ไทย ซึ่งอาJอยู่ไทยเพียงแค่3สัปดาห์ ปกติแล้วอาTก็ให้อิสระให้กับอาJไปเที่ยวไปนั่งดริ๊งค์ตลอด คือ จุดเริ่มต้นของการพบชู้ อาTของเรา ถูกขอหย่า ทุกคนต่างก็เฮริท์ค่ะ ทีนี้ค่ะ อาTเสียโอกาสทางรายได้เพราะไม่ได้ทำงาน แล้วก็ไม่เคยขอ ใช้เท่าที่อาJให้ แล้วข้าวของทุกอย่างอาJก็จับจ่ายให้หมดเลยค่ะแทบไม่ได้ถือเงิน ปัจจุบันนี้อาTก็กลายเป็นคนว่างงานที่สามีจะขอหย่า โดยที่ไม่เสนออะไรให้เลยแต่น่าจะให้ค่ะแต่มันนิดเกินไป เมื่ออาTไม่ยอมหย่า อาJจากผู้ชายที่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ก็เอาเรื่องในครอบครัวไปพูดว่าเมียไม่ยอมไปทำงานเกาะเค้ากินแล้วก็ไม่ได้นอนด้วยกันนานแล้ว มันเป็นเป็นการทำลายกันชัดๆเลย เราเลยอยากให้คุณอาTฟ้องหย่าค่ะไหนๆเค้าก็มาขนาดนี้แล้วบั้นปลายชีวิตที่เคยวาดกันไว้ เศษเสี้ยวชีวิตที่เหลืออยู่ก็อยากให้ได้มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันจริงๆร่วมกับคนรักและครอบครัวมันสูญสิ้นไปหมด มีแค่เงินเก็บเล็กๆน้อยๆแค่พอจุนเจือครอบครัวไป
คำถามมีอยู่ว่า
1.หากฟ้องหย่าอาTจะชนะมั้ยคะ สำหรับเคสนอกใจ(ผช.มีลูกกับคนอื่นด้วย)
2.ผู้หญิงคนนั้นท้องแต่ไม่ใช่ภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายจะเสียสิทธิอะไรบ้าง
3.กรณีถ้าหากว่าอาJ เขียนพินัยกรรมให้ผญ.คนนั้นทั้งหมด อาTจะยังเหลือสิทธิอะไรบ้างมั้ยคะ
4.ต้องมีเอกสารอะไรบ้าง
5.กฎหมายการหย่าร้างไม่แน่ใจว่าใช้กฎหมายเดียวกันทั้งโลกมั้ย เพราะว่าถ้าหย่าก็น่าจะไปหย่ากันที่สวีเดน เพราะซื้อบานไว้ที่นั่น
>>เราอยากให้อาTชนะคดีเพราะว่าคนรอบตัวบางส่วนที่เคยได้รับผลประโยชน์(ไม่ใช่ญาตินะคะ)จากครอบครัวเรา ชอบใส่ไฟแล้วพูดกระแทก-ดันบอกว่า ให้อาTกอดใบสมรสให้แน่นๆนะ และอื่นๆอีก ตอนนี้อาTโดนดูถูกจากเพื่อนกินทั้งหลายว่าเป็นคนตัวเปล่า ตอนเรามีเงินเค้าก็มาทำดีด้วยเราสงสารอาเรามากค่ะเราก็อยากให้อาเราสบายในตอนแก่ค่ะไม่เสียใจกับเวลาที่ทิ้งไป เราคิดว่าอาเรามีสิทธิในส่วนนี้ อาTก็บอกว่าถ้าหากว่าเราตกลงกันไม่ลงตัวคงต้องฟ้องหย่าแต่แกไม่อยากหย่าหรอกค่ะ แต่ต่อให้อาJจะหมดตัวจากการฟ้องหย่าหรืออะไรก็ตาม อาTก็พร้อมจะดูแลจนหมดลมหายใจค่ะเพราะผู้หญิงคนนั้นบอกว่าตัวเองเป็นสาวบริสุทธิ์ไม่เคยแต่งงาน อายุ34-35ปี ไม่มีพันธะ ไม่คิดจะหลอกอาJ แต่เราก็รู้สึกว่ามันแปลกๆอ่ะค่ะ สิ่งที่อยากให้เป็นคือเราไม่อยากให้ช่วงเวลาที่อาทั้ง2ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาต้องตกเป็นของคนอื่นที่เจอกันเพียงชั่วข้ามคืนค่ะ เรามั่นใจว่าอาJกับสาวคนนั้นพบกันไม่เกิน5ครั้ง เพราะอาJตอนอยู่ไทยก็อยู่กับอาTบ้านตลอด จะออกแค่บางคืน เมื่ออาJกลับไปทำงานต่อที่เมกา เขา2คนน่าจะติดต่อกันผ่าน skype จนถึงเดือนกันยาที่อาTถูกขอหย่า เราว่ามันน่าจะไม่เพียงพอต่อการจะมีความรักครั้งใหม่ โดยสามารถทิ้งคนที่นอนข้างๆเกือบ30ปีไปโดยไม่รู้สึกอะไร
ปล.เราอาจจะเล่าเหตุการ์ณไม่ดียืดเยื้อแต่เรื่องราวมันเยอะมาก ประเด็นหลักจริงๆก็อยากได้รับคำแนะนำจากผู้รู้ว่าควรให้กำลังใจแบบไหน ทำอย่างไรกับเรื่องฟ้องหย่า อยากให้เห็นใจค่ะ เราไม่มีความรู้อะไรเกี่ยสกับเรื่องแบบนี้แล้วก็ไม่รู้จะเริ่มต้นแบบไหน คุณอาของเราดูอ่อนแอแล้วก็ยังหาหลักให้กับตัวเองยังไม่ถูกเลยเขวมากๆ ถ้าเราสามารถซับพอตแกได้มากกว่านี้คงจะดี
โดนสามีขอหย่า..ชีวิตคู่เกือบ30ปีกำลังจะจบเพราะมีมือที่3
ค่ะต่อไปนี้จะขอเข้าประเด็นเลยนะคะ คือช่วงปี59เข้า60อาJมีท่าทีเปลี่ยนไปคือติดต่ออาTน้อยลงโดยไม่ทราบสาเหตุจนหายไป แต่แล้ววันนึงช่วงเดือน กันยายน 59 อาJส่งข้อความมาขอหย่าอาTค่ะ สาเหตุคือช่วง6-7ปีที่ผ่านมาคิดกับอาTแค่พี่น้อง มันไม่เหมือนเดิม แล้วก็ไม่ได้มีอะไรกันเลยตลอดเวลานั้น ต้องขอบอกก่อนนะคะว่า ตอนนี้อาTอายุ58 อาJอายุ61 ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นเป็นช่วงที่อาทั้ง2สลับกันไม่สบายตามที่ได้เล่าไว้ตอนต้น อาJบอกว่ายังมีความต้องการอย่างว่าอยู่ แต่อาTบอกเหตุผลกับครอบครัวว่าตอนนั้นเราต่างก็ไม่สบาย ไม่เคยเห็นเลยว่าอาJจะอยากมีเพศสัมพันธ์ อยู่ๆก็มาให้เหตุผลแบบนี้ อีกอย่างอาJบอกว่าตอนนี้เจอผู้หญิงที่ดีที่รักมากคนนึงอยากจะใช้บั้นปลายชีวิตกับผู้หญิงคนนี้ (แอบทราบมาว่าเธอคนนั้นท้องค่ะ) แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นคนไทย เจอกันกับอาJในช่วงเมษาปี 59 ตอนที่อาJมาเยี่ยมครอบครัวที่ไทย ซึ่งอาJอยู่ไทยเพียงแค่3สัปดาห์ ปกติแล้วอาTก็ให้อิสระให้กับอาJไปเที่ยวไปนั่งดริ๊งค์ตลอด คือ จุดเริ่มต้นของการพบชู้ อาTของเรา ถูกขอหย่า ทุกคนต่างก็เฮริท์ค่ะ ทีนี้ค่ะ อาTเสียโอกาสทางรายได้เพราะไม่ได้ทำงาน แล้วก็ไม่เคยขอ ใช้เท่าที่อาJให้ แล้วข้าวของทุกอย่างอาJก็จับจ่ายให้หมดเลยค่ะแทบไม่ได้ถือเงิน ปัจจุบันนี้อาTก็กลายเป็นคนว่างงานที่สามีจะขอหย่า โดยที่ไม่เสนออะไรให้เลยแต่น่าจะให้ค่ะแต่มันนิดเกินไป เมื่ออาTไม่ยอมหย่า อาJจากผู้ชายที่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ก็เอาเรื่องในครอบครัวไปพูดว่าเมียไม่ยอมไปทำงานเกาะเค้ากินแล้วก็ไม่ได้นอนด้วยกันนานแล้ว มันเป็นเป็นการทำลายกันชัดๆเลย เราเลยอยากให้คุณอาTฟ้องหย่าค่ะไหนๆเค้าก็มาขนาดนี้แล้วบั้นปลายชีวิตที่เคยวาดกันไว้ เศษเสี้ยวชีวิตที่เหลืออยู่ก็อยากให้ได้มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันจริงๆร่วมกับคนรักและครอบครัวมันสูญสิ้นไปหมด มีแค่เงินเก็บเล็กๆน้อยๆแค่พอจุนเจือครอบครัวไป
คำถามมีอยู่ว่า
1.หากฟ้องหย่าอาTจะชนะมั้ยคะ สำหรับเคสนอกใจ(ผช.มีลูกกับคนอื่นด้วย)
2.ผู้หญิงคนนั้นท้องแต่ไม่ใช่ภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายจะเสียสิทธิอะไรบ้าง
3.กรณีถ้าหากว่าอาJ เขียนพินัยกรรมให้ผญ.คนนั้นทั้งหมด อาTจะยังเหลือสิทธิอะไรบ้างมั้ยคะ
4.ต้องมีเอกสารอะไรบ้าง
5.กฎหมายการหย่าร้างไม่แน่ใจว่าใช้กฎหมายเดียวกันทั้งโลกมั้ย เพราะว่าถ้าหย่าก็น่าจะไปหย่ากันที่สวีเดน เพราะซื้อบานไว้ที่นั่น
>>เราอยากให้อาTชนะคดีเพราะว่าคนรอบตัวบางส่วนที่เคยได้รับผลประโยชน์(ไม่ใช่ญาตินะคะ)จากครอบครัวเรา ชอบใส่ไฟแล้วพูดกระแทก-ดันบอกว่า ให้อาTกอดใบสมรสให้แน่นๆนะ และอื่นๆอีก ตอนนี้อาTโดนดูถูกจากเพื่อนกินทั้งหลายว่าเป็นคนตัวเปล่า ตอนเรามีเงินเค้าก็มาทำดีด้วยเราสงสารอาเรามากค่ะเราก็อยากให้อาเราสบายในตอนแก่ค่ะไม่เสียใจกับเวลาที่ทิ้งไป เราคิดว่าอาเรามีสิทธิในส่วนนี้ อาTก็บอกว่าถ้าหากว่าเราตกลงกันไม่ลงตัวคงต้องฟ้องหย่าแต่แกไม่อยากหย่าหรอกค่ะ แต่ต่อให้อาJจะหมดตัวจากการฟ้องหย่าหรืออะไรก็ตาม อาTก็พร้อมจะดูแลจนหมดลมหายใจค่ะเพราะผู้หญิงคนนั้นบอกว่าตัวเองเป็นสาวบริสุทธิ์ไม่เคยแต่งงาน อายุ34-35ปี ไม่มีพันธะ ไม่คิดจะหลอกอาJ แต่เราก็รู้สึกว่ามันแปลกๆอ่ะค่ะ สิ่งที่อยากให้เป็นคือเราไม่อยากให้ช่วงเวลาที่อาทั้ง2ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาต้องตกเป็นของคนอื่นที่เจอกันเพียงชั่วข้ามคืนค่ะ เรามั่นใจว่าอาJกับสาวคนนั้นพบกันไม่เกิน5ครั้ง เพราะอาJตอนอยู่ไทยก็อยู่กับอาTบ้านตลอด จะออกแค่บางคืน เมื่ออาJกลับไปทำงานต่อที่เมกา เขา2คนน่าจะติดต่อกันผ่าน skype จนถึงเดือนกันยาที่อาTถูกขอหย่า เราว่ามันน่าจะไม่เพียงพอต่อการจะมีความรักครั้งใหม่ โดยสามารถทิ้งคนที่นอนข้างๆเกือบ30ปีไปโดยไม่รู้สึกอะไร
ปล.เราอาจจะเล่าเหตุการ์ณไม่ดียืดเยื้อแต่เรื่องราวมันเยอะมาก ประเด็นหลักจริงๆก็อยากได้รับคำแนะนำจากผู้รู้ว่าควรให้กำลังใจแบบไหน ทำอย่างไรกับเรื่องฟ้องหย่า อยากให้เห็นใจค่ะ เราไม่มีความรู้อะไรเกี่ยสกับเรื่องแบบนี้แล้วก็ไม่รู้จะเริ่มต้นแบบไหน คุณอาของเราดูอ่อนแอแล้วก็ยังหาหลักให้กับตัวเองยังไม่ถูกเลยเขวมากๆ ถ้าเราสามารถซับพอตแกได้มากกว่านี้คงจะดี