เกริ่นก่อน เริ่มเรื่องนะคะ ลูกเรา ตอนได้ 1 เดือน เค้า ร้อง โคลิคค่ะ เวลาตรงเป๊ะ ๆ คือ พอ 5 โมงเย็นปั๊บ ร้องไห้ ปุ๊บ ร้องแบบ กรีดร้อง เสียงดัง ยาวนาน ทำยังไงก็ไม่นิ่ง ไม่หยุด ไม่เงียบ ให้กินนมก็ไม่กิน พาเที่ยวก็ไม่เอา แต่พอ 2 ทุ่ม ปั๊บ หยุดปุ๊บ เหมือนปิดสวิทช์ เป็นแบบนี้ทุกวัน ร้องอยู่ประมาณ 1 เดือน ก็หาย ค่ะ แต่ขอบอกว่า ช่วงเวลานั้น เราเครียดมาก คนในบ้านทุกคนก็เครียด หนึ่งคือ สงสารลูก กลัวลูกจะเป็นอันตรายอะไรหรือเปล่า สองคืน สุขภาพจิตของคนในบ้านที่เป็นห่วงหลานค่ะ แต่พอผ่านจุดนั้นมาได้ ก็ไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นค่ะ
ถัดมา ตอนนั้นลูกเราอายุ น่าจะได้ประมาณ เกือบ 3 ขวบ คุณตาทวดก็เสียค่ะ เราไปงานศพทุกวัน ที่งานจะมีหรีดของแขก มาวางไว้หลายๆ อันค่ะ มีทั้ง หรีดดอกไม้ หรีดผ้าห่ม หรีดพัดลม และมีอยู่อันหนึ่ง เป็นหรีดนาฬิกาแขวนผนัง อันนี้มีอันเดียว เราก็เลยจำได้แม่น
พองานศพ เสร็จสิ้น ก็เข้าสู่โหมดปกติ วันแรกที่เสร็จงาน พอเรากลับจากที่ทำงาน ก็จะจัดการธุระส่วนตัวของตัวเอง และ โดยปกติ ลูกเรา เค้าจะอยู่กับ อาสาวของเค้า หรือไม่ก็ อยู่กับย่า ในห้องของแต่ละคน จนกว่าเค้าจะง่วงสุดๆ หรือไม่ก็หลับไปเลย เราถึงจะไปรับกลับมานอนที่ห้องตัวเอง ค่ำนั้น ลูกเราหลับอยู่ที่ห้องของอาเค้า อาอีกคนเลยมาเรียกให้ไปอุ้มกลับห้อง เราก็ไปอุ้มกลับมา พอวางลงที่นอนประจำของเค้า เค้าลืมตาโพลง พร้อมร้องเสียงดังลั่นห้อง ปากก็พูดออกมาไม่หยุดเลย ว่า แม่คับ หนูกลัวผีคับ แม่ไม่เห็นเหรอ ผีเต็มห้องไปหมดเลย พร้อมกับชี้ไปที่นาฬิกาเรือนใหม่ บนผนังห้องนอน ที่เราก็เพิ่งจะสังเกตเห็นเหมือนกัน เราจำได้แม่นมาก ว่ามันเป็นเรือนเดียวกับที่อยู่ในหรีดงานศพของตาทวด ลูกเราก็ร้องไห้ไม่หยุด ทั้งเอามือปิดตา เอามือปัดไปมากลางอากาศ ปากก็ร้อง กลัวผี กลัวผี ให้เอานาฬิกาออกไป เราตกใจมาก รีบอุ้มลูกออกมาจากห้อง ระหว่างนั้น อา ปู่ ย่า และ พ่อ ก็เดินมาหาเพราะได้ยินเสียงร้อง เราก็เลยถามว่า ใครเอานาฬิกาเรือนนั้น เข้ามาในห้อง สามีเราเองค่ะ เค้าเอามา แกะมาเองเลย ไม่ได้คิดอะไร เราเลยขอให้ย่าช่วยจุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทางให้ พร้อมกับบอกสามีให้เอานาฬิกาเรือนนั้นออกไปจากห้อง ให้ย่าเค้าเอาไปไว้ที่วัดเหมือนเดิม พอเอานาฬิกาเรือนนั้นออกไป และ ไหว้เจ้าที่เจ้าทางเรียบร้อยแล้ว เราก็พาลูกเข้าห้องอีกรอบ คราวนี้ แกก็นอนหลับปุ๋ย เป็นปกติ เลยค่ะ
สามีเราเค้าไม่เชื่อค่ะ เราบอกว่า เด็กตัวแค่นี้ คิดว่าเด็กจะ โกหกเป็นเหรอ เค้าไม่เคยเห็นนาฬิกาเรือนนั้นด้วยซ้ำ เพราะเราไม่เคยพาลูกไปงานศพเลย แต่กลับชี้ไปที่นาฬิกา แล้วบอกให้เอาออกไป คืออะไร แล้วถามเค้าว่า เอาเข้าบ้านมานี่ ขอพระมาเหรอ เค้าบอกเปล่า เค้าแกะเองเลย เห็นว่าในห้องยังไม่มีนาฬิกา เราก็แบบ เออ นะ พูดไม่ออก
ส่วนตัวเราก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงนะ แต่ตอนนั้น ยอมรับว่ากลัวมาก ขนลุกอ่ะ ทำอะไรไม่ถูก คิดอะไรไม่ออก ก็ได้แต่จุดธูปบอกเจ้าที่ เจ้าทาง ที่ศาลที่บ้านเราเอง แล้วเหตุการณ์ก็กลับสู่ภาวะปกติ
ทุกคน คิดเหมือนเรามั้ย เราคิดว่า หรีดนั่น เค้าเอามาให้คนที่เสียชีวิต เมื่อเสร็จงานก็ต้องให้กับวัดไว้ใช้ทำประโยชน์ แต่ถ้าทางวัดเค้าจะให้เรากลับคืนมา อันนั้นก็น่าจะไม่เป็นไร แต่นี่ ดัน หยิบกลับมาเองเลย เค้าเลยมาทวงคืน หรือเปล่า ?
เด็ก...เห็นผี
ถัดมา ตอนนั้นลูกเราอายุ น่าจะได้ประมาณ เกือบ 3 ขวบ คุณตาทวดก็เสียค่ะ เราไปงานศพทุกวัน ที่งานจะมีหรีดของแขก มาวางไว้หลายๆ อันค่ะ มีทั้ง หรีดดอกไม้ หรีดผ้าห่ม หรีดพัดลม และมีอยู่อันหนึ่ง เป็นหรีดนาฬิกาแขวนผนัง อันนี้มีอันเดียว เราก็เลยจำได้แม่น
พองานศพ เสร็จสิ้น ก็เข้าสู่โหมดปกติ วันแรกที่เสร็จงาน พอเรากลับจากที่ทำงาน ก็จะจัดการธุระส่วนตัวของตัวเอง และ โดยปกติ ลูกเรา เค้าจะอยู่กับ อาสาวของเค้า หรือไม่ก็ อยู่กับย่า ในห้องของแต่ละคน จนกว่าเค้าจะง่วงสุดๆ หรือไม่ก็หลับไปเลย เราถึงจะไปรับกลับมานอนที่ห้องตัวเอง ค่ำนั้น ลูกเราหลับอยู่ที่ห้องของอาเค้า อาอีกคนเลยมาเรียกให้ไปอุ้มกลับห้อง เราก็ไปอุ้มกลับมา พอวางลงที่นอนประจำของเค้า เค้าลืมตาโพลง พร้อมร้องเสียงดังลั่นห้อง ปากก็พูดออกมาไม่หยุดเลย ว่า แม่คับ หนูกลัวผีคับ แม่ไม่เห็นเหรอ ผีเต็มห้องไปหมดเลย พร้อมกับชี้ไปที่นาฬิกาเรือนใหม่ บนผนังห้องนอน ที่เราก็เพิ่งจะสังเกตเห็นเหมือนกัน เราจำได้แม่นมาก ว่ามันเป็นเรือนเดียวกับที่อยู่ในหรีดงานศพของตาทวด ลูกเราก็ร้องไห้ไม่หยุด ทั้งเอามือปิดตา เอามือปัดไปมากลางอากาศ ปากก็ร้อง กลัวผี กลัวผี ให้เอานาฬิกาออกไป เราตกใจมาก รีบอุ้มลูกออกมาจากห้อง ระหว่างนั้น อา ปู่ ย่า และ พ่อ ก็เดินมาหาเพราะได้ยินเสียงร้อง เราก็เลยถามว่า ใครเอานาฬิกาเรือนนั้น เข้ามาในห้อง สามีเราเองค่ะ เค้าเอามา แกะมาเองเลย ไม่ได้คิดอะไร เราเลยขอให้ย่าช่วยจุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทางให้ พร้อมกับบอกสามีให้เอานาฬิกาเรือนนั้นออกไปจากห้อง ให้ย่าเค้าเอาไปไว้ที่วัดเหมือนเดิม พอเอานาฬิกาเรือนนั้นออกไป และ ไหว้เจ้าที่เจ้าทางเรียบร้อยแล้ว เราก็พาลูกเข้าห้องอีกรอบ คราวนี้ แกก็นอนหลับปุ๋ย เป็นปกติ เลยค่ะ
สามีเราเค้าไม่เชื่อค่ะ เราบอกว่า เด็กตัวแค่นี้ คิดว่าเด็กจะ โกหกเป็นเหรอ เค้าไม่เคยเห็นนาฬิกาเรือนนั้นด้วยซ้ำ เพราะเราไม่เคยพาลูกไปงานศพเลย แต่กลับชี้ไปที่นาฬิกา แล้วบอกให้เอาออกไป คืออะไร แล้วถามเค้าว่า เอาเข้าบ้านมานี่ ขอพระมาเหรอ เค้าบอกเปล่า เค้าแกะเองเลย เห็นว่าในห้องยังไม่มีนาฬิกา เราก็แบบ เออ นะ พูดไม่ออก
ส่วนตัวเราก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงนะ แต่ตอนนั้น ยอมรับว่ากลัวมาก ขนลุกอ่ะ ทำอะไรไม่ถูก คิดอะไรไม่ออก ก็ได้แต่จุดธูปบอกเจ้าที่ เจ้าทาง ที่ศาลที่บ้านเราเอง แล้วเหตุการณ์ก็กลับสู่ภาวะปกติ
ทุกคน คิดเหมือนเรามั้ย เราคิดว่า หรีดนั่น เค้าเอามาให้คนที่เสียชีวิต เมื่อเสร็จงานก็ต้องให้กับวัดไว้ใช้ทำประโยชน์ แต่ถ้าทางวัดเค้าจะให้เรากลับคืนมา อันนั้นก็น่าจะไม่เป็นไร แต่นี่ ดัน หยิบกลับมาเองเลย เค้าเลยมาทวงคืน หรือเปล่า ?