สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนว่า ตัวจขกท.กำลังจะขึ้น ม.4 หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ
เนื่องจากเร็วๆนี้ เพิ่งสอบเข้าม.4 สายศิลป์ ได้ที่รร.มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งย่านพญาไท ด้วยความพยายามของตัวเองอย่างมากเพราะไม่มีต้นทุนมากเท่านร.ที่เรียนพิเศษกันทุกวันในกรุงเทพ เมื่อสอบติดก็ภาคภูมิใจมาก ครอบครัวก็ดีใจ เพื่อนๆก็มาร่วมแสดงความยินดี และบอกว่า จะรอดูคนใหญ่คนโต
ตอนแรกนั้นไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้ใส่ใจ แต่เมื่อเริ่มมาพบกับคนอื่นๆที่เข้ารร.นี้มาเหมือนกัน เริ่มพบเจอสังคมการแข่งขันแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน ก็เริ่มรู้สึกกดดัน เริ่มรู้สึกว่า เรามีพื้นฐานไม่เท่าเขา เราต้องพยายามอย่างหนักยิ่งกว่าตอนสอบเข้าหลายเท่า
ลำพังให้ตั้งใจเรียนมากๆ ตัวจขกท.นั้นไม่เกี่ยงอยู่แล้ว เพราะเป็นหน้าที่ที่ควรทำ แต่เมื่อเริ่มบอกคนรอบข้าง ญาติหรือเพื่อนที่ทำงานของคุณพ่อไปว่าสอบเข้ารร.นี้ได้ ก็พบกับสายตาดูถูก คำพูดประมาณว่า เรียนรร.นี้ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จไปทุกคนหรอก
ตัวจขกท.ไม่อยากให้ใครดูถูกคุณพ่อ จึงอยากประสบความสำเร็จเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้คนเหล่านั้นเห็น
แต่อะไรคือสิ่งที่เรียกว่า ประสบความสำเร็จ
ถ้าเป็นค่านิยมของคนสมัยนี้ คงจะเป็นหน้าที่การงานที่มั่นคง มีหน้ามีตาในสังคม ที่สำคัญ ต้องรวย
ตัวจขกท.มีความชอบในอาชีพหนึ่งซึ่งไม่ใช่อาชีพที่ใกล้เคียงกับค่านิยมเหล่านั้น
แต่ถ้าหากต้องการประสบความสำเร็จ ก็ต้องดิ้นรนต่อสู้ กับทั้งเพื่อนรร.เดียวกัน และคนในสังคม เพื่อขึ้นมายืนอยู่ระดับแนวหน้าของสังคมนี้
หากเป็นอย่างนั้นจริงๆ จขกท.ก็ยังไม่เห็นทางที่จะบรรลุไปถึงจุดนั้นได้
คุณพ่อบอกว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นคนใหญ่คนโตก็ได้ เป็นคนธรรมดาที่มีกินมีใช้ไม่ลำบาก สามารถเลี้ยงน้องได้ (น้องจขกท.เป็นออทิสติก) ก็เพียงพอแล้ว
แต่เมื่อมองย้อนกลับไปดู เพื่อนที่ตั้งความหวังไว้ ว่าเราเข้ารร.นี่ได้ ต้องเป็นคนใหญ่คนโต
เพื่อนที่ทำงานพ่อ ที่คอยดูถูกอยู่เสมอ ว่าอย่างจขกท.คงไปไม่ได้ไกล
เพื่อนในรุ่นเดียวกัน ซึ่งคงจบออกไป เป็นคนใหญ่คนโต เพราะต้นทุนที่ดีมาตั้งแต่ต้น และจขกท.คงได้แต่แหงนมองเขา ถ้าไม่สามารถไปยืนจุดนั้นได้เหมือนเขา
และครอบครัว ที่ต้องทนรับคำดูถูกต่อไป หากจขกท.จบออกมา เป็นคนธรรมดาคนนึง
ก็จะมีคำพูดที่ว่า "จบออกมาจากรร.นี้ ได้แค่นี้เองเหรอ"
แม้จะบอกกับตัวเองว่าอย่าคิดมาก แต่ก็อดคิดไม่ได้เมื่ออยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันแบบนี้
เพราะความรู้สึกแบบนี้ ทำให้จขกท.รู้สึกท้อใจ ตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น ด้วยความคิดที่ว่า ต้องตั้งใจเรียนมากเท่าไรจึงจะประสบความสำเร็จ และความสำเร็จ มีแค่หนทางเดียวเท่านั้นหรือ
อยากถามว่า ทำอย่างไร ถึงจะมีความสุข และเลิกคิดมาก
พอจะมีทางอย่างไรบ้าง ที่จะคิดให้ตัวเองมีความสุขขึ้นมา และพร้อมใช้ชีวิตต่อ บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยการแข่งขันต่อจากนี้
เราควรใช้ชีวิตตามระบบที่สังคมขีดไว้จริงหรือ?
ดิ้นรนจนสอบเข้ารร.ดังได้ ทำไมไม่มีความสุข
เนื่องจากเร็วๆนี้ เพิ่งสอบเข้าม.4 สายศิลป์ ได้ที่รร.มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งย่านพญาไท ด้วยความพยายามของตัวเองอย่างมากเพราะไม่มีต้นทุนมากเท่านร.ที่เรียนพิเศษกันทุกวันในกรุงเทพ เมื่อสอบติดก็ภาคภูมิใจมาก ครอบครัวก็ดีใจ เพื่อนๆก็มาร่วมแสดงความยินดี และบอกว่า จะรอดูคนใหญ่คนโต
ตอนแรกนั้นไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้ใส่ใจ แต่เมื่อเริ่มมาพบกับคนอื่นๆที่เข้ารร.นี้มาเหมือนกัน เริ่มพบเจอสังคมการแข่งขันแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน ก็เริ่มรู้สึกกดดัน เริ่มรู้สึกว่า เรามีพื้นฐานไม่เท่าเขา เราต้องพยายามอย่างหนักยิ่งกว่าตอนสอบเข้าหลายเท่า
ลำพังให้ตั้งใจเรียนมากๆ ตัวจขกท.นั้นไม่เกี่ยงอยู่แล้ว เพราะเป็นหน้าที่ที่ควรทำ แต่เมื่อเริ่มบอกคนรอบข้าง ญาติหรือเพื่อนที่ทำงานของคุณพ่อไปว่าสอบเข้ารร.นี้ได้ ก็พบกับสายตาดูถูก คำพูดประมาณว่า เรียนรร.นี้ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จไปทุกคนหรอก
ตัวจขกท.ไม่อยากให้ใครดูถูกคุณพ่อ จึงอยากประสบความสำเร็จเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้คนเหล่านั้นเห็น
แต่อะไรคือสิ่งที่เรียกว่า ประสบความสำเร็จ
ถ้าเป็นค่านิยมของคนสมัยนี้ คงจะเป็นหน้าที่การงานที่มั่นคง มีหน้ามีตาในสังคม ที่สำคัญ ต้องรวย
ตัวจขกท.มีความชอบในอาชีพหนึ่งซึ่งไม่ใช่อาชีพที่ใกล้เคียงกับค่านิยมเหล่านั้น
แต่ถ้าหากต้องการประสบความสำเร็จ ก็ต้องดิ้นรนต่อสู้ กับทั้งเพื่อนรร.เดียวกัน และคนในสังคม เพื่อขึ้นมายืนอยู่ระดับแนวหน้าของสังคมนี้
หากเป็นอย่างนั้นจริงๆ จขกท.ก็ยังไม่เห็นทางที่จะบรรลุไปถึงจุดนั้นได้
คุณพ่อบอกว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นคนใหญ่คนโตก็ได้ เป็นคนธรรมดาที่มีกินมีใช้ไม่ลำบาก สามารถเลี้ยงน้องได้ (น้องจขกท.เป็นออทิสติก) ก็เพียงพอแล้ว
แต่เมื่อมองย้อนกลับไปดู เพื่อนที่ตั้งความหวังไว้ ว่าเราเข้ารร.นี่ได้ ต้องเป็นคนใหญ่คนโต
เพื่อนที่ทำงานพ่อ ที่คอยดูถูกอยู่เสมอ ว่าอย่างจขกท.คงไปไม่ได้ไกล
เพื่อนในรุ่นเดียวกัน ซึ่งคงจบออกไป เป็นคนใหญ่คนโต เพราะต้นทุนที่ดีมาตั้งแต่ต้น และจขกท.คงได้แต่แหงนมองเขา ถ้าไม่สามารถไปยืนจุดนั้นได้เหมือนเขา
และครอบครัว ที่ต้องทนรับคำดูถูกต่อไป หากจขกท.จบออกมา เป็นคนธรรมดาคนนึง
ก็จะมีคำพูดที่ว่า "จบออกมาจากรร.นี้ ได้แค่นี้เองเหรอ"
แม้จะบอกกับตัวเองว่าอย่าคิดมาก แต่ก็อดคิดไม่ได้เมื่ออยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันแบบนี้
เพราะความรู้สึกแบบนี้ ทำให้จขกท.รู้สึกท้อใจ ตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น ด้วยความคิดที่ว่า ต้องตั้งใจเรียนมากเท่าไรจึงจะประสบความสำเร็จ และความสำเร็จ มีแค่หนทางเดียวเท่านั้นหรือ
อยากถามว่า ทำอย่างไร ถึงจะมีความสุข และเลิกคิดมาก
พอจะมีทางอย่างไรบ้าง ที่จะคิดให้ตัวเองมีความสุขขึ้นมา และพร้อมใช้ชีวิตต่อ บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยการแข่งขันต่อจากนี้
เราควรใช้ชีวิตตามระบบที่สังคมขีดไว้จริงหรือ?