สำหรับผลิตโชค เราทันตั้งแต่ยุคดิสนีย์ ร้องตามได้ทุกเพลงที่ดังในสมัยนั้น
คิดว่าไทม์ไลน์การรู้จักเขาคงไม่ต่างจากคนอื่นที่โตในยุคเดียวกัน
ส่วนการมาเป็นแฟนคลับก็คงเริ่มต้นเหมือนคนส่วนใหญ่ จำเสียงได้แต่แรกแล้วตามสืบ
สุดท้ายก็ไปไหนไม่รอดด้วยไลฟ์ขนอมในตำนาน ไม่มีเฟสบุคก็ไปสมัคร ทวิตเตอร์ที่ทิ้งร้างก็กลับมาเล่น
เอาเป็นว่ากลายเป็น FC 3 APP พอๆกับศิลปิน
เมื่อค้นหาตัวตนของเขาอย่างจริงจัง ยิ่งค้นก็ยิ่งพบว่าเขาน่ารักมาก
เฝ้าถามตัวเองว่าทำม้าย..ทำไม ถึงมาตกหลุมรักเขาเอาวันนี้ วันที่เขากำลังจะทิ้งความฝันไปแล้ว
ได้ยินเขาตัดพ้อทีไรน้ำตาก็พาลจะไหล แทบอยากจะคลานเข่าเข้าไปขอโทษ ผิดไปแล้วๆ (งานธูปเทียนแพก็มา)
มากกว่าหน้าตาหล่อๆ เสียงเพราะๆที่เราได้เห็นและสัมผัส(ผ่านหน้าจอ)
มากกว่าการเอ็นเตอร์เทน เอาใจใส่แฟนๆ คอยมาหยอด มาอ้อน ทั้ง 3 แอป
สิ่งที่ได้มามากกว่านั้นคือความคิดบวก ทัศคติที่ดีในการใช้ชีวิต
สิ่งเหล่านี้ที่เรามองเห็น เราขอเรียกว่า 'ผลิตแลนด์ดินแดนมหัศจรรย์'
เขาไม่เคยว่าร้ายคนอื่น อย่างในแอปต่างๆเขาไม่เคยเขียนพาดพิงเรื่องไม่ดีถึงบุคคลอื่น มีแต่คำชื่นชม แคปชั่นน่ารักๆ
แม้บางครั้งเราสัมผัสได้ว่าเวลาที่ท้อใจ เศร้าใจเขาก็มีเหมือนคนอื่นๆ
แต่เขายังสามารถสร้างทุ่งดอกลาเวนเดอร์ในโลกของเขาได้
การให้เกียรติคนอื่นเสมอตนเอง ทุกๆคนที่เขาพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นลุง ป้า น้า อา ชาวบ้าน พ่อค้า แม่ค้า
เขาก็สามารถทำตัวสนิทสนมเป็นกันเอง หรือแม้แต่เพื่อนๆที่สุรินทร์ที่ลุคเซอร์ๆ หลายคนอาจคิดว่าน่ากลัว
แต่สำหรับเขาไม่ใช่เลย จึงไม่แปลกใจที่เพื่อนๆในวงการมักจะเอ่ยปากชมว่าเขาเป็นคนน่ารักมากๆ
เขาให้โอกาสและผลักดันคนอื่นๆเมื่อมีโอกาส มีคลิปหนึ่งที่เล่าเกี่ยวกับเส้นทางเป็นนักร้อง
หลังจากที่เขาพยายามมา 6 ปี จนเซ็นสัญญาได้สำเร็จ เขาก็เลือกที่จะผลักดันเพื่อนคือพี่เป๊ก เปรมนัส
ให้ได้มีโอกาสเป็นนักร้องด้วย อย่างล่าสุดคือพี่เบียร์ จากที่เป็นมือกลองก็ได้ผันตัวมาเป็นคอรัส
แถมคนอื่นๆในวงเขาก็พยายามให้มีซีนด้วยกันตลอด ทำให้การแสดงดูสนุกขึ้นไปอีก
เป็นคนรู้กาละเทศะ อย่างที่เล่นตามงานต่างๆจะเห็นได้ว่างานกลางวันกับกลางคืนจะแตกต่างกันมาก
งานกลางวันแต่งตัวเรียบร้อยเป็นแมวน้อยขี้อ้อน ส่วนงานกลางคืนก็กลายร่างเป็นพ่อเสือหนุ่มสุดเท่
เป็นคนมีสัมมาคาระวะ อ่อนน้อม ใส่ใจคนรอบข้างเสมอๆ
มีจิตวิทยาในการแก้ปัญหา(สังเกตจากการคว่ำชามมาม่าแฟนคลับ)
คำว่าขอบคุณ ขอโทษ เป็นคำพูดติดปากที่จะได้ยินตลอด
และอื่นๆอีกเยอะมากๆ เขาก็คงมีข้อเสีย แต่คิดว่าด้านดีๆเขามีมากกว่า มากจนมันสามารถกลบข้อเสียเขาได้เลย
หรือเราอาจจะกำลังตาบอด เพราะตอนนี้มองไม่เห็นอะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับเขาเลย
จักษุแพทย์ก็จนปัญญากับอาการนี้ คงต้องพึ่งจิตเวชเท่านั้น
การเป็นแฟนคลับให้ได้อะไรดีๆกลับมานอกเหนือจากการตามเป็นกำลังใจให้ศิลปิน คือการที่เรามองทะลุถึงความดี
และนำความดีเหล่านั้นมาใช้ เราเองก็จะกลายเป็นคนดี คนน่ารักไม่ต่างจากศิลปินของเรา
.................................................................................................................................................................
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเราพึงระลึกเสมอว่า เราต้องแฟนคลับ ไม่ใช่แฟนขับ(ไล่) ต้องเป็นหน้าเป็นตาให้ศิลปิน
ไม่ใช่ให้คนรอบข้างเขาอึดอัด เป็นแฟนคลับที่รู้จุดของตัวเอง รู้จักที่จะให้เกียรติบุคคลที่เขาร่วมงานกับศิลปินของเรา
รักและชื่นชมได้อย่างพอประมาณ อย่าให้เกินเลยจนถึงคำว่าล้ำเส้นและไม่ให้เกียรติคนอื่น มีที่ว่างให้กับคำว่าเรื่องส่วนตัว
ในทุกๆคำว่าเรื่องส่วนตัวจะไม่เข้าไปก้าวก่าย เราเสพผลงานเขาเรื่องยิบย่อยหยุมหยิมเหล่านั้นปล่อยผ่านค่ะ
ไม่เคยคิดห้ามในเรื่องต่างๆที่เขาเคยเป็นมาก่อน เพราะเขาคือผู้ชายอายุ 32 (ที่หน้าเด็ก) เขาผ่านเรื่องราวในชีวิตมามากกว่าเรา
เขารู้ตัวเองว่าลิมิตของเขาคือตรงไหน คนรอบๆตัวเขาก็ดูแลดีมากๆ คิดว่าหายห่วง
เราเป็นแฟนคลับอยู่หน้าจอซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เจอตัวจริงไหม และจากที่ดูตารางงาน
ไม่มีแววจะเฉียดมาถึงจังหวัดที่เราอยู่สักนิด ยิ่งเป็นงานในร้านเหล้ายิ่งแล้วใหญ่ ไปสายนั้นไม่ไหว
แต่ไม่เป็นไรรอสนับสนุนผลงานด้านอื่นๆอยู่ นี่ก็เปย์ไปบ้างแล้วกับผลงานเก่าๆ
อยู่ห่างๆอย่างใกล้ชิดสนิทติด 3 แอป ตอนนี้ก็ถือว่าใกล้ชิดพอสมควร
หากโอกาสเหมาะมาถึงจะอีก 1 ปี 2 ปี เจอกันในวันนั้นก็คงไม่สาย
ไม่หวังอยากจะได้อะไรจากเขา นอกจากเห็นรอยยิ้มที่มีความสุขบนเส้นทางความฝันของเขา
หนึ่งเดือนกับคำว่าแฟนคลับ
คิดว่าไทม์ไลน์การรู้จักเขาคงไม่ต่างจากคนอื่นที่โตในยุคเดียวกัน
ส่วนการมาเป็นแฟนคลับก็คงเริ่มต้นเหมือนคนส่วนใหญ่ จำเสียงได้แต่แรกแล้วตามสืบ
สุดท้ายก็ไปไหนไม่รอดด้วยไลฟ์ขนอมในตำนาน ไม่มีเฟสบุคก็ไปสมัคร ทวิตเตอร์ที่ทิ้งร้างก็กลับมาเล่น
เอาเป็นว่ากลายเป็น FC 3 APP พอๆกับศิลปิน
เมื่อค้นหาตัวตนของเขาอย่างจริงจัง ยิ่งค้นก็ยิ่งพบว่าเขาน่ารักมาก
เฝ้าถามตัวเองว่าทำม้าย..ทำไม ถึงมาตกหลุมรักเขาเอาวันนี้ วันที่เขากำลังจะทิ้งความฝันไปแล้ว
ได้ยินเขาตัดพ้อทีไรน้ำตาก็พาลจะไหล แทบอยากจะคลานเข่าเข้าไปขอโทษ ผิดไปแล้วๆ (งานธูปเทียนแพก็มา)
มากกว่าหน้าตาหล่อๆ เสียงเพราะๆที่เราได้เห็นและสัมผัส(ผ่านหน้าจอ)
มากกว่าการเอ็นเตอร์เทน เอาใจใส่แฟนๆ คอยมาหยอด มาอ้อน ทั้ง 3 แอป
สิ่งที่ได้มามากกว่านั้นคือความคิดบวก ทัศคติที่ดีในการใช้ชีวิต
สิ่งเหล่านี้ที่เรามองเห็น เราขอเรียกว่า 'ผลิตแลนด์ดินแดนมหัศจรรย์'
เขาไม่เคยว่าร้ายคนอื่น อย่างในแอปต่างๆเขาไม่เคยเขียนพาดพิงเรื่องไม่ดีถึงบุคคลอื่น มีแต่คำชื่นชม แคปชั่นน่ารักๆ
แม้บางครั้งเราสัมผัสได้ว่าเวลาที่ท้อใจ เศร้าใจเขาก็มีเหมือนคนอื่นๆ
แต่เขายังสามารถสร้างทุ่งดอกลาเวนเดอร์ในโลกของเขาได้
การให้เกียรติคนอื่นเสมอตนเอง ทุกๆคนที่เขาพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นลุง ป้า น้า อา ชาวบ้าน พ่อค้า แม่ค้า
เขาก็สามารถทำตัวสนิทสนมเป็นกันเอง หรือแม้แต่เพื่อนๆที่สุรินทร์ที่ลุคเซอร์ๆ หลายคนอาจคิดว่าน่ากลัว
แต่สำหรับเขาไม่ใช่เลย จึงไม่แปลกใจที่เพื่อนๆในวงการมักจะเอ่ยปากชมว่าเขาเป็นคนน่ารักมากๆ
เขาให้โอกาสและผลักดันคนอื่นๆเมื่อมีโอกาส มีคลิปหนึ่งที่เล่าเกี่ยวกับเส้นทางเป็นนักร้อง
หลังจากที่เขาพยายามมา 6 ปี จนเซ็นสัญญาได้สำเร็จ เขาก็เลือกที่จะผลักดันเพื่อนคือพี่เป๊ก เปรมนัส
ให้ได้มีโอกาสเป็นนักร้องด้วย อย่างล่าสุดคือพี่เบียร์ จากที่เป็นมือกลองก็ได้ผันตัวมาเป็นคอรัส
แถมคนอื่นๆในวงเขาก็พยายามให้มีซีนด้วยกันตลอด ทำให้การแสดงดูสนุกขึ้นไปอีก
เป็นคนรู้กาละเทศะ อย่างที่เล่นตามงานต่างๆจะเห็นได้ว่างานกลางวันกับกลางคืนจะแตกต่างกันมาก
งานกลางวันแต่งตัวเรียบร้อยเป็นแมวน้อยขี้อ้อน ส่วนงานกลางคืนก็กลายร่างเป็นพ่อเสือหนุ่มสุดเท่
เป็นคนมีสัมมาคาระวะ อ่อนน้อม ใส่ใจคนรอบข้างเสมอๆ
มีจิตวิทยาในการแก้ปัญหา(สังเกตจากการคว่ำชามมาม่าแฟนคลับ)
คำว่าขอบคุณ ขอโทษ เป็นคำพูดติดปากที่จะได้ยินตลอด
และอื่นๆอีกเยอะมากๆ เขาก็คงมีข้อเสีย แต่คิดว่าด้านดีๆเขามีมากกว่า มากจนมันสามารถกลบข้อเสียเขาได้เลย
หรือเราอาจจะกำลังตาบอด เพราะตอนนี้มองไม่เห็นอะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับเขาเลย
จักษุแพทย์ก็จนปัญญากับอาการนี้ คงต้องพึ่งจิตเวชเท่านั้น
การเป็นแฟนคลับให้ได้อะไรดีๆกลับมานอกเหนือจากการตามเป็นกำลังใจให้ศิลปิน คือการที่เรามองทะลุถึงความดี
และนำความดีเหล่านั้นมาใช้ เราเองก็จะกลายเป็นคนดี คนน่ารักไม่ต่างจากศิลปินของเรา
.................................................................................................................................................................
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเราพึงระลึกเสมอว่า เราต้องแฟนคลับ ไม่ใช่แฟนขับ(ไล่) ต้องเป็นหน้าเป็นตาให้ศิลปิน
ไม่ใช่ให้คนรอบข้างเขาอึดอัด เป็นแฟนคลับที่รู้จุดของตัวเอง รู้จักที่จะให้เกียรติบุคคลที่เขาร่วมงานกับศิลปินของเรา
รักและชื่นชมได้อย่างพอประมาณ อย่าให้เกินเลยจนถึงคำว่าล้ำเส้นและไม่ให้เกียรติคนอื่น มีที่ว่างให้กับคำว่าเรื่องส่วนตัว
ในทุกๆคำว่าเรื่องส่วนตัวจะไม่เข้าไปก้าวก่าย เราเสพผลงานเขาเรื่องยิบย่อยหยุมหยิมเหล่านั้นปล่อยผ่านค่ะ
ไม่เคยคิดห้ามในเรื่องต่างๆที่เขาเคยเป็นมาก่อน เพราะเขาคือผู้ชายอายุ 32 (ที่หน้าเด็ก) เขาผ่านเรื่องราวในชีวิตมามากกว่าเรา
เขารู้ตัวเองว่าลิมิตของเขาคือตรงไหน คนรอบๆตัวเขาก็ดูแลดีมากๆ คิดว่าหายห่วง
เราเป็นแฟนคลับอยู่หน้าจอซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เจอตัวจริงไหม และจากที่ดูตารางงาน
ไม่มีแววจะเฉียดมาถึงจังหวัดที่เราอยู่สักนิด ยิ่งเป็นงานในร้านเหล้ายิ่งแล้วใหญ่ ไปสายนั้นไม่ไหว
แต่ไม่เป็นไรรอสนับสนุนผลงานด้านอื่นๆอยู่ นี่ก็เปย์ไปบ้างแล้วกับผลงานเก่าๆ
อยู่ห่างๆอย่างใกล้ชิดสนิทติด 3 แอป ตอนนี้ก็ถือว่าใกล้ชิดพอสมควร
หากโอกาสเหมาะมาถึงจะอีก 1 ปี 2 ปี เจอกันในวันนั้นก็คงไม่สาย
ไม่หวังอยากจะได้อะไรจากเขา นอกจากเห็นรอยยิ้มที่มีความสุขบนเส้นทางความฝันของเขา