
ทุกวันนี้อากาศบ้านเรายิ่งนับวันยิ่งร้อน หันไปทางไหนก็เจอแต่แต่ไอแดดอันร้อนระอุ

ผู้คนก็หงุดหงิดอารมณ์เสีย เราเชื่อว่าหลายคนคงเป็นอย่างนั้นจริงๆ และคงได้แต่นึกถึง สายลมเย็นๆ แม่น้ำใสๆ ให้ได้แหลกว่ายโต้เกลียวคลื่น ดำดูปะการังสวย นอนรับลมชิวๆริมหาดทรายขาวๆ หรือจะเป็นการพักผ่อนภายในสวนอันร่มรื่น อ่ะๆอย่ามั่วแต่นั่งคิดนอนคิด อยู่ทำไม่ได้แล้ว อย่างนี้ต้องออกไปสัมผัสกันซะหน่อยแล้ว ...............................................พร้อมกันรึยัง?...............................................งั้นไปกันเลย Let's go..............................................
งั้นวันนี้เราขออาสาเป็นไกด์พาเพื่อนเที่ยว
พัทยา ในครั้งนี้เอง เมืองพัทยาเป็นเมืองที่คึกคักไปด้วยผู้คนหลากหลายสัญชาติ เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามหน้าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นทะเล ชายหาด วัด พิพิธภัณฑ์ ตลาด สวนต่างๆ และอีกมากมาย เหมาะแก่การไปพักผ่อนกายใจ ซึ่งทริปในครั้งนี้เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อยๆหรืองบน้อยๆก็สามารถเที่ยวได้อย่างเพลิดเพลินกันเลยทีเดียว และคนไม่มีรถส่วนตัวยังสามารถเดินทางท่องเดียวได้เช่นกัน ซึ่งโปรแกรมเที่ยวของเราครั้งนี้
เป็นแบบ 1คืน 2วัน และเป็นที่ไหน เดินทางกันอย่างไรนั้น ตามเรามาโลดดดดดดดดดดดดดด
วันแรกของการเดินทาง
เรามาเจอกันที่
สถานีรถไฟอุดรธานี ใช่จ๊ะ!! อ่านถูกต้องแล้วสถานีรถไฟอุดรธานี เราจะมาเปลี่ยนบรรยากาศ และตามรอยโทมัสคุ๊คท่องเที่ยวทางรถไฟ ที่สำคัญนะ
รถไฟฟรี เป็นไงล่ะ งบน้อยๆก็เที่ยวง่ายๆสบายกระเป๋าด้วย แถมยังสนุกตื่นเต้น ได้ประสบการณ์ใหม่ๆอีกเพียบ หลายๆคนคงยังไม่เคยนั่งรถไฟ ลองดูนะว่าเจ๋งขนาดไหนแล้วมาแชร์ประสบการณ์กัน
อ้า...เราลืมบอกไปว่าทริปครั้งนี้เราร่วมเดินทางกันทั้งหมด 6 คนจ๊ะ ปู้น ปู๊น ฉึกฉัก

นี่ๆเราได้ตั๋วมาแล้วนะ ออกเดินทางตอน 19:19 น. เลขสวยด้วยแหล่ะ
สำหรับจุดหมายปลายทางของเราคือ ชุมทางบางซื่อ ใช้เวลาเดินทั้งประมาณ 10 ชม.

บรรยากาศของการเดินทาง
ชาจแบ็ตไว้รอลุยต่อในวันพรุ่งนี้เช้า
วันที่สองของการเดินทาง
มาถึงชุมทางบางซื่อ ประมาณตีห้าครึ่ง พักล้างหน้าล้างตาทำธุระส่วนตัว แล้วมาต่อด้วยการนั่งตุ๊กๆ ไปขึ้นรถตู้ที่หมอชิต2 ราคาตุ๊กๆ 50 บาท ถึงคิวรถตู้ไปพัทยาแล้วเย้ๆ เราเลือกนั่งของ
บริษัท พรรณ์นิภา พัทยา ทัวร์ จำกัด มีการสะสมแต้มด้วยนะ นั่งครบ10 ครั้ง ได้นั่งฟรี1ครั้ง ราคาตั๋ว 150 บาท บริการส่งถึงที่อีกด้วย

เราออกเดินทางจากหมอชิต ตอนแปดโมงครึ่ง ถึงArt-in Paradise Pattaya ตอนสิบโมงครึ่ง ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.
ที่แรกของทริปในวันนี้คือ
Art-in Paradise Pattaya Museum ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ไม่เหมือนกับพิพิธภัณฑ์อื่นทั่วๆไป ไม่ได้มีรูปภาพมาตั้งโชว์ หรือหุ่นปั้น หรือของเก่าโบราญอะไรทั้งนั้น แต่จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่ รู้ภาพแต่ละรูปที่ผู้เข้าชมนั้น จะกลายเป็นสวนหนึ่งของภาพวาดนั้นๆ ภายในจัดแสดงรูปภาพถึง12โซน มีพื้นที่จัดแสดงกว่า 6,000ตารางเมตร กับผลงานภาพ 3 มิติ กว่า 100 ภาพ เป็นผลงานของศิลปินชาวเกาหลี 3 คน

จับมือกันไว้ ต่อให้มีอุปสรรคนับพัน เราจะฝ่าฟันไปด้วยกัน

มาเที่ยวครั้งนี้ได้ฝึกสมาธิอีกด้วย กลับไปเรียนคงได้ A กันถ้วนหน้า
เรารับลองว่าหากเพื่อนมาเที่ยวที่นี่จะสนุกกับงานศิลปะได้หัวเรา ไปกับการโพสต์ท่าสนุกๆกับเพื่อน ครอบครัว คนรัก ทั้งประทับใจและยังเป็นภาพแห่งความทรงจำดีๆที่ได้มีกิจกรรมร่วมกัน

ไม้จะพาหักมั้ยล่ะนั้น?

เก้าอี้ตัวเดียวแย่งกันนั่งเลยหรอ

ช่วยพวกเราด้วย เขาจับคนสวยมาเป็นหนูทดลอง

ที่นี่ที่ไหน ใช่ที่รักรึป่าว?
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 150บาท/คน เด็ก 100บาท/คน สูงไม่เกิน 120ซม. หรือ สูงต่ำกว่า 100ซม.เข้าชมฟรี (นักท่องเที่ยวชาวไทย)
เปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่ 09:00-21:00 น. หลังจากเต็มที่กับงานศิลปะและเราจะไปต่อกันที่เกาะล้าน ซึ่งเราต้องใช้บริการรถสองแถว ก่อนอื่นเราต้องเดินย้อนกลับออกมาที่วงเวียนปลาโลมา จุดนี้จะมีรถสองแถววิ่งทั่วพัทยา ก่อนที่จะขึ้นเราต้องสอบถามคนขับว่าเขาจะไปยังจุดหมายของเราหรือไม่ สุดท้ายเราก็เลือกขึ้นรถสองแถวสีน้ำเงินแต่ไม่ได้วิ่งเข้าไปถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย ไปสุดสายที่ทางเข้าท่าเรือเท่านั้น

นั่งรถสองแถวพัทยา
สุดสายแล้ว ค่ารถคนละ10บาท ต่อด้วยการนั่งวินมอไซต์เข้าไปที่ท่าเรือ ต่อลองราคากันอยู่นาน จนได้ราคาที่พอใจคนละ 30 บาท ระยะทางประมาณ 2กิโลเมตร
ถึง
ท่าเรือแหลมบาลีฮายก็เที่ยงครึ่งแล้ว มื้อเที่ยงวันนี้คงต้องได้ฝากท้องไว้ร้านอาหารแถวๆนี้แล้วแหละ สำหรับอาหารทะเลเมนูง่ายของที่นี่เริ่มต้นที่60บาท ก็ถือว่าไม่แพงมากนัก อิ่มท้องพลังก็เริ่มกลับมาแล้ว พร้อมที่จะลุยต่อแล้วเย้ๆ ด่านต่อไปคือลงเรือข้ามฝาก (หากเพื่อนคนไหนที่เมาเรือเมาคลื่น อย่าลืมทานยาแก้เมาไว้ก่อนเนาะ สัก30นาที่ก่อนลงเรือ) อื้มเกือบลืมบอกเลยนะเนี่ยว่า ที่นี้จะมีเรือข้ามฟากสองท่า ท่าแรก คือ
ท่าเรือที่ข้ามไปหาดตาแหวน ท่านี้สำหรับคนที่ไปเที่ยวที่หาดตาแหวนตอนเช้าและกลับเข้าฝั่งในตอนเย็น ส่วนท่าที่สอง คือ
ท่าหน้าบ้าน เป็นที่สำหรับคนที่จะไปค้างคืนที่เกาะล้าน โดยจะมีตารางเดินเรือเป็น ช่วงเวลา

เราลงเรือข้ามฟาก รอบบ่ายสองโมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45นาที ระยะทางประมาณ7 กิโลเมตร ค่าบริการคนละ30บาท
บรรยากาศกลางทะเล มองเห็นเรือประมงไกลๆ

ในที่สุดก็ถึงแล้ว
ท่าหน้าบ้าน เกาะล้าน หลังจากนั่งเรือมานานหลายนาที เมื่อมาถึงก็รอให้คุณลุงเจ้าของบ้านพักมารับ (บ้านท่องทะเล)ก่อนหน้านี้ เราได้โทรมาจองห้องพักไว้ล่วงหน้าแล้วเผื่อห้องจะเต็ม โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดยาวแบบนี้ บ้านท่องทะเลอยู่ห่างจากท่าเรือหน้าบ้านประมาณ 700เมตร บรรยากาศรอบๆบ้านพัก เต็มไปด้วยต้นมะม่วงอันร่มรื่น มีความสงบเหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างมาก ภายในห้องพัก มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน เตียงนอนกว้างมาก นอนได้สามคนแบบสบายๆเลยหล่ะ แต่ 1ห้องพักได้แค่สองคน ราคาอยู่ที่1,200บาท/คืน ราคานี้รวม อาหารเช้าและมีมอเตอร์ไซต์พร้อมน้ำมันเต็มถัง/1ห้องพักเท่านั้น ราคานี้ถือว่าคุ้มแบบสุดๆ หาไม่ได้แล้วในเกาะล้าน
ชุดพร้อม คนพร้อมไปลุยกันเลย
หาดแรก
หาดนวล หาดนี้สงบมากๆ ชายหาดไม่ค่อยกว้างเท่าไหร่ แต่หาดมีความยาวมาก ส่วนใหญ่หาดนี้ไม่มีคนไทยมาเท่าไหร่นัก เนื่องจากหาดเล็ก ทรายเนื้อหยาบ

มาต่อด้วยหาดที่สอง
หาดแสม หาดนี้นะพอมาถึงเท่านั้นแหละไม่รอช้าเลยขอวิ่งลงน้ำก่อนเลย น้ำใสๆมองเห็นซากปะการังที่โดนคลื่นซัดมา ได้ชัดเจนเต็มหาดกันเลย

เราขอนอนแช่น้ำคลายร้อนก่อนนะ แอบมองหนุ่มด้วย555+++ มีความสุขจริงๆ

หาดเทียน
หาดที่สามของเราในวันนี้ก็คือหาดเทียน เส้นทางที่มาหาดเทียน มีความอันตรายมาก เพราะถนนทางมาหาดนี้ต้องขับรถขึ้นเขา และทางลงเขามีความคดโค้งและชัน แต่ถ้ามาถึงหาดนี้แล้วต้องประทับใจเป็นอย่างมาก เพราะหาดท้ายที่นี่ขาวละเอียด นุ่มมากๆน้ำใสจนเห็นฝูงปลา

นั่งรอดูตะวันตกทะเล

ตะวันกำลังตกทะเล

ค่ำนี้เราไปฝากท้องไว้ที่ตลาด จะมีตลาดทุกวันขายอารทะเล ทั้งสุกๆ และแบบสดให้เลือกได้แบบจุใจ
เช้าวันที่สาม

ตื่นแต่เช้าตู่ แว้นมอไซต์มาเที่ยวหาดตาแหวนทรายขาวละเอียดอยากจะนอนกลิ้งสัก10ตลบ
เจ็ดโมงครึ่งรับประทานอาหารเช้า แบบ Amarican Breakfast เสิร์ฟพร้อมกับโอวัลติน/กาแฟ แล้วแต่จะเลือกรับประทาน

ห้าโมงเช้าได้เวลาลงเรือกลับเข้าสู่พัทยา ลาแล้วนะเกาะล้าน ไว้คราวหน้าพี่จะกลับมาใหม่
พอมาถึงพัทยาก็เกือบเที่ยงแล้ว แวะทานข้าวเที่ยงที่ร้านเย็นจิต เมนูเด็ดข้าวผัดสับปะรด ปูผัดผงกะหรี่ สถานีต่อไปมุ่งหน้าสู่
สวนนงนุชพัทยา เราใช้รถซาเล้งรับจ้างต่อรองราคากันได้ที่900บาท รวมไปกลับนะ6คน เฉลี่ยอยู่ที่คนละ 150 บาท

สวนนงนุชพัทยา ค่าเข้าชมคนไทย150 บาท ภายในจัดแสดงสวน แบ่งออกเป็นโซน มีกิจกรรมการขี่ช้าง


ที่สุดท้ายของทริปนี้ ตลาดน้ำ4ภาคพัทยา คนไทยเข้าฟรีนะจ๊ะ ภายในมีร้านขายของฝากช็อปให้กระจายกันไปเลย


มีบริการล่องเรือชมตลาดน้ำด้วยนะ

เที่ยวมาทั้งวันขอเติมพลังหน่อยละกัน

ไปภาคไหนดี

ของดีพัทยาเรือสะเทินน้ำสะเทินบก
สุดท้ายขึ้นรถทัวร์กลับอุดรธานี (407 พัฒนา) ราคา440บาท สรุปทริปนี้รวมราคาประมาณ2,000 บาท
หากชอบรีวิวนี้กดไลค์กดแชร์เป็นกำลังใจให้ผู้การเขียนรีวิวในครั้งต่อไปด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
กระทู้แรกค่ะ
[CR] หนีร้อน ไปนอนเกาะปะการัง สวรรค์ตะวันออก
งั้นวันนี้เราขออาสาเป็นไกด์พาเพื่อนเที่ยว พัทยา ในครั้งนี้เอง เมืองพัทยาเป็นเมืองที่คึกคักไปด้วยผู้คนหลากหลายสัญชาติ เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามหน้าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นทะเล ชายหาด วัด พิพิธภัณฑ์ ตลาด สวนต่างๆ และอีกมากมาย เหมาะแก่การไปพักผ่อนกายใจ ซึ่งทริปในครั้งนี้เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อยๆหรืองบน้อยๆก็สามารถเที่ยวได้อย่างเพลิดเพลินกันเลยทีเดียว และคนไม่มีรถส่วนตัวยังสามารถเดินทางท่องเดียวได้เช่นกัน ซึ่งโปรแกรมเที่ยวของเราครั้งนี้ เป็นแบบ 1คืน 2วัน และเป็นที่ไหน เดินทางกันอย่างไรนั้น ตามเรามาโลดดดดดดดดดดดดดด
เรามาเจอกันที่ สถานีรถไฟอุดรธานี ใช่จ๊ะ!! อ่านถูกต้องแล้วสถานีรถไฟอุดรธานี เราจะมาเปลี่ยนบรรยากาศ และตามรอยโทมัสคุ๊คท่องเที่ยวทางรถไฟ ที่สำคัญนะ รถไฟฟรี เป็นไงล่ะ งบน้อยๆก็เที่ยวง่ายๆสบายกระเป๋าด้วย แถมยังสนุกตื่นเต้น ได้ประสบการณ์ใหม่ๆอีกเพียบ หลายๆคนคงยังไม่เคยนั่งรถไฟ ลองดูนะว่าเจ๋งขนาดไหนแล้วมาแชร์ประสบการณ์กัน
อ้า...เราลืมบอกไปว่าทริปครั้งนี้เราร่วมเดินทางกันทั้งหมด 6 คนจ๊ะ ปู้น ปู๊น ฉึกฉัก
มาถึงชุมทางบางซื่อ ประมาณตีห้าครึ่ง พักล้างหน้าล้างตาทำธุระส่วนตัว แล้วมาต่อด้วยการนั่งตุ๊กๆ ไปขึ้นรถตู้ที่หมอชิต2 ราคาตุ๊กๆ 50 บาท ถึงคิวรถตู้ไปพัทยาแล้วเย้ๆ เราเลือกนั่งของ บริษัท พรรณ์นิภา พัทยา ทัวร์ จำกัด มีการสะสมแต้มด้วยนะ นั่งครบ10 ครั้ง ได้นั่งฟรี1ครั้ง ราคาตั๋ว 150 บาท บริการส่งถึงที่อีกด้วย
ที่แรกของทริปในวันนี้คือ Art-in Paradise Pattaya Museum ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ไม่เหมือนกับพิพิธภัณฑ์อื่นทั่วๆไป ไม่ได้มีรูปภาพมาตั้งโชว์ หรือหุ่นปั้น หรือของเก่าโบราญอะไรทั้งนั้น แต่จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่ รู้ภาพแต่ละรูปที่ผู้เข้าชมนั้น จะกลายเป็นสวนหนึ่งของภาพวาดนั้นๆ ภายในจัดแสดงรูปภาพถึง12โซน มีพื้นที่จัดแสดงกว่า 6,000ตารางเมตร กับผลงานภาพ 3 มิติ กว่า 100 ภาพ เป็นผลงานของศิลปินชาวเกาหลี 3 คน
เรารับลองว่าหากเพื่อนมาเที่ยวที่นี่จะสนุกกับงานศิลปะได้หัวเรา ไปกับการโพสต์ท่าสนุกๆกับเพื่อน ครอบครัว คนรัก ทั้งประทับใจและยังเป็นภาพแห่งความทรงจำดีๆที่ได้มีกิจกรรมร่วมกัน
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 150บาท/คน เด็ก 100บาท/คน สูงไม่เกิน 120ซม. หรือ สูงต่ำกว่า 100ซม.เข้าชมฟรี (นักท่องเที่ยวชาวไทย)
เปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่ 09:00-21:00 น. หลังจากเต็มที่กับงานศิลปะและเราจะไปต่อกันที่เกาะล้าน ซึ่งเราต้องใช้บริการรถสองแถว ก่อนอื่นเราต้องเดินย้อนกลับออกมาที่วงเวียนปลาโลมา จุดนี้จะมีรถสองแถววิ่งทั่วพัทยา ก่อนที่จะขึ้นเราต้องสอบถามคนขับว่าเขาจะไปยังจุดหมายของเราหรือไม่ สุดท้ายเราก็เลือกขึ้นรถสองแถวสีน้ำเงินแต่ไม่ได้วิ่งเข้าไปถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย ไปสุดสายที่ทางเข้าท่าเรือเท่านั้น
สุดสายแล้ว ค่ารถคนละ10บาท ต่อด้วยการนั่งวินมอไซต์เข้าไปที่ท่าเรือ ต่อลองราคากันอยู่นาน จนได้ราคาที่พอใจคนละ 30 บาท ระยะทางประมาณ 2กิโลเมตร
ถึงท่าเรือแหลมบาลีฮายก็เที่ยงครึ่งแล้ว มื้อเที่ยงวันนี้คงต้องได้ฝากท้องไว้ร้านอาหารแถวๆนี้แล้วแหละ สำหรับอาหารทะเลเมนูง่ายของที่นี่เริ่มต้นที่60บาท ก็ถือว่าไม่แพงมากนัก อิ่มท้องพลังก็เริ่มกลับมาแล้ว พร้อมที่จะลุยต่อแล้วเย้ๆ ด่านต่อไปคือลงเรือข้ามฝาก (หากเพื่อนคนไหนที่เมาเรือเมาคลื่น อย่าลืมทานยาแก้เมาไว้ก่อนเนาะ สัก30นาที่ก่อนลงเรือ) อื้มเกือบลืมบอกเลยนะเนี่ยว่า ที่นี้จะมีเรือข้ามฟากสองท่า ท่าแรก คือ ท่าเรือที่ข้ามไปหาดตาแหวน ท่านี้สำหรับคนที่ไปเที่ยวที่หาดตาแหวนตอนเช้าและกลับเข้าฝั่งในตอนเย็น ส่วนท่าที่สอง คือ ท่าหน้าบ้าน เป็นที่สำหรับคนที่จะไปค้างคืนที่เกาะล้าน โดยจะมีตารางเดินเรือเป็น ช่วงเวลา
หาดแรก หาดนวล หาดนี้สงบมากๆ ชายหาดไม่ค่อยกว้างเท่าไหร่ แต่หาดมีความยาวมาก ส่วนใหญ่หาดนี้ไม่มีคนไทยมาเท่าไหร่นัก เนื่องจากหาดเล็ก ทรายเนื้อหยาบ
หาดที่สามของเราในวันนี้ก็คือหาดเทียน เส้นทางที่มาหาดเทียน มีความอันตรายมาก เพราะถนนทางมาหาดนี้ต้องขับรถขึ้นเขา และทางลงเขามีความคดโค้งและชัน แต่ถ้ามาถึงหาดนี้แล้วต้องประทับใจเป็นอย่างมาก เพราะหาดท้ายที่นี่ขาวละเอียด นุ่มมากๆน้ำใสจนเห็นฝูงปลา
เจ็ดโมงครึ่งรับประทานอาหารเช้า แบบ Amarican Breakfast เสิร์ฟพร้อมกับโอวัลติน/กาแฟ แล้วแต่จะเลือกรับประทาน
พอมาถึงพัทยาก็เกือบเที่ยงแล้ว แวะทานข้าวเที่ยงที่ร้านเย็นจิต เมนูเด็ดข้าวผัดสับปะรด ปูผัดผงกะหรี่ สถานีต่อไปมุ่งหน้าสู่สวนนงนุชพัทยา เราใช้รถซาเล้งรับจ้างต่อรองราคากันได้ที่900บาท รวมไปกลับนะ6คน เฉลี่ยอยู่ที่คนละ 150 บาท
สุดท้ายขึ้นรถทัวร์กลับอุดรธานี (407 พัฒนา) ราคา440บาท สรุปทริปนี้รวมราคาประมาณ2,000 บาท
หากชอบรีวิวนี้กดไลค์กดแชร์เป็นกำลังใจให้ผู้การเขียนรีวิวในครั้งต่อไปด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
กระทู้แรกค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น