สวัสดีครับ ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่ติดตามข่าว EEC อย่างเกาะติด ซึ่งผมขอเล่าเพิ่มเติมสำหรับใครที่ยังไม่รู้หน่อยนะครับว่า EEC นั่นก็คือ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor Development นั่นเองครับ โดยภาครัฐจะมีการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ของจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง
แต่ประเด็นที่ในขณะนี้มีหลายคนเข้าใจกันคลาดเคลื่อนนั่นก็คือ “ข่าวว่านักลงทุนต่างชาติสามารถเช่าพื้นที่ใน EEC เป็นเวลา 99 ปี” ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เวลา 99 ปีก็เรียกได้ว่าเป็นชั่วชีวิตของคนคนหนึ่งเลยใช่มั้ยครับ นั่นเลยทำให้หลายคนเข้าใจว่า เท่ากับขายให้ชาวต่างชาติกันเลยทีเดียว!!! แต่เดี๋ยวก่อนครับ นั่นเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนอย่างที่ผมได้จั่วหัวไว้ตั้งแต่แรก อย่างที่รู้ๆ กันว่า ในปัจจุบันสังคมโซเชียลมีการเขียนข่าวส่งข่าวกันสั้นๆ ไม่มีรายละเอียด จนกลายเป็นข่าวลือเล่าต่อๆ กันไป และท้ายที่สุดก็หาต้นสายปลายเหตุไม่ได้นั่นเอง เนื่องจากผมติดตามข่าวนี้มาตลอดจึงค่อนข้างจะได้รับรู้ข้อมูลในเชิงลึก โดยเฉพาะข้อมูลที่เป็นทางการและมีแหล่งที่เชื่อถือได้ เพราะฉะนั้นขอเล่าสู่กันฟังเพื่อแก้ความเข้าใจผิดกันหน่อยนะครับ
ผมขอไปคัดลอกมาจากสัมภาษณ์ “นายอุตตม สาวนายน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เลยแล้วกัน เชื่อได้ว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด อย่างน้อยๆ ก็มีความน่าเชื่อถือจากข่าวลือที่แพร่กันไปตามโซเชียลต่างๆ ล่ะครับ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมให้ข้อมูลว่า...
น่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากการให้สิทธิประโยชน์กับนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่ EEC จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการนโยบายพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกกำหนด ประกอบด้วย
1. ต้องเป็นพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก 3 จังหวัด (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง)
2. ต้องเป็นโครงการที่สนับสนุน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่
3. ทุกโครงการต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ เช่น ประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการ ผลกระทบที่เกิดกับชุมชน และการแนวทางการเยียวยา และ
4. ก่อนการอนุมัติโครงการต้องมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน รวมถึงมีการเปิดเผยผลการศึกษา และร่างผังของเขตส่งเสริมที่จะขอรับการสนับสนุน
“ผมขอเรียนชี้แจงถึงกำหนดระยะเวลาในการใช้สิทธิประโยชน์ของการเช่าที่ดินในเขตพื้นที่ EEC ไม่ใช่ 99 ปี แต่สัญญาครั้งแรกไม่เกิน 50 ปี และขยายตัวได้ตามความตกลงอีกไม่เกิน 49 ปี เหมือนกับเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และเป็นไปตามกฎหมายที่ปฏิบัติในปัจจุบัน ซึ่งการให้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวเป็นไปตาม พ.ร.บ.การเช่าอสังหาริมทรัพย์และการพาณิชย์ พ.ศ.2542 ซึ่งการให้สิทธิการเช่าที่ดินในระยะยาวเป็นสิ่งที่หลายประเทศได้ดำเนินการเป็นปกติ 50 ปี สามารถขยายได้ 49 ปี เช่น ประเทศมาเลเซียให้เช่าที่ดินได้ 60 ปี ขยายรวมได้ไม่เกิน 99 ปี แต่ทั้งนี้ การให้ระยะเวลานานเท่าใดขึ้นอยู่กับแต่ละผลการศึกษาของแต่ละโครงการควรจะได้เท่าใดจึงจะเหมาะสม” นายอุตตม กล่าว
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวยืนยันด้วยว่า “รัฐบาลตระหนักดีว่าต้องดูแลในเรื่องของสิทธิประโยชน์ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และจะไม่มีการต่ออายุการเช่าที่ดินโดยอัตโนมัติหลังหมดระยะเวลาการเช่าที่ดินครั้งแรก ทุกโครงการจะต้องทำการศึกษาและตรงตามเงื่อนไขที่ทางคณะกรรมการบริหาร EEC กำหนด เช่น จำนวนเงินลงทุน การจ้างงาน และสร้างประโยชน์ให้กับโครงการอย่างไร
ครับ นั่นก็เป็นรายละเอียดที่มาจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งไม่ใช่ว่าชาวต่างชาติจะจู่ๆ ก็สามารถเช่าพื้นที่ได้กันง่ายๆ เพราะต้องมีข้อกำหนดอีกเยอะแยะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อประโยชน์ที่เขาจะให้กับพื้นที่ของเรา ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงนั้นก็จะกลับมาสู่ชาวบ้านตาดำๆ ในละแวกนั้น และก็จะกระจายสู่พื้นที่โดยรวม และก็เป็นผลดีสู่ประเทศไทยในที่สุด...
สำหรับใครที่อ่านข้อมูลแบบย่อๆ ไม่ดูรายละเอียดอาจจะทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนได้บ้าง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะปัจจุบันข่าวต่างๆ แพร่สะพัดกันเร็วเหลือเกิน บางครั้งยังไม่ได้อ่านก็แชร์กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และผมก็ต้องออกตัวด้วยนะครับว่า ไม่ใช่ว่ารัฐพูดหรือทำอะไรผมจะเห็นดีเห็นงามไปด้วยทั้งหมด แต่อย่างน้อยๆ เมื่อได้ฟังรายละเอียดก็ทำให้เข้าใจภาพที่ชัดเจนมากขึ้น อย่างน้อยๆ ก็มีรายละเอียดกว่าข่าวลอยๆ ที่แชร์ที่เล่ากันโดยไม่มีข้อเท็จจริงหรือตัวบุคคลยืนยัน...
เอาเป็นว่าขอเล่าขอบอกแบบมีแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ตามข้อมูลข้างต้นเลยครับ อย่างน้อยๆ ก็น่าจะช่วยไม่ให้เข้าใจอะไรกันผิดๆ ไปกันใหญ่...
ขอบคุณครับที่ติดตามอ่านกันจนถึงบรรทัดสุดท้าย ขอบคุณครับ
ผมว่าถ้าเข้าใจผิดก็ไปกันใหญ่... นักลงทุนต่างชาติเช่าพื้นที่ได้ 99 ปี!? เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
แต่ประเด็นที่ในขณะนี้มีหลายคนเข้าใจกันคลาดเคลื่อนนั่นก็คือ “ข่าวว่านักลงทุนต่างชาติสามารถเช่าพื้นที่ใน EEC เป็นเวลา 99 ปี” ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เวลา 99 ปีก็เรียกได้ว่าเป็นชั่วชีวิตของคนคนหนึ่งเลยใช่มั้ยครับ นั่นเลยทำให้หลายคนเข้าใจว่า เท่ากับขายให้ชาวต่างชาติกันเลยทีเดียว!!! แต่เดี๋ยวก่อนครับ นั่นเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนอย่างที่ผมได้จั่วหัวไว้ตั้งแต่แรก อย่างที่รู้ๆ กันว่า ในปัจจุบันสังคมโซเชียลมีการเขียนข่าวส่งข่าวกันสั้นๆ ไม่มีรายละเอียด จนกลายเป็นข่าวลือเล่าต่อๆ กันไป และท้ายที่สุดก็หาต้นสายปลายเหตุไม่ได้นั่นเอง เนื่องจากผมติดตามข่าวนี้มาตลอดจึงค่อนข้างจะได้รับรู้ข้อมูลในเชิงลึก โดยเฉพาะข้อมูลที่เป็นทางการและมีแหล่งที่เชื่อถือได้ เพราะฉะนั้นขอเล่าสู่กันฟังเพื่อแก้ความเข้าใจผิดกันหน่อยนะครับ
ผมขอไปคัดลอกมาจากสัมภาษณ์ “นายอุตตม สาวนายน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เลยแล้วกัน เชื่อได้ว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด อย่างน้อยๆ ก็มีความน่าเชื่อถือจากข่าวลือที่แพร่กันไปตามโซเชียลต่างๆ ล่ะครับ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมให้ข้อมูลว่า...
น่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากการให้สิทธิประโยชน์กับนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่ EEC จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการนโยบายพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกกำหนด ประกอบด้วย
1. ต้องเป็นพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก 3 จังหวัด (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง)
2. ต้องเป็นโครงการที่สนับสนุน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่
3. ทุกโครงการต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ เช่น ประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการ ผลกระทบที่เกิดกับชุมชน และการแนวทางการเยียวยา และ
4. ก่อนการอนุมัติโครงการต้องมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน รวมถึงมีการเปิดเผยผลการศึกษา และร่างผังของเขตส่งเสริมที่จะขอรับการสนับสนุน
“ผมขอเรียนชี้แจงถึงกำหนดระยะเวลาในการใช้สิทธิประโยชน์ของการเช่าที่ดินในเขตพื้นที่ EEC ไม่ใช่ 99 ปี แต่สัญญาครั้งแรกไม่เกิน 50 ปี และขยายตัวได้ตามความตกลงอีกไม่เกิน 49 ปี เหมือนกับเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และเป็นไปตามกฎหมายที่ปฏิบัติในปัจจุบัน ซึ่งการให้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวเป็นไปตาม พ.ร.บ.การเช่าอสังหาริมทรัพย์และการพาณิชย์ พ.ศ.2542 ซึ่งการให้สิทธิการเช่าที่ดินในระยะยาวเป็นสิ่งที่หลายประเทศได้ดำเนินการเป็นปกติ 50 ปี สามารถขยายได้ 49 ปี เช่น ประเทศมาเลเซียให้เช่าที่ดินได้ 60 ปี ขยายรวมได้ไม่เกิน 99 ปี แต่ทั้งนี้ การให้ระยะเวลานานเท่าใดขึ้นอยู่กับแต่ละผลการศึกษาของแต่ละโครงการควรจะได้เท่าใดจึงจะเหมาะสม” นายอุตตม กล่าว
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวยืนยันด้วยว่า “รัฐบาลตระหนักดีว่าต้องดูแลในเรื่องของสิทธิประโยชน์ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และจะไม่มีการต่ออายุการเช่าที่ดินโดยอัตโนมัติหลังหมดระยะเวลาการเช่าที่ดินครั้งแรก ทุกโครงการจะต้องทำการศึกษาและตรงตามเงื่อนไขที่ทางคณะกรรมการบริหาร EEC กำหนด เช่น จำนวนเงินลงทุน การจ้างงาน และสร้างประโยชน์ให้กับโครงการอย่างไร
ครับ นั่นก็เป็นรายละเอียดที่มาจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งไม่ใช่ว่าชาวต่างชาติจะจู่ๆ ก็สามารถเช่าพื้นที่ได้กันง่ายๆ เพราะต้องมีข้อกำหนดอีกเยอะแยะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อประโยชน์ที่เขาจะให้กับพื้นที่ของเรา ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงนั้นก็จะกลับมาสู่ชาวบ้านตาดำๆ ในละแวกนั้น และก็จะกระจายสู่พื้นที่โดยรวม และก็เป็นผลดีสู่ประเทศไทยในที่สุด...
สำหรับใครที่อ่านข้อมูลแบบย่อๆ ไม่ดูรายละเอียดอาจจะทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนได้บ้าง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะปัจจุบันข่าวต่างๆ แพร่สะพัดกันเร็วเหลือเกิน บางครั้งยังไม่ได้อ่านก็แชร์กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และผมก็ต้องออกตัวด้วยนะครับว่า ไม่ใช่ว่ารัฐพูดหรือทำอะไรผมจะเห็นดีเห็นงามไปด้วยทั้งหมด แต่อย่างน้อยๆ เมื่อได้ฟังรายละเอียดก็ทำให้เข้าใจภาพที่ชัดเจนมากขึ้น อย่างน้อยๆ ก็มีรายละเอียดกว่าข่าวลอยๆ ที่แชร์ที่เล่ากันโดยไม่มีข้อเท็จจริงหรือตัวบุคคลยืนยัน...
เอาเป็นว่าขอเล่าขอบอกแบบมีแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ตามข้อมูลข้างต้นเลยครับ อย่างน้อยๆ ก็น่าจะช่วยไม่ให้เข้าใจอะไรกันผิดๆ ไปกันใหญ่...
ขอบคุณครับที่ติดตามอ่านกันจนถึงบรรทัดสุดท้าย ขอบคุณครับ