# กล้องที่ใช้ถ่ายเป็นกล้องจาก โทรศัพท์ Sumsung Note 2 ( ตอนนั้นไม่มีกล้อง )
# เรื่องนี้เกิดเมื่อประมาณ 2 - 3 ปีก่อน
# อันนี้เป็นกระทู้แรกนะครับ ( ด่าได้แต่อย่าแรง )
อะแฮ่ม อะแฮ่ม ......
อย่าคาดหวังว่าผมจะพูด
มิงกะลาบา เพราะผมอะคนไทย 100 % คือไอที่บอกว่าไปเป็นแรงงานต่างด้าวเนี้ย ก็คือผมไปทำงานแบบไม่มี visa …. อันที่จริงเรียกว่าช่วยงานดีกว่า ถามว่าได้เงินมั้ย ก็ได้นะครับ 5555 ผมจะขอไม่บอกว่าผมไปทำงานอะไรละกัน ละก็จะไม่บอกบริษัทด้วยเดี๋ยวพี่เค้าเสียหาย
แต่ …. เดาสิ้ ! หน้าอย่างผมเนี้ย ทำไรได้บ้าง 5555555
[ ถ้าบอกว่าหน้ายังผมไม่น่าทำไรได้
ผมโกดนะ ! ]
เมื่อปี 2557 ผมอะ ตัดสินใจพักการเรียนจากมหาวิทยาลัยเพราะปัญหาบางอย่าง และจึงตัดสินใจไปขอช่วยงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในสิงคโปร์เพื่อจะค้นหาตัวเองว่าที่เรียนอยู่เนี่ย
มันใช่มั้ย !
ก็… 2 เดือนครับ กับการอยู่ที่นั่นคนเดียว ( แต่ผมก็ได้ไปรู้จักเพื่อนและพี่ๆที่นั่นนะครับ
ไม่ใช่ว่าผมจะไม่มีเพื่อน ) ตอนแรกพี่เค้าก็ถามผมว่า พูดภาษาอังกฤษได้รึเปล่า ผมก็บอกเลยว่า ได้ ! ก็ผมเรียนอินเตอร์ ทำไมจะพูดไม่ได้ แต่บอกเลยนะครับ ภาษาอังกฤษที่สิงคโปร์เนี่ย ฟังยากมาก คือมันเป็นภาษา
SINGLISH นะครับ แต่ถ้าชินแล้วคุณอาจจะมองว่าภาษาเค้าเท่… อย่างที่ผมรู้สึกในตอนนี้ …. เอาละครับ ! เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มเดินทางไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า
“COOL AS LUCK”
https://nopchamny.wordpress.com/
https://www.facebook.com/Coolasluck/
https://www.instagram.com/coolasluck/

อย่าพึ่ง งง ! เพราะผมก็งง นี่นั่งไปไหน สิงคโปร์นะ ทำไมมันแพงขนาดนี้ !!!!!!
คือ อย่าพึ่งด่านะครับ ทำไม โง่ ทำไม บ้า ผมยอมรับครับ ผมไม่มีความรู้เรื่องตั๋วเครื่องบินเลย ว่าผมควรจะเช็คยังไงหรือเลือกยังไงให้มันถูก แต่เอาเถอะ มันผ่านมาแล้ว อีกอย่างนะ
มันก้ไม่ใช่เงินคุณ [ โทดทีครับ55 ] ตามนั้นครับค่าเครื่องไปกลับอยู่ที่ 11,179.00






ออกจากดอนเมือง ตอน…… ตอนไหนก็ช่างเหอะครับ 555 ผ่านมานานแล่วผมจำไม่ได้ แต่ว่าถึงสิงคโปร์ ประมาณบ่าย 1 บ่าย 2 นะ ถ้าผมจำไม่ผิด .
รู้สึกเท่ยังไงไม่รู้……..
เอาจริงผมรู้สึกเท่นะ ในตอนนั้นนะ การที่ได้ไปทำงานที่ต่างประเทศคนเดียวในอายุ 21 เนี่ย โหยยเท่ชะมัด จริงมั้ย ?หลังจากลงเครื่องนะครับ ก็ …….. ก็ปวดฉี่ แต่ห้องน้ำก็ดีมากเล้ยย
( บอกเพื่อ ? )





สิ่งต่อไป ที่ทำให้ผมนึกถึงหลังจากห้องน้ำ นะครับ คือความหนักแน่นในน้ำเสียงของเจ้าหน้าที่ ! คือเรื่องมีอยู่ว่า ผมอะ ไม่รู้ว่าต้องไปเอากระเป๋าที่ไหนครับ ผมเลยถามพนักงานครับ
Where can i get my stuff ? ด้วยความที่เป็น Singaporean ผมจึงขอให้เค้าพูดสองรอบ รอบที่สองเนี้ย ผมสัมผัสได้ถึงความหนักแน่นของลูกผู้ชายตัวจริง
“That way !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” < เกินไปมั้ย ? ( นี่มันตะคอกครับคุณพี่ )
หลังจากเช็ค passport เอาของ เรียบร้อยแล้ว ด้วย ความฉลาดของผม ผมรู้ทันทีว่า mrt ไม่สามารถมารับเราถึงที่ airport แน่ 55555 ผมจึงนั่ง sky train ไปที่ terminal 2 เพื่อไปขึ้น mrt
# การอ่านออกเสียงที่ผิด ……
คือมีการอ่านออกเสียงที่ผิดจากชื่อของสถานที่หลายๆที่ในสิงคโปร์นะครับ จนบางที สามารถทำให้ผมสะดุ้งได้เลย อย่างแรกเลยนะครับ สนามบิน Changi ซึ่ง เค้าเรียกกันว่า ชางงี หรือ ชางฮี นะ 555 ถึงตอนนี้ผมยังไม่รู้ แต่ผมอะอ่านตามชื่อนะ ก็อ่านว่า ชางกิ < อันนี้อาจจะไม่มีอะไร แต่หลายคนนะครับ ผมเชื่อนนะ ถ้าเป็น สถานี
Clarke Quay หลายคนจะอ่านว่า คลาก คว….. ผมไม่พูดละกัน 55555555
# ขอแจ้งแถลงไข นิดนึงก่อนนะครับ ก่อนจะไปต่อ 555 ..... ( คือการไปทำงานของผมเนี่ย ลักษณะของมัน ไม่ใช่การทำงานแบบจริงจังนะครับ ..... เรียกได้ว่า เป็นการช่วยงานจะดีกว่า แต่เนื่องจากเรารู้จักกัน ผมเลยได้ค่าขนมไปด้วย 555 ไม่ได้มีเจตนา ทำผิดกฏหมายนะคร้าบบบบ ...
เอาละ เรามาต่อกันเลยนะครับ .......





#รูปอาจจะดูไม่สวย ไม่ค่อยติสแตกนะครับ ขออภัยด้วย 555555
ในที่สุดก็ถึงที่พัก ……..
หลังจากที่ผมออกจากสนามบินเนี่ย ผมก็ยิงตรงเลยครับ จาก mrt สนามบิน changi ไปยัง สถานี มักกะสัน
แฮ่ !!! serangoon ครับ ซึ่งผมลงตรงห้าง nex เลย
# ผมยังคงคิดถึงที่ serangoon มากๆ และอยากกลับไปอีกทุกครั้งที่ได้ยินชื่อ
ต้องบอกเลยนะครับ ว่า
เหวอ ! แต่ดีที่ผมซื้อซิมของสิงคโปร์แล้ว และก็สามารถติดต่อกับเจ้าของที่พักได้ ซึ่งเจ้าของที่พักเนี่ยก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล คนไทยนี่แหละ ใจดี คุยกันง่าย ก็เลยโล่งใจนะครับ
# แต่อย่างที่บอก เรื่องทำงานเนี่ย...ถึงจะแค่ช่วยก็เหอะ ก็ความลับ ไม่ว่าใครก็บอกไม่ได้ ถ้าจะอธิบายก็อธิบายได้ แต่.... ผมก็ไม่อยากให้พี่เค้าไม่สบายใจ !
วันแรกก็ถูกเรียกไปเตรียมตัวซะแล้ว ….
ไม่ใช่ทุกคนนะครับที่ จะโชคดี .. คือผมอะ ไม่ได้ศึกษาอะไรมาเลย คือก็มีคนบอกมาบ้างว่า เออเนี่ย เติมเงินโทรศัพแล้วก็อย่าใช้เน็ตเยอะ ซึ่งมันก็ เป้ะ เหมือนถูกหวย ใช่ครับเงินในโทรศัพท์ หมด! ผมขาดการติดต่อ กลายเป็นคนเร่ร่อนไปชั่วขณะ และนี่คือสถานที่ที่ผมเร่ร่อน และ งงงวย ไม่รู้จะไปไหนดี



ผมอยู่บริเวณหน้า buddha tooth relic temple นะครับ เดินวนไปวนมาไมรู้จะทำยังไงดี จนกระทั่งตั้งสติได้และไปเติมเงินอีกครั้ง
# ไม่เห็นจะมีไรยาก ทำไมต้องพิมให้เหมือนลำบากด้วยวะ 555
คือความจริงแล้วก็ไม่มีอะไรเลยครับ แค่เติมเงิน ! และสุดท้ายพี่เค้าก็มารับ บริเวณหน้า buddha tooth relic temple ……
และนั่นก็คือจุดเริ่มต้น ของการไปเป็นแรงงานต่างด้าวที่สิงคโปร์
ถ้าห้องยังไม่ล็อค
.. โปรดติดตามบล็อค ต่อไป ..
ติดตามได้ในนี้เลยนะครับ : เป็นธรรมเนียมนะครับ... ที่จะต้องโปรโมทเพจตัวเอง >
https://nopchamny.wordpress.com/
https://www.instagram.com/coolasluck/
# เกี่ยวมั้ย ….. แค่อยากคล้องจอง
# [ ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะครับ ถ้าชอบก็อย่าลืมมา comment กันได้นะครับ ]
[CR] ไปเป็น “แรงงานต่างด้าว” ที่สิงคโปร์
# กล้องที่ใช้ถ่ายเป็นกล้องจาก โทรศัพท์ Sumsung Note 2 ( ตอนนั้นไม่มีกล้อง )
# เรื่องนี้เกิดเมื่อประมาณ 2 - 3 ปีก่อน
# อันนี้เป็นกระทู้แรกนะครับ ( ด่าได้แต่อย่าแรง )
อย่าคาดหวังว่าผมจะพูด มิงกะลาบา เพราะผมอะคนไทย 100 % คือไอที่บอกว่าไปเป็นแรงงานต่างด้าวเนี้ย ก็คือผมไปทำงานแบบไม่มี visa …. อันที่จริงเรียกว่าช่วยงานดีกว่า ถามว่าได้เงินมั้ย ก็ได้นะครับ 5555 ผมจะขอไม่บอกว่าผมไปทำงานอะไรละกัน ละก็จะไม่บอกบริษัทด้วยเดี๋ยวพี่เค้าเสียหาย แต่ …. เดาสิ้ ! หน้าอย่างผมเนี้ย ทำไรได้บ้าง 5555555 [ ถ้าบอกว่าหน้ายังผมไม่น่าทำไรได้
ผมโกดนะ ! ]
เมื่อปี 2557 ผมอะ ตัดสินใจพักการเรียนจากมหาวิทยาลัยเพราะปัญหาบางอย่าง และจึงตัดสินใจไปขอช่วยงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในสิงคโปร์เพื่อจะค้นหาตัวเองว่าที่เรียนอยู่เนี่ย มันใช่มั้ย !
ก็… 2 เดือนครับ กับการอยู่ที่นั่นคนเดียว ( แต่ผมก็ได้ไปรู้จักเพื่อนและพี่ๆที่นั่นนะครับ ไม่ใช่ว่าผมจะไม่มีเพื่อน ) ตอนแรกพี่เค้าก็ถามผมว่า พูดภาษาอังกฤษได้รึเปล่า ผมก็บอกเลยว่า ได้ ! ก็ผมเรียนอินเตอร์ ทำไมจะพูดไม่ได้ แต่บอกเลยนะครับ ภาษาอังกฤษที่สิงคโปร์เนี่ย ฟังยากมาก คือมันเป็นภาษา SINGLISH นะครับ แต่ถ้าชินแล้วคุณอาจจะมองว่าภาษาเค้าเท่… อย่างที่ผมรู้สึกในตอนนี้ …. เอาละครับ ! เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มเดินทางไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า
“COOL AS LUCK”
https://nopchamny.wordpress.com/
https://www.facebook.com/Coolasluck/
https://www.instagram.com/coolasluck/
อย่าพึ่ง งง ! เพราะผมก็งง นี่นั่งไปไหน สิงคโปร์นะ ทำไมมันแพงขนาดนี้ !!!!!!
คือ อย่าพึ่งด่านะครับ ทำไม โง่ ทำไม บ้า ผมยอมรับครับ ผมไม่มีความรู้เรื่องตั๋วเครื่องบินเลย ว่าผมควรจะเช็คยังไงหรือเลือกยังไงให้มันถูก แต่เอาเถอะ มันผ่านมาแล้ว อีกอย่างนะ มันก้ไม่ใช่เงินคุณ [ โทดทีครับ55 ] ตามนั้นครับค่าเครื่องไปกลับอยู่ที่ 11,179.00
ออกจากดอนเมือง ตอน…… ตอนไหนก็ช่างเหอะครับ 555 ผ่านมานานแล่วผมจำไม่ได้ แต่ว่าถึงสิงคโปร์ ประมาณบ่าย 1 บ่าย 2 นะ ถ้าผมจำไม่ผิด .
รู้สึกเท่ยังไงไม่รู้……..
เอาจริงผมรู้สึกเท่นะ ในตอนนั้นนะ การที่ได้ไปทำงานที่ต่างประเทศคนเดียวในอายุ 21 เนี่ย โหยยเท่ชะมัด จริงมั้ย ?หลังจากลงเครื่องนะครับ ก็ …….. ก็ปวดฉี่ แต่ห้องน้ำก็ดีมากเล้ยย ( บอกเพื่อ ? )
สิ่งต่อไป ที่ทำให้ผมนึกถึงหลังจากห้องน้ำ นะครับ คือความหนักแน่นในน้ำเสียงของเจ้าหน้าที่ ! คือเรื่องมีอยู่ว่า ผมอะ ไม่รู้ว่าต้องไปเอากระเป๋าที่ไหนครับ ผมเลยถามพนักงานครับ Where can i get my stuff ? ด้วยความที่เป็น Singaporean ผมจึงขอให้เค้าพูดสองรอบ รอบที่สองเนี้ย ผมสัมผัสได้ถึงความหนักแน่นของลูกผู้ชายตัวจริง
“That way !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” < เกินไปมั้ย ? ( นี่มันตะคอกครับคุณพี่ )
หลังจากเช็ค passport เอาของ เรียบร้อยแล้ว ด้วย ความฉลาดของผม ผมรู้ทันทีว่า mrt ไม่สามารถมารับเราถึงที่ airport แน่ 55555 ผมจึงนั่ง sky train ไปที่ terminal 2 เพื่อไปขึ้น mrt
# การอ่านออกเสียงที่ผิด ……
คือมีการอ่านออกเสียงที่ผิดจากชื่อของสถานที่หลายๆที่ในสิงคโปร์นะครับ จนบางที สามารถทำให้ผมสะดุ้งได้เลย อย่างแรกเลยนะครับ สนามบิน Changi ซึ่ง เค้าเรียกกันว่า ชางงี หรือ ชางฮี นะ 555 ถึงตอนนี้ผมยังไม่รู้ แต่ผมอะอ่านตามชื่อนะ ก็อ่านว่า ชางกิ < อันนี้อาจจะไม่มีอะไร แต่หลายคนนะครับ ผมเชื่อนนะ ถ้าเป็น สถานี Clarke Quay หลายคนจะอ่านว่า คลาก คว….. ผมไม่พูดละกัน 55555555
# ขอแจ้งแถลงไข นิดนึงก่อนนะครับ ก่อนจะไปต่อ 555 ..... ( คือการไปทำงานของผมเนี่ย ลักษณะของมัน ไม่ใช่การทำงานแบบจริงจังนะครับ ..... เรียกได้ว่า เป็นการช่วยงานจะดีกว่า แต่เนื่องจากเรารู้จักกัน ผมเลยได้ค่าขนมไปด้วย 555 ไม่ได้มีเจตนา ทำผิดกฏหมายนะคร้าบบบบ ...
เอาละ เรามาต่อกันเลยนะครับ .......
#รูปอาจจะดูไม่สวย ไม่ค่อยติสแตกนะครับ ขออภัยด้วย 555555
ในที่สุดก็ถึงที่พัก ……..
หลังจากที่ผมออกจากสนามบินเนี่ย ผมก็ยิงตรงเลยครับ จาก mrt สนามบิน changi ไปยัง สถานี มักกะสัน แฮ่ !!! serangoon ครับ ซึ่งผมลงตรงห้าง nex เลย # ผมยังคงคิดถึงที่ serangoon มากๆ และอยากกลับไปอีกทุกครั้งที่ได้ยินชื่อ
ต้องบอกเลยนะครับ ว่า เหวอ ! แต่ดีที่ผมซื้อซิมของสิงคโปร์แล้ว และก็สามารถติดต่อกับเจ้าของที่พักได้ ซึ่งเจ้าของที่พักเนี่ยก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล คนไทยนี่แหละ ใจดี คุยกันง่าย ก็เลยโล่งใจนะครับ # แต่อย่างที่บอก เรื่องทำงานเนี่ย...ถึงจะแค่ช่วยก็เหอะ ก็ความลับ ไม่ว่าใครก็บอกไม่ได้ ถ้าจะอธิบายก็อธิบายได้ แต่.... ผมก็ไม่อยากให้พี่เค้าไม่สบายใจ !
วันแรกก็ถูกเรียกไปเตรียมตัวซะแล้ว ….
ไม่ใช่ทุกคนนะครับที่ จะโชคดี .. คือผมอะ ไม่ได้ศึกษาอะไรมาเลย คือก็มีคนบอกมาบ้างว่า เออเนี่ย เติมเงินโทรศัพแล้วก็อย่าใช้เน็ตเยอะ ซึ่งมันก็ เป้ะ เหมือนถูกหวย ใช่ครับเงินในโทรศัพท์ หมด! ผมขาดการติดต่อ กลายเป็นคนเร่ร่อนไปชั่วขณะ และนี่คือสถานที่ที่ผมเร่ร่อน และ งงงวย ไม่รู้จะไปไหนดี
ผมอยู่บริเวณหน้า buddha tooth relic temple นะครับ เดินวนไปวนมาไมรู้จะทำยังไงดี จนกระทั่งตั้งสติได้และไปเติมเงินอีกครั้ง # ไม่เห็นจะมีไรยาก ทำไมต้องพิมให้เหมือนลำบากด้วยวะ 555
คือความจริงแล้วก็ไม่มีอะไรเลยครับ แค่เติมเงิน ! และสุดท้ายพี่เค้าก็มารับ บริเวณหน้า buddha tooth relic temple …… และนั่นก็คือจุดเริ่มต้น ของการไปเป็นแรงงานต่างด้าวที่สิงคโปร์
ถ้าห้องยังไม่ล็อค
.. โปรดติดตามบล็อค ต่อไป ..
ติดตามได้ในนี้เลยนะครับ : เป็นธรรมเนียมนะครับ... ที่จะต้องโปรโมทเพจตัวเอง > https://nopchamny.wordpress.com/
https://www.instagram.com/coolasluck/
# เกี่ยวมั้ย ….. แค่อยากคล้องจอง
# [ ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะครับ ถ้าชอบก็อย่าลืมมา comment กันได้นะครับ ]