แชร์ประสบการณ์ passport หายในญี่ปุ่น

เล่าเลยเนอะ
ไปเที่ยวญี่ปุ่นปลายมีนา ที่ผ่านมาเองค่ะ

เที่ยวแถบคันโต
ไปกับครอบครัว รวมเราเป็น11 คน (เป็นคนพาเที่ยว คนอื่นไม่รู้เส้นทางเลย มีเฉพาะเราที่รู้!)
วันศุกร์ไปเดินเล่น ikebukuro และ akihabara
ย่านแรกคือ ikebukuro passport ยังอยู่ค่ะเพราะยังใช้ใน disneystore และ uniqlo
พอย้ายมาอีกย่าน ใช้บัตรเครดิตให้น้า และ ต้องtaxfree ปรากฎว่ามันหายยยยไป
บอกตรงๆ สติหลุดไปนิดหนึ่งเลย
ข้อแนะนำนะคะ เราไม่ได้เริ่มจากการไปเดินหาเดินถาม เพราะว่าด้วยคนจำนวนเยอะ และทุกคนยังต้องพึ่งเราหมดอะ
ถ้าเราเดินพวกเขาก็ต้องเดิน ถ้าเราย้อนพวกเขาก็ต้องย้อน
เราเลยเลือกที่จะไปถามนายสถานี และถามทางไปสถานีตำรวจ akihabara
ซึ่งเดินไปสติหลุดไป หลงทางหนักมาก จากคนที่ใช้ googlemap อย่างเทพ แต่ตอนนั้นเดินไม่ถูกเลยทีเดียว
เมื่อไปถึงสถานีตำรวจ akihabara
เราค้นพบแล้วว่า "เราไม่ควรขุดสกิลการพูดอังกฤษที่หรูเลิศอะ" เข้าทางเราเลยคา 5555
ใจความสำคัญคือ "พูดให้เขาและเราเข้าใจตรงกันพอ" ศัพท์ไม่ต้องยาก ไวยากรณ์ไม่ต้อง
เอาที่พอรู้เรื่อง
เนื้อหาของการแจ้งความ
หลักๆคือ การเล่าเรื่องราวต่างๆ
นั้นคือ ไปไหนบ้าง ทำอะไรบ้าง แวะที่ไหนบ้าง เอามาใช้ตอนไหนบ้าง
ละเอียดทุกอย่างยิ่งดี ตอนแรกเราบอกไปเลยว่า ช่วยโทรไปshop uniqlo ได้มั้ย
เขาก็เหมือนจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เราบอก แต่สุดท้ายแล้วตำรวจเขาจะไล่โทรเช็คให้เราทุกที่จริงๆ
เราปลื้มสุดๆๆ คุณคาหายไป1 ชั่วโมงเพื่อไล่เช็ค
และกลับมาด้วยคำว่า ว่า ไม่เจอ
ทางเราจะออกใบแจ้งความ ให้คุณไปที่สถานฑูตไทยในญี่ปุ่น
และแน่นอนว่า เสาร์อาทิตย์คือปิด เพิ่มความทุกข์ไปอีก
ณ ตอนนั้น เราเครียดมาก เครียดไปสองวันเต็มๆ
และที่สำคัญเราต้องพาอาๆ ย้ายเมืองไปที่อื่นแล้ว
นั้นคือ เราก็ยังคงทำตามแผน
เมื่อวันจันทร์มาถึง เรานั่งรถไฟเข้าโตเกียว
แม่เจ้า !!! กว่าจะหาทางได้ หลงหนักมาก เหนื่อยมากกกกกก
หลักการง่ายๆๆเลยค่ะ ออกจากสถานีแล้ว หันหน้าเข้าถนน
แล้วขวามือ เดินจนสุดจะเป็นแยกไฟแดงเยอะๆ ไม่ต้องข้าม ให้เราเดินตามโค้งปกตินั้นละ
เดินไปอีกยาวๆๆ จะเห็นป้ายเล็กๆ เขียนว่าสถานฑูตไทย
ตรงข้ามจะอีกฝั่งถนนจะเป็นปั้มน้ำมันเล็กๆ
เมื่อไปถึง พบยามก่อน ต้องบอกเขาว่ามาทำอะไร แล้วเขาจะให้บัตรคิวมา
และเข้าไปจะพบกับคนไทยเยอะมาก ต่อคิวทำภารกิจของตัวเอง
เมื่อเปิดทำการ .... เดินเข้าไปนั่ง คือบอกตรงทำไรไม่ถูก
แต่มีพี่เขาถามว่าเรามาทำอะไร เราเลยบอกว่าทำพาสปอตหาย
เขาเลยให้ ใบกรอกรายละเอียดที่จะออก ซีไอ ให้
(ที่ตู้เอกสารไม่มีเอกสารตัวนี้นะคะ ต้องเดินไปขอพี่เขาค่ะ)
พอกรอกเสร็จ เจอเจ้าหน้าที่ ....แล้วก็มานั่งรออีก
ปรากฎว่า ขณะนั้น แม่ไลน์รัวๆๆมาก (ในนั้นงดใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดค่ะ)
และ จนท ก็เรียกเราไป และบอกว่า "พบพาสปอตคุณแล้ว!!!"
ไปเอาได้ที่สถานีตำรวจได้เลย เย่เย่ ตอนนั้น พร้อมละลายเงินในกระเป๋าสักแสน555 ดีใจมากกก
และแม่ก็ยังโทรมารัวๆๆๆ ได้รับหลังจากที่เดินออกมาจากสถานฑูต
แม่เล่าให้ฟังว่าจนท สถานฑูตโทรไปถามว่า
-ลูกสาวคุณอยู่ไหน
-ลูกสาวคุณทำอะไรหายเปล่า
-ลูกสาวคุณมาทำอะไรที่ญี่ปุ่น
และฝากข้อความว่าให้ไปเอาพาสปอตที่สถานีตำรวจ และให้รหัส code ไปเอาของนะ
แม่เราตกใจหนักมาก ไม่เป็นอันทำงานค่ะ ตื่นเต้น 55555
สรุปคือ ได้คืน มันวิเศษมาก ไม่คิดว่า มันจะเป็นจริงกับประโยคที่ "ของหายที่ญี่ปุ่นก็ได้คืน!!!"
สุดท้ายเราอยากฝากว่า ขั้นตอนตามด้านล่างเนี่ยเราว่ามันทำให้เราได้ของกลับ
- แจ้งความอันดับแรก
- ใช้ภาษาที่มนุษย์เข้าใจง่าย ไม่ต้องเยอะ ธรรมดาๆง่ายๆ ฟังรู้เรื่อง
- บอกให้ครบ บอกให้หมด อย่าให้ขาด พยายามนึกหน่อยค่ะ
- รอระยะสัก 1-2 วัน หากยังไม่กลับนะคะ ค่อยไปสถานฑูต หรือ ไปสถานีตำรวจที่เราแจ้งความไว้
แชร์ประสบการณ์ passport หายในญี่ปุ่น
ไปเที่ยวญี่ปุ่นปลายมีนา ที่ผ่านมาเองค่ะ
ไปกับครอบครัว รวมเราเป็น11 คน (เป็นคนพาเที่ยว คนอื่นไม่รู้เส้นทางเลย มีเฉพาะเราที่รู้!)
วันศุกร์ไปเดินเล่น ikebukuro และ akihabara
ย่านแรกคือ ikebukuro passport ยังอยู่ค่ะเพราะยังใช้ใน disneystore และ uniqlo
พอย้ายมาอีกย่าน ใช้บัตรเครดิตให้น้า และ ต้องtaxfree ปรากฎว่ามันหายยยยไป
บอกตรงๆ สติหลุดไปนิดหนึ่งเลย
ข้อแนะนำนะคะ เราไม่ได้เริ่มจากการไปเดินหาเดินถาม เพราะว่าด้วยคนจำนวนเยอะ และทุกคนยังต้องพึ่งเราหมดอะ
ถ้าเราเดินพวกเขาก็ต้องเดิน ถ้าเราย้อนพวกเขาก็ต้องย้อน
เราเลยเลือกที่จะไปถามนายสถานี และถามทางไปสถานีตำรวจ akihabara
ซึ่งเดินไปสติหลุดไป หลงทางหนักมาก จากคนที่ใช้ googlemap อย่างเทพ แต่ตอนนั้นเดินไม่ถูกเลยทีเดียว
เมื่อไปถึงสถานีตำรวจ akihabara
เราค้นพบแล้วว่า "เราไม่ควรขุดสกิลการพูดอังกฤษที่หรูเลิศอะ" เข้าทางเราเลยคา 5555
ใจความสำคัญคือ "พูดให้เขาและเราเข้าใจตรงกันพอ" ศัพท์ไม่ต้องยาก ไวยากรณ์ไม่ต้อง
เอาที่พอรู้เรื่อง
เนื้อหาของการแจ้งความ
หลักๆคือ การเล่าเรื่องราวต่างๆ
นั้นคือ ไปไหนบ้าง ทำอะไรบ้าง แวะที่ไหนบ้าง เอามาใช้ตอนไหนบ้าง
ละเอียดทุกอย่างยิ่งดี ตอนแรกเราบอกไปเลยว่า ช่วยโทรไปshop uniqlo ได้มั้ย
เขาก็เหมือนจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เราบอก แต่สุดท้ายแล้วตำรวจเขาจะไล่โทรเช็คให้เราทุกที่จริงๆ
เราปลื้มสุดๆๆ คุณคาหายไป1 ชั่วโมงเพื่อไล่เช็ค
และกลับมาด้วยคำว่า ว่า ไม่เจอ
ทางเราจะออกใบแจ้งความ ให้คุณไปที่สถานฑูตไทยในญี่ปุ่น
และแน่นอนว่า เสาร์อาทิตย์คือปิด เพิ่มความทุกข์ไปอีก
ณ ตอนนั้น เราเครียดมาก เครียดไปสองวันเต็มๆ
และที่สำคัญเราต้องพาอาๆ ย้ายเมืองไปที่อื่นแล้ว
นั้นคือ เราก็ยังคงทำตามแผน
เมื่อวันจันทร์มาถึง เรานั่งรถไฟเข้าโตเกียว
แม่เจ้า !!! กว่าจะหาทางได้ หลงหนักมาก เหนื่อยมากกกกกก
หลักการง่ายๆๆเลยค่ะ ออกจากสถานีแล้ว หันหน้าเข้าถนน
แล้วขวามือ เดินจนสุดจะเป็นแยกไฟแดงเยอะๆ ไม่ต้องข้าม ให้เราเดินตามโค้งปกตินั้นละ
เดินไปอีกยาวๆๆ จะเห็นป้ายเล็กๆ เขียนว่าสถานฑูตไทย
ตรงข้ามจะอีกฝั่งถนนจะเป็นปั้มน้ำมันเล็กๆ
เมื่อไปถึง พบยามก่อน ต้องบอกเขาว่ามาทำอะไร แล้วเขาจะให้บัตรคิวมา
และเข้าไปจะพบกับคนไทยเยอะมาก ต่อคิวทำภารกิจของตัวเอง
เมื่อเปิดทำการ .... เดินเข้าไปนั่ง คือบอกตรงทำไรไม่ถูก
แต่มีพี่เขาถามว่าเรามาทำอะไร เราเลยบอกว่าทำพาสปอตหาย
เขาเลยให้ ใบกรอกรายละเอียดที่จะออก ซีไอ ให้
(ที่ตู้เอกสารไม่มีเอกสารตัวนี้นะคะ ต้องเดินไปขอพี่เขาค่ะ)
พอกรอกเสร็จ เจอเจ้าหน้าที่ ....แล้วก็มานั่งรออีก
ปรากฎว่า ขณะนั้น แม่ไลน์รัวๆๆมาก (ในนั้นงดใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดค่ะ)
และ จนท ก็เรียกเราไป และบอกว่า "พบพาสปอตคุณแล้ว!!!"
ไปเอาได้ที่สถานีตำรวจได้เลย เย่เย่ ตอนนั้น พร้อมละลายเงินในกระเป๋าสักแสน555 ดีใจมากกก
และแม่ก็ยังโทรมารัวๆๆๆ ได้รับหลังจากที่เดินออกมาจากสถานฑูต
แม่เล่าให้ฟังว่าจนท สถานฑูตโทรไปถามว่า
-ลูกสาวคุณอยู่ไหน
-ลูกสาวคุณทำอะไรหายเปล่า
-ลูกสาวคุณมาทำอะไรที่ญี่ปุ่น
และฝากข้อความว่าให้ไปเอาพาสปอตที่สถานีตำรวจ และให้รหัส code ไปเอาของนะ
แม่เราตกใจหนักมาก ไม่เป็นอันทำงานค่ะ ตื่นเต้น 55555
สรุปคือ ได้คืน มันวิเศษมาก ไม่คิดว่า มันจะเป็นจริงกับประโยคที่ "ของหายที่ญี่ปุ่นก็ได้คืน!!!"
สุดท้ายเราอยากฝากว่า ขั้นตอนตามด้านล่างเนี่ยเราว่ามันทำให้เราได้ของกลับ
- แจ้งความอันดับแรก
- ใช้ภาษาที่มนุษย์เข้าใจง่าย ไม่ต้องเยอะ ธรรมดาๆง่ายๆ ฟังรู้เรื่อง
- บอกให้ครบ บอกให้หมด อย่าให้ขาด พยายามนึกหน่อยค่ะ
- รอระยะสัก 1-2 วัน หากยังไม่กลับนะคะ ค่อยไปสถานฑูต หรือ ไปสถานีตำรวจที่เราแจ้งความไว้