[SR] เที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ ไม่ใกล้ไม่ไกล ที่....สกลนคร

คำเตือน : อย่าอ่านรีวิวนี้ถ้าใจไม่แข็งพอ เพราะคุณอาจจะ "ตกหลุมรัก"โดยไม่รู้ตัว ^V^



สกลนคร...เหรอ?????.....เครื่องหมายคำถามผุดขึ้นมาในหัวเรามากมาย ตอนได้ยินคำชวนจาก ททท. ให้มาเที่ยวที่นี่  
สกลนคร...มีอะไรให้เที่ยว???? เชื่อว่าหลายคนคงคิดเหมือนกันกับเรา

กว่าจะรู้ว่าตัวเองคิดผิด เมืองน่ารักแห่งนี้ก็ได้ "ขโมยหัวใจ" เราไปซะแล้ว

อะไรทำให้เรา "ตกหลุมรัก" ที่นี่??? อยากรู้.....ตามมาค่าาาาา ^^

*******************************************************************************

ฝากติดตามผลงานเพจ FB https://www.facebook.com/travelandoutdoors/

ขอบคุณสำหรับทุกไลค์และแชร์ค่ะ ^V^


*******************************************************************************

Day 1 : (01/04/2017)
08.15 น. เริ่มการเดินทางด้วยสายฝนโปรยปราย แอบลุ้นตลอดทางว่าจะเจอฝนที่นู่นรึเปล่า ^^



มาได้ครึ่งทางฟ้าเริ่มเปิดค่อยเบาใจ



ถึงแล้วววววววววววว...สกลนคร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ


09.30 น. มื้อแรกของเรา ฝากท้องไว้ที่ร้านนนี้ค่ะ "เลิศรสไข่กระทะ" อยู่ตรงข้ามกับโรงแรมกิตติโฮเทล  
เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมานานกว่า 50 ปี เป็นตึกแถว 2 คูหา เปิดขายตั้งแต่ตี 5 ถึงบ่าย 3 โมง


เมนูแนะนำจะเป็น ไข่กระทะ มีไข่ดาว 2 ฟองเสิร์ฟมาพร้อมหมูสับ แครอท และ แตงกวา


ทานคู่กับกับ ขนมปังยัดใส้สไตล์เวียดนาม ทางร้านบอกว่าขนมปังที่ร้านทำเองค่า ^^
เราสั่ง" ใส้กุนเชียงหมูสับ"ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน กับ"น้ำพริกเผาหมูหยอง"มาลองค่ะ


ราดซอสชุ่มๆ แล้ว....อั้มมมมมมม


ส่วนเครื่องดื่มจะมีชาร้อน แจกฟรี และเครื่องดื่มอื่นๆจำพวก ชาไทย กาแฟ น้ำส้มคั้น ไว้ให้เลือกค่ะ


เอ๊า......ดื่ม ^V^


10.30 น. อิ่มท้องแล้วก็พร้อมเที่ยวแล้วค่า ^V^
สกลนครเป็น 1 ใน 24 เมือง "เขาเล่าว่า"ของ ททท. ที่มีจุดเด่นในเรื่อง "ผ้าผิวสวย"
สวยยังไง???? วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกันที่ "กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านดอนกลอย" กันค่ะ


มาถึงแล้วววววว..... แม่ๆรอต้อนรับพวกเราอย่างพร้อมหน้าเลยค่ะ (คนที่นี่จะเรียกผู้ใหญ่รุ่นย่า ยาย ว่า "แม่" เหมือนกันหมด)


"คราม" หรือ Indigo เป็นพืชล้มลุก ที่ใบมีคุณสมบัติให้สีน้ำเงิน หรือสีฟ้าคราม
ที่ภูมิปัญญาชาวบ้านนำมาย้อมสีผ้า ผ้าที่ย้อมด้วยครามนอกจากจะสวย สีไม่ตกแล้ว
เวลาใส่จะเย็นสบาย ที่สำคัญยังมีสารที่ ช่วยปกป้องรังสียูวีด้วย เหตุนี้จึงเป็นที่มาของฉายา "ผ้าผิวสวย" ค่ะ


กว่าจะได้ด้ายสักหนึ่งม้วน ต้องผ่านกรรมวิธีการย้อม ล้าง ตาก วนไปหลายๆรอบ จนกว่าจะได้สีที่พอใจ




จากนั้นจึงจะนำมาทอ ลวดลายที่แม่ๆทำจะมีการคิดค้นมาใหม่เรื่อยๆจากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว





ลายนี้เป็นลายใหม่ชื่อ "ลายนิ้ว"ค่ะ ......น่ารักเนอะ ^V^


เห็นแม่ๆทำงานกันอย่างแข็งขันก็อดชื่นชมไม่ได้ ใครชอบผ้าไทยสวยๆ ฝีมือดี แวะมาอุดหนุนแม่ๆได้นะคะ




13.00 น. มาถึงถิ่นก็ต้องมาชิมอาหารอีสาน รสชาติจัดจ้านนนนนนนน ที่ "ร้านลำดวน"


เมนูขึ้นชื่อของร้านนี้คือ "ไก่ย่าง"ค่ะ เป็นไก่ไทยอีสาน ย่างเสร็จยกมาเสิร์ฟร้อนๆเลย




และที่ขาดไม่ได้คือ "ส้มตำปูปลาร้า" รสชาดเผ็ด-เปรี้ยว แซ่บบบลืมมม กันเลยทีเดียว


"ต้มยำหมูมะนาว" ซดร้อนๆ คล่องคอ


"หมูย่างน้ำจิ้มแจ่ว"ก็อร่อย


แต่ที่เราชอบมากที่สุดคือจานนี้ "ปลาทอด" มีความสด มีความกรอบ เค็มกำลังดี...แนะนำค่ะ ^V^


15.00 น. ว๊าปมาอยู่ที่ "ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน" อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ศูนย์นี้ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2527 ณ หมู่บ้านนานกเค้า เพื่อเป็นแบบจำลองของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในการหาวิธีแก้ปัญหาและพัฒนาภูมิภาคนี้  พื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนคือ พื้นที่สาธิตเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม จำนวน 2,300 ไร่
และพื้นที่พัฒนาป่าไม้ จำนวน 1,100 ไร่


วันนี้เรามาเยี่ยมชมในส่วนพื้นที่พัฒนาการเกษตร เจ้าหน้าที่กำลังเก็บ "ลูกหม่อน (Mulberry)" พวกเราเลยขอเป็นลูกมือช่วยเก็บค่ะ



และนี่คือค่าแรงของพวกเราในวันนี้ค่ะ.......อร่อยมว๊ากกกกก ^V^


จากสวนลูกหม่อนเรามาเดินมาตามหาพระเอกของศูนย์นี้กันดีกว่าค่ะ


ฉายาของพวกเค้าคือ "3 ดำมหัศจรรย์ แห่งภูพาน"
ได๊แก๊ (เสียงสูง)........แทน แท๊น แท๊น แทน...... สุกรดำ ไก่ดำ และโคดำ นั่นเองค่า ^V^





จากพ่อแม่พันธ์ที่ได้รับการถวายมาจากประเทศจีน (สุกร,ไก่) และญี่ปุ่น (โค) อย่างละไม่กี่คู่
ปัจจุบันทางศูนย์ได้ศึกษาและขยายพันธ์จนสามารถแจกจ่ายให้เกษตรกรได้อย่างทุกวันนี้





และยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ตอนนี้ศูนย์ได้เริ่มทดลองเลี้ยงดำที่ 4 คือ "กระต่ายดำ" (คิดว่าน่าจะเปิดตัวเร็วๆนี้ค่ะ)




เดินดู นู่น นี่ นั่น มาเรื่อยๆจนมาเจอโมเดล " เกษตรทฤษฏีใหม่"
ทำให้นึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ขึ้นมาทันที ทำเอาน้ำตาแทบไหล T___T


ตอนเด็กๆถ้าใครจำได้ ช่วงข่าวในพระราชสำนัก ที่เราเห็นภาพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงดำเนินข้ามฝายเล็กๆ
(เครดิตภาพ : http://pr.prd.go.th/sakonnakhon/ewt_news.php?nid=93 )



วันนี้เราจะไป ตามรอยพ่อกันค่ะ สามารถขับรถเข้ามาจนถึงทางเข้า จากนั้นเดินเท้าเข้าไปประมาณ 150 เมตร




ถึงแล้วค่ะ..... "ฝายพ่อ" ดีใจที่ครั้งหนึ่งได้มายืนตรงนี้ ตรงที่พ่อเคยมา




(ใครอยากมาเยี่ยมชมต้องมาวันธรรมดานะคะ เพราะศูนย์เปิดจันทร์ - ศุกร์ เท่านั้น
ส่วนคนที่สนใจอยากเรียนเพื่อสร้างอาชีพ ทางศูนย์เปิดอบรมให้ฟรี เรียนจบแจกจ่ายพ่อแม่พันธ์ให้เอาไปเป็นทุนด้วยค่ะ)




17.00 น. ตามธรรมเนียมมาถึงถิ่นก็ต้องแวะมาสักการะ" พระธาตุเชิงชุม"
ตามตำนานกล่าวว่าเป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้า 4 พระองค์ (กุกสันโธ โกนาคมโน กัสสะโป และโคตมะ)
เคยเสด็จมาโปรดชาวเมืองหนองหาร และมาประทับรอยพระบาทไว้ที่นี่ก่อนจะปรินิพพาน



องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนสี่เหลี่ยม สูง 24 เมตร ภายในมีรอยพระพุทธบาท 4 พระองค์
โดยมีซุ้มประตูสร้างครอบอยู่ทั้ง 4 ด้าน ยอดฉัตรเหนือองค์พระธาตุทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ หนัก 247 บาท
เชื่อกันว่าการมานมัสการพระธาตุนั้นจะก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลสูงสุดแก่ตนเองและครอบครัว
มีความเจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง



ดังคำกล่าวที่ว่า " จะมีครั้งไหนที่ได้อานิสงส์มากไปกว่าการได้มาบูชาพระธาตุที่สร้างครอบรอยพระบาทแห่งพระพุทธเจ้าถึง 4 พระองค์"




ภายในวิหารใกล้องค์พระธาตุ เป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อพระองค์แสน"
เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองชาวสกลนคร เชื่อว่าให้พรด้านโชคลาภให้ได้รับเงินหมื่นเงินแสน



ใกล้ๆกับวิหารเราจะเห็น "บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์" เป็นบ่อน้ำที่มีมาพร้อมองค์พระธาตุ
เชื่อกันว่าเป็นทางเชื่อมระหว่างเมืองมนุษย์กับเมืองพญานาคที่จมอยู่ใต้หนองหารค่ะ

ชื่อสินค้า:   สกลนคร
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่