[CR] สะพายเป้เที่ยวญี่ปุ่น (JAPAN) เดือนพฤษภาคม 15วัน 14คืน : วางแพลนเที่ยวคันโต นั่งรถไฟขึ้นเหนือแอ่วฮอกไกโดและลงมาแถบคันไซ

สวัสดีค่ะ จขกท เห็นว่าใกล้จะถึงเดือนพฤษภาคมแล้ว และสำหรับใครที่ต้องการเที่ยวญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคมปี 2560 นี้
เราก็อยากจะขออนุญาตมาแชร์ประสปการณ์และนำเสนอรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกของเรา (จขกท และคุณสามี) ในเดือนพฤษภาคมของปีที่แล้วมาให้ดูกันค่ะ

ก่อนที่เราจะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น เราอ่านรีวิวในพันทิปเกี่ยวกับท่องเที่ยวญี่ปุ่นและเตรียมตัวเที่ยวญี่ปุ่นเกือบทุกวัน อ่านมันทุกกระทู้ ว่าจะไปที่ไหนยังไงบ้าง เค้าไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง ? (ต้องขอขอบพระคุณกระทู้ รีวิวญี่ปุ่นด้วยนะคะ ที่มาช่วยแบ่งปัน ทุกท่านที่เราอ่านรีวิว น่ารักจริงๆค่ะ)

..และพอดีว่าช่วงที่เราสองคนจะเดินทางไปญี่ปุ่นคือช่วงเดือนพฤษภาคม 2559 ผ่านมาเกือบจะ 1 ปีแล้วค่ะ
ช่วงนี้อากาศที่ญี่ปุ่นกำลังดี อากาศก็เหมือนหน้าหนาวบ้านเรา เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิตอนปลาย..  
และที่สำคัญเราสองคนอยากไปเที่ยวเจแปนแอลป์ คุโรเบะอัลไพน์ (Japan Alpine Rute) เส้นทางธรรมชาติคุโรเบะด้วยค่ะ เราสองคนอยากไปดูกำแพงหิมะ ภารกิจตามหาหิมะจึงเกิดขึ้น .. ^ ^

ก็อย่างที่บอกไปค่ะว่าเราสองคนไปในช่วงเดือนพฤษภาคม 2559 เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น
ปกติฤดูนี้นักท่องเที่ยวจะไปเที่ยวดูดอกซากุระกันค่ะ แต่ดอกซากุระจะบานเต็มที่ช่วงเดือนเมษายน..
ตอนเราไปก็เจอดอกซากุระบานดีเลย์บ้าง มีหลอมแหลม นิดๆหน่อยๆ ..
ช่วงที่เราไปอากาศที่ญี่ปุ่นดีมากๆค่ะ ไม่หนาวมากเกินไป อุณหภูมิจะอยู่ประมาณ 15-17 องศา
อากาศจะเหมือนหน้าหนาวทางภาคเหนือของบ้านเรานั้นแหล่ะค่ะ

เราสองคนออกเดินทางไปตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคมและกลับวันที่ 16 พฤษภาคม 2559 รวม 15 วันพอดีค่ะ ..  
เมื่อได้กำหนดวันเดินทางแล้วเราก็เริ่มวางแพลนกันทันที ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนยังไงกันบ้าง ? จึงทำตารางปฏิทินออกมาตามนี้ค่ะ

เมื่อได้วันที่และแพลนการเที่ยวคร่าวๆแล้ว เราก็เริ่มคิดถึงเรื่องการเดินทางในญี่ปุ่น..

เราตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วค่ะ ว่าจะใช้บัตรเบ่งหรือ JR PASS กันทั้งหมด 7 วัน คือถ้าจะให้ใช้ทั้ง 14 วันก็กลัวจะแพงเกินไป  
จึงคิดแล้วคิดอีกใช้แค่ 7 วันพอ เอาไว้สำหรับนั่ง Shinkansen โดยเฉพาะ..
เนื่องจากเราจะต้องเดินทางข้ามภูมิภาค ขึ้นเหนือลงใต้กันตลอด..
ดังนั้นบอกได้เลยค่ะแค่ 7 วัน คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม คุ้มมากๆ..  
และที่สำคัญช่วงที่เราสองคนไปเที่ยวญี่ปุ่น Shinkansen ที่กำลังฮอตฮิตมากๆก็คือ Hokkaido Shinkansen สาย Hayabusa ที่เพิ่งเปิดการใช้งานไปเมื่อตอนเดือนมีนาคม 2559..  
และนี่แหล่ะค่ะ คือเหตุผลทำไม เราอยากไปฮอกไกโด
เพราะว่าเราอยากลองนั่ง Shinkansen สายนี้นี่เองงงงงงง .... (ทำเสียงเหมือน คนพากย์ "ทีวีแชมป์เปี้ยนนนน อิอิ)

เมื่อได้แพลนการท่องเที่ยวแล้ว เราใช้ตั๋ว JR PASS 7 Days : เริ่มใช้ตั๋ววันแรกวันที่ 9 -15 พ.ค. รวมทั้งสิ้น 7 วันพอดีค่ะ

จากนั้นก็เริ่มจองโรงแรมผ่าน Agoda เวลาจองผ่าน Agoda  เราจะอ่านรีวิวของแต่ละโรงแรมค่ะ
ซึ่งมีคนไทยเขียนรีวิวไว้เยอะมากกก เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของเรามากด้วยเช่นกัน ^ ^
ซึ่งในรีวิวจะบอกไว้เกือบหมด โรงแรมไหนคนไทยเคยไปพักและใกล้สถานีรถไฟสถานีไหนบ้าง?
เดินทางต่อไปที่ไหนยังไงได้บ้าง? ถือว่าได้ความรู้และช่วยให้เราสองคน ไม่หลงได้มากเลยทีเดียว..
  
..โรงแรมต่างๆ ที่เราไปพัก เราใส่ชื่อโรงแรมไว้ในตารางเรียบร้อยแล้วนะคะ
สามารถดูได้ว่าพักที่ไหนบ้างในแต่ละวัน .. อ้อออ และที่สำคัญจะเห็นว่าแพลนของเรา มีไปนอนบ้านญาติด้วย
เนื่องจากเรามีญาติอยู่ที่ญี่ปุ่น ที่เมืองอิบารากิ..
ทำให้บางคืนเราสองคนก็ไม่ต้องจองโรงแรม ไปพักกับญาติที่อิบารากิค่ะ ..

จากนั้นเราก็เริ่มแพลนค่าใช้จ่ายต่างๆ และเริ่มซื้อตั๋วที่สามารถหาซื้อได้จากเมืองไทย
เริ่มต้นจองตั๋วเครื่องบินก่อนเดินทางประมาณ 3-4 เดือน ..
เราเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชียค่ะ และเริ่มจองโรงแรมต่างๆ ตอนเดือนกุมภาพันธ์ ..

ขั้นตอนต่อไปก็หาซื้อตั๋วเข้าสถานที่ท่องเที่ยวที่เราตั้งใจจะไปเที่ยวค่ะ ..
เราซื้อตั๋ว JR PASS 7 Days + ตั๋ว USJ + ตั๋ว Disney  จากทาง Lostripthailand
โทรสั่งซื้อ โอนเงิน และทาง lostripthailand ก็นำตั๋วมาส่งถึงที่ทำงาน เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
(ค่าใช้จ่ายในการซื้อตั๋ว อยู่ในตารางด้านบนแล้วนะคะ)

ก่อนการเดินทาง  1 อาทิตย์ (เราตั้งใจให้พ้นช่วงท่องเที่ยวชมดอกซากุระไปก่อน เพราะตอนนั้นเงินเยนแข็งมาก)
เราแลกเงินเยนที่ super rich ค่ะ ตั้งใจแลกเงินจากไทยไปประมาณ 60,000 เยนค่ะ
เป็นเงินสดสำหรับเราสองคน (จขกท จำค่าเงินบาทตอนนั้นไม่ได้จริงๆค่ะ ว่าอัตราแลกเงินไทยเท่าไหร่)

และแล้ววันเดินทางก็มาถึง..

เราสองคนเตรียม Passport และตั๋วเครื่องบิน  โดยมีเพื่อนๆ ผู้น่ารักไปส่งที่สนามบินดอนเมืองค่ะ

มาเริ่มเดินทางกันเลยนะคะ เราเดินทางกับ Thai Airasia X  วันที่ 2 พฤษภาคม 2559
เริ่มออกเดินทาง จากดอนเมืองเวลา 10:45 (DMK) และบินไปลงที่สนามบินนาริตะ เวลา 19:00 (NRT) (เวลาของญี่ปุ่นเมื่อเครื่องลงถึงค่ะ) ใช้เวลานั่งเครื่องไปประมาณ 6 ชั่วโมงค่ะ

ระหว่างบินเราสั่งอาหารไว้กินตอนเที่ยง ซึ่งอาหารที่ได้ในวันนั้นคือกระเพราไก่ค่ะ
ทั้งขาไปและขากลับเราซื้อแพคสุดคุ้มเพิ่มทันทีของแอร์เอเชีย
(น้ำหนัก 20 กก. + บริการอาหารฟรี 1 ที่ + สามารถเลือกที่นั่งได้)

จะแอบบอกว่าตอนขาไปน้ำหนักสัมภาระของแต่ละคน ไม่เกิน 20 กก. น้ำหนักเหลือด้วยซ้ำ..
แต่ขากลับสิคะ ช๊อปเพลินกันไปหน่อย น้ำหนักเกิน 20 กิโล ต้องซื้อน้ำหนักเพิ่มด้วยค่ะ T T

จำได้ว่าเคยอ่านรีวิวมา เค้าบอกกันว่า ขาไปถ้าใครอยากเห็นภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji) มาคอยต้อนรับเข้าประเทศญี่ปุ่น  
ให้เลือกที่นั่งฝั่งซ้ายของเครื่องค่ะ..

เราเลือกที่นั่งฝั่งซ้ายตรงหน้าปีก  ..จขกท ขอคุณสามีนั่งติดหน้าต่างค่ะ เพื่อที่จะได้เห็นภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji)
คุณสามีบอกว่าถ้าอย่างงั้นตอนขากลับเค้าขอนั่งฝั่งที่เห็นภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji) นะ สลับกัน ^ ^  
.. โอเค๊ เป็นอันตกลงตามนั้น จขกท นั่งติดกระจกขาไป ส่วนคุณสามีก็นั่งติดกระจกตอนขากลับแล้วกัน ..

แต่ที่ไหนได้คะ คุณผู้โชมมม จขกท ลืมไปค่ะ เราออกจากดอนเมืองตอน 10 โมงเช้า มันก็ยังเช้าอยู่แหล่ะ
แต่ดั๊นลืมไปค่ะว่าเราถึงญี่ปุ่น ค่ำแล้วนี่หน่า.. และที่สำคัญเวลาที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าเมืองไทยตั้ง 2 ชั่วโมง  
พอกัปตันประกาศว่าถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว จขกท รีบมองหาภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji) เลยค่ะ
ปรากฏว่ามีแต่แสงพระอาทิตย์กำลังจะตกและเริ่มมืดแล้วด้วย

มองลงไปข้างล่าง ถนนบ้านเมืองเค้าเปิดไฟสว่างจ้าหมด ..
อดสิคะ ภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji) อยู่ตรงไหน จขกท ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ T T
(แต่ขากลับเมืองไทย เราได้เจอคุณฟูจิ มาโชว์ตัวบอกลาเราด้วยนะคะ ^ ^)

พอเครื่องลงจอดที่สนามบินนาริตะ ตอนเวลาประมาณหนึ่งทุ่มของญี่ปุ่น..
เราก็เดินตามลูกศรไปเรื่อยๆ จะว่ากันตามจริงเราเดินตามนักท่องเที่ยวท่านอื่นๆไปเรื่อยๆมากกว่า
เนื่องจากเที่ยวบินที่เรานั่งไป มีแต่คนไทยที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันซะส่วนใหญ่ เราจึงเดินตามคนไทยเหล่านั้นไปเรื่อยๆค่ะ ..

ที่น่ารักไปกว่านั้นคือ เวลาเราสองคนไปเที่ยวที่ไหนก็จะเจอนักท่องเที่ยวไทยเกือบทุกที่
พอสอบถามก็รู้ว่าขึ้นเครื่องมาไฟท์เดียวกันเรา มันก็รู้สึกอบอุ่นไปอีกแบบนะคะ..

และอย่างที่บอกไปว่าเรามีญาติอยู่ที่ญี่ปุ่น..
ดังนั้นเย็นวันนั้น น้องสาวของคุณสามีก็มารับพวกเราที่สนามบินค่ะ
คืนนั้นเราจึงไปนอนบ้านญาติกันที่เมืองอิบารากิค่ะ ซึ่งก็ไกลจากโตเกียวอยู่เหมือนกันนะคะ
แต่ด้วยที่เราอยากเจอญาติๆ ก่อนเที่ยว คืนนี้ก็เลยยังไม่ได้เข้าโตเกียวค่ะ

แต่สำหรับคนที่จะเดินทางเข้าเมืองจากสนามบินนาริตะ ก็มีวิธีเดินทางเข้าเมืองหลายวิธีนะคะ
วิธีแรก. เดินทางโดย Narita Express(N'EX) ซึ่งเป็นของ JR ค่ะ ถ้าใครมีตั๋ว JR PASS (ต้องแลกตั๋วก่อนนะคะ ตั๋วที่เราซื้อจากเมืองไทยยังใช้ไม่ได้ค่ะ ต้องนำไปแลกก่อน) ก็สามารถใช้ขึ้นได้ค่ะ
รถไฟ N'EX จะเดินทางไปถึงสถานีโตเกียว ชิบุย่า และชินจุกุ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิดๆเท่านั้นค่ะ หรือใครจะซื้อเป็นเที่ยวก็ได้ คือซื้อตั๋วขาออกจากนาริตะ แบบเที่ยวเดียว
วิธีที่สอง.  เดินทางโดย Keisei Skyliner ค่ะ หากต้องการเดินทางเพื่อเข้าโตเกียวให้เร็วที่สุด แนะนำให้ขึ้นรถไฟ Keisei Skyliner ค่ะ เป็นรถไฟที่ทำเวลาได้เร็วที่สุด เร็วกว่ารถไฟ N'EX ถึง 30 นาที
โดยรถไฟ Keisei จะวิ่งตรงเข้าเมืองโตเกียวไม่แวะจอดระหว่างทาง โดยจะจอดเพียง 2 สถานี คือสถานี Nippori (ใช้เวลาเดินทางเพียง 36 นาที) และสถานี Ueno (ใช้เวลาเดินทางเพียง 41 นาที)ค่ะ
วิธีที่สาม. รถรับส่งสนามบิน Airport Limousine Bus ค่ะ โดย Limousine Bus มักจะไปจอดตามโรงแรมต่างๆและจอดตามสถานีใหญ่ๆ วิธีนี้จะสะดวกที่สุดค่ะ เพราะรถบัสจะพาเราไปลงตรงที่เราต้องการลงได้เลย โดยไม่ต้องลงรถไฟเพื่อเปลี่ยนรถไฟหลายรอบและที่สำคัญไม่ต้องเดินลากกระเป๋าไปมาให้เกะกะด้วยค่ะ

ก่อนที่เราจะเดินทางเข้าโตเกียวกันในวันพรุ่งนี้..
จขกท ขออนุญาตแบ่งปันแพลนการท่องเที่ยวที่เราได้หาข้อมูลและเตรียมไว้สำหรับการเที่ยวญี่ปุ่น 13 วัน (ไม่รวมวันไปและวันกลับ) เผื่อใครที่สนใจค่ะ..
แพลนการท่องเที่ยวอันนี้ เราก็ต้องขอขอบคุณกระทู้รีวิวหลายๆกระทู้ในพันทิปนี้มากๆเลยนะคะ
คือส่วนไหนที่ จขกท อ่านแล้วเห็นว่าสำคัญก็จะก๊อบข้อความมาลงไว้ ซึ่งพอเอาไปด้วยช่วยได้เยอะเลยค่ะ ทำให้ไม่หลงและเดินทางสะดวกขึ้นเยอะมากกกกกก..

วันที่ 1  (3/5/2016)  >>  TOKYO SKY TREE - Sensoji Temple - ameyoko market – odaiba
ฝากกระทู้วันที่ 1 ด้วยนะคะ
https://pantip.com/topic/36357996/comment9

วันที่ 2 (4/5/2016)  >>  Imperial palace - Meiji jingu - Harajuku - Shibuya – Akihabara
https://pantip.com/topic/36360891

วันที่ 3 (5/5/2016)  >>  TokyoDisneyland - Kaihinmakuhari OUTLET
https://pantip.com/topic/36381946

วันที่ 4 (6/5/2016)  >>  Tsukiji Market - NiKKo (เที่ยวโซน น้ำตก Kegon + ทะลเสาบ Chusenji)
https://pantip.com/topic/36386147

วันที่ 5 (7/5/2016)  >>  เที่ยวนิกโก้(Nikko)โซนมรดกโลก สะพานแดงชินเคียว ศาลเจ้าโทโชกุ
https://pantip.com/topic/36389466

วันที่ 6 (8/5/2016)  >>  อิบารากิ - ทะเลสาบsenba - HITACHI SEASIDE PARK
https://pantip.com/topic/36393052
ชื่อสินค้า:   ประเทศญี่ปุ่น บันทึกนักเดินทาง เที่ยวต่างประเทศ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่