HR บางบริษัทพอโทรมา แล้วเรารับสายเค้าถามใช่คุณ.........รึป่าวคะ เราบอกใช่คะพูดสายอยู่คะ เค้าเงียบแล้วกดตัดสายทิ้งอย่างไร้เยื่อไย(เพราะได้ยินเสียงและรู้ว่าเป็นสาวประเภท2)พอเราโทรกลับก็ตัดสายอีก เจอบ่อยเหมือนกันนะ HR ที่ดูแต่รูป resume แค่เห็นว่ารูปเพศสภาพเป็นหญิงก็มักจะรีบโทรโดยที่ไม่ดูประวัติรายละเอียดให้ชัดเจน ทั้งที่เราระบุชัดเจน ว่า เพศชาย และใช้นายเป็นคำนำหน้าชื่อ
และเคยมีอีกบริษัทที่ HR โทรมาแจ้งนัดวันเวลาสัมภาษณ์งาน ออฟฟิศอยุ่แถววัดเสมียนนารีที่พักเราอยู่ปากน้ำสมุทรปราการ เราไปถึงเรียบร้อยยื่นเอกสารเสร็จเจ้าหน้าที่ให้ไปนั่งรอในห้องสอบข้อเขียนซึ่งมีคนนั่งอยุ่หลายคนในห้องนั้น นั่งได้สักพักแล้วจู่ๆก้มีเจ้าหน้าที่มาเรียกชื่อเราให้ไปพบข้างนอกจากนั้นก็แจ้งว่าทางบริษัทไม่มีนโยบายรับสาวประเภท2 ถ้าเป็นเพศที่3รับแค่ทอม/เกย์ เรานอยด์และเสียใจมากเพราะเราไม่ได้เป็นคนโทรไปสมัครแต่เค้าโทรมาตามเราเอง จึงได้ถามเจ้าหน้าที่ HR ทันทีเลยว่าถ้าไม่รับสาวประเภท2จะโทรนัดมาออฟฟืศทำไมเสียเวลาเสียค่ารถ เจ้าหน้าที่ได้แต่ขอโทษและบอกคนที่โทรไปเป็นเด็กใหม่อาจจะยังไม่รู้ถึงคุณสมบัติของผู้เข้าสมัคร
การเป็นกะเทยนี่เหนื่อยกว่าทุกเพศเลยนะคะ เราเป็นคนที่ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ไม่เที่ยวกลางคืน ทำงานมาทุกที่แทบไม่เคยมีปัญหาขาดลามาสาย หรือโดนลูกค้าตำหนิคอมเพลนเลย มีแต่ลูกค้าชมในการให้บริการด้วยซ้ำ แต่ที่เปลี่ยนงานบ่อยเพราะเป็นคนง่ายๆหัวหน้าสั่งอะไรวานอะไรใช้อะไรที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรงยินดีทำทุกอย่างซึ่งพอเราเป็นคนง่ายๆปัญหามักจะเกิดตามมาเสมอ เช่นหัวหน้างานจะใช้ทำทุกอย่างโดยไม่เกรงใจจิกกัดด่าเหวี่ยงด้วยถ้อยคำแรงๆโดยไม่สนว่าเราจะรู้สึกยังไง พอเราทนไม่ไหวเราแสดงเจตจำนงค์องตัวเองก็กลายเป็นคนดื้อรั้น เลยต้องเปลี่ยนงานและวัฏจักรเดิมๆแบบนี้ก็เกิดขึ้นซ้ำๆอีก
อยากให้สังคมไทยเปิดกว้างกว่านี้คะ กะเทยมีทั้งดีและไม่ดีเหมือนเพศอื่นๆเลยคะ เราคนนึงที่เป็นกะเทยเรียบร้อยอยากใช้ชีวิตหาเช้ากินค่ำเหมือนคนทั่วไป ไม่เคยเดินสะดีดสะดิ้งกรี๊ดกร๊าดให้คนอื่นรู้สึกรำคาญตาเพราะเราอยากเป็นผู้หญิงคนนึง แต่สิ่งที่กะเทยอย่างเรามีมากกว่าก้คือความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน ไม่ใช่เพื่อจะต้องการเอาหน้าหรือการขยับขยายตำแหน่ง เราแค่ต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่ากะเทยที่ดีก็มี อยากให้บริษัทยอมรับในตัวเราแค่นั้นจริงๆ
*สุดท้ายฝากถึง HR และบริษัทต่างๆถ้าเป็นไปได้คุณลองเปิดใจรับเพศที่3เข้าทำงานดูสิคะ แต่อาจจะเปลี่ยนเงื่อไขจากปกติเพศอื่นทดลองงาน3เดือน เพศที่3ทดลองงาน6เดือนก็ได้ ควรเปิดโอกาสให้พวกเราได้พิสูจน์ตัวเองบ้างคะ ขอบคุณที่สละเวลาอ่านจนจบคะ
ประสบการณ์แย่ๆ(ของเพศที่3)จากการฝากประวัติWebsiteหางาน
และเคยมีอีกบริษัทที่ HR โทรมาแจ้งนัดวันเวลาสัมภาษณ์งาน ออฟฟิศอยุ่แถววัดเสมียนนารีที่พักเราอยู่ปากน้ำสมุทรปราการ เราไปถึงเรียบร้อยยื่นเอกสารเสร็จเจ้าหน้าที่ให้ไปนั่งรอในห้องสอบข้อเขียนซึ่งมีคนนั่งอยุ่หลายคนในห้องนั้น นั่งได้สักพักแล้วจู่ๆก้มีเจ้าหน้าที่มาเรียกชื่อเราให้ไปพบข้างนอกจากนั้นก็แจ้งว่าทางบริษัทไม่มีนโยบายรับสาวประเภท2 ถ้าเป็นเพศที่3รับแค่ทอม/เกย์ เรานอยด์และเสียใจมากเพราะเราไม่ได้เป็นคนโทรไปสมัครแต่เค้าโทรมาตามเราเอง จึงได้ถามเจ้าหน้าที่ HR ทันทีเลยว่าถ้าไม่รับสาวประเภท2จะโทรนัดมาออฟฟืศทำไมเสียเวลาเสียค่ารถ เจ้าหน้าที่ได้แต่ขอโทษและบอกคนที่โทรไปเป็นเด็กใหม่อาจจะยังไม่รู้ถึงคุณสมบัติของผู้เข้าสมัคร
การเป็นกะเทยนี่เหนื่อยกว่าทุกเพศเลยนะคะ เราเป็นคนที่ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ไม่เที่ยวกลางคืน ทำงานมาทุกที่แทบไม่เคยมีปัญหาขาดลามาสาย หรือโดนลูกค้าตำหนิคอมเพลนเลย มีแต่ลูกค้าชมในการให้บริการด้วยซ้ำ แต่ที่เปลี่ยนงานบ่อยเพราะเป็นคนง่ายๆหัวหน้าสั่งอะไรวานอะไรใช้อะไรที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรงยินดีทำทุกอย่างซึ่งพอเราเป็นคนง่ายๆปัญหามักจะเกิดตามมาเสมอ เช่นหัวหน้างานจะใช้ทำทุกอย่างโดยไม่เกรงใจจิกกัดด่าเหวี่ยงด้วยถ้อยคำแรงๆโดยไม่สนว่าเราจะรู้สึกยังไง พอเราทนไม่ไหวเราแสดงเจตจำนงค์องตัวเองก็กลายเป็นคนดื้อรั้น เลยต้องเปลี่ยนงานและวัฏจักรเดิมๆแบบนี้ก็เกิดขึ้นซ้ำๆอีก
อยากให้สังคมไทยเปิดกว้างกว่านี้คะ กะเทยมีทั้งดีและไม่ดีเหมือนเพศอื่นๆเลยคะ เราคนนึงที่เป็นกะเทยเรียบร้อยอยากใช้ชีวิตหาเช้ากินค่ำเหมือนคนทั่วไป ไม่เคยเดินสะดีดสะดิ้งกรี๊ดกร๊าดให้คนอื่นรู้สึกรำคาญตาเพราะเราอยากเป็นผู้หญิงคนนึง แต่สิ่งที่กะเทยอย่างเรามีมากกว่าก้คือความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน ไม่ใช่เพื่อจะต้องการเอาหน้าหรือการขยับขยายตำแหน่ง เราแค่ต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่ากะเทยที่ดีก็มี อยากให้บริษัทยอมรับในตัวเราแค่นั้นจริงๆ
*สุดท้ายฝากถึง HR และบริษัทต่างๆถ้าเป็นไปได้คุณลองเปิดใจรับเพศที่3เข้าทำงานดูสิคะ แต่อาจจะเปลี่ยนเงื่อไขจากปกติเพศอื่นทดลองงาน3เดือน เพศที่3ทดลองงาน6เดือนก็ได้ ควรเปิดโอกาสให้พวกเราได้พิสูจน์ตัวเองบ้างคะ ขอบคุณที่สละเวลาอ่านจนจบคะ