
ปกติเป็นคนไม่ค่อยกินราเมงเท่าไหร่ แต่เมื่อมาเจอร้านนี้มันเปลี่ยนจากคนที่เคยมีความทรงจำที่แสนขมขื่นกับราเมงอย่างผม ต้องกลับมาคิดใหม่และค้นหาราเมงแบบอื่นๆ อีก ที่ยังต้องลองลุยหารสชาติที่แตกต่างออกไปจากแบบเดิมๆ ที่มีอยู่ทั่วไปในญี่ปุ่น!
ราเมงเป็นอาหารเส้นที่ถือว่าเป็นวัฒนธรรมการกินของชาวญี่ปุ่นที่คนทั่วโลกรู้จักกันดีก็ว่าได้ แต่ที่จริงแล้วอาจจะมีเพื่อนบางคนที่อาจจะยังไม่ทราบว่าจริงๆ แล้วราเมงเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารจีนที่ได้เข้ามาในปลายยุคสมัยเอโดะตอนปลายช่วงที่เป็นช่วงที่เปิดท่าเรือ (โยโกฮาม่า โกเบ นางาซากิ ฮาโกดะเตะ) ทำการค้าขายกับจีนผืนดินใหญ่เป็นต้น จึงทำให้เกิดย่านชาวจีนขึ้นและทำให้มีร้านราเมง ร้านเกี๊ยวซ่าขึ้นมาและก็ได้แพร่หลายไปทั่วประเทศ และก็ได้มีการกินกันอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยหลักๆ ก็จะมีรสชาติดังนี้ โชยุราเมง(รสซอสญี่ปุ่น) ทงคตซึราเมง(รสซุปกระดูกหมู) ชิโอะราเมง(รสเค็ม) มิโซะราเมง(รสเต้าเจี๊ยวญี่ปุ่น) ทันทันเมง(รสเผ็ดหมูสับน้ำข้น) แต่ถ้าคนที่เป็นแฟนราเมงผมเชื่อว่าทุกคนก็น่าจะได้ลองมาแล้วทุกรสชาติแล้วนะครับ
ต้องขอบอกก่อนเลยว่า แรกๆ ที่ผมได้มาญี่ปุ่นก็ไม่ได้เป็นคนชอบกินราเมงกันสักเท่าไหร่ และมีอยู่ครั้งหนึ่งได้ไปกินราเมงแถวๆ ย่านอากิฮาบะระ เป็นร้านที่มีชื่อเสียงเรื่องปริมาณของเส้นและผัก ผมไปสั่งแบบไหนไม่รู้ ผักกับเส้นมาเต็มจานเลยแล้วมารยาทการกินที่ญี่ปุ่นก็ต้องกันให้หมดเมื่อสั่งมาแล้ว ผมกลัวเสียมารยาทและไม่อยากทำให้คนทำเสียใจ หลังจากที่ผมกินหมดแล้วรู้สึกว่าอิ่มและเลี่ยนมากเพราะนำมันเยอะ (ราเมงสูตรโยโกฮาม่า) ทำให้รู้สึกเข็ดกับการกินราเมงไปเลย และต่อมาก็ได้ไปลองกินราเมงของร้านชื่อดัง “อิปปูโด” ที่เป็นร้านแฟรนไชส์ชื่อดังจากจังหวัดฟุกุโอะกะ ทางแถบคิวชู คนญี่ปุ่นเขาจะเรียกว่าราเมงแบบนี้ว่า ”Hakata-Ramen” พอได้กินแล้วก็รู้สึกติดใจและไม่ทำให้เลี่ยนหลังกินเสร็จอีกทั้งเส้นก็เล็กเป็นเอกลักษณ์ พอดีที่ใกล้บริษัทที่ผมทำงานมีร้านราเมงแบบ ”Hakata-Ramen” เหมือนกัน ชื่อก็ตรงๆเลย ”Hakata-Ramen Center” เป็นร้านเล็กในตรอก ที่ย่านสถานี Iidabashi วันนี้ก็เลยอยากจะแนะนำเผื่อใครจะมาที่เที่ยวศาลเจ้า Yasukuni และ ศาลเจ้า Tokyo daijingu ที่เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่คนชอบวัดชอบศาลเจ้าจะมาเยือนกัน และ ”Hakata-Ramen Center” ก็อยู่ระหว่างทางผ่านนั้นด้วย
เริ่มด้วยสถานที่ที่เลย ตอนแรกลงที่สถานีนี่ก่อนเลย


ออกมาทางออกทิศตะวันออกจะมีป้ายบอกด้วย เดินตามลูกศรชี้บอกทางมาเลย


เดินตรงไปเรื่อยๆ ตามทางเลยนะ


ดูแลนด์มาร์คกันให้ดีๆ



พอถึงมุมเลี้ยวนี้ต้องระวังกันเลยนะ



ก็จะเห็นโคมไฟแดงที่เป็นสัญลักษณ์ของร้านลอยมาเลย

นี่หน้าร้านเป็นแบบนี้นะ

เมนูก็มีไม่มากเท่าไหร่นะแต่ก็เลือกง่ายดี
มี 1.เนกิราเมง (ต้นหอม) 2.โทกุเซราเมง (แบบพิเศษ) 3.ราเมง (ธรรมดา) 4.ชาชูเมง (หมูตุ๋นหั่นแผ่น) 5.เนกิชาชูเมง (ต้นหอมเนกิชาชูเมง) ตามลำดับ


นี่เครื่องซื้อตั๋วราเมงตามรูปเลย ใส่เครื่องเยอะก็ราคาก็เยอะตาม
ใส่เงินด้านบนแบ้งค์หรือเหรียญก็ได้นะตามราคาที่เราต้องการ แล้วไฟแดงๆ ก็จะออกมาที่รูปเมนูแล้วก็เลือกที่เราต้องการได้เลย

น้ำก็มีบริการเองข้างๆ

ผมซื้อแบบธรรมดานะ แค่ 650 เยนเอง

ถ้าหากวันธรรมดาก็จะมีบริการแถมข้าวฟรี เล็ก กลาง ใหญ่ แล้วแต่ต้องการเลย บริการนี้ถึงแค่ 5 โมงเย็น ถ้าหากเกินเวลานั้นไปหรือเสาร์อาทิตย์ต้องซื้อตั๋วข้าวเพิ่มด้วยถ้าหากต้องการกิน ผมสั่งข้าวขนาดใหญ่

พอเสิร์ฟมาแล้วก็หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ

ที่ร้านจะมีแต่ที่นั่งแบบเคาน์เตอร์เท่านั้นไม่มีเป็นโต๊ะ ไปกันเป็นหมู่คณะอาจจะไม่สะดวก ขอแนะนำให้ไปกันน้อยๆ ละกันครับ


บนเคาน์เตอร์ก็จะมีเครื่องปรุงต่างๆ ให้พร้อมปกติ แต่ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือ ผักกาดดองรสเผ็ด และ ผงโรยข้าวไข่ปลาเมนไทโกะ (ไม่ให้โรยในราเมง) บริการฟรี อันนี้ผมส่วนตัวแล้วชอบมากเพราะถือว่าเป็นจุดขายเลย เพราะว่าทั้งสองนี่ก็ถือว่าเป็นของดีเมืองฟุกุโอกะเลยก็ว่าได้ นำของดีมารวมกันอย่างนี้ความอร่อย

ขิงดองเปรี้ยว

นี่ครับผงโรยข้าวไข่ปลา

ผักกาดดองรสเผ็ด

กินกับซุปกระดูกหมูรสข้น แต่น้ำมันไม่เยอะ ก็เข้ากันได้อย่างดีกับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ เลย


ผงโรยข้าวที่เข้ากันได้ดีกับผักกาดดองรสเผ็ด



วิธีกินก็มีหลายหลากแล้วแต่จะพลิกแพลงกันดู

ไม่มีคำพูดอะไรมาก แค่ดูรูปก็คงรู้ว่ามันน่าหม่ำกันมากแค่ไหน

ถ้าหากว่ามีโอกาสที่ได้มาแถวที่สถานี Iidabashi ก็อย่าลืมมาแวะทักทายกับร้าน ”Hakata-Ramen Center” กันดูนะครับ รับรองว่าอร่อยไม่แพ้ร้านใหญ่ๆ เลยครับแนะนำเลยถ้าหากคุณเป็นเฟนราเมง!
เวลาทำการ
วันธรรมดา 11:00〜23:00
วันเสาร์อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์11:00〜20:00
เปิดทุกวัน ไม่มีวันหยุด
แผนที่
https://goo.gl/maps/1RkmHkeZ1XU2
[CR] ร้านราเม็งเล็กๆ ที่รสชาติไม่เล็กที่ Iidabashi In Tokyo
ปกติเป็นคนไม่ค่อยกินราเมงเท่าไหร่ แต่เมื่อมาเจอร้านนี้มันเปลี่ยนจากคนที่เคยมีความทรงจำที่แสนขมขื่นกับราเมงอย่างผม ต้องกลับมาคิดใหม่และค้นหาราเมงแบบอื่นๆ อีก ที่ยังต้องลองลุยหารสชาติที่แตกต่างออกไปจากแบบเดิมๆ ที่มีอยู่ทั่วไปในญี่ปุ่น!
ราเมงเป็นอาหารเส้นที่ถือว่าเป็นวัฒนธรรมการกินของชาวญี่ปุ่นที่คนทั่วโลกรู้จักกันดีก็ว่าได้ แต่ที่จริงแล้วอาจจะมีเพื่อนบางคนที่อาจจะยังไม่ทราบว่าจริงๆ แล้วราเมงเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารจีนที่ได้เข้ามาในปลายยุคสมัยเอโดะตอนปลายช่วงที่เป็นช่วงที่เปิดท่าเรือ (โยโกฮาม่า โกเบ นางาซากิ ฮาโกดะเตะ) ทำการค้าขายกับจีนผืนดินใหญ่เป็นต้น จึงทำให้เกิดย่านชาวจีนขึ้นและทำให้มีร้านราเมง ร้านเกี๊ยวซ่าขึ้นมาและก็ได้แพร่หลายไปทั่วประเทศ และก็ได้มีการกินกันอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยหลักๆ ก็จะมีรสชาติดังนี้ โชยุราเมง(รสซอสญี่ปุ่น) ทงคตซึราเมง(รสซุปกระดูกหมู) ชิโอะราเมง(รสเค็ม) มิโซะราเมง(รสเต้าเจี๊ยวญี่ปุ่น) ทันทันเมง(รสเผ็ดหมูสับน้ำข้น) แต่ถ้าคนที่เป็นแฟนราเมงผมเชื่อว่าทุกคนก็น่าจะได้ลองมาแล้วทุกรสชาติแล้วนะครับ
ต้องขอบอกก่อนเลยว่า แรกๆ ที่ผมได้มาญี่ปุ่นก็ไม่ได้เป็นคนชอบกินราเมงกันสักเท่าไหร่ และมีอยู่ครั้งหนึ่งได้ไปกินราเมงแถวๆ ย่านอากิฮาบะระ เป็นร้านที่มีชื่อเสียงเรื่องปริมาณของเส้นและผัก ผมไปสั่งแบบไหนไม่รู้ ผักกับเส้นมาเต็มจานเลยแล้วมารยาทการกินที่ญี่ปุ่นก็ต้องกันให้หมดเมื่อสั่งมาแล้ว ผมกลัวเสียมารยาทและไม่อยากทำให้คนทำเสียใจ หลังจากที่ผมกินหมดแล้วรู้สึกว่าอิ่มและเลี่ยนมากเพราะนำมันเยอะ (ราเมงสูตรโยโกฮาม่า) ทำให้รู้สึกเข็ดกับการกินราเมงไปเลย และต่อมาก็ได้ไปลองกินราเมงของร้านชื่อดัง “อิปปูโด” ที่เป็นร้านแฟรนไชส์ชื่อดังจากจังหวัดฟุกุโอะกะ ทางแถบคิวชู คนญี่ปุ่นเขาจะเรียกว่าราเมงแบบนี้ว่า ”Hakata-Ramen” พอได้กินแล้วก็รู้สึกติดใจและไม่ทำให้เลี่ยนหลังกินเสร็จอีกทั้งเส้นก็เล็กเป็นเอกลักษณ์ พอดีที่ใกล้บริษัทที่ผมทำงานมีร้านราเมงแบบ ”Hakata-Ramen” เหมือนกัน ชื่อก็ตรงๆเลย ”Hakata-Ramen Center” เป็นร้านเล็กในตรอก ที่ย่านสถานี Iidabashi วันนี้ก็เลยอยากจะแนะนำเผื่อใครจะมาที่เที่ยวศาลเจ้า Yasukuni และ ศาลเจ้า Tokyo daijingu ที่เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่คนชอบวัดชอบศาลเจ้าจะมาเยือนกัน และ ”Hakata-Ramen Center” ก็อยู่ระหว่างทางผ่านนั้นด้วย
เริ่มด้วยสถานที่ที่เลย ตอนแรกลงที่สถานีนี่ก่อนเลย
ออกมาทางออกทิศตะวันออกจะมีป้ายบอกด้วย เดินตามลูกศรชี้บอกทางมาเลย
เดินตรงไปเรื่อยๆ ตามทางเลยนะ
ดูแลนด์มาร์คกันให้ดีๆ
พอถึงมุมเลี้ยวนี้ต้องระวังกันเลยนะ
ก็จะเห็นโคมไฟแดงที่เป็นสัญลักษณ์ของร้านลอยมาเลย
นี่หน้าร้านเป็นแบบนี้นะ
เมนูก็มีไม่มากเท่าไหร่นะแต่ก็เลือกง่ายดี
มี 1.เนกิราเมง (ต้นหอม) 2.โทกุเซราเมง (แบบพิเศษ) 3.ราเมง (ธรรมดา) 4.ชาชูเมง (หมูตุ๋นหั่นแผ่น) 5.เนกิชาชูเมง (ต้นหอมเนกิชาชูเมง) ตามลำดับ
นี่เครื่องซื้อตั๋วราเมงตามรูปเลย ใส่เครื่องเยอะก็ราคาก็เยอะตาม
ใส่เงินด้านบนแบ้งค์หรือเหรียญก็ได้นะตามราคาที่เราต้องการ แล้วไฟแดงๆ ก็จะออกมาที่รูปเมนูแล้วก็เลือกที่เราต้องการได้เลย
น้ำก็มีบริการเองข้างๆ
ผมซื้อแบบธรรมดานะ แค่ 650 เยนเอง
ถ้าหากวันธรรมดาก็จะมีบริการแถมข้าวฟรี เล็ก กลาง ใหญ่ แล้วแต่ต้องการเลย บริการนี้ถึงแค่ 5 โมงเย็น ถ้าหากเกินเวลานั้นไปหรือเสาร์อาทิตย์ต้องซื้อตั๋วข้าวเพิ่มด้วยถ้าหากต้องการกิน ผมสั่งข้าวขนาดใหญ่
พอเสิร์ฟมาแล้วก็หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ
ที่ร้านจะมีแต่ที่นั่งแบบเคาน์เตอร์เท่านั้นไม่มีเป็นโต๊ะ ไปกันเป็นหมู่คณะอาจจะไม่สะดวก ขอแนะนำให้ไปกันน้อยๆ ละกันครับ
บนเคาน์เตอร์ก็จะมีเครื่องปรุงต่างๆ ให้พร้อมปกติ แต่ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือ ผักกาดดองรสเผ็ด และ ผงโรยข้าวไข่ปลาเมนไทโกะ (ไม่ให้โรยในราเมง) บริการฟรี อันนี้ผมส่วนตัวแล้วชอบมากเพราะถือว่าเป็นจุดขายเลย เพราะว่าทั้งสองนี่ก็ถือว่าเป็นของดีเมืองฟุกุโอกะเลยก็ว่าได้ นำของดีมารวมกันอย่างนี้ความอร่อย
ขิงดองเปรี้ยว
นี่ครับผงโรยข้าวไข่ปลา
ผักกาดดองรสเผ็ด
กินกับซุปกระดูกหมูรสข้น แต่น้ำมันไม่เยอะ ก็เข้ากันได้อย่างดีกับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ เลย
ผงโรยข้าวที่เข้ากันได้ดีกับผักกาดดองรสเผ็ด
วิธีกินก็มีหลายหลากแล้วแต่จะพลิกแพลงกันดู
ไม่มีคำพูดอะไรมาก แค่ดูรูปก็คงรู้ว่ามันน่าหม่ำกันมากแค่ไหน
ถ้าหากว่ามีโอกาสที่ได้มาแถวที่สถานี Iidabashi ก็อย่าลืมมาแวะทักทายกับร้าน ”Hakata-Ramen Center” กันดูนะครับ รับรองว่าอร่อยไม่แพ้ร้านใหญ่ๆ เลยครับแนะนำเลยถ้าหากคุณเป็นเฟนราเมง!
เวลาทำการ
วันธรรมดา 11:00〜23:00
วันเสาร์อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์11:00〜20:00
เปิดทุกวัน ไม่มีวันหยุด
แผนที่
https://goo.gl/maps/1RkmHkeZ1XU2